สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 05, 2019, 08:13:38 pm



หัวข้อ: หญิงที่คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าไม่ได้มีเพียงแต่นาง จิญจมาณวิกา เท่านั้น
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤษภาคม 05, 2019, 08:13:38 pm

(https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2019/05/history-1868812_1280.jpg)


หญิงที่คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าไม่ได้มีเพียงแต่นาง จิญจมาณวิกา เท่านั้น

จิญจมาณวิกา ชื่อนี้เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีสำหรับผู้ที่สวดพระคาถาพาหุง หรือชัยมงคลคาถา พระพุทธมนต์สรรเสริญชัยชนะของพระพุทธเจ้า หลายคนอาจทราบดีว่านางจิญจมาณวิกา เป็นผู้หญิงที่คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้า แต่ตามจริงแล้วไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่คิดมุ่งร้ายต่อพระองค์

@@@@@@

นางอมิตตดา อดีตชาติของนางจิญจมาณวิกา

เรื่องราวของนางจิญจมาณวิกา ปรากฎในอรรถกถา แต่ไม่ปรากฏในพระไตรปิฎก และชาวพุทธก็รับรู้เรื่องของนางในฐานะหญิงร้ายที่คิดมุ่งจะทำลายพระพุทธเจ้าจากพระคาถาพาหุง ในอรรถกถาธรรมบทกล่าวถึงนางไว้ว่า

นางจิญจมาณวิกาเป็นผู้นับถือเดียรถีย์ นักบวชในลัทธินี้ได้วานให้นางให้ร้ายว่านางท้องกับพระพุทธเจ้า นางใช้มารยาทแกล้งเข้าไปในพระเชตวันอยู่เสมอ หลังจากฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าเสร็จก็ทำเป็นเข้าไปใกล้บริเวณที่ประทับของพระพุทธเจ้าแล้วแอบซุ่มอยู่ บางคนไม่มีแล้วจึงแอบออกไปทางอื่น บางทีก็ทำเป็นเข้าไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่แท้จริงแล้วแอบไปเข้าวัดของพวกเดียรถีย์ที่อยู่ใกล้เคียง ผ่านไป 9 เดือน จึงผูกไม้กลมที่ท้องแล้วเอาผ้าห่มทับข้างบนอีกที เพื่อให้ดูเหมือนท้องนั้นนูนออกมาเหมือนหญิงท้อง แล้วเข้าไปกลางฝูงชนที่มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แล้วกล่าวร้ายว่าเด็กในท้องเป็นบุตรที่เกิดจากพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เรื่องจริงมีเพียงเรากับเธอเท่านั้นที่รู้” เทวดาทนเห็นการกระทำของนางไม่ได้ จึงจำแลงเป็นหนูแล้วกัดสายที่รัดท้องนาง เพื่อเปิดโปงความจริง เมื่อความจริงปรากฏว่านางไม่ได้ตั้งท้องจริง ฝูงชนเข้าขับไล่นาง นางวิ่งหนีไปยังไม่ทันจะพ้นประตูพระเชตวันก็ถูกธรณีสูบจากไปยังอเวจีมหานรกทันที

ในอดีตชาติของนางจิญจมาณวิกาคือนางอมิตตดา ภรรยาสาวของเฒ่าชูชกจากเวสสันดรชาดก ในอดีตชาตินั้นนางเป็นผู้ที่ให้ชูชกต้องมาทูลขอพระกัณหา-ชาลีไปจากพระเวสสันดร คงเป็นวิบากที่นางมีต่อพระพุทธเจ้า จึงค่อยขัดขวางและสร้างปัญหาให้กับพระพุทธเจ้ามาจนถึงสมัยพุทธกาล ส่วนเฒ่าชูชกก็มาเกิดเป็นพระเทวทัต ซึ่งเป็นอริกับพระพุทธเจ้ามาหลายภพชาติเช่นกัน


(https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2019/05/wess01.jpg)
นางอมิตตาดา อดีตชาตินางจิญจมาณวิกา

 
นางสุนทรีปริพาชิกา หญิงมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าอีกนางที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก

นางสุนทรีปริพาชิกา เป็นนักบวชหญิงเดียรถีย์ที่มีมิจฉาทิฏฐิ คือไม่เลื่อมใสในพระรัตนตรัย นางได้รับการไหว้วานจากอัญเดียรถีย์ที่กำลังประสบกับการขาดลาภสักการะจากผู้ศรัทธาเพราะเวลานี้ผู้คนมุ่งสนใจต่อคำสอนของพระพุทธเจ้า ทำให้มีหันไปนับถือพระรัตนตรัยมากขึ้น นางสุนทรีแกล้งไปเข้าในบริเวณที่ประทับของพระพุทธเจ้าบ่อยครั้ง อัญเดียรถีย์จ้างนักฆ่าสังหารนางแล้วเอาศพไปทิ้งที่คูในบริเวณพระเชตวัน อัญเดียรถีย์แกล้งตามหานางสุนทรีเพราะเห็นว่าหายไปหลายวัน จึงเข้าเฝ้าพระเจ้าปเสนทิโกศลเพื่อให้ทางการช่วยตามหานาง โดยมีแบะแสว่านางสุนทรีปริพาชิกาหายไปหลังจากไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวัน

เมื่อเข้าไปสำรวจในพระเชตวัน ปรากฏว่าพบศพของนางที่คูในบริเวณนั้น เหล่าเดียรถีย์ก็นำร่างไร้วิญญาณขึ้นแคร่แล้วหามไปทั่วกรุงสาวัตถี เพื่อประจาญว่าเป็นการกระทำของพระภิกษุในพระพุทธศาสนาต่อนักบวชนอกศาสนา ทำให้ชาวสาวัตถีเลิกนับถือพระรัตนตรัย แล้วไม่ใส่บาตรพระภิกษุ พระสาวกทั้งหลายจึงเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพือทูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พระพุทธเจ้าตรัสว่า เพียง 7 วัน เรื่องก็จะเงียบไปเอง หากโดนด่า โดนขู่ หรืออย่างไรก็ตาม ขออย่าได้ตอบโต้กลับ  เป็นมิใช่ลักษณะของสัตบุรุษ หลังจากนั้นผ่านไป 7 วัน สถานการณ์ก็กลับสู่ความปกติ ชาวเมืองกลับมาเลื่อมใสพระรัตนตรัยอีกครั้ง เพราะเชื่อว่าเหล่าพุทธบุตรไม่ได้สังหารนางเดียรถีย์คนนั้นจริง

อรรถกถาสุนทรียสูตร เล่าต่อจากเหตุการณ์นี้ว่า เมื่อพระสาวกของพระพุทธเจ้าเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วใครกันที่สังหารนางสุนทรีปริพาชิกา พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสืบสวนจนทราบว่า นางถูกนักฆ่าที่อัญเดียรถีย์จ้างนั้นสังหารแล้วเอาศพของนางไว้ที่คูใกล้พระเชตวัน เมื่อความจริงปรากฏแล้ว พระเจ้าปเสนทิโกศลให้นักบวชเดียรถีย์ที่เกี่ยวข้องร้องประกาศไปทั่วกรุงสาวัตถีว่าตนเป็นคนที่ฆ่านางสุนทรี มิใช่พุทธบุตรผู้ประเสริฐแห่งพระสมณโคดมะ แล้วจบด้วยโทษประหารทั้งนักฆ่าและเดียรถีย์ที่เกี่ยวข้อง


(https://goodlifeupdate.com/app/uploads/2019/05/life-of-buddha-23.jpg)
ภาพพุทธประวัติศิลปะเมียนมาตอนนางจิญจมาณวิกาใส่ความพระพุทธเจ้า


วิบากที่ทำให้พระพุทธเจ้าถูกใส่ความ

พระพุทธเจ้าตรัสถึงเหตุที่พระองค์ถูกเดียรถีย์ใส่ความ เป็นผลกรรมมาจากอดีตชาติที่ทรงเกิดเป็นนักเลงชื่อว่า “ปุนาลิ” ได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้าขณะที่ตนกำลังเมามายสุราได้ที่ ปรากฏก็มีหญิงนางหนึ่งเดินออกมาจากบริเวณที่พระปัจเจกพุทธเจ้ากำลังครองจีวร ทำให้ปุนาลิเข้าใจผิดคิดว่านักบวชผู้นี้หลุดจากความเป็นผู้ทรงพรหมจรรย์แล้ว และป่าวประกาศไปทั่วทั้งที่ไม่เป็นเรื่องจริง ผลกรรมส่งผลให้พระองค์ตกนรกนานอยู่นาน จนกระทั่งสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า นางสุนทรีปริพาชิกาจึงทำให้พระองค์เสื่อมเสียงด้วยอำนาจแห่งเศษกรรมจากการกล่าวตู่ใส่ร้ายพระปัจเจกพุทธเจ้านั่นเอง


 

ที่มา : สุนทรีสูตร ,อรรถกถาสุนทรีสูตร ,ชัยชนะของพระพุทธเจ้า โดย มูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย
ขอบคุณภาพจาก : http://saraniya.com (http://saraniya.com) , www.thummada.com (http://www.thummada.com) , https://pixabay.com (https://pixabay.com)
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/153240.html (https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/153240.html)


หัวข้อ: Re: หญิงที่คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าไม่ได้มีเพียงแต่นาง จิญจมาณวิกา เท่านั้น
เริ่มหัวข้อโดย: fasai ที่ พฤษภาคม 06, 2019, 08:51:33 am
พระพุทธเจ้า ยังมีคนปองร้าย เลย
กับเรา นี่ ต้องถือว่า ธรรมดา เลย

 thk56 like1 st12


หัวข้อ: Re: หญิงที่คิดมุ่งร้ายต่อพระพุทธเจ้าไม่ได้มีเพียงแต่นาง จิญจมาณวิกา เท่านั้น
เริ่มหัวข้อโดย: nopporn ที่ พฤษภาคม 08, 2019, 09:15:20 am
 st11 st12 st12