หัวข้อ: "เบญจกัลยาณี" ลักษณะอันงาม ๕ ประการ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 03, 2019, 07:46:53 am :welcome: :welcome: :welcome: "เบญจกัลยาณี" ลักษณะอันงาม ๕ ประการ :25: :25: :25: การสร้างเมืองสาเกต ครั้งนั้น ธนญชัยเศรษฐีทูลถามท้าวเธอว่า : "นี้เป็นแคว้นของใคร.?" ปเสนทิโกศล. : ของเรา เศรษฐี. ธนญชัย. : เมืองสาวัตถี แต่นี้ไป ไกลเท่าไร.? ปเสนทิโกศล. : ในที่สุด ๗ โยชน์. ธนญชัย. : ภายในพระนครคับแคบ, ชนบริวารของข้าพระองค์มาก ถ้าพระองค์ทรงโปรดไซร้, ข้าพระองค์พึงอยู่ที่นี้แหละ พระเจ้าข้า. พระราชาทรงรับว่า : "ดีละ" ดังนี้แล้ว ให้สร้างเมืองในที่นั้น ได้พระราชทานแก่เศรษฐีนั้นแล้วเสด็จไป. เมืองได้นามว่า "สาเกต" เพราะความที่แห่งสถานที่อยู่ ในประเทศนั้น อันเศรษฐีจับจองแล้วในเวลาเย็น. แม้ในกรุงสาวัตถีแล บุตรของมิคารเศรษฐี ชื่อว่าปุณณวัฒนกุมาร เจริญวัยได้มีแล้ว. ครั้งนั้น มารดาบิดากล่าวกะเขาว่า : "พ่อ เจ้าจงเลือกเด็กหญิงคนหนึ่งในที่เป็นที่ชอบใจของเจ้า." ปุณณะ. : กิจด้วยภริยาเห็นปานนั้น ของผมไม่มี. มารดาบิดา. : เจ้าอย่าทำอย่างนี้ ลูก, ธรรมดาตระกูลที่ไม่มีบุตร ตั้งอยู่ไม่ได้. @@@@@@ ลักษณะเบญจกัลยาณี เขาถูกมารดาบิดาพูดรบเร้าอยู่ จึงกล่าวว่า : "ถ้ากระนั้น ผม เมื่อได้หญิงสาวประกอบพร้อมด้วยความงาม ๕ อย่าง ก็จักทำตามคำของคุณพ่อคุณแม่." มารดาบิดา. : ก็ชื่อว่าความงาม ๕ อย่างนั้น อะไรเล่า.? พ่อ. ปุณณะ. : คือ ผมงาม, เนื้องาม, กระดูกงาม, ผิวงาม, วัยงาม. (๑) ก็ผมของหญิงผู้มีบุญมาก เป็นเช่นกับกำหางนกยูง แก้ปล่อยระชายผ้านุ่งแล้ว ก็กลับมีปลายงอนขึ้นตั้งอยู่, นี้ชื่อว่า "ผมงาม" (๒) ริมฝีปากเช่นกับผลตำลึง (สุก) ถึงพร้อมด้วยสีเรียบชิดสนิทดี, นี้ชื่อว่า "เนื้องาม" (๓) ฟันขาวเรียบไม่ห่างกัน งดงามดุจระเบียบแห่งเพชร ที่เขายกขึ้นตั้งไว้ และดุจระเบียบแห่งสังข์ที่เขาขัดสีแล้ว, นี้ชื่อว่า "กระดูกงาม" (๔) ผิวพรรณของหญิงดำไม่ลูบไล้ด้วยเครื่องประเทืองผิวเป็นต้นเลย ก็ดำสนิทประหนึ่งพวงอุบลเขียว, ของหญิงขาว ประหนึ่งพวงดอกกรรณิการ์, นี้ชื่อว่า "ผิวงาม" (๕) ก็แลหญิงแม้คลอดแล้วตั้ง ๑๐ ครั้ง ก็เหมือนคลอดครั้งเดียว ยังสาวพริ้งอยู่เทียว, นี้ชื่อว่า "วัยงาม" ดังนี้แล. @@@@@@ เศรษฐีส่งพราหมณ์ไปแสวงหาหญิงเบญจกัลยาณี ครั้งนั้น มารดาบิดาของนายปุณณวัฒนกุมารนั้น เชิญพราหมณ์ ๑๐๘ คนมาให้บริโภคแล้ว ถามว่า : "ชื่อว่าหญิงที่ต้องด้วยลักษณะเบญจกัลยาณี มีอยู่หรือ.?" พราหมณ์เหล่านั้น ตอบว่า : "จ้ะ มีอยู่." เศรษฐีกล่าวว่า : "ถ้ากระนั้น ชน(คือพราหมณ์) ๘ คนจงไปแสวงหาเด็กหญิงเห็นปานนี้" ดังนี้แล้ว ให้ทรัพย์เป็นอันมาก สั่งว่า : "ก็ในเวลาที่พวกท่านกลับ ข้าพเจ้าทั้งหลายจักรู้สิ่งที่ควรทำแก่พวกท่าน, ท่านทั้งหลายไปเถิด, แสวงหาเด็กหญิงแม้เห็นปานนั้น, และในเวลาที่พบแล้ว พึงประดับพวงมาลัยทองคำนี้" ดังนี้แล้ว ให้พวงมาลัยทองคำอันมีราคาแสนหนึ่ง ส่งไปแล้ว. พราหมณ์เหล่านั้นไปยังนครใหญ่ๆ แสวงหาอยู่ ไม่พบเด็กหญิงที่ต้องด้วยลักษณะเบญจกัลยาณี กลับมาถึงเมืองสาเกตโดยลำดับ ในวันมีงานนักขัตฤกษ์เปิด จึงคิดกันว่า : "การงานของพวกเราคงสำเร็จในวันนี้." @@@@@@ งานประจำปีของนครสาเกต ก็ในนครนั้น ชื่อว่างานนักขัตฤกษ์เปิด(๑-) ย่อมมีประจำปี. ในกาลนั้น แม้ตระกูลที่ไม่ออกภายนอก ก็ออกจากเรือนกับบริวาร มีร่างกายมิได้ปกปิด ไปสู่ฝั่งแม่น้ำด้วยเท้าเทียว. ในวันนั้น ถึงบุตรทั้งหลายของขัตติยมหาศาลเป็นต้น ก็ยืนแอบหนทางนั้นๆ ด้วยตั้งใจว่า "พวกเราพบเด็กหญิงมีตระกูลที่พึงใจ มีชาติเสมอด้วยตนแล้ว จึงคล้องด้วยพวงมาลัย." ____________________________ (๑-) วิวฏนกฺขตฺต นักษัตรเปิดเผย เป็นงานประจำปีของนครสาเกต ในงานนี้ชาวเมืองทุกคนเผยร่างโดยปราศจากผ้าคลุมปิดหน้า เดินเท้าไปยังแม่น้ำ. (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_03_01_19_8_38_42.jpeg) พราหมณ์พบนางวิสาขา พราหมณ์แม้เหล่านั้น เข้าไปถึงศาลาแห่งหนึ่งริมฝั่งแม่น้ำแล้ว ได้ยืนอยู่. ขณะนั้น นางวิสาขามีอายุย่างเข้า ๑๕-๑๖ ปี ประดับประดาด้วยเครื่องอาภรณ์ครบทุกอย่าง อันเหล่ากุมารี ๕๐๐ คนแวดล้อมแล้ว คิดว่า "เราจักไปยังแม่น้ำแล้วอาบน้ำ" ถึงประเทศนั้นแล้ว. ครั้งนั้นแล เมฆตั้งขึ้นแล้ว ก็ยังฝนให้ตก. เด็กหญิง ๕๐๐ รีบเดินเข้าไปสู่ศาลา. พวกพราหมณ์พิจารณาดูอยู่ ก็ไม่เห็นเด็กหญิงเหล่านั้นแม้สักคนเดียว ที่ต้องด้วยลักษณะเบญจกัลยาณี. นางวิสาขาเข้าไปยังศาลาด้วยการเดินตามปกตินั่นเอง. ผ้าและอาภรณ์เปียกโชก. @@@@ พวกพราหมณ์เห็นความงาม ๔ อย่างของนางแล้ว ประสงค์จะเห็นฟัน จึงกล่าวกะกันและกันว่า : "ธิดาของพวกเรา เป็นหญิงเฉื่อยชา, สามีของหญิงคนนี้เห็นที่จักไม่ได้ แม้เพียงข้าวปลายเกรียน" ทีนั้น นางวิสาขาพูดกะพราหมณ์เหล่านั้นว่า : "พวกท่านว่าใครกัน." พราหมณ์. : ว่าเธอ แม่. ได้ยินว่า เสียงอันไพเราะของนาง เปล่งออกประหนึ่งเสียงกังสดาล, ลำดับนั้น นางจึงถามพราหมณ์เหล่านั้นด้วยเสียงอันไพเราะอีกว่า : "เพราะเหตุไร.? จึงว่าฉัน." พราหมณ์. : หญิงบริวารของเธอไม่ให้ผ้าและเครื่องประดับเปียก รีบเข้าสู่ศาลา, กิจแม้เพียงการรีบมาสู่ที่ประมาณเท่านี้ของเธอ ก็มิได้มี, เธอปล่อยให้ผ้าและเครื่องอาภรณ์เปียกมาแล้ว; เพราะฉะนั้น พวกเราจึงพากันว่า. วิสาขา. : พ่อทั้งหลาย พวกท่านอย่าพูดอย่างนี้, ฉันแข็งแรงกว่าเด็กหญิงเหล่านั้น, แต่ฉันกำหนดเหตุการณ์แล้ว จึงไม่มาโดยเร็ว. พราหมณ์. : เหตุอะไร.? แม่. @@@@@@ ชน ๔ จำพวกวิ่งไปไม่งาม วิสาขา. : พ่อทั้งหลาย ชน ๔ จำพวก เมื่อวิ่ง ย่อมไม่งาม, เหตุอันหนึ่ง แม้อื่นอีก ยังมีอยู่. พราหมณ์. : ชน ๔ จำพวก เหล่าไหน? เมื่อวิ่ง ย่อมไม่งาม แม่. วิสาขา. : พ่อทั้งหลาย พระราชาผู้อภิเษกแล้ว ทรงประดับประดาแล้วด้วยเครื่องอาภรณ์ทั้งปวง เมื่อถกเขมรวิ่งไปในพระลานหลวง ย่อมไม่งาม, ย่อมได้ความครหาเป็นแน่นอนว่า 'ทำไม พระราชาองค์นี้จึงวิ่งเหมือนคฤหบดี' ค่อย ๆ เสด็จไปนั่นแหละ จึงจะงาม ; แม้ช้างมงคลของพระราชา ประดับแล้ว วิ่งไป ก็ไม่งาม, ต่อเมื่อเดินไปด้วยลีลาแห่งช้าง จึงจะงาม, บรรพชิต เมื่อวิ่ง ก็ไม่งาม, ย่อมได้แต่ความครหาอย่างเดียวเท่านั้นว่า ‘ทำไม สมณะรูปนี้ จึงวิ่งไปเหมือนคฤหัสถ์’, แต่ย่อมงาม ด้วยการเดินอย่างอาการของผู้สงบเสงี่ยม ; สตรี เมื่อวิ่งก็ไม่งาม, ย่อมถูกเขาติเตียนอย่างเดียวว่า ‘ทำไม หญิงคนนี้ จึงวิ่งเหมือนผู้ชาย', แต่ย่อมงามด้วยการเดินอย่างธรรมดา ; พ่อทั้งหลาย ชน ๔ จำพวกเหล่านี้ เมื่อวิ่งไป ย่อมไม่งาม. @@@@ พราหมณ์ : ก็เหตุอื่นอีกอย่างหนึ่ง เป็นไฉน.? แม่. วิสาขา. : พ่อทั้งหลาย ธรรมดามารดาบิดา ถนอมอวัยวะน้อยใหญ่ เลี้ยงดูธิดา, เพราะว่า พวกฉันชื่อว่าเป็นสิ่งของอันมารดาบิดาพึงขาย, มารดาบิดาเลี้ยงฉันมา ก็เพื่อต้องการจะส่งไปสู่ตระกูลอื่น, ถ้าว่าในเวลาที่พวกฉันวิ่งไป เหยียบชายผ้านุ่งหรือลื่นล้มลงบนพื้นดิน มือหรือเท้าก็จะพึงหัก, พวกฉันก็จะพึงเป็นภาระของตระกูลนั่นแล, ส่วนเครื่องแต่งตัวเปียกแล้วก็จักแห้ง ; ดิฉันกำหนดเหตุนี้ จึงไม่วิ่งไป พ่อ. @@@@@@ พราหมณ์สวมมาลัยทองให้ พวกพราหมณ์เห็นความถึงพร้อมแห่งฟัน ในเวลานางพูด จึงให้สาธุการแก่นางว่า : "สมบัติเช่นนี้ พวกเรายังไม่เคยเห็นเลย" แล้วกล่าวว่า "แม่ พวงมาลัยนี้สมควรแก่เธอเท่านั้น" ดังนี้แล้ว จึงได้คล้องพวงมาลัยทองนั้นให้. ลำดับนั้น นางจึงถามพวกเขาว่า : "พ่อทั้งหลาย พวกท่านมาจากเมืองไหน.?" พราหมณ์. : จากเมืองสาวัตถี แม่. วิสาขา. : ตระกูลเศรษฐี ชื่อไร.? พราหมณ์. : ชื่อมิคารเศรษฐี แม่. วิสาขา. : บุตรของท่านเจ้าพระคุณ ชื่อไร.? พราหมณ์. : ชื่อปุณณวัฒนกุมาร แม่. นางวิสาขานั้น รับรองว่า : "ตระกูลของเรา เสมอกัน" ดังนี้แล้ว จึงส่งข่าวไปแก่บิดาว่า : "ขอคุณพ่อและคุณแม่ จงส่งรถไปให้พวกดิฉัน." @@@@ ก็ในเวลามา นางเดินมาก็จริง, ถึงอย่างนั้น จำเดิมแต่กาลที่ประดับด้วยมาลัยทองคำแล้ว ย่อมไม่ได้เพื่อจะไปเช่นนั้น. เด็กหญิงทั้งหลายผู้มีอิสระ ย่อมไปด้วยยานมีรถเป็นต้น, หญิงนอกนี้ขึ้นยานธรรมดา (ไป), กั้นฉัตรหรือใบตาลข้างบน, เมื่อฉัตรหรือใบตาล แม้นั้นไม่มี ก็ยกชายผ้านุ่ง ขึ้นมาพาดบนบ่าทีเดียว, ส่วนบิดาของนางวิสาขานั้น ส่งรถไป ๕๐๐ คัน. นางวิสาขานั้นกับบริวารขึ้นรถไปแล้ว แม้พวกพราหมณ์ก็ได้ไปด้วยกัน. @@@@ ทีนั้น ท่านเศรษฐี ถามพราหมณ์เหล่านั้นว่า : "พวกท่านมาจากไหน.?" พราหมณ์. : มาจากเมืองสาวัตถี ท่านมหาเศรษฐี. เศรษฐี. : เศรษฐีชื่อไร.? พราหมณ์. : ชื่อมิคารเศรษฐี. เศรษฐี. : บุตรชื่อไร.? พราหมณ์. : ชื่อปุณณวัฒนกุมาร. เศรษฐี. : ทรัพย์มีเท่าไร.? พราหมณ์. : ๔๐ โกฏิ ท่านมหาเศรษฐี เศรษฐีรับคำ ด้วยคิดว่า : "ทรัพย์เท่านั้น, เทียบทรัพย์ของเรา ก็เท่ากับกากณิกเดียว. แต่จะประโยชน์อะไรด้วยเหตุอื่น จำเดิมแต่กาลที่นางทาริกาได้เหตุเพียงการรักษา." เศรษฐีนั้นทำสักการะแก่พราหมณ์เหล่านั้น ให้พักอยู่วัน ๒ วัน แล้วก็ส่งกลับ. บางตอนจาก : เรื่องนางวิสาขา อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปุปผวรรคที่ ๔ ขอบคุณที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=14&p=8) ขอบคุณภาพจาก : เฟซบุ๊ค นางฟ้า ใจดี หัวข้อ: Re: "เบญจกัลยาณี" ลักษณะอันงาม ๕ ประการ เริ่มหัวข้อโดย: VinaLivia ที่ มกราคม 08, 2019, 03:01:50 pm บางข้อลองอ่านดูแล้วยังไม่ค่อยเข้าใจ น่าจะเป็นเรื่องคำที่ใช้ยากไปสำหรับผม
หัวข้อ: Re: "เบญจกัลยาณี" ลักษณะอันงาม ๕ ประการ เริ่มหัวข้อโดย: Namo ที่ มกราคม 09, 2019, 10:14:11 am st12
|