สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: ลำใย ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 09:01:40 am



หัวข้อ: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำใย ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 09:01:40 am
ตอนที่เพื่อนมาชวนปฏิบัติ กรรมฐาน ภาวนา สมาธิ แล้ว บอกว่า ถ้าปฏิบัติ ภาวนา แล้วจะโชคดี ไปไหนก็จะโชคดี ปลอดภัย ก็ปฏิบัติมาตลอด 2 ปีแล้ว แต่ไม่รู้สึกว่า โชคดี เลยคะ ไปไหน ก็เจ็บเล็ก เจ็บน้อยเป็นประจำ

  สรุปแล้วปฏิบัติ ภาวนา กรรมฐาน นี้จะโชคดี จริง หรือ ไม่คะ

  :smiley_confused1: :c017:


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:11:41 pm
เพื่อนมาชวนปฏิบัติภาวนา บอกปฏิบัติแล้วจะโชคดี ตลอด 2 ปี ไม่รู้สึกว่าโชคดีเลยคะ ไปไหนเจ็บเล็กเจ็บน้อยเป็นประจำ สรุปแล้วปฏิบัติภาวนานี้ โชคดี จริง หรือ ไม่คะ

(http://nongchangkuen.go.th/wp-content/uploads/2011/02/Longan1.jpg)
ข้องขุ่

     เพียรบุญเพ่งขัดคู้                สั่งสม
บุญผ่อนพาลพาถม                  บ่เกื้อ
เพียงกรรมขวากขวางขม         เพียงข่ม นาแม่
ธรรมประโยชน์ง้างเงื้อ            สู่เจ้ายามมรณ์.


                                                          ธรรมธวัช.!




http://nongchangkuen.go.th/%E0%B8%A5%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99/


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: kosol ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 01:55:55 pm
ปฏิบัติกรรมได้ ต้องโชคดี สิครับ แต่โชคนั้นก็ต้องดูเหตุด้วยนะครับ
โชคดีที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา แล้วได้ศึกษาปฏิบัตกรรมฐานนะครับ

   :25:


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ กรกฎาคม 21, 2012, 09:29:31 pm
ก็แล้ว ปฏิบัติ ภาวนา อะไรละจ๊ะ  ในรายละเอียดมีมาก  ต้องบอกให้ได้ก่อนนะจ๊ะ ว่าปฏิบัติ ภาวนาอะไร จึงจะบอกได้

ยกตัวอย่าง บางคน (มีโอกาสได้คุยกับพระรูปหนึ่งอยู่ทางลพบุรี) ก็ไปอธิฐานว่าขอให้ กรรมที่ไม่ได้ที่เคยได้ทำไว  มาสงผล เพื่อให้หมดเวรหมดกรรม  ที่นี้ ก็เลย เป็นมากเลย ถึงขนาดเดินไม่ได้เลยก็มี

  ก็ต้องมารู้จักวิธีที่เขาทำกันเสียก่อนนะว่า เขาทำกันอย่างไร


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ลำใย ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 08:47:51 am
ภาวนาพุทโธ นะ
  ภาวนาแล้ว ก็ไม่ได้อธิษฐาน อะไรนอกเสียจาก ขอให้โชคดี เรียนดี เข้า ม. ตามที่ต้องการคะ แต่อันนี้ไม่สัมฤทธิ์ผล คะ ปลงแล้ว แต่ก็ภาวนาอยู่นะคะ หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ อยู่อย่างสม่ำเสมอ เวลาภาวนาใจก็สงบราบรื่นดี แต่เรื่องโชคดี ไม่ปรากฏ แต่จะถามว่าทุกข์กับความโชคไม่ดีหรือไม่ ก็ตอบว่า เฉย ๆ คะ เพียงแต่รู้สึกว่า โชคไม่ดี เท่านั้น ความสงสัยก็เลยเกิดขึ้นว่า กรรมฐานไม่ได้มีไว้เพิ่มโชค ใช่หรือไม่คะ

  :s_hi: :smiley_confused1:


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: นิรมิต ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 12:10:57 pm
(http://www.madchima.net/images/897_card_16.jpg)

โชคดี หรือ ไม่ดี นั้นอยู่ที่กรรมและจังหวะครับ เมื่อโชคไม่ดีมาก่อน แสดวงว่าโชคดี ก็จะตามมาหลังโชคไม่ดี

อะไรคือ โชคดี
   ได้ลาภ ได้ยศ สุข สรรเสริญ
    เบ็ดเตล็ด ก็คือ สมหวัง อยากได้ก็ได้ อยากมีก็มี อยากเป็นก็เป็น

   โชคดีมาจากการสั่งสมกุศล ต้องดูว่าเราขากการสั่งสมกุศล อะไร จะได้เติมเต็มกุศลส่วนนั้นครับ

   เช่น อยากได้ลาภ ก็ต้อง ให้ทานบ้างครับ ไม่สละ หรือ ให้ทาน จะได้ลาภ ได้อย่างไร
        อยากปลอดภัย ก็ต้อง ให้ชีวิตเป็นทานบ้างครับ ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ช่วยเหลือคนตกทุกขืได้ยาก อย่างนี้ครับ
        อยากมีปัญญา ก็สร้างธรรมทาน ให้มากขึ้น
        อยากพ้นสังสารวัฏ ก็ต้องภาวนากรรมฐาน

      เห็นหรือไม่ครับ ความโชคดี อยู่ที่เหตุด้วย ไม่เหมารวม หรือ เปลี่ยนเหตุปัจจัย ละก็ได้แน่ ๆ ครับ

  :s_hi: :49:
       


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 12:27:16 pm
บางที  ถ้าเราจะตอบว่า เพื่ออะไรก็ได้ ได้หมด  ก็น่าจะได้เหมือนกันนะ  อยู่ที่ว่า ที่จริงๆ แล้วเขาทำกันอยางไรละ จึงสำเร็จผลเช่นนั้น  บางเรื่องก็ส่งผลเลย บางเรื่อง ก็นานหน่อยถึงจะส่งผล  บางเรื่อง ก็ต้องรออีกภพภูมินึงเลย   ตัวอย่างเช่น  อย่างที่คุณว่า ภาวนาหายใจเข้า พุท หายใจออก โธ อยู่อย่างสม่ำเสมอ เวลาภาวนาใจก็สงบราบรื่นดี  อันนี้เห็นได้อย่างชัดเจน ว่าทำตอนนี้ก็ได้ตอนนี้เลยทันที  แต่บางอย่างเช่น  สมมติว่า เราปลูกต้นมะม่วง ในปีนี้ ธรรมชาติของมะม่วงนั้น ก็้ต้องใช้เวลาปีหนึ่งถึงจะเริ่มออกผลได้ อย่างนี้เราก็ต้องรอ เป็นปีอยู่ กว่ามะม่วงจะออกผลมาให้เรา  อันนี้มะม่วงนะ  แต่ถ้าคุณปลูกถั่ว สามเดือนก็ได้ผลผลิตแล้ว ไม่ต้องรอเป็นปี แต่ถ้าเราเกิดอยากจะกินมะม่วงเราก็ต้องรอเป็นปี 


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 04:48:23 pm
ในมุมมองของผมนะครับ

- หากคุณเพียรปฏิบัติในกุศล สติ ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน สมาธิ คิดดี พูดดี ทำดีแล้ว ความโชคดีของคุณมีแล้วดังนี้คือ
1. เป็นผู้ได้พบกับพระพุทธศาสนาที่ไม่รู้ต้องเกิดดับอีกกี่ชาติ กี่อสงไขยถึงจะได้เจอ
2. ได้เรียนรู้ธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันเป็นการหลุดพ้นออกจากทุกข์
3. เมื่อดำรงใน ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน เราก็จะเป็นผู้ที่ไม่เบียดเบียนพยาบาททำร้ายตนเองและคนอื่น
4. รู้จักบาป บุญ คุณ โทษ รู้ทำปัจจุบันเพื่อสิ่งที่ดีๆ
5. เมื่อเจริญใน กาย วาจา ใจ สุจริต ก็ย่อมเป็นที่รักใคร่ทั้ง เทวดา มาร พรหม และ มนุษย์ทั้งหลาย ด้วยความเป็นคนดี คิดก็ดี พูดก็ดี วาจาก็ดี
6. เป็นผู้มีสติระลึกรู้การกระทำทาง กาย วาจา ใจ อยู่เสมอเพื่อความไม่ประมาทกระทำสิ่งใดๆในทางทุจริต
7. เป็นผู้มีความระลึก นึกคิด ตรึกตรองแยกแยะสิ่งที่ถูกผิด ดี ชั่ว ด้วยปัญญา
8. เป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน เพราะมีสมาธิที่เรียกว่าก่อเกิดความสงบสุขแก่จิต (ผมไม่รู้นะครับว่าคุณทำสมาธิยังไง หากคุณทำด้วยความฟุ้งซ่าน ทำเพราะหวังที่จะได้ ลาภ ยศ สักการะ พระพุทธศาสนาไม่มีให้ครับ ต้องไปขอกับศาสนาอื่น)
9. เป็นผู้ที่เห็นทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ รู้ทางดับทุกข์ ถึงความพ้นทุกข์

- ด้วย 9 ประข้างต้น บุคคลทั่วไปหากไม่มีบุญบารมีที่สะสมมามากพอไม่มีทางจะได้พบ เว้นแต่ผู้ปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนาเท่านั้น

- ความขุ่นมัวใจ หมองมัวใจ ขัดข้องใจ ขุ่นเคืองใจของคุณที่มีต่อพระพุทธศาสนาในตอนนี้ ผมจะบอกเหตุเบื้องต้นให้ครับ เพราะคุณนั้นหวังลาภ ยศ สรรเสริญ สักการะ อยากสุขสบาย ไม่มีเพศภัย อันนี้พระพุทธศาสนาไม่มีให้ พระตถาคตไม่ได้สอนให้หวังด้วยคุณประการเช่นนี้ๆ
พอคุณไม่ได้ดังที่สำคัญมั่นหมายไว้ในใจ คุณก็เกิดความเคลือบแคลงใจ กลายเป็นผู้ไม่มีปกติสุข กลับมีแต่ความ  ขุ่นข้องใจ ขัดเคืองใจ สิ่งเหล่านี้แม้คุณบอกเฉยๆแต่มันก็คือทุกข์ ทุกข์ทุกครั้งที่ได้ตรึกนึก ทุกข์ทุกครั้งที่พบเจอ นั่งสมาธิก็ไม่มีความสงบเป็นปกติสุข เพราะจะคอยตรึกนึกฟุ้งซ่านไม่หยุดหย่อนในเรื่องต่างๆ

ผมขอแยกแยะสิ่งที่พอจะเป็นเหตุให้คุณต้องประสบอุบัติเหตุได้ดังนี้คือ

1. หากคุณปฏิบัติธรรมด้วยหวังในลาภสักการะ ไม่ได้เข้าถึงธรรม ไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ไม่มีสติ เป็นผู้ดำรงอยู่ด้วยความปกติที่เป็นไปใน รัก โลภ โกรธ หลง สภาพร่างกายไม่สมบูรณ์
สาเหตุที่ทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุที่ผมพอจะมองได้คือ
-  คุณอยู่ด้วยความประมาท เลินเล่อ คือ ไม่ดำรงอยู่ด้วยความไม่เบียดเบียนพยาบาททำร้ายใคร ไม่มีสติระลึกรู้ในปัจจุบันขณะที่กำลังกระทำอยู่ ไม่มีความคิดแยกแยะลำดับความสำคัญของสิ่งที่จะทำ จิตใจเลื่อนลอย หลง ฟุ้งซ่าน ไม่แยกแยะถูกผิด หวังน้ำบ่อหน้ามากเกินไป ไม่มีความเพียรพยายามที่จพะทำ อยู่ด้วยความประมาทมองข้ามสิ่งเล็กๆน้อยที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ สภาพใจและร่างกายไม่พร้อมหรือควรแก่งาน
แง่คิดจะเห็นได้ว่าสาเหตุที่ก่อให้เกิดก่ารเจ็บเล็กเจ็บน้อยของคุณ ยกตัวอย่างนะครับ
- เช่น เดินอยู่พลัดเหยียบหลุมตื้นๆล้มลงหรือข้อเท้าพลิก นั่นเพราะคุณไม่ได้มองดูทางเดิน
-เช่น เรียนไม่ได้ ผลไม่ผ่าน เพราะคุณไม่ได้เพียรพยายามที่จะศึกษาอ่านเขียน หรือแม้ตั้งใจอ่านเขียนแต่มีจิตใจฟุ้งซ่านไม่สงบไม่ควรแก่งาน ทำให้สิ่งที่อ่านๆเรียนๆเขียนๆมาไม่สามารถจดจัดและเรียงลำดับได้ดีในสมอง
ตัวอย่างทั้ง 2 ข้างต้น ผมกล่าวให้รู้ถึง
- ในปัจจุบันขณะคุณไม่มีสติระลึกรู้ในสภาวะปัจจุบันที่กระทำ พิจารณา ตรึกตรอง ดูอยู่ด้วยความไม่ประมาท
- ในปัจจุบันขณะคุณไม่มีศีลที่อยู่ด้วยความเข้าใจที่ความชอบทางกายและวาจา
- ในปัจจุบันไม่มีสมาธิที่ควรแก่งานในการดำเนินกิจการงานใดๆ  เป็นต้น

2. หากคุณเป็นผู้ดำรงอยู่ในความเป็นกุศล สติ ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน สมาธิ คิดดี พูดดี ทำดี ครบพร้อมแล้ว  ระลึกรู้อยู่โดยความไม่ประมาท มีสภาพร่างกายที่ไม่บกพร่อง
สาเหตุที่ทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุที่ผมพอจะมองได้คือ
- สิ่งที่มาจากการกระทำใดๆโดยเจตนาในทางทุจจริตของคุณที่เคยทำสะสมมา ในกาลก่อน หรือ ในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ส่งผลให้คุณต้องได้รับการกระทำโดยเจตนาคือกรรมนั้น เพื่อชดใช้ให้หมดๆไป
- สิ่งที่มาจากการกระทำใดๆโดยเจตนาในทางทุกจริตของคุณที่เคยทำสะสมมา ในกาลก่อน หรือ ในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ มีมากกว่าผลบุญที่คุณได้ทำไว้ บาปที่มีมากกว่าย่อมแสดงผลก่อน เหมือนเกลือในน้ำ 1 แก้ว หากมีเกลือเม็ดเล็กๆเม็ดเดียวในน้ำ 1 แก้ว น้ำย่อมไม่เค็ม แต่หากมีเกลือมากน้ำนั้นก็ย่อมเค็ม (เปรียบเกลือเป็นบาป บุญเป็นน้ำ)

หากคุณมีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาจริงๆนะครับ ให้คุณปฏิบัติทำไปด้วยใจที่เคารพเอื้อเฟื้อ ทำโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทำด้วยหวังให้คุณเป็นคนดีทั้งกาย วาจา ใจ มีจิตสงบผ่องใสยินดี ไม่เบียดเบียนทำร้ายตนเองและคนอื่น หากคุณปฏิบัติเจริญใน นกุศล สติ ศีล พรหมวิหาร๔ ทาน สมาธิ คิดดี พูดดี ทำดี ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งสิ่งเหล่านั้นจะย้อนคืนกลับมาทำให้คุณมีปกติสุขกาย สบายใจ ผ่องใส สงบ ปิติยินดี ที่เรียกว่า บุญ แน่นอนครับ


หัวข้อ: Re: ปฏิบัติภาวนากรรมฐาน ทำไม่ โชคไม่ดี อย่างที่เพื่อนชวนและบอกไว้คะ
เริ่มหัวข้อโดย: Jet ที่ กรกฎาคม 22, 2012, 08:07:28 pm
โชคดีในพระพุทธศาสนา นี้ ปัจจุบันมี อยู่ 3 อย่างนะครับ

  1.ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ( โดยเฉพาะเป็นเพศชาย )
  2. ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
  3. ได้กัลยาณมิตร ที่เป็นพระอริยะเจ้าเป็นครูอาจารย์ นะครับ

 3 อย่างนี้ นับว่าเป็นโขคดี มาก ๆ

   ดังนั้นคุณมีโอกาสปฏิบัติธรรม แ้ล้ว โชคดี คือ สติปัญญา ของคุณ จะได้เห็นทางพ้นจากความทุกข์ หากคุณโชคร้าย ชีวิตคุณก็ต้องทุกข์ อย่างนี้ไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรที่จะพ้นจากความทุกข์นี้ไปได้ ครับ

  :coffee2: :coffee2: :coffee2: