สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: แพนด้า ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 04:08:41 pm



หัวข้อ: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 04:08:41 pm
1. มัชฌิืมา แปลว่าอะไร คืออะไร?

2.หากโลกนี้มีประเทศเพียงประเทศไทยประเทศเดียว เราจะปกป้องอะไร ระหว่าง สถาบัน กษัตริย์ ชาติ ศาสนา

  :49: :s_hi:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: kosol ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 10:12:15 pm
ต้องดูเจตนาที่ถาม ด้วยครับ บางคนตอบเพื่อลองภูมิ

บางท่านก็ถามเพราะต้องการ กวนโทสะ

อีกอย่างสมมุติ นั้นไม่จริงครับ ให้ข้ามไปเลยไม่ต้องไปสนใจครับ จะดึงสถาบันมาร่วมวงด้วย ก็เป็นการเรียกน้ำย่อย ใครอยู่ได้โดยไม่อาศัย 3 อย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ

  ไปอยู่ในป่าคนเดียวไปเลยดีหรือไม่ครับ ถ้าถามแบบสมมุติ

  ดังนั้นเอาจริง ๆ ไม่ต้องสมมุติก็คือ เลือกทั้งหมดนั่นแหละครับ คำถามเหมือนถามว่า รักพ่อมากกว่า หรือ รักแม่มากกว่า จะรักมาก หรือ น้อยก็ต้องการทั้งสองคนนะครับ

  เราเป็นสัตว์สังคมนะครับ มนุษยชาติอยู่ด้วยกันพึ่งพาอาศัยกัน ไม่มีชาวนาอยู่ได้หรือไม่ ไม่มีพ่อค้าจะอยู่กันได้หรือไม่ ไม่มีตำรวจแล้วจะอยู่อย่างไร ไม่มีทหารก็ยิ่งไปกันใหญ่

  เหนื่อย.... ที่จะตอบเรื่องอย่างนี้ครับ

  :13:
 


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: นัยนา ที่ กรกฎาคม 10, 2012, 09:09:57 am
1. มัชฌิืมา แปลว่าอะไร คืออะไร?

2.หากโลกนี้มีประเทศเพียงประเทศไทยประเทศเดียว เราจะปกป้องอะไร ระหว่าง สถาบัน กษัตริย์ ชาติ ศาสนา

  :49: :s_hi:

1.มัชฌิมา แปลว่า กลาง ท่ามกลาง สายกลาง
  ในความหมายทางพระพุทธศาสนา มักจะใช่ร่วมกับคำสมาส อื่น ๆ คือ

     มัชฌิมาปฏิปทา  การปฏิบัติที่มุ่งหมายสายกลาง
     มั้ชฌิมามรรค    ทางสายกลาง
     มัชฌิมาภาวนา   ภาวนาอย่างกลาง
     มัชฌิมาบุรุษ    บุรุษท่ามกลาง
     มัชฌิมาประเทศ( มัธยมประเทศ )  ที่มีการปกครองชุมชนขนาดกลาง
   
  2. เลือกทุกประการ คะ ไม่เืลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะมีความจำเป็นต่อสันติทั้งภายนอก และภายใน

   :s_hi: :58:

(http://www.dhammada.net/wp-content/uploads/2012/05/way.gif)


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ กรกฎาคม 10, 2012, 01:29:33 pm
มีความเห็นที่ดีมากครับ แต่อยากได้คำอธิบาย มากกว่านี้อยู่ครับ
 บางอย่างผมก็เห็นด้วยนะครับ แต่เพื่อเป็นการซักซ้อมก่อนไปตอบให้เพื่อนที่ไม่มีศรัทธา ในกรรมฐานได้รับฟัง จึงอยากได้แง่มุม ที่มากกว่านี้นะครับ

กรณีที่ 1  สมมุติ ว่าถ้าเขารู้อยู่แล้วว่า มัชฌิมา คืออะไร แกล้งถามเราเพื่อทดสอบ
กรณีที่ 2 คือเขาไม่รู้เลยว่าคืออะไร แต่ถามเพื่อต้องการรู้
กรณีที่ 3 คือเขาถามเพราะอยากรู้แต่ จะทำให้เขาศรัทธาาในกรรมฐานได้อย่างไร
กรณีที่ 4 ถ้าเขาไม่ต้องการจะรู้แต่ถามไปอย่างนั้น จะทำให้เขาสนใจในกรรมฐานนี้ได้อย่างไร

 ขอบคุณอยากฟัง ความคิดเห็นของทีมงาน มากกว่าของพระอาจารย์ครับ เพราะน่าจะได้แง่มุมของผู้ที่มีศรัทธาต่อกรรมฐาน ในฐานศิษย์ นะครับ

  :c017: :c017: :c017: :25:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 08:29:38 am
อ่านคำถามแล้ว ก็ทราบว่าท่าน ทั้งหลายมีความต้องการ ที่อยากจะแนะนำธรรมแ่ก่เพื่อน ๆ แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่อยู่ตรงที่ท่านกล่าวอาตมามักจะเตือน ศิษย์ เสมอว่า

  "การเผยแผ่พระกรรมฐาน ไม่ใช่หน้าที่ของพวกท่าน แต่หน้าที่ของพวกท่านคีือการภาวนาในขณะที่ครูอาจารย์ยังมีชีิวิตอยู่ เมื่อท่านทั้งหลายภาวนาได้แล้วท่านก็เท่ากับช่วยเผยแผ่พระกรรมฐานในตัวเอง หากท่่านทั้งหลาย ภาวนาไม่ได้ อย่าแต่ว่าการเผยแผ่เลย ท่านอาจจะเป็นผู้ทำลายการเผยแผ่พระกรรมฐานนี้เอง ดังนั้นขอให้ท่านทั้งหลายหมั่นฝึกฝนอบรมภาวนาตัวเราอย่างน้อยให้ได้ 3 ห้องของพระพุทธานุสสติ"

  ที่กล่าวแสดงอย่างนี้ ก็เพื่อให้ท่านทั้งหลายทราบว่า   ความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ท่านทั้งหลายไปสอนคำ นำใคร แต่ความสำคัญอยู่ที่ท่านต้องสอนตัวเท่านเอง ภาวนาตัวท่านเองให้ดีก่อน ส่วนคำตอบ คำถามที่เป็นทำนองนี้อาตมาเคยตอบในเฟคบุ๊ค ส่วนใหญ่จะถามมาอย่างลองภูมิ สุดท้ายจบด้วยการดูแคลนอย่างต่ำ ดังนั้นบางครั้งช่วงหลังก็ไม่ตอบ แปะลิงก์ให้มาอ่านเอาเอง ที่พูดอย่างนี้ก็จะบอกกันตรง ๆ ว่า ขนาดอาตมาเป็นพระ เป็นครูอาจารย์ตอบไปเขายังไม่ฟัง ไม่สนเลย หากท่านททั้งหลายจะตอบไปแล้วเขาไม่สนบ้าง ก็อย่าไปใส่ใจเลย ถือว่าไม่มีวาสนาซึ่งกันและกัน   ชีวิตของผู้ภาวนาจริง ๆ อาจจะเหนือ จินตนาการ ไม่ได้อยู่สบายจริง ๆ อาจจะลำบากกว่าท่านที่ไม่ได้ภาวนาด้วย เพราะผู้ที่ภาวนาจริง ๆ จะถูกเบียดเบียนเป็นประจำ เพราะบุคคลทั้งหลายจะอาศัยฐานะของผู้ภาวนาเป็นข้อได้เปรียบในการเบียดเบียน

     ยกตัวอย่างอาตมาเคยตอบข้อความ พอผู้ถามถามว่าเป็นใคร ก็ตอบไปตามตรงว่าเป็นพระ เท่านั้นเองเขาก็เริ่มสนทนาแบบไม่เกรงใจ ใส่คำหยาบคายกูมึง ไอ้ควาย ไอ้บ้า แม้แต่ให้ของลับ อย่างไม่ต้องเกรงกลัว เนื่องจากเขารู้ว่าเราเป็นพระ ไม่พิมพ์ด่าเขาแน่นอนยิ่งเป็นอาจารย์ด้วยก็ใส่เราได้เต็มที่ ให้เป็นที่ระบาย ที่กล่าวมานี้เป็น เรื่องจริงของโลกออนไลน์ เพราะว่าคนในโลกออนไลน์ ส่วนใหญ่ที่ผมเหมือนคนเก็บกด ต้องได้ระบายอารมณ์ ดังนั้นช่วงหลังมานี้ใครที่พยายามส่งข้อความแชท กับอาตมา ก็จะไม่ได้รับการตอบสนองเพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็นลำพัง จดหมายนีั้ก็เป็นงานหนักแล้ว    ก้อนุโมทนา กับการแสวงหาคำตอบ    สรุปแนะนำกลับไปเป็น ลิงก์ จะดีกว่าตอบกันตรง ๆ ถ้าเขาสนใจก็จะอ่าน ถ้าเขาไม่สนใจบางครั้งการตอบสดไม่ใช่เรื่องดี นะจ๊ะ เป็นข้อแนะนำนะจ๊ะ

  เจริญพร / เจริญธรรม


 ;)


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: หมิว ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 12:21:24 pm
(http://www.madchima.org/forum/gallery/1_25_11_09_1_47_31.jpeg)

นึกว่าอย่างพระอาจารย์ ไม่น่าจะมีใครกล้าล่วงเกินแล้วนะคะ

 แต่อ่านจากที่พระอาจารย์ตอบแล้ว รู้สึกเศร้าใจนะคะ ที่คนออนไลน์ที่ศึกษาธรรม ไม่ละวาสนาเพื่อธรรมกัน เป็นกำลังใจให้กับทีมงานทุกท่าน ได้เผยแผ่่ธรรมกันต่อไปคะ

  :25: :58:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: magicmo ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 03:25:35 pm
 :91: :91:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: MICRONE ที่ กรกฎาคม 11, 2012, 04:53:39 pm
อ่านแล้วเศร้าใจแทน เลยนะครับ ถ้าผู้ที่ล่วงเกินถึงขนาดนั้น
 :coffee2:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ กรกฎาคม 12, 2012, 02:22:13 pm
จักช่วยตอบให้สำหรับเราๆ จะได้เข้าใจกันยิ่งๆขึ้นไป มิต้องไปหวังให้ใครเข้าใจ นอกจากเรา(ผู้ปฏิบัติ)

    ชาติที่จะถาวรวัฒนาจำเป็นต้องอาศัยยึดศาสนาที่ดีเป็นหลัก  แม้ศาสนาเล่า ที่จะเจริญรุ่งเรื่องก็ต้องอาศัยชาติที่เป็นอิสระช่วยสนันสนุน  ถ้าโลกจะไม่ประพฤติตามธรรม  คงตั้งอยู่เป็นอิสระไม่ได้  และธรรมถ้าไม่อาศัยโลกจักเจริญไม่ได้  โลกกับธรรมต้องอิงอาศัยกันฉันใด  ชาติกับศาสนาก็ต้องอิงอาศัยกันฉันนั้น  แต่สำหรับชาติที่จะตั้งมั่นคงดำรงอิสระภาพอยู่ได้  ก็ต้องอาศัยพระมหากษัตริย์เป็นผู้ดำรงมั่นอยู่ในธรรม(จักเห็นได้จากอดีตของไทยเรา)  และมรพระปรีชาสามารถยิ่งในสรรพกรณียกิจน้อยใหญ่เป็นหลัก

      เพราะฉนั้น  ประเทศที่เจริญแล้วจึงมักมีศาสนาที่ดีเป็นที่เคารพ  และมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระคุณธรรมเป็นหลัก  ก็แลศาสนาที่ดีนั้น  จำต้องมุ่งสอนให้มีความสงบราบคาบ  เว้นจากการเบียดเบียนกันเป็นต้น  จึงจะเป็นหลักแก่ชาติที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข  และชาติที่ได้ชื่อว่าสนันสนุนศาสนานั้น  ก็ได้แก่ประชาชนจะต้องประพฤติตามหลักนิติธรรมและศาสนาธรรม  ตั้งต้นแต่ประพฤติตนให้เป็นคนดี  รู้จักกรณีย์อันเป็นหน้าที่ของตน  ตลอดถึงผดุงความสามัคคีให้วัฒนา  เป็นกำลังเครื่องตั้งมั่นแห่งชาติ  ศาสนา  พระมหากาํตริย์  และข้อว่าพระมหากษัตริย์เป็นประมุขของชาตินั้น  ก็คือเป็นผู้นำพลเมืองให้ดำเนินในทางที่ดี  เป็นเหตุถึงความสงบสวัสดี  ตลอดถึงความสมบูรณ์มั่งคั่ง  และความสุขสำราญด้วยกำลังพระปรีชาสามารถ
 
     เพราะฉนั้น  ชาติ ศสาสนา พระมหากษัตริย์  จึงเป็นสิ่งคัญและพรากจากกันไม่ได้  เช่นเดียวกับพระรัตนตรัย  ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของพระพุทธศาสนา  จะพรากจากกันไม่ได้ ฉะนั้น

     อันที่จริง ถ้าเราได้ดูได้ศึกษาจากอดีต จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยเรา ตั่งแต่อดีตมานั้น จะมีพระมหากษัตริย์ปกครองมาโดยตลอด มิได้ตกเป็นเมืองขึ้นของใคร  และจนถึงปัจจุบันสถาบันนี้ก็ยังคงอยู่  และในอดีตก็จะมีพระคู่บารมี ประจำ ทุกกษัตริย์ทุกการปกครอง  ยกตัวอย่าง ก็สมเด็จพุทธจารย์โต  ที่ในสมัยนั้น ได้ถูกตามหา ดังเช่นนี้เป็นต้น 

 :08:   :72:    :25:

   ส่วนคำว่า "มัชฌิมา" ขอให้เพิ่มอีกความหมายนึง(ในแบบส่วนตัว) คือ ความสมดุล(เป็นกลาง) ความปกติดี(ไม่เอนเองไปข้องได้ข้างหนึ่ง) ความสมบูรณ์(เห็นได้จากความสมดุลของธรรมชาติ)


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: DANAPOL ที่ กรกฎาคม 18, 2012, 08:48:05 pm
บางครั้ง บางคำถาม ก็ไม่จำเป็นต้องตอบครับ เห็นว่าอย่างนั้น เพราะบางครั้ง ฐานะของเราแม้พูดตอบได้ถูกต้องแต่เขาจะฟังหรือไม่ นี่สิครับ สำคัญ

   :s_hi: :67: :13:


หัวข้อ: Re: เมื่อมีเพื่อนถามคำถามผม อย่างนี้ ?
เริ่มหัวข้อโดย: arlogo ที่ กรกฎาคม 19, 2012, 12:29:42 pm
ขนาด พระพุทธเจ้า ยังโดยปรามาส ให้ร้าย เลยนะจ๊ะ
พระธรรมดาเช่น เราจะรอดหรือจ๊ะ

   สิ่งใด สิ่งหนึ่ง มีความเกิดเป็นธรรมดา
   สิี่งนั้น ย่อมมีความดับไปเป็นเธรรมดา

 เจริญธรรม


  ;)
(http://a8.sphotos.ak.fbcdn.net/hphotos-ak-ash4/205384_338117279603066_1933047945_n.jpg)