สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

มีคนที่เรานับถือ มาตลอดเป็นเวลาหลายปี แต่แล้วเขาก็ทำให้เราหมดนับถือคะ
พอใจเราหมดนับถือ แต่เราก็ต้องเจอเขาอยู่ทุกวันคะ ทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด ไม่อยากจะสนทนาด้วย

โมโหในใจว่า ทำไมเขาจึงทำตัวได้อย่างนี้ อุตส่าห์หลงเคารพมาตั้งนานคะ
อารมณ์ที่กรุ่น ๆ ในใจมันก็พาให้หงุดหงิด หงุดหงิด ที่เห็นการกระทำที่เขาเบียดเบียนเรา และ เพื่อนๆ

ควรทำอย่างไรดีคะ

 :'(

มีความปรารถนา สิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น ก็เป็นทุกข์
เพราะเราคิดว่า ปรุงแ่ต่งว่า เขาเป็นอย่างนั้น เขาเป็นอย่างนี้ เขาเป็นคนดี เขาเป็นคนไม่ดี

แท้ที่จริง ตัวเราเองก็ยังมี สองด้าน ทั้งดี และ ไม่ดี ตัวเราเองก็ยังบังคับ บัญชาไม่ได้
รู้เห็นตามความเป็นจริงเสียว่า แม้กายนี้ก็ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนของเรา
ใครอื่นเล่าจะเป็นที่บังคับ ตามใจเราได้

ในโลกธรรม มี 2 อย่างคู่กันมาตลอด คือ พอใจ และ ไม่พอใจ

   หรือ ทุกข์ กับ สุข

        โสมนัส กับ โทมนัส

การเข้าถึงธรรม ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่อง ซับซ้อน ก็คือเข้าถึง อุเบกขา อันเรียก ตัตรมัชฌุตเบกขา
เป็นอุเบกขา ที่เป็นโลกุตร คือ เหนือโลก


สรุป อย่าไปใส่ใจกับคน กับบุคคล เรา เขา ให้มาก ที่สำคัญควรภาวนามาดูจิตเราให้มากขึ้น ด้วยการพอกพูน
สมาธิ เพราะสมาธิย่อมทำให้จิต ให้เห็นตามความเป็นจริงได้

เจริญธรรม
 ;)

สรุป อย่าไปใส่ใจกับคน กับบุคคล เรา เขา ให้มาก ที่สำคัญควรภาวนามาดูจิตเราให้มากขึ้น ด้วยการพอกพูน
สมาธิ เพราะสมาธิย่อมทำให้จิต ให้เห็นตามความเป็นจริงได้

เจริญธรรม

วิธีการที่จะไม่ต้อง ใส่ใจมีหรือป่าวครับ  เพราะ้ถ้าบอกว่าอย่าไปใส่ใจ โดยธรรมชาติแล้วจิตมันก็ยังอุตส่าห์ไปใส่ใจ
อยู่ วิธีการที่จะไม่ใส่ใจได้จริง ๆ นั้น ต้องทำอย่างไรครับ

 :25:

ง่ายนิดเดียว...สำหรับคนที่ยืนมองดูอยู่วงนอก...ก็อย่างที่พระอาจารย์พูด...ป้าว่าถ้ามีเป้าหมายก็ต้องมีถูกใจและไม่ถูกใจ.....เพราะฉนั้น ก็ต้องเตรียมใจรับทั้งผลที่ถูกใจและที่ไม่ถูกใจด้วย......ความผิดหวังก็จะไม่เกิดหรือเกิดก็ไม่นาน......

           ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยน๊ะ....ผิดหวังได้แต่อย่านานนักล่ะจ๊ะ.... :58:

                                                                             :08:
                                                                             :88:

ิยิ่งเรานับถือมาก ก็ยิ่งต้องใช้ปัญญาให้มากด้วยคะ เพราะความนับถือ กับ ความหลงโดยเฉพาะ การนับถือเคารพ

ปุถุชน ผิดหวังแน่นอนคะ

   เหรียญสองด้าน คะ

  (http://www.thaisecondhand.com/view/productpic/10/05/p8604424n1.jpg?128921692)1

วิธีการที่จะไม่ต้อง ใส่ใจมีหรือป่าวครับ  เพราะ้ถ้าบอกว่าอย่าไปใส่ใจ โดยธรรมชาติแล้วจิตมันก็ยังอุตส่าห์ไปใส่ใจอยู่ วิธีการที่จะไม่ใส่ใจได้จริง ๆ นั้น ต้องทำอย่างไรครับ

หนูว่าน่าจะมีหลายวิธี คะ หนูเองก็ใช้อยู่เหมือนกัน

 เช่น 1.เดินหนี เสีย

      2. ไม่สนทนาด้วย

      3. ดูทีวีแทน

  เป็นต้นคะ

  :25:

เลิกนับถือ แล้วก็อย่าไปใส่ใจเลยคร้า....

 นับถือ พระรัตนตรัย ดีกว่า นะคร้า...

 พระโสดาบัน ควรเชื่อมั่น และ นับถือ พระรัตนครัยคร้า....

 :25:

ถ้าอยู่ในสายการบังคับบัญชา ก็คงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ แต่โดยส่วนตัวสำหรับผมก็เลิกคบ

เป็นทหารก็มีทั้งผู้ที่น่านับถือ และ ไม่น่านับถือครับ ต้องทำใจตามหน้าที่

แต่อย่างไรเสีย ให้ตั้งอยู่โดยความเมตตา เป็นหลักครับ

 :25:

ถึงจะเข้าใจ ตามที่แต่ละท่านแนะนำกันมา แต่มันมีความรู้สึกว่าทำใจไม่ได้ ในการพบคนนั้น ๆ คะ
 มีวิธีการที่แยบยล หรือ ได้ผลดี กว่านี้แนะนำกันบ้างหรือไม่คะ

ถึงจะเข้าใจ ตามที่แต่ละท่านแนะนำกันมา แต่มันมีความรู้สึกว่าทำใจไม่ได้ ในการพบคนนั้น ๆ คะ
 มีวิธีการที่แยบยล หรือ ได้ผลดี กว่านี้แนะนำกันบ้างหรือไม่คะ

   วิธีง่าย ๆ เบื้องต้น    1.ให้แผ่เมตตา กับตนเอง เสียก่อน        ภาวนาสั้น ๆ แค่นี้ ทำได้ไหม "ขอให้ข้าพเจ้า มีความสุขใจ"       ที่นี้จะอยู่ตรงหน้า คนที่ไม่ชอบ คนที่เกลียด คนที่ชัง คนที่ไม่ถูกใจ ก็ภาวนาอย่างนี้ เริ่มต้น เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ที่สำคัญอย่าไปใส่ใจว่า เขากำลังเห็นฉันโกรธ เห็นฉันขัดเคือง อันที่จริง ก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน ก็เราไม่ใช่พระอรหันต์ จะไม่โกรธ ไม่ขัดเคืองก็เป็นไปไม่ได้   2. ให้แผ่เมตตา ให้กับมาร คือ ความโกรธ ความขัดเคื่อง เสียบ้าง       ภาวนาสั้น ๆ แค่นี้ ทำได้ไหม "ขอให้ความโกรธ มีความสุขเถิด"       ที่นี้ว่าไปอย่างนี้ ในระหว่างที่ทำงาน อยู่ เจออยู่ พบอยู่ คือนึกได้ ก็ให้ว่า เดี๋ยวสติก็ทันความโกรธเอง แล้วความโกรธ ก็จะสงบเอง ปกติ คนโกรธ จะขาดสติ การทำเช่นนี้เป็นการฝึก สติเริ่มต้น    2 วิธีเป็นวิธีที่ทันสภาวะ สำหรับบุคคลทั่วไป นะจ๊ะ   เจริญธรรม    ;)