หัวข้อ: วัดที่น่าจะมีตำนาน เกี่ยวกับพระกรรมฐาน และ พระแก้วมรกต ในสระบุรี เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กรกฎาคม 22, 2010, 06:41:00 am วัดศรีบุรีรตนาราม
วัดศรีบุรีรัตนาราม มีลักษณะเด่นที่ตัวฐานของพระอุโบสถ ซึ่งมีรูปแบบคล้ายเรือสำเภาซึ่งมีความสวยงามมาก ลวดลายต่างๆ รอบอุโบสถก็งดงามเช่นกัน มีความอ่อนช้อยเป็นลวดลายที่วิจิตร บริเวณรอบๆ วัดมีบรรยากาศร่มรื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พุทธศาสนิกชน มักจะมาสักการะบูชา พระแก้วมรกตพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร "พระแก้วมรกต" พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์สำคัญที่สุดของชาติไทย เดิมประดิษฐานอยู่ที่เมืองเชียงราย ต่อมาย้ายมาอยู่ที่เมืองลำปางและเชียงใหม่ ต่อมาพระไชยเชษฐา (เจ้าลาว) ได้มาอัญเชิญไปประดิษฐานเพื่อเป็นที่สักการะยังเมืองลาวเป็นการชั่วคราวแล้ว ไม่ยอมคืนไทย ในปี พ.ศ. 2320 สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก (พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราช รัชกาลที่ 1) เป็นแม่ทัพ ยกไปตีเมืองเวียงจันทน์ได้ จึงได้อัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต กลับคืนมาประดิษฐานไว้ในราชอาณาจักรไทยดังเดิม ในคราวสมเด็จพระยามหากษัตริย์ศึก ได้ยาตราทัพกลับประเทศไทย เมือเดินทัพมาถึงจังหวัดสระบุรี ได้หยุดพำนักที่วัดศรีบุรีรตนาราม (วัดปากเพรียว) พร้อมกับอัญเชิญ พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต ประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเตรียมการรับเสด็จและเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่มโหฬาร ณ กรุงธนบุรี ต่อมาสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มหาราช ได้โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ พระมหาอุปราช เสด็จขึ้นมารับและอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต โดยขบวนแห่พยุหยาตราทางชลมารค อย่างมโหฬารเป็นประวัติการณ์ เมื่อเดือนยี่ ข้างแรม ปีกุน พ.ศ. 2322 ขบวนแห่พยุหยาตราได้ล่องมาถึงกรุงธนบุรี เมื่อวันอังคาร ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 4 ปี พ.ศ. 2322 (http://www.nectec.or.th/oncc/province/pictures/c22/sarab-602-1.jpg) ใบลาน คัมภีร์เก่าในวัด ที่ยังหลงเหลืออยู่ (http://c.static.fsanook.com/shopping/uploaded/large/2008/10/08/50/O3YBY1200811854-1.jpg) เหรียญเจ้าคุณหนู ถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่เซียนพระเครื่อง ไหว้พระเก้าวัด www.madchima.org/forum/index.php?topic=378.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=378.0) หัวข้อ: เกี่ยวกับ หลวงพ่อ พุทโธ วัดปากเพรียว ( วัดศรีบุรีรตนาราม ) เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กรกฎาคม 22, 2010, 06:49:48 am (http://pui-jatukarmramathep.tarad.com/shop/p/pui-jatukarmramathep/img-lib/payslip_2009080835743.jpg)
" หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูป สร้างในสมัยพระครูวัตตโสภณ (สิน) เป็นทั้งเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดปากเพรียว พ.ศ.2473 (บ้างก็ว่า สร้างในสมัย สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7)ชาวปากเพรียว ได้ขอเศียรพระพุทธรูปองค์นี้มาจากหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อปาน เป็นพระทรงอภิญญา ท่านสร้างเฉพาะเศียรพระ ส่วนชาวสระบุรีได้ร่วมกันสร้างองค์พระประธานขึ้นรับพระเศียร เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวในวัดปากเพรียว ชาวสระบุรี นิยมมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว หลวงพ่อพุทโธ ด้วยพวงมาลัย 3 พวง หรือ 9 พวง พร้อมด้วย มะพร้าวหอมอ่อน ส่วนใหญ่จะบนด้วยพวงมาลัย 9 พวง มะพร้าว 1 ลูก อธิษฐานในใจขอในสิ่งที่เป็นไปได้จากหลวงพ่อพุทโธ ประสบผลสำเร็จไปหลายราย พ.ศ.2512 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน จ.สระบุรี ครั้งนั้นว่ากันว่าเป็นไฟไหม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ ไทย เพลิงเผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปมาก แม้แต่โรง เรียนวัดปากเพรียว พร้อมวิหารหลวงพ่อพุทโธ ก็ถูกเพลิงเผาไหม้จนหมด แต่ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไฟไม่ได้ทำองค์หลวงพ่อพุทโธ เกิดความชำรุดเสียหายแต่อย่างใด (http://4.bp.blogspot.com/_HsqbMfd2Tns/TBehuZjpL7I/AAAAAAAAAEY/J4R5rsJwP-w/s1600/DSC09874.JPG) เหรียญหลวงพ่อพุทโธ "วัดปากเพรียว"หรือ "วัดศรีบุรีรตนาราม" ตั้งอยู่ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นปี พ.ศ.2092 เมื่อครั้งตอนสร้างกรุงเทพ มหานคร พ.ศ.2325 มีการลำเลียงเสาตะเคียน ล่องมาตามลำน้ำป่าสัก เพื่อเอาไปสร้างเป็นเสาหลัก เมือง ได้มาพักที่หน้าวัดปากเพรียว แต่เสาไม้ตะเคียนต้นนี้คด จึงไม่ได้เอาไป ภายหลังไปจมอยู่ที่เมืองใหม่ อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ต่อมาได้อัญเชิญขึ้นไปเก็บไว้ที่วัดสูง อ.เสาไห้ เรียกกันว่า เสาร้องไห้แม่นางตะเคียน เมื่อครั้งที่รัชกาลที่ 1 ยังดำรงตำแหน่งสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก เข้าตีเวียงจันทน์ ประ เทศลาว ได้อัญเชิญพระแก้วมรกต ล่องเรือมาพักที่วัดปากเพรียว สม เด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มารับที่เมืองสระบุรี มีงานฉลองสม โภชอยู่ 3 วัน แล้วนำลงเรือที่วัดไปยังกรุง ธนบุรี (พงศาวดารกรุงธนบุรี) แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของวัดปากเพรียวในอดีต สมัยที่ พระศรีสุทัสสมุนี เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี สมัยนั้นได้มาจำพรรษาอยู่วัดปากเพรียว ได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ว่า "วัดศรีบุรีรตนาราม" ใช้เรียกกันมาตราบทุกวันนี้ วัดปากเพรียว ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ เมื่อสมัยหลวงพิริกิจเกษม มีการก่อสร้างมากมาย ได้ก่อสร้างเสนาสนะบูรณะซ่องแซม ปูชนียวัตถุสถานที่ต่างๆ มีการสร้างศาลาการเปรียญ สร้างถนนหนทาง รวมทั้งสร้างวิหารหลวงพ่อพุทโธ " หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูป สร้างในสมัยพระครูวัตตโสภณ (สิน) เป็นทั้งเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดปากเพรียว พ.ศ.2473 (บ้างก็ว่า สร้างในสมัย สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7)ชาวปากเพรียว ได้ขอเศียรพระพุทธรูปองค์นี้มาจากหลวงพ่อปาน (พระครูวิหารกิจจานุการ) โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา หลวงพ่อปาน เป็นพระทรงอภิญญา ท่านสร้างเฉพาะเศียรพระ ส่วนชาวสระบุรีได้ร่วมกันสร้างองค์พระประธานขึ้นรับพระเศียร เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวในวัดปากเพรียว "หลวงพ่อพุทโธ" เป็นพระพุทธรูปแบบสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ในวิหารวัดปากเพรียว ข้างพระอุโบสถวัดปากเพรียว มีหน้าตักกว้าง 2 เมตร 30 เซนติเมตร สูง 3 เมตร 50 เซนติ เมตร เมื่อนำเศียรมาประกอบเข้า ด้วยกันแล้ว มีลักษณะงดงาม พระพักตร์อิ่มเอิบ ยิ้มแย้ม มีเมตตา ชาวสระบุรี นิยมมากราบไหว้บนบานศาลกล่าว หลวงพ่อพุทโธ ด้วยพวงมาลัย 3 พวง หรือ 9 พวง พร้อมด้วย มะพร้าวหอมอ่อน ส่วนใหญ่จะบนด้วยพวงมาลัย 9 พวง มะพร้าว 1 ลูก อธิษฐานในใจขอในสิ่งที่เป็นไปได้จากหลวงพ่อพุทโธ ประสบผลสำเร็จไปหลายราย พ.ศ.2512 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ใน จ.สระบุรี ครั้งนั้นว่ากันว่าเป็นไฟไหม้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศ ไทย เพลิงเผาผลาญบ้านเรือนประชาชนไปมาก แม้แต่โรง เรียนวัดปากเพรียว พร้อมวิหารหลวงพ่อพุทโธ ก็ถูกเพลิงเผาไหม้จนหมด แต่ด้วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง ไฟไม่ได้ทำองค์หลวงพ่อพุทโธ เกิดความชำรุดเสียหายแต่อย่างใด หัวข้อ: Re: วัดที่น่าจะมีตำนาน เกี่ยวกับพระกรรมฐาน และ พระแก้วมรกต ในสระบุรี เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กรกฎาคม 22, 2010, 06:51:11 am คุณธรรมธวัช น่าจะถ่ายรูป หลวงพ่อพุทโธ มาลงให้ใหม่นะคะ
เห็นพระอาจารย์ บอกว่า เป็นศิษย์ วัดนี้ไม่ใช่ หรือ คะ :25: :25: หัวข้อ: Re: วัดที่น่าจะมีตำนาน เกี่ยวกับพระกรรมฐาน และ พระแก้วมรกต ในสระบุรี เริ่มหัวข้อโดย: samapol ที่ ธันวาคม 29, 2010, 04:47:58 pm ถึงว่า ผมอ่านชื่อวัด ใกล้เคียงกันเลย วัดศรีบุรีรตนาราม ( วัดปากเพรียว )
กับ วัดศรีรตนศาสาดาราม ( วัดพระแก้ว ) ที่แท้ พระแก้วมรกต สถิตย์ประดิษฐานที่วัดนี้ ให้ชาวสระบุรี ได้กราบไหว้กันเป็นเวลา ถึง 1 เดือน มีประวัติและตำนาน เกี่ยวข้อง กับ ร.1 และ ร. 2 ด้วย แสดงว่าช่วง 1 เดือน ต้องมีการประพาสเสด็จ ชมบริเวณรอบ ๆ โดยแน่แท้ สระบุรี จึงได้เป็นเมือง ในปัจจุบัน ส่วนยุคนั้น คือเมืือง เสาไห้ ( ด้วยบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี่เอง ) :25: :25: :25: |