งานประเพณีทำบุญตักบาตรขนมครกชาวตำบลบางพรมของวัดแก่นจันทร์เจริญ
ซึ่งจัดขึ้นในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี ต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลากว่า 85 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2473
สืบสานประเพณี "ตักบาตรขนมครก" ที่สมุทรสงคราม
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบางพรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสงครามและ ททท. สำนักงานสมุทรสงคราม จัดงานประเพณี "ทำบุญตักบาตรขนมครก-น้ำตาลทราย" ณ วัดแก่นจันทร์เจริญ ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โดยมีนายชนม์ชื่น บุญญานุสาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม เป็นประธานงานประเพณีทำบุญตักบาตรขนมครกชาวตำบลบางพรมของวัดแก่นจันทร์เจริญ ซึ่งจัดขึ้นในวันขึ้น 8 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี และได้จัดต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลากว่า 85 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 สมัยที่พระครูสุนทรสุตกิจหรือหลวงปู่โห้เป็นเจ้าอาวาส โดยมีชาวบ้านตำบลบางพรม พุทธศาสนิกชน นักเรียน อาจารย์ ร่วมแรงร่วมใจกันสืบทอดประเพณีที่ดีงามด้วยความศรัทธาและความเชื่อที่หลากหลาย
จนกระทั่งถึงปัจจุบันมีความเชื่อกันว่า "ขนม ค-ร-ก" หรือ "ขนม คน-รัก-กัน" นั้น เป็นขนมที่หอมหวานปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงหยอดลงหลุม พอสุกได้ที่ก็แคะจากหลุม แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกันเป็นสัญลักษณ์ว่าจะได้ครองรักอยู่คู่กันตลอดไป ส่วนคนที่ไม่มีคู่ก็จะทำให้พบเนื้อคู่เหมือนขนมครกที่ต้องมี 2 ฝา และมีความรักหวานมันนุ่มละมุนลิ้นเหมือนรสชาติของขนมครกนั่นเอง ทั้งมีกิจกรรมการสาธิตวิธีการโม่แป้งแบบโบราณ การแข่งขันกีฬาแบบพื้นบ้าน เช่น วิ่งวิบากขนมครก ขูดมะพร้าว ขนมครกลีลา ในวันนี้ชาวบ้านญาติโยมที่มาร่วมทำบุญ จะตระเตรียมข้าวของอุปกรณ์สำหรับทำขนมครก ช่วยกันลงแรงและบริจาคทรัพย์มาซื้อข้าวสารเพื่อนำมาหมักค้างคืนไว เมื่อถึงตอนเช้าของวันใหม่ก็จะไปรวมตัวกันที่ศาลาวัด ช่วยกันโม่แป้ง คั้นกระทิ ทำขนกครกพร้อมกับน้ำตาลทราย เพื่อนำไปตักบาตรถวายพระสงฆ์ ทุกๆ ปีจะมีผู้คนทั่วทุกสารทิศเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นโอกาสของการพบปะญาติพี่น้องที่อยู่ห่างไกล กลับมายังภูมิลำเนา เป็นการเสริมสร้างความรักในครอบครัว และความสามัคคีในชุมชนอีกด้วย
ประเพณีตักบาตรขนมครกเริ่มครั้งแรกเมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยา มีบันทึกในกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยพระราชพิธี 12 เดือน ปรากฏหลักฐานของสำนักในการตักบาตรขนมเบื้อง ครั้นเมื่อถึงเดือนอ้ายด้วยมีกุ้งชุกชุมเป็นจำนวนมากให้เกณฑ์ฝ่ายช่วยกันปรุงขนมเบื้องถวายพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงผนวชและพระราชาคณะ พระราชพิธีตักบาตรขนมเบื้องสืบทอดมาจนถึงปลายรัชสมัยรัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี พ.ศ.2449
ต่อมาพระครูสุนทรสุตกิจหรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสวัดแก่นจันทร์เจริญ ได้ริเริ่มประเพณีตักบาตรขนมครกนี้ โดยมีการเลียนแบบมาจากประเพณีการตักบาตรขนมเบื้องของพระราชพิธีในวัง และได้ชักชวนญาติโยมร่วมกันตักบาตรขนมครก ในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 10 ของทุกปี เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีทำบุญตักบาตรนับเนื่องแต่พุทธกาลอานิสงส์ที่ได้รับทำให้ยังสังขารและธาตุของคณะสงฆ์ที่อยู่จำพรรษา พัฒนาฝึกฝนทั้งทางด้านจิตใจและความรู้ความสามารถในการปลูกสร้างตกแต่งซ่อมแซมอาคารต่างๆ ได้รับความรู้หลังจากลาสิขาบทไปแล้วยังได้นำปัจจัยไปบำรุงศึกษาทั้งทางสงฆ์และลูกหลานของทายกทายิกา น้ำตาลทรายที่ได้จากการตักบาตรให้ทายกทายิกาได้สืบทอดการทำตังเมมาแต่โบราณ เพื่อแจกจ่ายแก่คณะสงฆ์และผู้มาช่วยกิจการภายในวัด ทั้งยังใช้ในการปรุงอาหารสำหรับผู้ที่มาทำบุญเมื่อถึงคราวเข้าพรรษาของพระสงฆ์
แลยังถึงซึ่งความสามัคคีเข้มแข็งของทายกทายิกาในชุมชนและเครือข่าย ชุมชนตำบลบางพรมร่วมด้วย อบต.บางพรมมีความปรารถนาในการสืบต่อวัฒนธรรมประเพณีตักบาตรขนมครกของตำบลบางพรม ให้เป็นตำนานยืนยาวสืบต่อไป ผู้สื่อข่าว : ทีมข่าวสปริงนิวส์
ที่มา
news.springnewstv.tv/53914/สืบสานประเพณีตักบาตรขนมครกที่สมุทรสงคราม