ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จุดจบของโจรขโมยศรัทธา ถึงเวลาที่ ”กรรมตามทัน”  (อ่าน 532 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28475
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



จุดจบของโจรขโมยศรัทธา ถึงเวลาที่ ”กรรมตามทัน” – เรื่องเล่าจากผู้อ่าน


เรื่องราวของ ” กรรมตามทัน ” นี้ ยายของฉันเล่าให้ฟังว่า…

ยายเป็นคนชอบทำบุญมาก ทุกๆ เช้ายายจะตื่นตั้งแต่ตีสี่เพื่อทำกับ ข้าวไปใส่บาตรทุกวัน พอถึงวันพระ ยายจะนุ่งขาวห่มขาวไปถือศีลที่วัดหรือถ้า มีกิจกรรมงานบุญนอกเหนือไปจากนี้ ยายก็ยินดีช่วยเหลือทั้งหมด ถ้าช่วยเป็นกำลังกายไม่ได้ ยายก็พร้อมช่วยเป็นกำลังทรัพย์แทน

ยายบอก ฉันเสมอ ๆ ว่า ถึงยายจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่ถ้าเรื่องบำรุงพระพุทธศาสนาแล้ว  ยายช่วยเต็มที่ ยิ่งถ้าเรื่อง“เททองหล่อพระพุทธรูป” ด้วยแล้ว ยายจะมี ศรัทธามาก เพราะครั้งหนึ่ง หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ได้เคยเทศน์ไว้ว่า

“ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี หรือใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เกิดเป็นพรหม เป็นอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเกิดเป็นมนุษย์ จะ ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ และจะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจน กว่าเข้าสู่นิพพาน”


@@@@@@

ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจังทำให้ยายถึงกับ เปิดพระไตรปิฎกสืบค้นกลับไปถึงครั้งพุทธกาล ซึ่งความพยายามของยายก็ไม่สูญ เปล่า เพราะในพระไตรปิฎกมีการพูดถึงอานิสงส์ของการสร้างพระพุทธรูปไว้จริง ๆ  เช่น ได้เกิดเป็นนางฟ้า เทวดาเศรษฐี ฯลฯ และถ้ายิ่งทำบุญด้วยทองคำด้วยแล้ว ยิ่งดีนัก เพราะเป็นธาตุที่เลิศที่สุดในวัตถุทั้งหลาย

ด้วยเหตุนี้ เมื่อมีคนมาบอกบุญชวนไปงานหล่อพระพุทธรูปทีไร ภาพที่ฉันจำได้แม่นก็คือ ยายจะรีบหาขันทองเหลือง กำไลเงินเข็มขัดนาก แหวนทองคำ หรือโลหะมีค่าสักชิ้น  ฯลฯ ไป “หลอมรวม” กับน้ำทองหล่อพระพุทธรูป

ยายเชื่อว่า การร่วมบุญแบบนี้จะให้อานิสงส์สูงสุด เพราะเป็นการทำทานสละสมบัติส่วนตน และทำให้ปล่อยวางได้ไม่ยึดติด ไม่ครอบครอง

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ฉันได้มีโอกาสตามยายไปหล่อพระพุทธรูปที่วัดแห่งหนึ่ง สิ่ง ที่ฉันเห็นก็คือ นอกจากยายของฉันซึ่งได้นำแหวนทองคำมาร่วมบุญแล้ว ยังมีลุง ป้าน้าอาอีกหลายสิบคนที่ทยอยนำโลหะมีค่ามาร่วมบุญกันอย่างเนืองแน่น บ่งบอก ถึงศรัทธาอย่างแรงกล้าในพุทธศาสนา

@@@@@@

ระหว่างที่ฉันกำลังมองกองโลหะสูงพะเนินเทินทึกด้วยความตื่นตาตื่นใจอยู่นั้นยายก็หันมาพูดว่า

“หนูรู้ไหม…เคยมีคนใจบาปแอบขโมยทองหล่อพระพุทธรูปไปด้วยนะลูก…”

เรื่องเกิดขึ้นสมัยยายยังสาว ๆ ในงานหล่อพระพุทธรูปประธานที่วัดแห่งหนึ่ง  วันนั้น ‘ลุงผล’ ซึ่งเป็นกรรมการวัดกำลังเดือดร้อนเรื่องเงินอยู่พอดี ด้วย อารมณ์ชั่ววูบ แกจึงแอบหยิบสร้อยทองเส้นเขื่องที่ญาติโยมนำมาถวายไปเส้น หนึ่ง หวังจะนำไปขายหาเงินมาใช้หนี้

แน่นอนว่าไม่มีใครรู้…และพิธี หล่อพระก็ดำเนินต่อไปจนแล้วเสร็จ  ทว่าในคืนนั้นเอง อยู่ๆ บ้านของลุงผลก็เกิดไฟไหม้ขึ้นกลางดึก แม้ทุกคนใน บ้านจะหนีตายออกมาทัน แต่ด้วยความเสียดายสร้อยทองเส้นเขื่องที่แอบขโมยมาลุง ผลจึงย้อนกลับเข้าไปในบ้าน หมายจะหยิบสร้อยทองออกมาให้ได้ แต่ขณะที่วิ่ง กลับออกมา เสาต้นเขื่องก็เกิดล้มลงมาพาดประตูเสียก่อน ลุงผลจึงติดอยู่ใน บ้านทันที

กว่าที่นักดับเพลิงจะฝ่าเปลวไฟเข้าไปช่วยได้ ลุงผลก็ถูก  “ไฟครอก” จนตัวไหม้ดำมือไม้หงิกงอ ไม่ได้สติแล้ว เหลือเพียงลมหายใจรวยริน และสร้อยทองเส้นเขื่องที่กำไว้แน่น ราวกับกลัวว่ามันจะหล่นหายไป

@@@@@@

ลุงผลอยู่โรงพยาบาลได้เพียง 3 วันก็สิ้นใจ เพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว

หลังงานศพเสร็จสิ้น ป้านันผู้เป็นภรรยาก็ตัดสินใจเปิดเผยเรื่องราวของลุงผลให้ ญาติๆ ฟัง เพราะลุงผลมาเข้าฝันบอกว่าต้องการให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์แก่คน ทั่ว ๆ ไป ป้านันเล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า เย็นวันที่เกิดเรื่อง หลังกลับจากวัดลุงผล แอบกระซิบให้ป้านันฟังว่า แกขโมยสร้อยทองมา หวังจะขายใช้หนี้

แทนที่ ป้านันจะเห็นดีเห็นงามไปด้วย แกกลับขอร้องให้ลุงผลนำสร้อยไปคืน เพราะถึงแม้จะลำบากยากเข็ญแค่ไหน แกก็ ต้องการให้ช่วยกันทำมาหากิน ช่วยหาเงินกันไปมากกว่าจะทำบาปแบบนี้

คำพูดของป้านันได้ผล เพราะลุงผลตั้งใจว่าจะนำสร้อยทองไปคืนหลวงพ่อในวันรุ่ง ขึ้น ทว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นมาเสียก่อนอย่างไรก็ดี ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี สำคัญที่สุด ป้านันตัดสินใจนำสร้อยทองเส้นนั้นไปถวายคืนหลวงพ่อแทนลุงผล  พร้อมกับปวารณาตนขอรับใช้ศาสนาอย่างไม่มีกำหนด ด้วยความตั้งใจว่าจะอุทิศผล บุญนั้นแก่ลุงผล เผื่อว่าเวรกรรมจะเบาบางลงบ้าง

@@@@@@

ฉันฟังเรื่องของลุง ผลแล้วก็นึกสยดสยองแทนไม่ได้ ร่างกายมนุษย์ที่ถูกเปลวไฟแผดเผาทั้งเป็นจะ เจ็บปวดทรมานสักเพียงไหน…คงไม่ต่างจากโลหะมีค่าที่ถูกหลอมด้วยความร้อน นั่นเอง

นี่แหละที่เขาเรียกกันว่า เวรกรรมตามทัน! เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว คงไม่มีใครกล้าขโมย “ศรัทธา” ของใครอีกเป็นแน่


 

เรื่อง : ปลายเทียน 
ภาพ : https://pixabay.com
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/40209.html
By Therranuch ,11 April 2019
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ