ในแนวกัมมฐานที่ผมปฏิบัติอยู่นะครับ อาจจะให้คำตอบ้ไม่ครบพร้อมต้องรอถามพระอาจารย์ธัมมวังโสและผู้รู้อีกทีนะครับ
1. ธรรมชาติเมื่อสมาธิจดจ่อมากขึ้น จะได้ยินเสียงลมหายใจตนเองดังมาก อย่าตกใจไม่งั้นจะหลุดดจากสมาธิจะไม่สามารถข้ามขั้นขึ้นไปได้อีก ให้นั่งพิจารณาตามลมหายใจ หรือ บริกรรมภาวนาต่อไป ไม่นานจะข้ามไปสู่สภาวะลมหายใจที่ละเอียดอ่อนขึ้นจนเหมือนไม่หายใจ แต่จริงๆเรายังหายใจปกติ เพียงแต่เมื่อสมาธิจดจ่อมากขึ้นลมหายใจและจิตก็จะละเอียดอ่อนมากขึ้น
2. ได้ยินเสียงชัดขึ้น ก็เป็นปกติเมื่อสมาธิในขั้นนี้เกิด เมื่อได้ยินก็รู้ว่าได้ยิน แล้วก้บริกรรมภาวนาต่อไป
3. เป็นไปได้ทั้งอุปาทานและความจริง อย่าไปใส่ใจในสิ่งนี้มากให้จดจ่ออยู่กับสมาธิเพื่อข้ามขั้นต่อไป
- หากเมื่อสามารถเข้าสู่สภาวะจิตว่าง ยังมีความตรึกนึกคิดรู้อยู่ มีความปิติสุข แต่ไม่ปรุงแต่งคิดเป็นเรื่องราวใดๆ มีแค่สภาพรู้อยู่เท่านั้น ก็ให้ตัวรู้นั้นดูสภาพของจิตนี้ไป จนกว่าจะเข้าถึงสภาพว่าง ไม่ปรุงแต่ง จดจ่อแต่อยู่กับสมาธิจิตนั้น ก็ใช้ตัวรู้นี้แหละดูสภาพจิตความปรุงแต่งนั้นไป
- เมื่อจดจ่อได้นานเท่าไหร่ ก็แสดงว่าจิตมีกำลังมากเท่านั้น ให้ปฏิบัติจนสามารถเข้าสมาธิเมื่อไหร่ก็ได้ที่ต้องการ วิธีเข้าแต่ละคนอาจจะต่างกัน แต่ผมเวลาจะเข้าสมาธิหรือกุศลจิตใดๆ จะตั้งกำหนดที่ลมหายใจเข้า เมื่อหายใจออกก้เข้าสมาธิจิตเลย หรือ กุศลจิต เช่น เมตตา กรุณา เป็นต้นทันที โดยจะตัดขาดจากความคิดปรุงแต่งในอกุศลที่เป็นไปใน รัก โลภ โกรธ หลง
- เมื่อเข้าได้ก็ต้องหัดถอยออกจากสมาธิจิต ถ้าถอยในแบบที่ผมศึกษาจากที่พระอาจารย์ตอบปัญหา ท่านจะถอยเป็นลำดับขั้น เช่น เมื่ออยู่อุเบกขา เอกัคตาได้แล้วจะถอยออกมาสู่ --> อุเบกขา และ สภาพที่มีความอิ่มเอมสุข --> ถอยมาสภาพที่การรับรู้ทางหู ทางกาย ทางใจ(ธัมมารมณ์) แต่ยังคงจดจ่อในสมาธิจิตอยู่ --> ถอยออกจากสมาธิจิต อยู่ในสภาวะปกติ
- เมื่อชำนาญในสมาธิจิตและสามารถเข้าออกดั่งใจได้แล้ว ก็ให้ถอยมาอยู่สภาพที่ ถอยมาสภาพที่การรับรู้ทางหู ทางกาย ทางใจ(ธัมมารมณ์) แต่ยังคงจดจ่อในสมาธิจิตอยู่ พิจารณาในธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ ในทั้งอริยะสัจ๔หรือพระสูตรข้อธรรมใดๆ
- เมื่อเห็นจริงตามธรรมนั้นแล้วให้พิจารณาในสิ่งที่รับรู้ต่างๆที่เป็นสภาพปรมัตถธรรม (การพิจารณาในขั้นนี้จะต้องตัดความนึกคิดปรุงแต่งออกไปเพื่อรับรู้สภาพที่เป็นจริงเท่านั้น)
แนวทางปฏิบัติของผมเป็นสายพระป่าตอนที่บวชอยู่ ซึ่งเมื่อปฏิบัติไปนานจะรู้เห็นเพิ่มขึ้นและเป็นวิถีแนวทางและจริตของผม อ่านเพิ่มเติมได้ตาม Link นี้ครับ หากไม่ก่อเกิดประโยชน์ก็ขออภัยด้วยครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=7416.0ผมก็ปฏิบัติรู้มาน้อยเพียงเศษฝุ่นแค่นี้ต้องรอพระอาจารย์ธัมมวังโสและผู้รู้ท่านอื่นมาตอบอีกครั้งครับ