ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อเทวดา ปรักปรำ พระ ว่าเป็นผู้ขโมยกลิ่นดอกบัว อ่านแล้วมีเรื่องให้คิดว่า...  (อ่าน 2205 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

waterman

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 302
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
เชิญอ่านกันก่อน นะครับ ส่วนประเด็น เดี๋ยวจะมาเปิด ครับ

ปทุมปุบผสูตรที่ ๑๔
http://www.84000.org...book=9&bookZ=33

อรรถกถาปทุมปุปผสูตรที่ ๑๔
http://www.84000.org....php?b=15&i=795

ในพระสูตรนี้ ไม่ได้มุ่งให้ความสำคัญว่าการที่พระภิกษุไปดมดอกไม้นั้นถือเป็นการขโมยกลิ่นนะครับ
เราลองอ่านอรรถกถานะครับ พระภิกษุรูปนี้ท่านเรียนกัมมัฏฐานในสำนักของพระศาสดาแล้วเข้าป่า
เพื่อบำเพ็ญสมณธรรม แต่พอเริ่มดมกลิ่นดอกไม้แล้ว
วันนี้ดมกลิ่นแล้ว ในวันพรุ่งนี้ แม้ในวันมะรืนนี้ก็จักดมกลิ่นอีก
ซึ่งจะทำให้ตัณหาในกลิ่นนั้นของภิกษุนั้นเพิ่มพูนขึ้น
และทำให้ประโยชน์ในชาตินี้ และในชาติหน้าของพระภิกษุนี้ พินาศไป
เทวดาเห็นเช่นนี้ จึงเข้าไปตักเตือนว่าพระภิกษุขโมยกลิ่น

พระภิกษุได้ยินเทวดาเตือนแล้ว ก็แย้งว่าตนเองไม่ได้ขโมย เพราะแค่ดมห่าง ๆ
แต่ดาบสอีกคนหนึ่งสิที่ไปเก็บดอกบัวขึ้นมาจากสระเลย จึงเรียกว่าขโมย
ทำไมเทวดาไม่ไปตำหนิดาบสนั้นล่ะ?

เทวดาตอบว่า ดาบสนั้นเป็นบุรุษผู้มีบาปหนา แปดเปื้อนด้วยกิเลสเกินเหตุ
เทวดาจึงไม่ได้ไปตักเตือนดาบสนั้น
แต่ว่าพระภิกษุท่านนี้ เป็นผู้มุ่งประพฤติพรหมจรรย์เพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์
ฉะนั้นแล้ว สำหรับพระภิกษุรูปนี้ แม้บาปประมาณเท่า “ปลายขนทราย”
ย่อมปรากฏประดุจเท่าก้อนเมฆในนภากาศ
ในการที่พระภิกษุเพียงแต่ยินดีในกามคุณด้วยการสูดดมกลิ่นหอม
เทวดาก็ถือว่าไม่สมควรทำแล้ว โดยถือว่าเป็นการลักขโมยกลิ่น

ภิกษุฟังเทวดาตอบแล้ว จึงเข้าใจว่าเทวดามาช่วยตักเตือนตนเองด้วยความเอ็นดู
จึงบอกเทวดาว่า หากเทวดาเห็นตนเองประพฤติเช่นนี้อีกเมื่อไรแล้ว ขอเทวดาได้ช่วยตักเตือนให้ด้วย

เทวดาบอกว่าตนเองไม่ได้พึ่งพาอาศัยพระภิกษุนี้ และไม่ได้มีความเจริญเพราะพระภิกษุนี้
พระภิกษุพึงรู้เองว่าพระภิกษุจะไปสุคติได้ด้วยกรรมใดที่พระภิกษุนั้นได้ทำ

สรุปคือ ท่านมุ่งเตือนให้พระภิกษุสลดใจ เพื่อไม่ให้พระภิกษุปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของตัณหาในกลิ่น
เทวดาไม่ได้มุ่งจะมาปรับอาบัติพระภิกษุครับ กล่าวคือเทวดาไม่ได้มุ่งคุยเรื่องพระวินัย
แต่มุ่งเตือนในแง่ของการสำรวมอินทรีย์มากกว่า
บันทึกการเข้า

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
เจตนา ของ เทวดา คือ เตือนให้พระอย่ามัวติด รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส จิตที่ชื่นชอบในโลก ย่อมติดอยู่ในโลกฉันใด จิตที่ไม่ได้ฝึกฝน ย่อมวนเวียนหาแต่กามคุณ 5 อยู่ร่ำไป

   ผู้ฝึกจิตดีแล้ว ย่อมถึงธรรมอันเป็นแก่นสาร

  เจริญธรรม ยามเช้า


 
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา