ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม  (อ่าน 2118 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ติดโซเชียลมีเดียเกินขนาด! นับถอยหลังโรคตาเสื่อม

ปัจจุบันโซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิงหรือผู้ชายต่างใช้โซเชียลมีเดียในการติดต่อสื่อสาร ทำให้เราใช้ดวงตามากจนไม่รู้ตัว จนเกิดเป็นอันตรายที่มาจากพฤติกรรมการติดจอที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตา
 
คนยุคใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์แบบ “ชีวิตติดจอ” ใช้จอต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น จอคอมพิวเตอร์ จอแท็บเล็ต หรือ จอสมาร์ทโฟน ในการอัพเดทสถานะ โซเชียลมีเดีย เล่นเกม ดูหนัง ดูซีรี่ส์ ส่งข้อความ ซื้อของออนไลน์ ค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต ทำให้เราใช้สายตาเพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว ซึ่งสถิติข้อมูลการใช้จอพบว่าอัตราการใช้สายตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์และจอต่างๆ ของคนไทยเฉลี่ยวันละ 7.2 ชั่วโมงเลยทีเดียว และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งการที่คนเราใช้สายตาส่วนใหญ่ในการจ้องมองหน้าจอ หรือจ้องตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงจอสมาร์ทโฟนนานๆ นั้น จะส่งผลให้กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก เพราะการเกร็งตาเป็นเวลานาน และลืมกระพริบตา เพิ่มโอกาสที่จะทำให้สายตาเสียได้มากขึ้น



อาการที่พบได้ในโรคนี้ทำให้เกิดอาการ ตาล้า ตาพร่า ตาเบลอ ตาแห้ง แสบตา สู้แสงไม่ได้ ซึ่งเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณไม่รู้ตัว และหากเราใช้สายตามากขึ้น ความรุนแรงของอาการจะยิ่งมากจนเกิดอาการคอมพิวเตอร์วิชัน ซินโดรม ซึ่งนอกจากจะมีอาการทางสายตาแล้ว ยังมีอาการของกล้ามเนื้อด้วย เช่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยบ่า ต้นคอ และอาจเป็นสาเหตุตูของโรคตาอื่นๆ เช่นต้อหิน ต้อกระจก ตามมาได้


วิธีดูแลดวงตา
1.จำกัดเวลาเล่น ตามความเหมาะสม
2.หางานอดิเรกใหม่ ๆ ทำ เพื่อเบนความสนใจของตัวเองเสียหน่อย ก็ออกกำลังกาย ทำสวน อ่านหนังสือ อาจช่วยให้คุณเพลินจนลืมท่องโซเชียลมีเดียไปเลยก็ได้

เราสามารถถนอมดวงตาได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกกินอาหารที่มีสารอาหารและวิตามินบำรุงสายตา อย่างผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่ อาทิ บลูเบอร์รี่และแบล็กเคอร์แรนต์ ที่มีงานวิจัยว่า มีสารแอนโธไซยานินสูง ช่วยป้องกันอนุมูลอิสระที่จะมาทำร้ายเซลล์ตา ช่วยให้การมองเห็นตอนกลางคืนดีขึ้น และช่วยเพิ่มการไหลเวียนในหลอดเลือดฝอยในดวงตา ช่วยคลายความเหนื่อยล้าของดวงตา รวมถึงช่วยป้องกัน และชะลอความเสื่อมจากโรคต้อกระจก และจอตาส่วนกลางเสื่อมสภาพได้ด้วย และ วิตามินเอที่ผลงานวิจัยระบุว่าช่วยในการมองเห็น และยังสามารถช่วยป้องกันการเกิดภาวะตาแห้งได้



อย่างไรก็ตาม หากจะต้องทำงานอยู่หน้าจอเป็นเวลานานๆ ควรหมั่นพักสายตาและกระพริบตาบ่อยๆ อย่างน้อย 10-15 ครั้งต่อนาที และทุกควรพักหลับตา หรือมองออกไปไกลๆ ประมาณ 2-3 นาที เท่านี้ก็สามารถถนอมสุขภาพตาเราไปได้อีกนานแม้จะอยู่หน้าจอกันมากกว่า 7.2 ชั่วโมงต่อวัน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก BRAND'S Veta http://www.facebook.com/BrandsVeta
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444289672
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0

     ดูสีมาก เสื่อมครับ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

suchin_tum

  • ไม่กลับมาเกิด
  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 486
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 :91:
    สงสัยจะมีส่วนค่ะ ที่ว่าตาเสื่อมเพราะบางคราว รู้สึก แสบตามาก ถ้าใช้เครื่องนานๆ
บันทึกการเข้า
ขอน้อมอาราธนากำลังแห่งครูอาจารย์กรรมฐานมัชฌิมาจงมาประสิทธิ์ประศาสตร์