ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อีก 38 ปีต้องเป็นนักมังสวิรัติทั่วโลก เพราะแล้งน้ำต้องหันมากินพืชผัก  (อ่าน 2486 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อีก 38 ปีต้องเป็นนักมังสวิรัติทั่วโลก เพราะแล้งน้ำต้องหันมากินพืชผัก

มนุษย์ในยุคอีก 38 ปีข้างหน้านี้ ควรจะกินพืชผักเป็นอาหารอย่างเดียวเท่านั้น หากคำทำนายของนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับน้ำของสวีเดนเป็นความจริง


สถาบันน้ำระหว่างประเทศ ที่กรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ได้กล่าวว่า “ตามแนวโน้มและความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับอาหารที่เป็นอยู่ตามชาติตะวันตก ในปัจจุบันจะมีน้ำไม่พอจะปลูกอาหาร ให้ประชากรโลก ที่จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 9,000,000,000 คนกินในปี พ.ศ.2593 นี้”

นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันบอกต่อไปว่า มนุษย์ทุกวันนี้ได้โปรตีนวันละร้อยละ 20 ของทั้งหมด จากอาหารที่ได้จากสัตว์ แต่ประชากรโลกในปี พ.ศ. 2593 จะได้กินแค่เพียงร้อยละ 5 เท่านั้น เนื่องจากการขาดแคลนน้ำอย่างมากของภูมิภาค





เขาได้ชี้ให้เห็นว่า “เพราะมีปากท้องที่หิวโหยอยู่ 9,000 ล้านคนอยู่แล้ว และยังมีคนที่ขาดสารอาหารอีกตั้ง 2 พันล้านคน แม้ว่าการผลิต อาหารต่อรายหัว จะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยอยู่ เมื่อต้องใช้น้ำทั้งหมดเอาไปเพาะปลูกเสียตั้งร้อยละ 70 เสียแล้ว การทำการเกษตรเพื่อผลิตอาหารเพิ่มสำหรับคนเพิ่มอีก 2 พันล้านคน ในปี พ.ศ. 2593 จึงเป็นเรื่องที่หนักหน่วงกับพื้นที่และน้ำที่เหลืออย่างยิ่ง การเปลี่ยนมากินแต่พืชผัก จึงเป็นทางแก้ทางหนึ่ง ในการขาดแคลนน้ำ

เขาบอกต่อไปว่า “การเปลี่ยนมากินมังสวิรัติจะช่วยปลดปล่อยส่วนใหญ่ของพื้นที่การเกษตร เพื่อผลิตอาหารของมนุษย์ ทุกวันนี้ต้องใช้พื้นที่ถึง 1 ใน 3 เพื่อปลูกพืชที่เป็นอาหารสัตว์ อาหารโปรตีนที่ได้จากสัตว์ ต้องใช้พื้นที่มากถึง 1 ใน 3 และยังต้องใช้น้ำมากกว่าอาหารมังสวิรัติ ระหว่าง 5-10 เท่าอีกด้วย”.



ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/288110
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

สถาพร

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 220
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อีกไม่นาน มนุษย์ ก็ต้องกินยากับแก้ แล้ว เพราะอาหารทรัีพยากรหมดโลก
  น้ำมันหมดโลก ไม้ อิฐ หิน ปูน ทราย ถูกนำมาใช้ จนหมด ไม่เหลืออะไรให้ใช้อีกต่อไป ผมขับรถผ่านหน้าพระลาน เห็นภูเขาที่ลูกใหญ่ ๆ ที่ได้รับสัมปทาน เมื่อ 20 กว่านี้เอง หายไปทั้งลูก ทั้ง ๆ ที่มีการคาดการณ์ว่า จะหมดผ่านใน 50 กว่าปี แต่นี่เร็วกว่านะครับ เพียง 20 กว่าปี ก็หายหมดแล้วนะครับ

   ดังนั้น ยิ่งเกิด ยิ่งลำบาก ทางที่ดี รีบปฏิบัติภาวนา จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดที่โลกมนุษย์ต่อไปดีกว่าครับ

  :s_hi: :67: :13:


ขอบคุณภาพจาก http://www.pixpros.net
ชมภาพต่อเนื่องได้ที่

 http://www.pixpros.net/forums/showthread.php?t=33573
บันทึกการเข้า
ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
หญ้ากับแก้

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
๓. จักกวัตติสูตร (๒๖)

    [๔๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักมีสมัยที่มนุษย์เหล่านี้มีบุตรอายุ ๑๐ ปี
    ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี เด็กหญิงมีอายุ ๕ ปี จักสมควรมีสามีได้

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี รสเหล่านี้คือเนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และเกลือ จักอันตรธานไปสิ้น


    ดูกรภิกษุทั้งหลายในเมื่อมนุษย์ มีอายุ ๑๐ ปี หญ้ากับแก้  จักเป็นอาหารอย่างดี
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนข้าวสุกข้าวสาลีระคนกับเนื้อสัตว์ จักเป็นอาหารอย่างดี ในบัดนี้ฉันใด
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี หญ้ากับแก้ก็จักเป็นอาหารอย่างดี ฉันนั้นเหมือนกัน


    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี กุศลกรรมบถ ๑๐ จักอันตรธานไปหมดสิ้น
    อกุศลกรรมบถ ๑๐ จักรุ่งเรืองเหลือเกิน
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี แม้แต่ชื่อว่ากุศลก็จักไม่มี และคนทำกุศลจักมีแต่ไหน

    ดูกรภิกษุทั้งหลายในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๑๐ ปี คนทั้งหลายจักไม่ปฏิบัติชอบในมารดา จักไม่ปฏิบัติชอบในบิดา จักไม่ปฏิบัติชอบในสมณะ จักไม่ปฏิบัติชอบในพราหมณ์ จักไม่ประพฤติอ่อนน้อมต่อท่านผู้ใหญ่ในตระกูล เขาเหล่านั้นก็จักได้รับการบูชา และได้รับการสรรเสริญ เหมือนคนปฏิบัติชอบในมารดา ปฏิบัติชอบในบิดา ปฏิบัติชอบในสมณะ ปฏิบัติชอบในพราหมณ์ ประพฤติอ่อนน้อมต่อท่านผู้ใหญ่ในตระกูล ในบัดนี้ ฯ



อ้างอิง
เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๑ บรรทัดที่ ๑๑๘๙ - ๑๗๐๒. หน้าที่ ๕๐ - ๗๐.
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=11&A=1189&Z=1702&pagebreak=0             
ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=11&i=33
ขอบคุณภาพจาก http://banburi.110mb.com/


    "หญ้ากับแก้" หญ้าชนิดหนึ่ง ที่พระพุทธองค์เสวยแทนอาหาร เมื่อครั้งแสวงหาสัจธรรม
    (หญ้ากับแก้ เป็นภาษาอีสาน ภาษากลางคือ หญ้าตุ๊กแก)
    หลังจากที่ทรงอดพระยาหาร จนผมหนังติดกระดูก พระองค์จึงเริ่มเสวยดูดน้ำจากหญ้ากับแก้นี้ก่อน
    หลังจากนั้นก็เสวยผลกะเบา แล้วจึงเสวยพระกระยาหารปรกติ


ที่มา http://www.buddhabirthplace.com/tha/ways/waysthai.htm



หญ้ากับแก
   

วงศ์ GRAMINEAE Paspalum longifolium Roxb.
ชื่อสามัญ หญ้าหวาย หญ้าปล้องหิน (กรุงเทพฯ) หญ้ากับแก (อ่างทอง) หญ้าแพรกหางช้าง (กาญจนบุรี) หญ้ารังตั๊กแตน (นครราชสีมา) หญ้าตุ๊กแก long-leaved paspalum


ลักษณะทางพฤกษศาสตร์และเกษตร เป็นพืชมีอายุหลายปี เจริญเป็นกอสูง 110 - 140 เซนติเมตร บริเวณข้อใกล้ดินมีรากและขนยาว ใบเรียวไปที่ปลายใบ แผ่นใบมีเส้นกลางใบเด่นชัด (pronounced midrib) หน้าใบและหลังใบไม่มีขน ใบกว้าง 0.9 – 1.10 เซนติเมตร ยาว 28.2 – 42.9 เซนติเมตร กาบใบยาวกว่าปล้อง ขอบกาบใบมีปุยขนสีน้ำตาลอ่อน ยาว 1.0 – 1.5 มิลลิเมตร ลิ้นใบ ( ligule) เป็นแผ่นสีน้ำตาลปลายแหลม (membranous pointed) สูง 1.5 – 2.0 มิลลิเมตร แยกจากกันเป็น 2 ส่วน

เนื่องจากกาบใบบีบตัวเป็นเส้นแบน ช่อดอกยาว 40 - 50 เซนติเมตร มี 6 - 14 raceme แต่ละ raceme ยาว 3.5 - 7.0 เซนติเมตร แกนช่อดอก (rachis) กว้าง 3 - 4 มิลลิเมตร ที่ขอบมีขนสั้นๆ รอยต่อระหว่าง ก้านช่อดอกมีขนแข็งยาว อับเรณูยาว 0.8 มิลลิเมตร สีม่วงอ่อน บางครั้งพบด้านนอกสีม่วง ด้านในสีขาวนวล ยอดเกสรเพศเมียสีม่วง ออกดอกช่วงพฤษภาคมถึงเดือนธันวาคม

แหล่งที่พบและเก็บรวบรวมพันธุ์ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย (LP 163) อำเภอเมือง จังหวัดตรัง (SN 014) อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล (SN 45) อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช (SN 088, NS 200) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา (SN 193) อำเภอประทาย จังหวัดนครราชสีมา (PC 107) อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด (PC 111) ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 35 - 473 เมตร

คุณค่าทางอาหาร อายุ 45 วัน มีโปรตีน 7.2 – 12.8 เปอร์เซ็นต์ ฟอสฟอรัส 0.11 – 0.2 เปอร์เซ็นต์ โพแทสเซียม 0.87 – 2.46 เปอร์เซ็นต์ แคลเซียม 0.23 – 0.56 เปอร์เซ็นต์ ADF 43.8 – 50.5 เปอร์เซ็นต์ NDF 68.1 – 72.5 เปอร์เซ็นต์ DMD 21.4 – 26.2 เปอร์เซ็นต์ (โดยวิธี Nylon bag) ลิกนิน 8.9 – 10.5 เปอร์เซ็นต์

การใช้ประโยชน์ เป็นอาหารสัตว์ โค กระบือ แพะ แกะ



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.dld.go.th/nutrition/exhibision/native_grass/grass/Paspalum%20%20longifolium.htm
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 04, 2012, 02:02:10 pm โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ถ้าไม่อยากกินยากับแก กันแล้ว ก็อย่าเกิดกันอีกเลยนะจ๊ะ ทุกท่าน
หนทางนี้แล เป็นหนทางทางอันประเสริฐ อันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ
ขอให้ท่านทั้งหลาย พึงเจริญกันให้มาก ภาวนาให้มาก จะได้ไม่ต้องกลับมาเกิดอีกนะจ๊ะ

 เจริญธรรม / เจริญพร
 ;)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 05, 2012, 08:20:57 am โดย หมิว »
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ