ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - sompong
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6
161  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ธรรมะอะไร เป็น แก่น เป็น เปลือก เป็นกระพี้ ของพุทธศาสนา ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 07:46:00 pm
เพื่อฉลอง เว็บครบ 1 ปี ขอตั้งคำถามว่า

ในพระพุทธศาสนานั้น จัดธรรมะอะไรเป็นแก่น

ในพระพุทธศาสนานั้น  จัดธรรมะอะไรเป็นเปลือก

ในพระพุทธศาสนานั้น  จัดธรรมะอะไรเป็นกระพี้ คร้บ

 :25: :c017:


162  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประกาศ อนุโมทนา บุญกุศลเรื่อง กิจกรรมการเผยแผ่เว็บ www.madchima.org เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 07:43:20 pm
ขออนุโมทนา ด้วยครับ ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยได้มาโพสต์อะไร แต่ก็ตามข่าวสารเป็นประจำครับ

1 ปีแล้ว เร็วเหมือนกันนะครับ

 :25:
163  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เว็บเกี่ยวกับการทำบุญปิดทอง ครับ ปี 2554 ก็ดูได้ครับ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 01:31:34 pm
เมื่อวานเจ้านายผม ให้ผมหาวัดเพื่อที่จะทำบุญปิดทองฝังลูกนิมิต สัก 9 วัด

ให้ผมหาข้อมูล เพื่อที่จะได้พาครอบครัวทำบุญช่วง สิ้นปี

ผมเองก็หนักใจ แต่ปรากฏว่า ลองเข้าไปใน google แล้วก็พบเว็บนี้เข้า

ก็นำมาฝากเพื่อน ๆ สมาชิก ครับ

ดี จริง ๆ ครับ มีทั่วประเทศเลย

http://www.pidthong.com/

164  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ประวัติ พระอรหันตสาวิกา ปฏาจาราเถรี เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 01:14:54 pm

พระนางปฏาจาราเถรีนั้น เป็นธิดาของเศรษฐีผู้มีสมบัติ๔๐ โกฎิ ในกรุงสาวัตถี มีรูปร่างสวยงาม.

ในเวลานางมีอายุ ๑๖ ปี มารดาบิดาเพื่อจะรักษาไม่ให้เกิดข้อครหานินทา จึงให้นางอยู่บนชั้นบนปราสาท ๗ ชั้น.

ถึงแม้เป็นเช่นนั้น นางก็ยังลักลอบได้เสียกับคนรับใช้คนหนึ่งของตน.

กาลต่อมา มารดาบิดาของนางตกลงจะยกนางให้แก่ชายหนุ่มคนหนึ่ง ในสกุลที่มีชาติเสมอกันแล้ว กำหนดวันวิวาหะ(วิวาห์)

เมื่อวันวิวาหะใกล้เข้า มา นางจึงพูดกะคนรับใช้ผู้นั้นว่า

“ได้ยินว่า มารดาบิดาจักยกฉันให้แก่สกุลโน้น เมื่อเวลาที่ฉันไปสู่สกุลผัวแล้ว แม้ท่านจะถือบรรณาการมาเพื่อฉัน ก็เข้าไปในที่นั้นไม่ได้ ถ้าท่านมีความรักในฉัน ก็จงพาฉันหนีไปโดยทางใดทางหนึ่งในบัดนี้นี่แล.”

คนรับใช้นั้นรับคำ ว่า “ดีละ นางผู้เจริญ” แล้วกล่าวว่า

“ถ้าอย่างนั้นฉันจักยืน อยู่ที่ประตูเมืองแต่เวลาเช้าตรู่พรุ่งนี้ หล่อนพึงออกไปด้วยอุบายอย่างหนึ่งแล้ว มาในที่นั้น”

ในวันที่ ๒ ก็ได้ยืนอยู่ในที่นัดหมายกันไว้.

นางปฏาจาราหนีไปกับคนใช้

ฝ่ายธิดาเศรษฐีนั้นนุ่ง ผ้าปอน ๆ สยายผม เอารำทาสรีระถือหม้อน้ำ ออกจากเรือนเหมือนเดินไปกับพวกทาสี ได้ไปยังที่นั้นแต่เช้าตรู่.

ชายคนรับใช้นั้นพานางไป ไกลแล้ว อาศัยอยู่บ้านแห่งหนึ่ง ไถนาในป่าแล้ว ได้นำฟืนและผักเป็นต้นมา.

ธิดาเศรษฐีเอาหม้อน้ำมา แล้ว ทำกิจมีการตำข้าวและหุงต้ม เป็นต้นด้วยมือตนเอง เสวยผลแห่งความชั่วของตน.

ครั้งนั้น นางได้ตั้งครรภ์ขึ้นแล้ว.ต่อมาเมื่อครรภ์แก่แล้วนางจึงอ้อนวอนสามีว่า

“ใคร ๆ ผู้อุปการะของเราไม่มีในที่นี้ ธรรมดามารดาบิดา เป็นผู้มีใจอ่อนโยนในบุตรทั้งหลาย ท่านจงนำฉันไปยังสำนักของท่านเถิด ฉันจักคลอดบุตรในที่นั้น.”

สามีนั้นคัดค้าน ว่า “นางผู้เจริญ เจ้าพูดอะไร? มารดาบิดาของเจ้าเห็นฉันแล้ว พึงลงทัณฑ์ด้วยประการต่าง ๆ ฉันไม่อาจไปในที่นั้นได้.”

นางแม้อ้อนวอนแล้ว ๆ เล่า ๆ เมื่อไม่ได้ความยินยอม.

นางรอเวลาที่สามีนั้นไป ป่า จึงเรียกคนผู้คุ้นเคยมาสั่งว่า

“ถ้าเขามาไม่เห็นฉัน จักถามว่า ‘ฉันไปไหน?’

พวกท่านพึงบอกความที่ฉันไปสู่เรือนแห่งตระกูลของตน” ดังนี้แล้วก็ปิดประตูเรือนหลีกไป.

ฝ่ายสามีนั้นมา แล้ว ไม่เห็นภรรยานั้นจึงถามคนคุ้นเคย ฟังเรื่องนั้นแล้ว ก็ติดตามไปด้วยคิดว่า “จักให้นางกลับ” เมื่อพบนางแล้วแม้เขาจะอ้อนวอนประการต่าง ๆ ก็มิอาจทำให้นางกลับได้.

ทีนั้น ลมกัมมัชวาตของนางปั่นป่วนแล้วในที่แห่งหนึ่ง.

นางเข้าไปในระหว่างพุ่มไม้พุ่มหนึ่ง พูดว่า

“นาย ลมกัมมัชวาตของฉันปั่นป่วนแล้ว”

นอนเกลือกกลิ้งอยู่บน พื้นดิน คลอดเด็กโดยยากแล้ว คิดว่า

“เราพึงไปสู่เรือน แห่งตระกูลเพื่อประโยชน์ใด ประโยชน์นั้นสำเร็จแล้ว” จึงกลับมาสู่เรือนกับสามี อยู่กันอีกเทียว.

สมัยต่อมา ครรภ์ของนางตั้งขึ้นอีก. นางเป็นผู้มีครรภ์แก่แล้วจึงอ้อนวอนสามีโดยนัยก่อนนั่นแล เมื่อไม่ได้ความยินยอม จึงอุ้มบุตรด้วยสะเอวหลีกไปอย่างนั้นนั่นแล แม้ถูกสามีนั้นติดตามไปพบแล้ว ก็ไม่ปรารถนาจะกลับ.

ครั้งนั้น เมื่อชนเหล่านั้นเดินไปอยู่ มหาเมฆอันไม่ใช่ฤดูกาลเกิดขึ้น. ท้องฟ้าได้มีท่อธารตกลงไม่มีระหว่าง(ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก)ดังสายฟ้าแผดเผา อยู่โดยรอบ ดังจะทำลายลงด้วยเสียงแผดแห่งเมฆ.

ในขณะนั้น ลมกัมมัชวาตของนางปั่นป่วนแล้ว

นางเรียกสามีมากล่าวว่า

“นาย ลมกัมมัชวาตของฉันปั่นป่วนแล้ว ฉันไม่อาจทนได้ ท่านจงรู้สถานที่ฝนไม่รดฉันเถิด.”

สามีนั้นมีมีดอยู่ในมือ ตรวจดูข้างโน้นข้างนี้ เห็นพุ่มไม้ซึ่งเกิดอยู่บนจอมปลวกแห่งหนึ่ง เริ่มจะตัด.

ลำดับนั้น อสรพิษมีพิษร้ายกาจเลื้อยออกจากจอมปลวก กัดเขาในที่นั้นนั่นแล สรีระของสามีสีเขียวดังถูกเปลวไฟอันตั้งขึ้นในภายในไหม้อยู่ ล้มลงในที่นั้นนั่นเอง.

ฝ่ายภรรยาก็ได้เสวยทุกข์อย่างมหันต์ เฝ้ามองดูการมาของสามีอยู่ โดยไม่ทราบว่าเขาได้ตายไปแล้ว ก็มิได้เห็นเขาเลย ในที่สุดก็คลอดบุตรคนที่ ๒ อีก.

ทารกทั้ง ๒ ทนกำลังแห่งฝนและลมไม่ได้ ก็ร้องไห้ลั่น.

นางเอาทารกทั้ง ๒ คนนั้นไว้ที่ระหว่างอุทร ยืนคร่อมเด็กทั้งสองด้วยเข่าและมือทั้ง ๒ เพื่อบังฝนให้จนตลอดราตรี.ร่างกายทั้งสิ้นได้ซีดเป็นดังสีใบไม้เหลือง เหมือนไม่มีโลหิต.

ครั้นเมื่ออรุณขึ้นนางก็อุ้มบุตรคนที่เพิ่งคลอดซึ่งมีสีดังชื้นเนื้อสดด้วย เอว จูงบุตรคนโตด้วยนิ้วมือพลางกล่าวว่า “มาเถิด พ่อ บิดาเจ้าไปโดยทางนี้” แล้วก็เดินไปตามทางที่สามีไป ครั้นเมื่อเห็นสามีนั้นล้มตายบนจอมปลวกมีสีเขียวตัวกระด้าง ก็ร้องไห้รำพันว่า

“เป็นเพราะเราที่ เดียว สามีของเราจึงต้องตายที่หนทางเปลี่ยว” ดังนี้แล้วก็เดินไป.

นางเห็นแม่น้ำอจิรวดี เต็มเปี่ยมด้วยน้ำสูงประมาณเพียงหน้าอก เพราะฝนตกตลอดคืนยังรุ่ง นางไม่อาจลงน้ำพร้อมด้วยทารกทั้ง ๒ คนได้ เพราะตนมีความรู้อ่อน จึงให้บุตรคนใหญ่รออยู่ที่ฝั่งนี้ แล้วอุ้มบุตรคนเล็กข้ามแม่น้ำไปที่ฝั่งโน้น ปูลาดกิ่งไม้ไว้ให้บุตรนอนแล้วคิดว่าจะข้ามรับบุตรคนโต แต่ใจของก็ไม่อาจจะละความเป็นห่วงบุตรอ่อนได้ กลับแลดูแล้ว ๆ เล่า ๆ เดินไป.

ครั้นในเวลาที่นางถึง กลางแม่น้ำ เหยี่ยวตัวหนึ่งก็เห็นลูกคนเล็กซึ่งมีผิวแดงดังชิ้นเนื้อนอนอยู่ จึงโฉบลงมาจากอากาศ ด้วยสำคัญว่าเป็นชิ้นเนื้อ

นางเห็นมันโฉบลงเพื่อต้องการบุตร จึงยกมือทั้งสองขึ้น ร้องไล่ด้วยเสียงอันดัง ๓ ครั้งว่า “สู สู” เหยี่ยวไม่ได้ยินเสียงนั้นเลยเพราะไกลกัน จึงเฉี่ยวเด็กบินขึ้นสู่เวหาสไปแล้ว.

ส่วนบุตรผู้ยืนอยู่ที่ ฝั่งนี้ เห็นมารดายกมือทั้งสองขึ้น ร้องเสียงดังท่ามกลางแม่น้ำ จึงกระโดดลงแม่น้ำโดยเร็วด้วยสำคัญว่ามารดาเรียกจึงถูกกระแสน้ำพัดหายไป เหยี่ยวเฉี่ยวเด็กอ่อนของนางไป บุตรคนโตก็ถูกน้ำพัดไป ด้วยประการฉะนี้.

นางทราบข่าวว่ามารดาบิดาตายอีก

นางเดินร้องไห้ รำพันว่า “บุตรของเราคนหนึ่งถูก เหยี่ยวเฉี่ยวไป คนหนึ่งถูกน้ำพัดไป สามีก็ตายเสียในที่เปลี่ยว” เมื่อพบบุรุษผู้หนึ่งเดินมาจากกรุงสาวัตถี จึงถามว่า “พ่อ ท่านอยู่ที่ไหน?”

บุรุษ. ฉันอยู่ในกรุงสาวัตถี แม่.

ธิดาเศรษฐี. ตระกูลชื่อโน้นเห็นปานนี้ใกล้ถนนโน้นในกรุงสาวัตถีมีอยู่ ทราบไหม? พ่อ.

บุรุษ. ฉันทราบ แม่. แต่อย่าถามถึงตระกูลนั้นเลย ถ้าท่านรู้จักตระกูลอื่น จงถามเถิด.

ธิดาเศรษฐี. ฉันไม่มีธุระที่เกี่ยวกับตระกูลอื่น ฉันถามถึงตระกูลนั้นเท่านั้นแหละ พ่อ.

บุรุษ. แม่ ฉันบอกก็ไม่ควร.

ธิดาเศรษฐี. บอกฉันเถิด พ่อ.

บุรุษ. วันนี้ แม่เห็นฝนตกคืนยังรุ่งไหม?

ธิดาเศรษฐี. ฉันเห็น พ่อ ฝนนั้นคืนยังรุ่งเพื่อฉันเท่านั้นไม่ตกเพื่อคนอื่น แต่ฉันจักบอกเหตุที่ฝนตกเพื่อแก่ท่านภายหลัง โปรดบอกความเป็นไปในเรือนเศรษฐีนั้นแก่ฉันก่อน.

บุรุษ. แม่ วันนี้ ในกลางคืน พายุได้พัดเอาเรือนล้มทับ คนที่อยู่ข้างในตายหมด วันนี้คนทั้งสามเหล่านั้นก็ถูกเผาบนเชิงตะกอนเดียวกัน  แม่เอ๋ย ควันนั่นยังปรากฏอยู่.

นางได้ฟังดังนั้น ถึงความเป็นคนวิกลจริตยืนตะลึงอยู่ ร้องไห้รำพันบ่นเพ้อเซซวนไปว่า:-

“บุตร ๒ คน ตายเสียแล้ว สามีของเรา

ก็ตายเสียที่ทางเปลี่ยว มารดาบิดาและพี่ชายก็ถูกเผา

บนเชิงตะกอนเดียวกัน.”

เที่ยวกระเซอะกระเซิงไป ไม่รู้สึกถึงผ้าที่นุ่งซึ่งได้หลุดลง คนทั้งหลายเห็นนางแล้ว เข้าใจว่หญิงบ้า จึงเอาหยากเยื่อ กอบฝุ่น โปรยลงบนศีรษะ ขว้างด้วยก้อนดิน.

พระศาสดาประทับนั่งแสดงธรรมอยู่ท่ามกลางบริษัท ๔ ในพระเชตวันมหาวิหาร ได้ทอดพระเนตรเห็นนางผู้บำเพ็ญบารมีมาแสนกัลป์ สมบูรณ์ด้วยอภินิหารเดินมาอยู่.

นางได้ตั้งความปรารถนาไว้ในชาติก่อน

ได้ยินว่า ในกาลแห่งพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าปทุมุตตระ นางปฏาจารานั้น เห็นพระเถรีผู้ทรงวินิจฉัยรูปหนึ่ง อันพระปทุมุตตรศาสดาทรงตั้งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะ จึงทำคุณความดีแล้ว ตั้งความปรารถนาไว้ว่า “แม้หม่อมฉันพึงได้ตำแหน่งเอตทัคคะผู้เลิศกว่าพระเถรีผู้ทรง วินิจฉัยทั้งหลายในสำนักพระพุทธเจ้าเช่นกับด้วยพระองค์.” พระปทุมุตตรพุทธเจ้าทรงเล็งอนาคต ตั้งญาณไป ก็ทรงทราบความปรารถนาจะสำเร็จจึงทรงพยากรณ์ว่า

“ในอนาคตกาลหญิงผู้นี้ จักเป็นผู้เลิศกว่าพระเถรีผู้ทรงวินิจฉัยทั้งหลาย มีนามว่าปฏาจาราในศาสนาของพระโคดมพุทธเจ้า.”

พระศาสดา ทรงเห็นนางผู้มีความปรารถนาตั้งไว้แล้วอย่างนั้น ผู้สมบูรณ์ด้วยอภินิหาร กำลังเดินมาแต่ที่ไหนเทียว ทรงดำริว่า

“เว้นเราเสีย ผู้อื่นชื่อว่าสามารถจะเป็นที่พึ่งของหญิงผู้นี้ได้ ไม่มี”

จึงได้ทรงบันดาลให้นางเดินบ่ายหน้ามาสู่วิหาร

พวกพุทธบริษัทเห็นนางแล้วจึงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย อย่าให้หญิงบ้านี้มาที่นี้เลย.”

พระศาสดาตรัสว่า “พวกท่านจงหลีกไป อย่าห้ามเธอ”

ในเวลานางมาใกล้ จึงตรัสว่า “จงกลับได้สติ เถิด น้องหญิง.”

นางกลับได้สติด้วยพุทธานุภาพในขณะนั้นเอง.

ในเวลานี้ นางกำหนดความที่ผ้านุ่งหลุดได้แล้ว ให้เกิดหิริโอตัปปะขึ้น จึงนั่งกระโหย่ง.

ลำดับนั้น บุรุษผู้หนึ่งจึงโยนผ้าห่มไปให้นาง.

นางนุ่งผ้านั้นแล้วเข้าเฝ้าพระศาสดา ถวายบังคมด้วยเบญจางคประดิษฐ์ แทบพระบาททั้งสองซึ่งมีพรรณะดังทองคำแล้วทูลว่า “ขอพระองค์จงทรงเป็นที่พึ่งแก่หม่อมฉันเถิด พระเจ้าข้า เพราะว่าเหยี่ยวเฉี่ยวบุตรคนหนึ่งของหม่อมฉันไป คนหนึ่งถูกน้ำพัดไป สามีตายที่ทางเปลี่ยว มารดาบิดาและพี่ชายถูกเรือนทับตายเขาเผาเชิงตะกอนเดียวกัน.”

พระศาสดาทรงสดับคำของนาง จึงตรัสว่า

“อย่าคิดเลยปฏาจารา เธอมาอยู่สำนักของผู้สามารถจะเป็นที่พึ่งพำนักอาศัยของเธอได้แล้ว เหมือนอย่างว่า บัดนี้ บุตรคนหนึ่งของเธอถูกเหยี่ยวเฉี่ยวไป คนหนึ่งถูกน้ำพัดไป สามีตายแล้วที่ทางเปลี่ยว มารดาบิดาและพี่ชายถูกเรือนทับฉันใด น้ำตาที่ไหลออกของเธอผู้ร้องไห้อยู่ในสงสารนี้ ในเวลาที่ปิยชนมีบุตรเป็นต้นตาย ยังมากกว่าน้ำแห่งมหาสมุทรทั้ง ๔ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน”

ดังนี้แล้ว ตรัสพระคาถานี้ว่า:-

“น้ำในสมุทรทั้ง ๔ มีประมาณน้อย น้ำตาของ

คนผู้อันทุกข์ถูกต้องแล้ว เศร้าโศก ไม่ใช่น้อย มาก

กว่าน้ำในมหาสมุทรนั้น เหตุไร เธอจึงประมาทอยู่

เล่า? แม่น้อง.”

เมื่อพระศาสดาตรัสอนมตัคคปริยายสูตรอยู่อย่างนั้น ความโศกในสรีระของนาง ได้ถึงความเบาบางแล้ว.

ลำดับนั้น พระศาสดาทรงทราบที่นางผู้มีความโศกเบาบางแล้ว ทรงเตือนอีก แล้วตรัสว่า

“ปฏาจารา ขึ้นชื่อว่าปิยชนมีบุตรเป็นต้น ไม่อาจเพื่อเป็นที่ต้านทาน เป็นที่พึ่ง หรือเป็นที่ป้องกันของผู้ไปสู่ปรโลกได้;เพราะฉะนั้น บุตรเป็นต้นเหล่านั้นถึงมีอยู่ ก็ชื่อว่าย่อมไม่มีทีเดียว ส่วนบัณฑิตชำระศีลแล้ว ควรชำระทางที่ยังสัตว์ให้ถึงนิพพานของตนเท่านั้น”

เมื่อจะทรงแสดงธรรม ได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า:-

“บุตรทั้งหลาย ไม่มีเพื่อต้านทาน บิดาก็ไม่มี

ถึงพวกพ้องก็ไม่มี เมื่อบุคคลถูกความตาย ครอบงำ

แล้ว ความต้านทานในญาติทั้งหลาย ย่อมไม่มี;

บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นั้นแล้ว สำรวมในศีล

พึงชำระทางไปนิพพานโดยเร็วทีเดียว.”

ในกาลจบเทศนา นางปฏาจาราเผากิเลสมีประมาณเท่าฝุ่นในแผ่นดินใหญ่แล้ว ตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล ชนแม้เหล่าอื่นเป็นอันมาก บรรลุอริยผลทั้งหลาย มีโสดาปัตติผลเป็นต้น ดังนี้แล.

นางปฏาจาราทูลขอบวช

ฝ่ายนางปฏาจารานั้นเป็นโสดาบันแล้ว ทูลขอบรรพชากะพระศาสดา. พระศาสดาทรงส่งนางไปยังสำนักของพวกภิกษุณีให้บรรพชาแล้ว. นางได้อุปสมบทแล้วปรากฏชื่อว่า “ปฏาจารา” เพราะนางกลับความประพฤติได้.

วันหนึ่ง นางกำลังเอาหม้อตักน้ำล้างเท้า เทน้ำลง.น้ำนั้นไหลไปหน่อยหนึ่งแล้วก็ขาด.

ครั้งที่ ๒ น้ำที่นางเทลง ได้ไหลไปไกลกว่านั้น.

ครั้งที่ ๓ น้ำที่เทลง ได้ไหลไปไกลกว่าแม้นั้น ด้วยประการฉะนี้. นางถือเอาน้ำนั้นนั่นแลเป็นอารมณ์ กำหนดวัยทั้ง ๓ แล้ว คิดว่า

“สัตว์เหล่านี้ ตายเสียในปฐมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งแรก

ตายเสียใน มัชฌิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่ ๒ ไหลไปไกลกว่านั้น

ตายเสียใน ปัจฉิมวัยก็มี เหมือนน้ำที่เราเทลงครั้งที่ ๓ ไหลไปไกลแม้กว่านั้น.”

พระศาสดาประทับในพระ คันธกุฎี ทรงแผ่พระรัศมีไป เป็นดังประทับยืนตรัสอยู่เฉพาะหน้าของนาง ตรัสว่า

“ปฏาจารา ข้อนั้นอย่างนั้น ด้วยความเป็นอยู่วันเดียวก็ดี ขณะเดียวก็ดี ของผู้เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์เหล่านั้น ประเสริฐกว่าความเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี ของผู้ไม่เห็นความเกอดขึ้นและความเสื่อมแห่งปัญจขันธ์” ดังนี้แล้ว เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-

“ก็ผู้ใด ไม่เห็นความเกิดขึ้นและความเสื่อม

อยู่พึงเป็นอยู่ ๑๐๐ ปี ความเป็นอยู่วันเดียว

ของผู้เห็นความเกิดและความเสื่อม ประเสริฐกว่า

ความเป็นอยู่ของผู้นั้น.”

นางครั้นบวชแล้ว ไม่นานนักก็บรรลุพระอรหัต เรียนพุทธวจนะ. ท่านเป็นผู้ช่ำชองชำนาญในวินัยปิฏก.

ภายหลัง พระศาสดาประทับนั่ง ณ พระเชตวันวิหาร เมื่อทรงสถาปนาเหล่าภิกษุณีไว้ในตำแหน่งต่าง ๆ ตามลำดับ จึงทรงสถาปนาพระปฏาจาราเถรีไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวกภิกษุณี สาวิกาผู้ทรงวินัย แล.

ผลงานของพระปฏาจาราเถรี

พระปฏาจาราเถรี ท่านมีเมตตาและได้อนุเคราะห์แก่สตรีหลายท่าน ภายหลังสตรีเหล่านั้น ได้มาบวชเป็นภิกษุณี และท่านได้สอนและเตือนสติแก่สตรี ด้วยท่านเป็นผู้ทรงพระวินัยและฉลาดในคาถาธรรม ทำให้สตรีหลายท่าน เช่น อุตตราเถรี จันทาเถรี ปัญจสตมัตตาเถรี เป็นต้น ฯลฯ ได้บรรลุพระอรหันต์และแนะนำสอนสตรี ๕๐๐ คน ให้เกิดความสังเวชใจจึงพากันบวชในสำนักของพระเถรี ครั้นบวชแล้ว บำเพ็ญวิปัสสนากัมมัฏฐาน ไม่นานนักก็ตั้งอยู่ในพระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทา ๔.

บุรพกรรมของท่านในอดีตชาติ

ดังได้สดับมา พระเถรีนั้น ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่า ปทุมุตตระ ถือปฏิสนธิในครอบครัว กรุงหังสวดี ต่อมา กำลังฟังพระธรรมเทศนา ของพระศาสดา เห็นพระศาสดาทรงสถาปนาภิกษุณีรูปหนึ่งไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะเป็นเลิศกว่าพวก ภิกษุณีสาวิกาผู้ทรงวินัย ทำกุศลให้ยิ่งยวดขึ้นไป ปรารถนาตำแหน่งนั้น.

ท่านทำกุศลจนตลอดชีวิต เวียนว่ายอยู่ในเทวดาและมนุษย์

ครั้งพระพุทธเจ้าพระนาม ว่ากัสสปะ ถือปฏิสนธิในพระราชนิเวศน์ของพระเจ้ากิงกิ เป็นพระธิดาพระองค์หนึ่งระหว่างพระพี่น้องนาง ๗ พระองค์ คือ นางสมณี นางสมณคุตตา นางภิกขุนี(ภิกขุณี) นางภิกขุทาสิกา นางธัมมา(ธรรมา) นางสุธัมมา(สุธรรมา) และนางสังฆทาสี ครบ ๗.

พระราชธิดาเหล่านั้น ในบัดนี้ [ครั้งพุทธกาลชาติปัจจุบัน] คือพระเขมาเถรี พระอุบลวรรณาเถรี พระปฏาจาราเถรี พระนางกุณฑลเกสีเถรี (พระภัททากุณฑลเกสาเถรี) พระกิสาโคตมีเถรี พระธรรมทินนาเถรี และนางวิสาขา ครบ ๗. ประพฤติพรหมจรรย์อยู่ถึง ๒๐,๐๐๐ ปี สร้างบริเวณถวายภิกษุสงฆ์ บังเกิดในเทวโลกอีก เสวยสมบัติอยู่พุทธันดรหนึ่ง

ในพุทธุปบาทกาลนี้ ถือปฏิสนธิในครอบครัวเศรษฐี กรุงสาวัตถี ดังกล่าวมาแล้ว

#เถรี.อ. ๒/๔/๑๘๔-๑๙๗ องฺ.อ. ๑/๒/๒๔-๒๘;ธ.อ. ๑/๒/๒/๔๘๙-๔๙๘ ขุ.อป. ๙/๕๙๒-๕๙
165  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / รายการและเว็บ ของ มหาบุญช่วย ครับ ธรรมะคลายทุกข์ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 12:35:54 pm
http://www.bunchuay.com/index.htm

    เปิดเว็บไซต์ bunchuay.com วันที่ 8 เม.ย.53


ส่วนท่านใดที่ต้องการฟังเสียง และดาวน์โหลดเสียง ก็เชิญที่เว็บนี้ นะครับ

  http://bunonline.blogspot.com/
166  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: กราบขอ อโหสิกรรม แล้ว กรรมจะยุติทันทีหรือป่าวครับ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 11:27:49 am
เรื่องของกรรม ต้องอ่านในเว็บนี้ดู นะครับในพระพุทธศาสนานี้ แบ่งกรรมเป็น 3 ระดับ ครับ

1. ครุกรรม กรรมหนัก เช่น อภิฐาน 6 เป็นต้น อันนี้ อโหสิกรรม ไม่ได้ครับ

2. กรรมขั้นกลาง เช่น กรรมเนื่องด้วยการผิดศีล เป็นต้น

3. ลหุกรรม กรรมขั้นเบา ผมว่า อโหสิกรรม นั้นน่าจะใช้ได้กับ กรรมขั้นเบา

กรรมมีรายละเอียด อีก 10 ครับ ผมจำไม่ได้

แต่ อโหสิกรรม นั้น ไม่สามารถ แก้กรรมได้ทุกกรรม ครับ
167  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: เรื่องของ เมืองนิพพาน ครับมีบรรยายสถานที่นี้หรือป่าวครับ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 11:24:19 am
นิพพาน ไม่ใช่แดน ครับ นิพพาน ไม่ใช่เมือง ครับ

ที่ผมศึกษา ในพระไตรปิฏก นั้นยังไม่พบพระพุทธดำรัส เรื่อง ภูมิศาสตร์เมืองนิพพาน เลยครับ


ใคร มีข้อมูล ช่วยสงเคราะห์ เำพิ่มด้วยนะครับ

 :25: :25:
168  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ผู้ที่เข้าสู่นิพพาน แล้วจะกลับมาเกิด อีกได้หรือป่าวครับ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 11:22:51 am
เท่าที่ผม ศึกษามานั้น พระอรหันต์ ไม่กลับมาเกิดอีกแล้วครับ

ดังนั้น วิสุทธิเทพ ไม่น่าจะกลับมาเกิดอีก นะครับ

บรรดาพระอริยะสาวก ล้วนแล้วไม่มีประวัติ กลับมาเกิดอีกครับ
 :25: :25:
169  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ตารางงานปริวาสกรรม ภาค วัด พร้อมเบอร์ติดต่อ เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2010, 11:20:08 am
ปริวาส กรรมทั่วประเทศ
   ที่    วัด    ตำบล    อำเภอ    จังหวัด    วันเดือนปี
   1    ม้วงเจริญผล    ศรีประจันต์    ศรีประจันต์    สุพรรณบุรี    หลังสอบธรรม 2 วัน
   2    ปลักไม้ลาย    ทุ่งขวาง    กำแพงแสน    นครปฐม    หลังสอบธรรม 2 วัน
   3    ตะคล้อวนาราม    บุฝ้าย    ประจันตะคาม    ปราจีนบุรี    หลังสอบธรรม 2 วัน
   4    โคกกระต่ายทอง    จำปา    ท่าเรือ    อยุธยา    หลังสอบธรรม 2 วัน
   5    คลองลาน    คลองลาน    คลองลาน    กำแพงเพชร    หลังสอบธรรม 3 วัน
   6    เบญจพาส    เบญจพาส    พนมทวน    กาญจนบุรี    หลังสอบธรรม 3วัน
   7    บรรหาญแจ่มใส    ด่านช้าง    ด่านช้าง    สุพรรณบุรี    หลังสอบธรรม 3วัน
   8    โพธิทองเจริญ    พลับพลาไชย    อู่ทอง    สุพรรณบุรี    หลังสอบธรรม 3วัน
   9    โบสถ์    บางกุ้ง    บางคนที    สมุทรสงคราม    หลังสอบธรรม 3วัน
   10    น้ำบ่อหลวง    สันกลาง    สันป่าตอง    เชียงใหม่    หลังสอบธรรม 3วัน
   11    หนองระเวียง    หนองระเวียง    พิมาย    นครราชสีมา    หลังสอบธรรม 3วัน
   12    ท่าคอย    ท่าคอย    ท่ายาง    เพชรบุรี    หลังสอบธรรม 3วัน
   13    คลองตากวาเทพนิมิตร    ท่ากระโดน    แกลง    ระยอง    หลังสอบธรรม 4 วัน
   14    หนองพันท้าว    หนองพันท้าว    ท่ามะกา    กาญจนบุรี    ออกพรรษาแล้ว 2 วัน
   15    ดอกจันทร์    ศรีสำโรง    ศรีสำโรง    สุโขทัย    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   16    ราหุล    พระงาม    พรหมบุรี    สิงห์บุรี    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   17    วังเย็น    วังเย็น    เมือง    กาญจนบุรี    ออกพรรษาแล้ว 7 วัน
   18    สระมรกต    โคกไทย    โคกปีป    ปราจีนบุรี    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   19    บุษยบรรพต    หัวหิน    หัวหิน    ประจวบคีรีขันธ์    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   20    ตะโม่    ปลัดแรด    บางระกำ    พิษณุโลก    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   21    บ่อพลับ    เนินกว้าง    โกรกพระ    นครสวรรค์    ออกพรรษาแล้ว 3 วัน
   22    มาบคล้า    คลองกิ่ว    บ้านบึง    ชลบุรี    ออกพรรษาแล้ว 4 วัน
   23    เกตุบัวลอย    ก.ม. 7 ครึ่ง    ถ.บางนา-ตราด    กรุงเทพฯ    แรม 6 ค่ำ เดือน 11
   24    ไพรวัลย์ตลุง    ไพรขลา    ชุมพลบุรี    สุรินทร์    แรม 3 ค่ำ เดือน 11
   25    ป่าหลักร้อย    โนนไทย    โนนไทย    นครราชสีมา    แรม 4 ค่ำ เดือน 11
   26    ธรรมรังสี    นาวัลย์เปรียง    กุยบุรี    ประจวบคีรีขันธ์    ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12
   27    ศรีสำราญ    บ้านนา    ศรีสำโรง    สุโขทัย    แรม 5 ค่ำ เดือน 12
   28    หน้าต่างนอก    เสนา    เสนา    อยุธยา    แรม 7 ค่ำ เดือน 12
   29    หนองเค็ด    ท่าด่าน    พนมสารคาม    ฉะเชิงเทรา    แรม 7 ค่ำ เดือน 12
   30    ทุ่งนางงาม    ป่าอ้อ    ลานสัก    อุทัยธานี    แรม 8 ค่ำ เดือน 12
   31    ชุมแสงวราราม    หมอนนาง    พนัสนิคม    ชลบุรี    แรม 8 ค่ำ เดือน 12
   32    ป่าศุภมิตร    ในเมือง    เมือง    มหาสารคาม     แรม 10 ค่ำ เดือน 12
   33    สกุลปักษี (รุ่นแรก)    สนามคลี    เมือง    สุพรรณบุรี    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 12
   34    ดงเสือเหลือง    ดงเสือเหลือง    โพธิ์ประทับช้าง    พิจิตร    ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 12
   35    ประโดก    หมื่นไวย    เมือง    นครราชสีมา    แรม 3 ค่ำ เดือน 12
   36    หนอนไม้    ป่าช้า    เมือง    อุตรดิตถ์    แรม 4 ค่ำ เดือน 12
   37    ป่าหนองบัว    หนองบัว    หนองบัว    นครสวรรค์    แรม 7 ค่ำ เดือน 12
   38    พระปรางค์เหลือง    ท่าน้ำอ้อย    พยุหคีรี    นครสวรรค์    แรม 7 ค่ำ เดือน 12
   39    ดงไม้งาม    ชัยเกษม    บางสะพาน    ประจวบคีรีขันธ์    แรม 9 ค่ำ เดือน 12
   40    ต้นสน    ตลาดหลวง    เมือง    อ่างทอง    ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 1
   41    ดอนชะเอม    ดอนชะเอม    ท่าเรือ    กาญจนบุรี    ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 1
   42    สุทธิวารี (คลองน้ำใส)    ท่าช้าง    เมือง    จันทบุรี    ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 1
   43    ท่าหลวงบน    ท่าหลวง    มะขาม    จันทบุรี    ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1
   44    แสมสาร    พลูตาหลวง    สัตหีบ    ชลบุรี    ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 1
   45    สาวชะโงก    สาวชะโงก    บางคล้า    ฉะเชิงเทรา    ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 1
   46    ศรีเมืองธรรมคุณ    โนนสมบรูณ์    บึงกาฬ    หนองคาย    ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 1
   47    เขาพระ    แก่งคอย    แก่งคอย    สระบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 1
   48    รางวาลย์ใหม่    ท่ามะกา    ท่ามะกา    กาญจนบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 1
   49    ทองพุ่มพวง    เมือง    เมือง    สระบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 1
   50    ถ้ำโบสถโพธิสัตย์ธรรม    หัวลำ    ท่าหลวง    ลพบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 1
   51    เขากลิ้ง    แก่งกระจาน    ท่ายาง    เพชรบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 1
   52    อ้อย    วิเศษไชยชาญ    วิเศษไชยชาญ    อ่างทอง    แรม 1 ค่ำ เดือน 3
   53    ผานกเค้า    ผานกเค้า    ภูกระดึง    เลย    แรม 1 ค่ำ เดือน 3
   54    เกาะสมอ    หัวหวา    ศรีมหาโพธิ์    ปราจีนบุรี    แรม 3 ค่ำ เดือน 3
   55    วังแดง    สามง่าม    สามง่าม    พิจิตร    แรม 3 ค่ำ เดือน 3
   56    สำนักสงฆ์ทุ่งริ้น    สาคร    ท่าแพ    สตูล    แรม 5 ค่ำ เดือน 3
   57    ถ้ำประเวส    นาแก    นาแก    นครพนม    แรม 8 ค่ำ เดือน 3
   58    เกตุมวดีศรีวราราม    บางโทรัด    มหาชัย    สมุทรสาคร    ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3
   59    บัณฑูรสิงห์    บางโทรัด    มหาชัย    สมุทรสาคร    ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 3
   60    บังปิน    นางตะเคียน    เมือง    สมุทรสงคราม    ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 3
   61    สันธาตุ    เชียงแสน    เชียงแสน    เชียงราย    ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 3
   62    หนองอุโบสถ    ไผ่ล้อม    สันทราย    เชียงใหม่    แรม 1 ค่ำ เดือน 3
   63    วังปลา    ทุ่งเบญจา    ท่าใหม่    จันทบุรี    แรม 2 ค่ำ เดือน 3
   64    แก่นพรหมประชานิมิตร    ซึมซาม    หนองสองห้อง    ขอนแก่น    แรม 2 ค่ำ เดือน 3
   65    รางวัลย์เก่า    ลาดบัวขาว    บ้านโปร่ง    ราชบุรี    แรม 2 ค่ำ เดือน 3
   66    ปอแดง    สะแกราช    ปักธงชัย    นครราชสีมา    แรม 3 ค่ำ เดือน 3
   67    วังพระธาตุ (ท้าวแสนปม)     ไตรตรึง    เมือง    กำแพงเพชร    แรม 4 ค่ำ เดือน 3
   68    โพธิ์ประทับช้าง    โพธิ์ประทับช้าง    โพธิ์ประทับช้าง    พิจิตร    แรม 5 ค่ำ เดือน 3
   69    ดงประดาพระ    เขากวางทอง    หนองฉาง    อุทัยธานี    แรม 5 ค่ำ เดือน 3
   70    ทรัพย์เกษร    ซับสมอทอด    บึงสามพันธ์    เพชรบูรณ์    แรม 6 ค่ำ เดือน 3
   71    สุสานปูแกง    แม่เย็น    พาน    เชียงราย    แรม 10 ค่ำ เดือน 3
   72    สำนักเขาแรดน้อย    โพธิ์ปราสาท    ไพศาลี    นครสวรรค์    ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3
   73    สิงห์ทอง    ห้วยล้อ    บ้านโนนสมบูรณ์    ชัยภูมิ    แรม 1 ค่ำ เดือน 3
   74    สระแก้ว    ลาดยาว    ลาดยาว    นครสวรรค์    เดือน 3 ขึ้น 3ค่ำ
   75    สุคนธาวาส    พุรพี    นาสาร    สุราษฏ์ธานี    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4
   76    จรเข้หิน    จรเข้หิน    ครบุรี    นครราชสีมา    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4
   77    เขาคันหอก    หนองเป็ด    ท่ามะกา    กาญจนบุรี    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4
   78    หนองทะเล    ดงขี้เหล็ก    เมือง    ปราจีนบุรี    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 4
   79    แสงสุริยาราม    วังชะโอน    ขาณุวรลักษณ์    กำแพงเพชร    ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 4
   80    เทพนิมิตร    เขาสมิง    เขาสมิง    ตราด    ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4
   81    พระฝางสว่างขบุรี    ผาจุก    เมือง    อุตรดิตถ์    ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 4
   82    ตะคองหัน    บ้านกง    หนองเรือ    ขอนแก่น    แรม 2 ค่ำ เดือน 4
   83    เกาะจันทร์    เกาะจันทร์    พนัสนิคม    ชลบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 5
   84    เขาหินซ้อน    เขาหินซ้อน    พนมสารคาม    ฉะเชิงเทรา    ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6
   85    ศรีสิทธิการาม    มโนรมย์    มโนรมย์    ชัยนาท    ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6
   86    น้ำตกวังก้านเหลือง    ท่าดินดำ    ชัยบาดาล    ลพบุรี    ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6
   87    วิหารขาว    อาษา    บ้านนา    นครนายก    แรม 1 ค่ำ เดือน 6
   88    ทองพุ่มพวง    ในเมือง    ในเมือง    สระบุรี    ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 7
   89    สกุลปักษี    สนามคลี    เมือง    สุพรรณบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 7
   90    เขาลักษ์    ทุ่งลาดหญ้า    เมือง     กาญจนบุรี    ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 7
   91    สามชุก    สามชุก    สามชุก    สุพรรณบุรี    แรม 1 ค่ำ เดือน 7
   92    หนองขาม    เกาะตาล    ขาณุวรลักษณ์บุรี    กำแพงเพชร    แรม 2 ค่ำ เดือน 7
   93    หนองอีเหลย    ในเมือง    เมือง    นครราชสีมา    5-พ.ย.
   94    หนองกระดี่ (เก่า)    หนองยายตา    ทับทัน    อุทัยธานี    11-พ.ย.
   95    ห้วยเยาวราษฏร์บำรุง    ท่าขมิ้น    โพธิ์ทะเล    พิจิตร    21-พ.ย.
   96    โคนอน    บางกรวย    บางกรวย    นนทบุรี    1-ธ.ค.
   97    บูรพาภิราม    ในเมือง    เมือง    ร้อยเอ็ด    1-ธ.ค.
   98    ซับบอน    ทันจุ    บึงสามพัน    เพชรบูรณ์    4-ธ.ค.
   99    โตธาราสถิตย์ (คอกช้าง)    ธารโต    ธารโต    ยะลา    5-ธ.ค.
   100    ถ้ำยอดทอง    ทุ่งหลวง    ปากท่อ    ราชบุรี    5-ธ.ค.
   101    เจ้าปลุก    เจ้าปลุก    มหาราช    อยุธยา    11-ธ.ค.
   102    หนองมะค่า    ปากช่อง    ปากช่อง    นครราชสีมา    10-ธ.ค.
   103    ปากแพรก    ละหาน    ปลวกแดง    ระยอง    10-ธ.ค.
   104    บางกระดาน    บางปิด    แหลมงอบ    ตราด    10-ธ.ค.
   105    สระกลอย    รางสาลี    ท่าม่วง    กาญจนบุรี    13-ธ.ค.
   106    ม่อนฤาษี    ดอยหล่อ    จอมทอง    เชียงใหม่    12-ธ.ค.
   107    กลางราชครุธาราม    หัวตะพาน    ป่าโมก    อ่างทอง    14-ธ.ค.
   108    ศรีสุทธาทิพย์    หนองหาน    หนองหาน    อุดรธานี    16-ธ.ค.
   109    หงษ์ทองพัฒนาราม    วัดป่า    หล่มสัก    เพชรบูรณ์    16-ธ.ค.
   110    พุแค    สามแยกพุแค    เมือง    สระบุรี    19-ธ.ค.
   111    สำนักสงฆ์เขานกยูง    ดอนหัวฬ่อ    เมือง    ชลบุรี    20-ธ.ค.
   112    ป่าสันติธรรมนาเวง    บ้านนาเวง    เมือง    สกลนคร    20-ธ.ค.
   113    ปราสาททองทรงธรรม    ธารเกษม    พุทธบาท    สระบุรี    20-ธ.ค.
   114    ตาลบำรุงกิจ    สี่หมื่น    ดำเนินสะดวก    ราชบุรี    21-ธ.ค.
   115    ควนจำปา    หมู่ 3 ถ้ำสิงห์    เมือง    ชุมพร    25-ธ.ค.
   116    ท่ามะเดื่อ    สวนกล้วย    บ้านโปร่ง    ราชบุรี    25-ธ.ค.
   117    สฎางค์    ท่าสนุก    เมือง    อยุธยา    27-ธ.ค.
   118    สันติธรรมบ้านนาเวง    ธาตุนาเวง    เมือง    นครราชสีมา    27-ธ.ค.
   119    นันทิการาม    ในเมือง    เมือง    ขอนแก่น    1-ม.ค.
   120    วิสุทธิมรรคาราม    บ้านผือ    บ้านผือ    อุดรราชธานี    5-ม.ค.
   121    สำนักสวนพุทธภูมิ    หมู่ 5 รัชฎา    เมือง    ภูเก็ต    5-ม.ค.
   122    โบสถ์    บางกุ้ง    บางคณฑี    สมุทรสงคราม    5-ม.ค.
   123    บางแก้ว    บางแก้ว    เมือง    ฉะเชิงเทรา    5-ม.ค.
   124    ชลประทานศรัทธา    น้ำพอง    น้ำพอง    ขอนแก่น    5-ม.ค.
   125    ป่าน้ำใส    บ้านน้ำใส    จตุรพัตรพิมาน    ร้อยเอ็ด    5-ม.ค.
   126    สำนักสงฆ์พุทธโมกข์    นาแก้ว    กิ่งอ.โพนนาแก้ว    สกลนคร    8-ม.ค.
   127    ศรีกุเรชวณาราม    โยทะกา    บางน้ำเปรี้ยว    ฉะเชิงเทรา    8-ม.ค.
   128    สุขใจดี(ชาติเสมอ)    ชาติเสมอ    เมือง    ชลบุรี    9-ม.ค.
   129    ถ้ำพระธรรมมาส    เนินชมพู    เนินมะปราง    พิษณุโลก    30-ม.ค.
   130    อินทรารามนอก    เมืองใหม่    อำพวา    สมุทรสงคราม    30-ม.ค.
   131    ป่าช้าดอนคณฑา    ขุนทอง    บัวใหญ่    นครราชสีมา    9-ม.ค.
   132    อุดมไพรสณฑ์    รอบเมือง    เมือง    ร้อยเอ็ด    9-ม.ค.
   133    บางกระจับ    บางกระจับ    พนมสารคาม    ฉะเชิงเทรา    9-ม.ค.
   134    มณีไพรสณฑ์    แม่สอด    แม่สอด    ตาก    9-ม.ค.
   135    พิกุลทอง    บ้านนาสนุน    ศรีเทพ    เพชรบูรณ์    10-ม.ค.
   136    สำนักปฏิบัติธรรมบ่อสอาด    เรณูใต้    เรณูนคร    นครพนม    10-ม.ค.
   137    ป่าเรไร    บ้านเชียง    หนองหาน    อุดรธานี    10-ม.ค.
   138    กลางแดด    กลางแดด    เมือง    นครสวรรค์    10-ม.ค.
   139    พลสงคราม    พลสงคราม    โนนสูง    นครราชสีมา    11-ม.ค.
   140    เทพสถิตย์    ปากช่อง    ปากช่อง    นครราชสีมา    14-ม.ค.
   141    แดนสงบแสงธรรมราม    บ้านไทย    เมือง    นครราชสีมา    14-ม.ค.
   142    โนนบุญชัย    วังหมี่    ปักธงชัย    นครราชสีมา    16-ม.ค.
   143    เลี้ยมบูรพาราม    เมืองใต้    เมือง    ศรีสะเกษ    16-ม.ค.
   144    เขาคอก    บ้านพร้าว    บ้านนา    นครนายก    17-ม.ค.
   145    ด่านเกวียน    โตนด    โนนสูง    นครราชสีมา    19-ม.ค.
170  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: วัดถ้ำดาวเขาแก้ว เป็นถ้ำที่สวยที่สุดในสระบุรี เมื่อ: มิถุนายน 26, 2010, 04:26:47 am
คุณ หมวยจ้า นำภาพมาโพสต์ ได้งดงามจริง ๆ

สำหรับวัดป่าสว่างบุญ นี่สวยมาก ๆ

 :25:
171  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: สมาชิก ที่โพสต์แบบนี้ ไม่สมควร เมื่อ: มิถุนายน 03, 2010, 11:04:55 pm
ความไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งก็เกิดจาก การไม่ชี้แจงครับ หรือ ไม่ได้พูดกัน

เวทีธรรมะ เป็นเวที แห่งความอิสระในความคิด

ส่วนการภาวนา นั้นต้องเลือกจริต ด้วยนะครับ

อุดมปัญญา อุดมภาวนา อยู่ที่การสิ้นกิเลส พ้นจากสังสารวัฏฏ์

ช่วงตอนหัวค่ำ ผมได้ฟัง คำสอนเรื่อง กรรมฐาน หลวงพ่อพุูธ

มีข้อความที่สำคัญว่า มีสติรู้ ตัวรู้ ไม่ใช่ตัวคิด
172  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ศูนย์ศึกษาปฏิบัติ "พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ สระบุรี" เมื่อ: มิถุนายน 03, 2010, 11:00:10 pm
อ้างถึง
ฝันที่จะมีศูนย์ศึกษาปฏิบัติ "พระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ สระบุรี" เป็นไปได้ไหม


1.เป็นไปได้ครับ ถ้าเรามีผู้นำคือมีพระสงฆ์ ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตรง ปฏิบัติสมควรแล้ว มาเป็นประธาน

2.ประการต่อมา เรามีสมาชิก ที่พร้อมจะทำงาน ถวายชีวิต ด้วยนะครับ
( ไม่ใช่ประเภทเรียกตามมาแล้ว ก็บอกว่าไม่ว่าง เป็นต้น )

3.ต้องมีทุนปัจจัย ความเชื่อถือจะมาจาก  2 ข้อแรก

4.ต้องมีรูปแบบ กิจกรรม ที่เฉพาะตรงใจ

5.ควรเป็นสถานที่ ตามปณิธาน ของประธาน เช่นต้องการในป่า หรือ ในเมือง

6.ควรจัดตั้งเป็น มูลนิธิ หรือ ภายใต้การปกครองของวัดใดวัดหนึ่ง

============================================

เบื้องต้นก็น่าจะมีเท่านี้ครับ ผมว่ารออีกสัก  4 - 5 ปีดี ไหมครับ ?

=============================================

 :08: :25: :welcome:
173  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: แจ้งผลการรับฟัง radio เมื่อ: มิถุนายน 03, 2010, 10:43:31 pm
ผมก็เข้ามาฟัง ก็ไม่ได้ยินครับ


แต่ไปอ่านตารางเวลามาครับ ช่วงนี้ ปิดครับ จนถึง 21.00 -  9.30 ตารางอยู่ที่

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=566.msg2590#msg2590

 :25: :25: :25:
174  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: นรกภูมิ เมื่อ: พฤษภาคม 24, 2010, 11:24:22 pm
http://music.ohozaa.com/my/thaiTVPlayer.jsp?guid=20100519021515

ลองไปดูเรื่องนี้ดูครับ
 :25:
175  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: อาการโดนคุณไสย นั้นเป็นอย่างไรครับ เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2010, 09:39:43 am
เริ่มหัวข้อ อย่างนี้ ถ้าไม่ตามอ่านหัวข้อก่อน งงแน่ ๆ


อาการโดนคุณไสย

เท่าที่ผมเคยเห็น นะครับ แล้วเขาบอกว่าโดนคุณไสย

เช่นเพื่อนผู้หญิง ที่ทำงานคนหนึ่ง ด้วย เสน่ห์ยาแฝด หยุดงานตามไปอยู่กับผู้ชาย คนหนึ่ง ผมไปเยี่ยมเธอ
ก็แทบไม่เชื่อ ว่าจะมาอยู่กับผู้ชายคนนี้ เพราะทั้งหน้าตา ฐานะ การศึกษา ( ทรามมาก ) ไม่ไ้ด้ไปด้วยกันได้เลย ไปหาเธอก็ถูกขัดขวาง แต่สุดท้ายได้พูดด้วย ก็ปรากฏว่า เธอก็นั่งนิ่งตาเหม่อลอย ถามอะไรก็ไม่ตอบ เหมือนคนไม่มีสติ ผมก็เลยกลับไปรายงานที่บ้าน พ่อ แม่ เธอ

ปรากฏว่า ทางบ้าน พ่อ แม่ เธอ นั้นได้ไปเชิญอาจารย์ท่านหนึ่ง ( เป็นอาจารย์ทางด้านปราบผี )
ไปรับเธอกับมา ฟังจากที่พ่อ แม่ เธอเล่าให้ฟัง ก็อาจารย์ท่านนั้น บอกว่าลูฏสาวโดนเสน่ห์ยาแฝด
ซึ่งตอนไปถึงนั้น มีการสาดน้ำมนต์ แล้ว ลูกสาวก็สลบ ส่วนผู้ชายก็หนีไปที่อื่น

หลังจากได้พาลูกสาวกับมาแล้ว พอฟื้นขึ้นมา ก็จำอะไรไม่ได้ในช่วงนั้น คงมีแต่สภาพทางกายที่ถูกย่ำยี
ซึ่งพอเธอรู้สึกตัว ก็ร้องไห้ และลาออกจากงานกลับไปอยู่กับ พ่อ แม่

จริง ๆ ไม่จริง อย่างไร ผมก็เล่าไปตามที่ พ่อ แม่ เขาเล่าให้ฟัง นะครับ
 :25:
176  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ความเชื่อมั่น ของพระอัญญาโกณทัญญะ เป็นความหลงผิดหรือป่าว เมื่อ: พฤษภาคม 11, 2010, 09:29:08 am
ถ้าหากเรา ยึดพระพุทธดำรัส ของพระพุทธองค์ฺในเรื่องของ

การไม่พึ่งพาเรื่อง ดวง โหราศาสตร์ ดวงดาว



ดังนั้น ถ้าพิจารณา ตามนี้ ผมว่า ท่านพระอรหันต์รัตตัญญู ท่านกระทำผิดหรือป่าว

ที่ออกไปบวชเนกขัมมะ รอการภาวนาของเจ้าชาย สิทธัตถะ

เพื่อนสมาชิก มีความเห็นกันอย่างไรครับ ?
177  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / กบฟุ้งซ่าน ข้างกำแพงวัด เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:46:10 am
 :)
พอดีไปอ่านเจอเรื่องนี้ เลยนำมาฝากครับ

กบ ฟุ้งซ่านตัวหนึ่งนั่งอยู่ข้างกำแพงวัด
ทุกเช้ามันเฝ้าดูพระออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เช้ามืด พอพระกลับมา
ถึงวัดเพื่อฉันเช้า…
กบมันนึกในใจ อยากเกิดเป็นพระ เป็น พระสบายดี มีคนถวายอาหารให้กินทุกวัน ...
เมื่อพระฉันเสร็จ ก็นำอาหารที่เหลือมากมายนั้นไปให้เด็กวัดกินต่อ
แล้วเด็กวัดก็กินกันอย่าง เอร็ดอร่อย ...

ตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นเด็กวัด แล้ว เพราะสบายกว่าพระ
มันเห็นเด็กวัดหลายคนตื่นสายได้และไม่ต้องออกตามพระไปบิณฑบาตก็ได้
สบายกว่าเยอะเลย… เมื่อเด็กวัดกินเสร็จ
ก็โกยเศษอาหารที่เหลือทั้งหมดให้หมาวัดไปกินแล้วเด็กวัดทุกคนก็ไปช่วยกัน ล้างจาน…

ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ อยากเกิดเป็นหมาวัด แล้ว เพราะไม่ต้องล้างจาน
เหมือนเด็กวัด สบาย กว่า …

พอหมาวัดกินอาหารเสร็จก็แยกย้ายไปทำหน้าที่เฝ้าบริเวณวัด
คอยเห่าคนแปลกหน้า… ฝูงแมลงวันก็บินมาตอมและกินเศษอาหารต่อจากหมาวัด

ถึงตอนนี้ กบเปลี่ยนใจ(อีกแล้ว) อยากเกิดเป็นแมลงวัน
เพราะสบายที่สุดไม่ต้องทำอะไรเลย หนำซ้ำ ยังมีกองอาหารให้กินไม่มีหมดด้วย…

ขณะที่เจ้ากบฟุ้งซ่านกำลังคิดเพลินๆอยู่นั้น พอดีหันมาเห็นแมลงวันบินมาใกล้ๆ
จึงใช้ลิ้นตวัดเอาแมลงวัน เข้าปากตัวเองกินโดยสัญชาตญาณ ...

ถึงตอนนี้ กบฟุ้งซ่านจึงบรรลุธรรมฉับพลัน (Sudden knowledge)

คิดได้ว่า เอ้อ "เป็นตัวของเราเองนี่แหละ ดีที่สุดเลย" (The best to be yourself)

"จงเชื่อมั่นในตัวเอง" (Be yourself)


ขอบคุณเจ้าของกระทู้เรื่องนี้นะครับ

http://romphosai.com/forums/forum11/thread7103.html

178  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: งานบำเพ็ญกุศล กตัญญูกตเวทิตา ทักษิณานุปทาน คล้ายวันมรณภาพ ปีที่ 29 เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:33:03 am


ประวัติหลวงปู่โต๊ะ ไปอ่านต่อนะครับ ที่เว็บนี้

http://romphosai.com/forums/forum15/thread1440.html


งานก็ผ่านไปแล้ว ตอนแรกถ้าไม่เข้ามาอ่านก็ไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร
179  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ขอเชิญอนุโมทนา การอบรมพระกรรมฐานมัชฌิมาฯ ที่วัดราชสิทธารามฯ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:26:26 am
 :03: ไม่ได้ไปครับ แต่ขออนุโมทนาด้วยครับ
180  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / Re: พระสงฆ์ที่น่ากราบไหว้ ฟัง สนทนา ของสระบุรี ที่มีชีวิตอยู่มีรูปไหนบ้างครับ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:24:40 am
 :bedtime2:

ปัญหานี้ ถ้ายกขึ้นมาตอบลำบาก เหมือนกัน เอาเป็นว่าถ้าต้องการสนทนาธรรม ก็แทบทุกวัดนะครับ

แต่ถ้าต้องการ ให้เป็นพระสุปฏิปันโน นั้นพูดลำบากครับ.... :character0029:
181  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ประเพณีสงกรานต์ เดือนแห่งความภูมิใจ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:20:46 am


ขอให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ จงมีความสุข เย็น ๆๆๆๆๆๆๆ กันทุกคนนะครับ
 :25:
182  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ประเพณีสงกรานต์ เดือนแห่งความภูมิใจ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:18:51 am


อย่าลืมอ่านสาระจากกระทู้นี้ด้วยนะครับ
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=446.0

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=448.0

http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=449.0

เรียบเรียงโดย คุณ nathaponson 
183  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ประเพณีสงกรานต์ เดือนแห่งความภูมิใจ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:14:36 am
184  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: ประเพณีสงกรานต์ เดือนแห่งความภูมิใจ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:13:24 am
185  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ประเพณีสงกรานต์ เดือนแห่งความภูมิใจ เมื่อ: เมษายน 01, 2010, 07:11:48 am
 :welcome:

สุขสันต์ วันปีใหม่ไทย ที่ใกล้จะุถึงกันทุกคนนะครับ

ถึงแม้จะดูว่าร้อน ๆ ไปบ้าง

ผมไปตรวจการณ์ ตามอำเภอในเขต โคราช ตอนนี้ต้องประกาศเป็นพื้นที่ประสพภัยแล้งแล้วครับ

อย่างไรเสีย ก็อดทนกันไว้ นะครับ

สถานการณ์บ้านเมือง ก็ผันไป ผันมา งบราชการ ที่จะช่วยก็ลำบาก....จริง
=============================================


186  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ฆ่า พยาธิ เป็นบาปหรือป่าวครับ ? เมื่อ: มีนาคม 13, 2010, 08:58:35 pm
คำถามนี้ผมไปออกหน่วย แล้ว เคยโดนคำถามนี้มา ผมว่าเอามาถามเพื่อน ๆ สมาชิกธรรมให้ตอบด้วย
ผมจะได้มีแนวตอบ ให้สมาชิก ตอนผมออกหน่วยครั้งต่อไปเวลาโดนถามอีก

มีเด็กมาให้ผมและทีมแพทย์อาสา มาให้ผมตรวจกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโรคพยาธิ กัน
พวกเราจึงแจกยา ขับ ซั่งเป็นทั้งยาฆ่า พยาธิ ด้วย

คำถามครับ การฆ่าพยาธิ นี้เป็นบาปหรือป่าวครับ ?
187  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ต่อชะตาชีวิต เมื่อ: มีนาคม 13, 2010, 08:53:15 pm
ขออนุโมทนาก่อน เลยนะครับ

คุณปุ้่ม นี่ไว นะครับ

สาธุ สาธุ สาธุ :25:
188  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / ตัวต่อ กับ เมตตา ? เมื่อ: มีนาคม 13, 2010, 08:46:37 pm
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกิดจริง ที่เกิดขึ้นในจังหวัด เพชรบูรณ์ แต่ตัวละครขอเปลี่ยนนามครับ

ยายมี เป็นชาวไร่ มีครอบครัวที่อุดมสมบูรณ์ ทำสวนมะขามหวาน มีลูก 3 คน เป็นชายทั้ง 3 คน
ยายมี ต้องอยู่เป็นแม่หม้ายมาตั้งแต่อายุ 31 ปี เนื่องด้วย ตาวัฒน์ นั้นต้องเสียชีวิตเพราะถูกตัวต่อต่อยตาย เพราะเก็บมะขามไปเหยี่ยบหลุมต่อดิน ส่งโรงพยาบาลก็สิ้นใจ แต่ยายมีเป็นคนชอบไปวัดทำบุญ ถึงแม้ตาวัฒน์ จะสิ้นชีิวิตเพราะตัวต่อ ยายมีก็ไม่ทำลายรังต่อดินนั้นเลย

จากนั้นมายายมีก็เลี้ยงลูกจนเติบใหญ่ พร้อมกับห้ามลูกไปทำลายรังต่อที่ต้นมะขามต้นนั้น หลังจากลูกชายเติบใหญ่ก็เข้าเรียนศึกษา ที่กรุงเทพกันทั้งหมด และปักหลักทำงานอยู่ในกรุงเทพกัน โดยส่งเงินมาให้ยายมีใช้ พร้อมจ้างคนรับใช้ไว้ให้ ชีวิตยายมีดูเหมือนจะมีความสุข สวนมะขามหวาน ก็ให้ผลิตผลดี มีเงินเหลือเก็บเหลือใช้ผ่านไปจนกระทั่งยายมี มีอายุได้ 64 ปี

เมื่อถึงคราวครบวันเกิดของยายมี ในเดือน มีนาคม บรรดาลูกชาย ทั้ง 3 ก็กลับมาเยี่ยมยายมีกัน
ซึ่งปีนี้คึกคักกันมาก เพราะทุกปีที่ผ่านมาทั้ง 3 คน ก็อุ้มลูกคนแรกมาให้ยายมีได้อุ้มกันทุกคน ถึง  4 ปีแล้วแต่ปีนี้เด็กที่ได้อุ้มกันมานั้นมีอายุเพิ่มขึ้นกำลังเป็นเด็กซน และเด็กชาย 2 คน เด็กหญิงอีก 1 คน พร้อมกับลูกสะใภ้ก็ยังอุ้มเจ้าตัวน้อยมากันอีก ทำให้ยายมี มีความสุขมาก ๆ

แต่ในตอนบ่ายวันนั้น ความสุขของทุกคนก็ได้หมดไป เพราะว่าเด็กทั้ง 3 คนนั้นได้วิ่งเข้าไปเล่นในสวนมะขามซึ่งบรรดาผู้เป็นพ่อ ก็ได้ลืมเรื่องต่อกันไปหมด เพราะเข้าใจว่าต่อคงจะไม่ได้อยู่ที่นั้นแล้ว แต่เด็กทั้ง 3 นั้นวิ่งเล่นกันไปแล้วไปตกหลุมที่ต้นมะขามต้นนั้น ทำให้ต่อดิน ทั้งหมด บินกรูเข้ามาหาเด็กอายุ 5 ขวบ ทั้ง 3 คน

เด็กทั้งหมดวิ่ง หนีกันออกมาจากสวนด้วยอาการเจ็บปวด ทุลักทุเล พร้อมอาการร้องไห้อย่างสะอึก สะอื้น
"พ่อ หนูปวด แม่ผมปวด ยายหนูเจ็บมาก เลย"
เสียงของเด็กร้องระงม กันทำให้ผู้เป็นพ่อ แม่ ต้องรีบนำรถวิ่งไปที่ โรงพยาบาล แต่เด็กทุกคนโดนตัวต่อต่อยเป็นจำนวนมาก มีอาการไข้แทรก และทนพิษตัวต่อไม่ได้

วันเกิดของยายมี ปีนั้นต้องเสียหลาน หญิง ชาย ถึง 3 คนด้วยกัน
เมื่อเหตุการณ์เป็นดังนี้ บรรดาลูกยายมีนั้น ต้องการขจัดปัญหาเรื่องนี้ด้วยการทำลายตัวต่อดินนั้นให้หมด

เพราะความแค้นใจ มาก ๆ มันทำลายทั้ง พ่อ และ ลูก หลาน เรา

แต่ยายมีก็ห้ามไว้ ยายมีห้ามลูกชาย ทั้ง 3 คนว่า
"เวร ย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร"

แต่ถึงแม้ยายมี ห้ามดังนั้นแต่ ลูกชายคนเล็กนั้นก็ได้จัดการทำลายรังต่อนั้นเป็นเวลาถัดมาอีก 2 สัปดาห์
ในขณะที่ยายมีไปอยู่รักษาศีลที่่วัด

ยายมีกลับมาพอรู้ ว่าตัวต่อ และ รังต่อดินถูกทำลายหมด
ยายมีก็นัดลูกชาย ทุกคนมารวมกันในอีก 2 สัปดาห์โดยให้ลูกชายทั้ง 3 คนทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พวกตัวต่อเหล่านั้น

ผ่านไปอีก 1 ปี ลูกชายทั้งหลายก็กลับมาเยี่ยมแม่เหมือนทุกปี พร้อมกับหลานคนเล็ก อีก 3 คนที่กำลังเดิน กำลังอุ้ม อายุ 2 ขวบ อีก 3 คน

สำหรับเรื่องนี้ยังมีตอนต่ออีก หน่อยครับเอาไว้ผมมีเวลามาพิมพ์เพิ่มครับ


189  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ต่อชะตาชีวิต เมื่อ: มีนาคม 13, 2010, 08:16:54 pm
ผมไปกับเพื่อนๆ ผม ไปร่วมพิธีต่อชะตา ชีวิต มีการลงไปนอนในโลง

และมีการนำผ้าขาว มาผูก พร้อมสายสิญน์ ชักบังสุกุลเป็น และ บังสุกุลตาย ด้วยครับ

วิธีการต่อชะตา ชีวิตแบบนี้ เป็นพิธีที่ปรากฏในพระไตรปิฏก หรือป่าวครับ ?

ถ้าไม่มี ใครพอจะรู้ประวัติ ที่ไป ที่มา บ้างครับ ?

190  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: กรรมอะไร ที่เราต้องโดนด่ากลางที่สาธารณะ เมื่อ: มีนาคม 05, 2010, 10:46:57 pm
ที่จริงผมอ่านแล้วก่อนจะชี้ว่าเป็นเรื่อง กฏแห่งกรรมอะไร ? ผมเองก็วิเคราะห์ตามเนื้อเรื่องครับ

1.คุณปกรณ์ ตั้งใจพาครอบครัว ไปไหว้รอยพระพุทธบาทกัน แต่สุดท้าย ก็ไม่ได้ไปกลับไปตามเจ้าโจอี้ แสดงว่าครอบครัว คุณก็รักเจ้าโจอี้ กันมากถึงกับล้มเลิก การไปกราบรอยพระพุทธบาท

2.การที่ผู้หญิงเข้ามาด่า ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้หญิงใจกล้า มีความรักสัตว์ แต่ทำไมเอา โจอี้ ไปใส่หลังกระโปรงรถ ผมว่าเป็นเรื่องที่ลำบากเหมือนกัน เพราะพันธ์อาเซเชี่ยลนั้นตัวใหญ่ จับยาก แสดงว่า โจอี้ ต้องไม่ดุ

3.การที่ผู้หญิงคนนั้น กล้าเข้าไปด่าพวกคุณปกรณ์ ในปั๊มน้ำมันนั้น คงจะตรึกตรองไว้แล้ว เพราะว่าถ้าไปด่าพวกคุณในที่ลับตา ลับหูผู้คน นั้นอาจจะโดนพวกคุณรุมทึ้งได้ การที่ด่าในที่สาธารณะ นั้นจึงถือว่ามีความปลอดภัย เพราะมีการเตรียมตัว ออกรถเมื่อคุณจะเดินเข้าไปหา

4.การที่คุณแม่ คุณปกรณ์ ตัดสินใจไม่แจ้งความนั้น ผมว่าท่านปลงได้ดี และมองเห็นพวกคุณกำลังเดือด การตัดใจให้ลูกหลาน มีความสุขโดยไม่เอาอารมณ์ตนเป็นใหญ่ นัั้ั้นน่านับถือครับ

5.การที่คุณปกรณ์กล้า พิมพ์เรื่องพวกนี้ ผมว่านับถือเลยครับ ที่ผูกเรื่องไว้ได้ดี สำหรับมือใหม่ เพราะเนื้อหาชี้ถึงอารมณ์ ได้ทุกจุด ตั้งแต่เริ่มด้วย สัทธา ความรัก ความโกรธ ความไม่ยินยอมพร้อมใจ ความสับสน ความเป็นห่วง ความตัดสินใจ และ การปล่อยวาง ซึ่งปีนี้คุณปกรณ์ ก็มีอายุถึง 50 ปีเข้าไปแล้วถือว่าเป็นผู้ใหญ่ ที่มีประสพการณ์ โดยเฉพาะชีวิต ของทหาร ( ผมตามเรื่องโดยละเอียดมากหรือป่าวครับ )


6.ส่วนเนื้อหา ของกฏแห่งกรรม มองเห็นได้เป็นชุดเลยครับ
   คงไว้่ให้เพื่อน ๆ ช่วยกันวิจารณ์ เพิ่มดีกว่า

เขียนต่อนะครับ ผมจะตามอ่านอีก
191  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: ความฝัน ทำไมจึงเป็นความจริงครับ? เมื่อ: มีนาคม 05, 2010, 10:34:07 pm
ผมได้อ่าน ตามเรื่องของคุณปกรณ์แล้ว ทั้ง 3 เรื่อง ผูกกันได้ความดังนี้นะครับ ถ้าวิจารณ์ผิดให้อภัยผมด้วยนะครับ

ประการที่หนึ่ง คุณปกรณ์ กำลังเล่าเรื่องชีวิต คู่ ที่รักกันก่อน แต่ไม่สมหวัง โดยเฉพาะตอนที่คุณปกรณ์ฝันถึงผู้หญิงคนแรกนั้น ผมเองยังอ่อนไหวตามเลยครับ เหมือนหนังมาก ๆๆ  ว่ามีผู้หญิงที่รักษาสัญญาไว้จนตาย ซึ่งความเป็นจริงแล้วยังมีผู้หญิง อีกมากมายทีั่ียังรักษา คำว่าความรัก คือความเสียสละ ไว้ มากมายเลยที่ผมเจอ

ประการที่สอง คุณปกรณ์ กำลังเล่าเรื่องชีวิต คู่ ที่เป็นรักสอง แต่ก็ไม่สมหวังอีก เพราะผู้หญิงนอกใจ

ซึ่งจากการวิเคราะห์ของผม จะเห็นว่า คนที่หนึ่ง อายุมากกว่า 10 ปี และ มาคนที่สอง อายุน้อยกว่า 10 ปี
คุณปกรณ์ ต้องมีเหตุผลแน่่ ซึ่งผมจะต้องตามอ่านเรื่องของคุณต่อ ซึ่งการเล่าเรื่องอย่างนี้นั้่น โดยปกติปุถุชนคนทั่วไปเขาไม่ค่อยเล่ากัน แต่ผมว่าถึงแม้จะพิมพ์สั้น ๆ แต่ก็มีเหตุผล กฏแห่งกรรม หลายอย่าง ๆ ชัดเจน

ส่วนประการที่สาม ที่ผมอ่าน เรื่องของเจ้าโจอี้ นั้น ผมเห็นอารมณ์ขัน ของคุณปกรณ์ และ อารมณ์ จริงจังด้วย
ซึ่งความเป็นจริง ชีวิตของมนุษย์ นั้นก็มีเรื่องมากมายในการอยู่สังคม เดี๋ยวผมไปวิจารณ์ในเรื่องเจ้า โจอี้ ดีกว่า

เขียนต่อนะครับ ผมว่ามีประโยชน์ ให้ห้องกฏแห่งกรรม ครับ
192  เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / Re: การตัดสินใจ เมื่อ: มีนาคม 05, 2010, 10:26:03 pm
 :13: ต่อด้วยนะครับ กำลังน่าติดตาม ในเรื่องกฏแห่งกรรม ครับผมเองก็ว่า จะมาพิมพ์ลงเหมือนกัน
แต่ต้องไปตรวจงานที่ภาคเหนือครับ โดยเฉพาที่เชียงแสนครับ ตอนนี้ กำัลังลำบากเพราะแม่น้ำ น้ำลดมากครับ

บางแห่งเดินข้ามได้เลยระหว่างลาว กับ ไทย น่าเป็นห่วงเหมือนกัน
193  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / อยากเล่าเรื่องกฏแห่งกรรม ครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 04:07:46 pm
อยากเล่าเรื่องจริงชีวิตกฏแห่งกรรม ครับ

จะโพสต์ในห้องไหนดีครับ แนะนำหน่อยครับ มีหลายตอน จะพยายามพิมพ์มาลงให้ครับ
194  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / คนฝึกกรรมฐาน จะรู้อนาคต ได้จริงหรือป่าวครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 04:05:48 pm
ผมเคยรู้แต่ว่ามีพระอรหันต์รูปหนึ่ง สมัยท่านเป็นฆราวาส ท่านจะเคาะกระโหลก คนตาย แล้วจะตอบได้ว่า
คน ๆ ที่ตายไปเกิดเป็นอะไร


ช่วยลงประวัติให้อ่านหน่อยครับ ผมนึกชื่อไม่ออก ฟังมานานแล้ว


ส่วนพระอรหันต์ที่รู้อนาคต นั้นมีหรือป่าวครับ


195  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ถามความเห็น เรื่องการเป็นศิษย์พระกรรมฐาน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 04:01:21 pm

ที่วัดเขตท่าเรือ นะครับ

ผม เจอพระอยู่รูปหนึ่ง ท่านไม่สบายบ่อยครับมากครับ ท่านมาชักชวนให้ผมนั่งกรรมฐาน และสอนภาวนากรรมฐาน แต่พระรูปนี้ผมไม่เห็น ท่านปฏิบัติกรรมฐาน อะไรเลย ผมไปถามเพื่อนพระในวัดท่าน ถามท่านไปไหน พระในวัดก็ตอบว่า อยู่ในห้องทั้งวัน ไม่ลงทำวัตรสวดมนต์ ไม่บิณฑบาตร ไม่ช่วยงานวัด ผมไปถามท่านที่ห้องก็พบว่าท่าน นอนครับ แล้วท่านก็บอกว่าท่านไม่สบาย


ท่านทำเยี่ยงนี้มาเป็นเวลา 5 เดือนแล้วครับ
แต่ อีกทาง ท่านก็บอกผมว่า กรรมฐาน นี้จะรักษาโรคอย่างนั้น อย่างนี้ ครับผมถามท่านว่า ท่านปฏิบัติ กรรมฐานอะไร ท่านก็บอกว่า อสุภะกรรมฐาน พร้อมกับเปิด โน๊ตบุ๊ค มีรูป ศพคนตาย ต่าง ๆ ให้ผมดู

ผมมานั่งนึกในใจว่า ท่านเองยังเอาตัวเองไม่รอดเลย แ้ล้วมาชวนผมนั่งกรรมฐานกับท่าน


เพื่อนสมาชิก มีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้ หรือผมควรจะสมัครเป็นศิษย์ท่านดีครับ
196  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ปฏิบัติพระกรรมฐาน แต่ไม่อธิษฐาน และ ขอขมา จะเป็นไรหรือป่าวครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 03:53:38 pm
คือผมชอบนั่งภาวนา ก็นั่งภาวนาเลยครับ ไม่ชอบอธิษฐาน หรือกล่าวคำอะไร
เพียงทำแึ่ค่พนมมือและคิดว่า ขอภาวนาพุทโธ เท่านั้นครับ


่แต่เห็นเพื่อนผมที่ไปขึ้นกรรมฐาน ที่วัดราชสิทธาราม มาบอกว่า
ไม่ได้ ต้องอธิษฐาน กรรมฐาน และ กล่าวคำขอขมาก่อน ผมเห็นเพื่อนผมนั่งที่ไร ก็นั่งสัปปะหงก ทุกที
( แอบมองผมชอบมองคนเก่ง )

แต่พอมาดูตัวเรา ก็นั่งได้ดีนะ ( ขี้ึคุยด้วยครับ 5 )

เอาตรงคำถามนะครับ
นั่งกรรมฐาน ไม่อธิษฐาน กับ ขอขมา ได้ไหมครับ

ปล ผมยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน นะครับ
197  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ประเภทของบุตร ในพระพุทธศาสนา กับวิธีจัดการแบบชาวพุทธ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 03:45:19 pm
ตอนนี้ผม ปวดหัวก็เรื่องของบุตร ครับ พี่น้อง เพื่อนสมาชิกทุกท่าน
เฮีย nathaponson ช่วยแนะนำผมด้วยครับ
ผมติดตามเรื่องที่ เฮีย ลงแล้ว ชอบมาก ละเอียด บางครั้งผมนั่งอ่านเป็นชั่วโมงเลยครับ


ประเภทของบุตร ในพระพุทธศาสนา กับวิธีจัดการบุตรแบบชาวพุทธ

198  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / ฝึกลูกอย่างไร ให้ดีครับ มีแบบแผนไหมครับ เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 03:40:05 pm
ผมมีลูก 1 คน ตั้งแต่ แฟนผมตั้งท้อง ผมก็ถือศีล 8 จนแฟนคลอดได้ 6 เดือน

คุยกับลูกตอนอยู่ในครรภ์ พูดอ่านหนังสือ ธรรมะกรอกทุกวัน อ่านพระสูตรให้ฟัง วันละพระสูตร ๆ ที่อ่านซ้ำคือ ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร เพราะผมเืชื่อพระในสายสวนโมกขพลารามรูปหนึ่ง ท่านบอกให้กรอกให้พูดธรรมะให้เด็กฟังตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์เลย จะได้เป็นเด็ก เชื่อฟัง ขยัน ไม่ดื้อ

แต่หลังจากผมทำอย่างนี้ มาแม้กระทั่งพาลูกเข้าไปฟังธรรมที่วัด นั่งกรรมฐาน จนลูกผมอายุ 12 ขวบแล้วยังไม่เห็นมีแววที่จะไปทางธรรม เลยครับ ลูกผมเป็น  ผู้หญิง ชอบกิน ออกจะอ้วน ๆ ครับ

ผมอยากให้เธอศึกษาหลักธรรมให้มากครับ
หรือเพื่อน มีวิธี ดีๆ
ตอนนี้เหลืออีกที่ครับว่าจะส่งเข้าคอร์ส วัดพระธรรมกาย ช่วงฤดูร้อนครับ

หรือ เพื่อนสมาชิก มีวิธีที่เด็ด ๆ ช่วยบอกผมด้วยนะครับ ได้โปรด ........ สาธุ

199  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ยืน เดิน นั่ง นอน ท่านชอบอิริยาบถไหน เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2010, 03:30:37 pm
 :o :o :o :o
แบบชิว ๆ ท่านั่งครับ



สาธุ
200  ธรรมะสาระ / กระดานข่าวทางวัดแก่งขนุน / Re: มีบวชพระไหมครับ จะลางานบวชศึกษาหลักธรรมสักเดือน เมื่อ: มกราคม 03, 2010, 01:42:18 pm
ผมก็อยากบวชสักระยะครับ
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6