เกี่ยวกับเรื่อง การบำรุงดูแล พระภิกษุอาพาธ นั้นมีในพระไตรปิฏก พระพุทธเจ้าท่านได้ตรัสไว้ว่า
โย ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ
ความข้างต้นมีที่มาในพระวินัยปิฏก เล่มที่ ๕ มหาวรรค ข้อ ๑๖๖ ซึ่งมีความโดยสรุปว่า มีภิกษุรูปหนึ่งอาพาธเป็นโรคท้องร่วง (กุจฺฉิวิการาพาโธ) นอนจมกองมูตร(อุจจาระ) กองคูถ(ปัสสาวะ) ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคมีท่านพระอานนท์เป็นผู้ติดตาม เสด็จพุทธดำเนินไปตรวจตามที่พักอาศัยของพระภิกษุทั้งหลาย ได้เสด็จไปทางที่อยู่ของภิกษุรูปนั้นนอนป่วยอยู่ ได้เสด็จเข้าไปตรัสถามขึ้นว่า อาพาธเป็นโรคอะไร เมื่อทรงด้รับคำกราบทูลว่า อาพาธเป็นโรคท้องร่วง จึงตรัสถามว่า มีพยาบาลคอยดูแลหรือไม่ เมื่อทรงได้รับคำกราบทูลว่าไม่มี ก็ได้ตรัสถามว่าเพราะเหตุใดภิกษุทั้งหลายจึงไม่มาดูแล เมื่อพระภิกษุรูปนั้นทูลว่า เพราะท่านเองไม่เคยไปดูแลภิกษุรูปใด ก็จึงไม่มีภิกษุรูปใดมาดูแลท่าน จึงรับสั่งให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาแล้วพระองค์ก็ได้รับน้ำมาชำระล้างทำความสะอาดเนื้อตัวให้สะอาดแล้วทรงร่วมกับพระอานนท์หามพระภิกษุรูปนั้นขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นได้ทรงตรัสเรียกประชุมพระภิกษุทั้งหลาย ทรงตรัสว่าพระภิกษุทั้งหลายเมื่อเข้ามาบวชแล้ว เป็นผู้ไม่มีมารดา ไม่มีบิดา ดังนั้นเมื่อเวลาเกิดการเจ็บป่วยก็จะต้องคอยดูแลกันจนกว่าจะตายหรือจนกว่าจะหาย หากไม่ช่วยกันดูแลก็จะเป็นอาบัติ ดังสำนวนความในพระวินัยปิฎกว่าดังนี้:
“ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พวกเธอไม่มีมารดาไม่มีบิดา ผู้ใดเล่าจะพึงพยาบาลพวกเธอ ถ้าพวกเธอจักไม่พยาบาลกันเอง ใครเล่าจักพยาบาล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดจะพึงอุปัฏฐากเรา ผู้นั้นพึงพยาบาลภิกษุอาพาธ ถ้ามีอุปัชฌายะๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอาจารย์ ๆพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีสัทธิวิหาริก ๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีอันเตวาสิก ๆ พึงพยาบาลจนตลอดชีวิตหรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะพึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้ามีภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ ภิกษุผู้ร่วมอาจารย์พึงพยาบาลจนตลอดชีวิต หรือจนกว่าจะหาย ถ้าไม่มีอุปัชฌายะ อาจารย์สัทธิวิหาริก อันเตวาสิก ภิกษุผู้ร่วมอุปัชฌายะ หรือภิกษุผู้ร่วมอาจารย์ สงฆ์ต้องพยาบาล ถ้าไม่พยาบาลต้องอาบัติทุกกฏ”
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถึง องค์ของภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ยาก 5 อย่างคือ 1. ไม่ทำความสบาย 2. ไม่รู้ประมาณในความสบาย 3.ไม่ฉันยา 4. ไม่บอกอาการไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาล 5. มีนิสัยเป็นคนไม่อดทนต่อทุกขเวทนา จากนั้นได้ได้ถึง องค์ของภิกษุอาพาธที่พยาบาลได้ง่าย 5 อย่าง คือ 1. ทำความสบาย 2. รู้ประมาณในความสบาย 3. ฉันยา 4. บอกอาการป่วยไข้ตามจริงแก่ผู้พยาบาล 5.มีนิสัยเป็นคนอดทนต่อทุกขเวทนา
เจริญธรรม / เจริญพร