ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: “มหารัตนเจดีย์” อลังการเจดีย์งามแห่งสามโลก  (อ่าน 2031 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ด้านหน้ามหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ

“มหารัตนเจดีย์” อลังการเจดีย์งามแห่งสามโลก

       เมื่อวันที่ 5 เดือน 5 ปี 2555 ที่ตรงกับขึ้น 15 ค่ำ ถือเป็นวันฤกษ์ดีที่ได้มีการจัด พิธีสมโภช “มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ” ณ วัดทุ่งเศรษฐี ณ ใจกลางเมืองขอนแก่น ซึ่งหลังจากนั้นมหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ หรือที่เรียกสั้นๆว่า“มหารัตนเจดีย์” ได้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งใหม่อันโดดเด่นแห่งเมืองขอนแก่นที่มีคนเดินทางมาเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก
       
       สำหรับมหารัตนเจดีย์เกิดขึ้นโดยปณิธานของ “หลวงตาอ๋อยย่ามแดง” หรือ “หลวงตาอ๋อย” ผู้เป็นผู้อุปัฎฐากครูบาอาจารย์พระกรรมฐานสายวัดป่าในภาคอีสาน ซึ่งมีความเชื่อว่าพื้นที่ที่ก่อสร้างมหารัตนเจดีย์นั้นเป็นรอยต่อของสามโลก คือสวรรค์ แดนมนุษย์ และบาดาล โดยหลังจากที่มีการขุดพบพระขรรค์สำริดโบราณเข้าโดยบังเอิญ หลวงตาอ๋อยจึงให้ศิษยานุศิษย์ร่วมกันก่อสร้างมหารัตนเจดีย์ขึ้นบนที่ดินราว 73 ไร่ เพื่อประกอบความมุ่งหมาย 3 ประการ คือ



มหารัตนเจดีย์ในมุมมองผ่านสระน้ำ

    1. สถาปนามหารัตนเจดีย์ฯ ไว้เป็นพุทธบุชา และเป็นที่ระลึกถึงมหาเจดีย์องค์สำคัญสามองค์ในสามโลก คือ เจดีย์บุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ นาคเจดีย์ในนาคพิภพ และมหารัตน์เจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ (มหาเจดีย์รัตนะ) แห่งนี้ ผู้มาสักการะบูชาย่อมเท่ากับได้กราบบูชาเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ 3 แห่ง ในสามโลกพร้อมกัน       
    2.เพื่อน้อมเอาบุญเอาคุณความดีแห่งการสร้างมหาเจดีย์ฯ นี้ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และราชวงศ์จักรีที่ท่านเทิดทูนยิ่ง       
    3. ให้ลูกหลานศิษย์และประชาชนทั่วไปใช้เป็นนาบุญแห่งการทำกุศลบำเพ็ญคุณความดี



พระพุทธนีลวรรโณศีโลทรัพยุดม (หลวงปู่เจ้าพระองค์ดำ)

       กำธร ศีลอุดมทรัพทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนา บริษัท น้อมบุญ จำกัด ผู้ออกแบบมหารัตนเจดีย์ เปิดเผยถึงแนวคิดในการออกแบบว่า หมายถึง “พุทธภาวะ” ตั้งอยู่ท่างกลางบึงน้ำล้อมรอบ 4 ทิศ เปรียบเป็นโอฆสงสารที่สัตว์ทั้งหลายเวียนว่ายตามเกิดอยู่ปลียอดของพระมหาเจดีย์
       
       รูปดอกบัวตูมสื่อถึงพุทธภาวะ หมายความว่า ดอกบัวแห่งความรู้แจ้งนี้ผุดงอกมาจากบึงน้ำแห่งวัฏสงสาร เติบโตขึ้นเพื่อเบ่งบานสู่เบื้องบน คือพระนิพพานในที่สุด ฐานทักษิณาเป็นรูปสี่เหลี่ยมแทนพระอริยสัจสี่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อันเป็นอุดมสัจธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบ และนำมาเผยแพร่


        :25: :25: :25:

       เจดีย์ทิศทั้งสี่แทนมหาภูตรูป 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ อันเป็นธาตุองค์ประกอบพื้นฐานของโลก ซึ่งเป็นที่สถิตของ เทวรูปแทนองค์ท้าวจาตุมหาราชิกาทั้ง 4 เทวราช ผู้ดูแลมนุษย์ พิทักษ์โลก และพระพุทธศาสนา เริ่มจากทิศเหนือ-ธาตุไฟ เป็นที่สถิตของท้าวเวสสุวัณ หรือ ท้าวกุเวร จ้าวแห่งจิตวิญญานและโชคลาภ ทิศตะวันออก-ธาตุลม จ้าวแห่งคนธรรพ์ ทิศใต้-ธาตุดิน ท้าววิรุฬหก จ้าวแห่งปฐพีและจตุบาท และทิศตะวันตก-ธาตุน้ำ เป็นที่สถิตของท้าววิรูปักษ์ จ้าวแห่งนาค ห้วงน้ำบาดาลและอปาทิกะ



หัวบันไดนาคที่จัดทำอย่างปราณีต

      ส่วนฐานชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระประธานเป็นรูป 8 เหลี่ยม หมายถึงมรรคมีองค์ 8 ทางสายกลาง อันเป็นแนวปฏิบัติเพื่อสู่นิพพาน องค์พระเจดีย์ออกแบบให้เป็นวิหารลักษณ์เป็นคัพภวิสัย คือเป็นห้องโถงโล่งทรงระฆังคว่ำ ประดิษฐานพระประธาน คือ พระพุทธนีลวรรโณศีโลทรัพยุดม (หลวงปู่เจ้าพระองค์ดำ) เป็นพระพุทธรูปสำริดทรงเครื่องจักรพรรดิปิดทองประดับด้วยอัญมณีสีต่างๆ

       ความหมายในแนวตั้งขององค์มหาเจดียฯ     
       ชั้นล่างสุดเป็นชั้นบาดาล ถัดมาเป็นมนุษย์ภูมิ เป็นชั้นเดียวกันกับพระเจดีย์ ซึ่งทั้งสองชั้นนี้ เป็นชั้นที่ผู้คนจะเข้าไปกราบไหว้และประกอบพิธีทางศาสนาได้ ส่วนตั้งแต่หลังคาขึ้นไปนั้นคือชั้นเทวภูมิ โดมใหญ่มีรูปปั้นเทพพนมประจำอยู่ทั้ง 8 ด้าน ที่สันโดมมีพญานาคประคองพุ่มดอกไม้โคมไฟบูชาพระมหาเจดีย์เคียงคู่อยู่ด้วย” ผู้ออกแบบ อธิบาย


        st12 st12 st12

       กำธร อธิบายต่อว่า ส่วนเพดานภายในโถงเจดีย์ แสดงระบบสุริยจักรวาล มีพระอาทิตย์ที่จุดกึ่งกลางโดมโดยใช้ดาวเพดานสีทองห้อยช่อไฟแชนเดอร์เลียร์เป็นสัญลักษณ์ รายล้อมด้วยดาวนพเคราะห์ที่เหลืออีก 8 ดวง ส่วนกระจกแต่ละด้านขององค์เจดีย์แกะเป็นเรื่องราวอันเกี่ยวเนื่องกับคำสอนในพระศาสนา ว่าด้วยเรื่องของกิเลส 3 อัน ได้แก่ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ตลอดจนหลักธรรมที่เป็นทางการกิเลส 3 ท่าน คือ ทาน เมตตา และปัญญา



ท้าวเวสสุวัณ

      นอกจากนี้ยังมีการนำการ์ตูนที่ให้แง่คิดอย่าง อิคคิวซัง มิกกี้เม้าท์ ไลออนคิงส์ โดเรมอน มาบอกกล่าวเพื่อเป็นแรงจูงใจให้เด็กๆ ได้เรียนรู้โดยแฝงนัยนัยให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ถึง การทำดี การมีสติ เจริญปัญญา การมีเมตตา พร้อมกับเป็นการปลูกฝังเรื่องราวของธรรมมะไปยังคนรุ่นต่อๆไป
       
       ขณะที่ส่วนใต้ดินของมหารัตนเจดีย์ เป็นห้องโถงกว้างสำหรับใช้เป็นห้องแสดงปริศนาธรรม เพื่อเรียนรู้และปฏิบัติธรรม พร้อมๆ กับการจัดนิทรรศการเรื่องราวธรรมะ โดยในบริเวณรอบๆของพื้นที่ได้มีการจำลองเรื่องราวของเพื่อตอกย้ำและเตือนใจแก่คนที่เข้ามาสักการะมหารัตนเจดีย์


        ans1 ans1 ans1

      ด้านมานะ จิระนภากุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท น้อมบุญ จำกัด ตัวแทนคณะศิษยานุศิษย์ผู้จัดสร้างมหารัตนเจดีศรีไตรโลกธาตุ เปิดเผยว่า มหารัตนเจดีย์ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและการเรียนรู้ทางศาสนา ที่มีความโดดเด่นในด้านของศิลปกรรมหนึ่งเดียว อีกทั้งมีการนำองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมของต่างวัฒนธรรมมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน แฝงแนวคิดเรื่องหลักคำสอน หลักปรัชญา และภพภูมิในพระพุทธศาสนา
       
       “วันนี้แม้จะไม่มีหลวงตาอ๋อย ที่เคยดำริไว้ว่า ‘มหาเจดีย์ ไม่ใช่สร้างเพื่อตนเอง แต่จะช่วงสงเคราะห์ลูกหลานให้ได้มีโอกาสสร้างบุญครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อเป็นมงคลชีวิตต่อไปในวันหน้า’ หากแต่สถานที่แห่งนี้ก็จะยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนรุ่นต่อๆ ไป เพื่อร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนาให้คงอยู่เป็นที่พึ่งให้กับชาวพุทธต่อไป” มานะกล่าวทิ้งท้าย


        :25: :25: :25:

       มหารัตนเจดีย์ศรีไตรโลกธาตุ หรือ มหารัตนเจดีย์ ตั้งอยู่ที่ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้สนใจสามารถสอบถามเส้นทางหรือข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่ โทร. 087-495-9994


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000136805
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ