หัวข้อ: สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เริ่มหัวข้อโดย: GodSider ที่ เมษายน 28, 2012, 01:19:58 pm สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ
คือมีผู้กล่าวว่าการสวดมนต์ เป็นบุญ ผมก็เลยไปสวดเป็นภาษาบาลีกับเพื่อน ๆ กันครับ แต่ต่อมาก็มีผู้พูดกับกลุ่มพวกเราว่า สวดบาลีไม่ได้บุญหรอก ต้องสวดแปล หรือ เป็นไทย จะได้บุญมาก พวกเราก็เลยมาสวดมนต์แปล แต่ต่อมาก็มีคนเอา ซีดี สวดมนต์ภาษาธิเบต และ จีนมาบอก ฟัง สวดแบบนี้ จะได้บุญมากกว่า พวกเราก็เลยเกิดความสงสัยว่า สวดมนต์แบบไหน จะได้บุญมากกว่ากันครับ :c017: :smiley_confused1: หัวข้อ: Re: สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ เมษายน 29, 2012, 08:27:16 am (http://i1239.photobucket.com/albums/ff517/phoozaza/BUDDHA_CREEK_by_VISHNU108.gif)
การสวดมนต์ เป็นการเจริญอนุสสติอย่างหนึ่ง หากแต่บุคคลรู้ใช้ฉลาดชีวิตก็พลาดน้อย ทีนี้มีข้อสังเกตอยู่อย่างว่า หลากหลายสำนักต่างก็มีแบบแผนเฉพาะซึ่งก็พิศดารประยุกต์นำมาใช้บ้างก็ไม่ผิด เพียงเราสนใจจัดลำดับเรียงบท ก็คละใช้ไปกันได้ อย่ากังวล! สิ่งสำคัญในคำถามมีอยู่เพียงว่าแปลดีหรือไม่ ก็ขอบอกอย่างนี้ครับว่า ไม่แปลแล้ว สวดเป็นสมถะ สวดแปลเป็นวิปัสสนา ในส่วนตัวผมนั้นชอบไม่แปล และไม่ต้องเข้าใจความหมาย พจน์วจนะผูก แล้วด้วยใจที่หมดจดด้วยมคธภาษาผู้ใดใช้เจริญสติแห่งตนแก่ตนย่อมเป็นมงคล เพราะสิ่งนี้คนสวดเทวดาฟังผีสาง หนี ดังนั้นสวดเจริญไว้เนืองเนืองไปไหนไม่มีภัยครับ สำหรับภาษาวัฒนธรรมนำบทสวดที่ต่างสำนวนกันก็สามารถ นำมาคละได้ถ้าชอบสวดได้ใจสงบ ฟังแล้วหย่อนคลายได้ไม่ฟุ้งก็เห็นดีด้วย จุดหลักสำคัญใจต้องผยุงรักษาให้ ผ่องแผ้วคติจะดีแก่ตัว สำหรับศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นสวดกันแบบไม่แปลครับ (http://6.share.photo.xuite.net/lam1112/1699a59/4212433/163338120_l.jpg) (http://6.share.photo.xuite.net/lam1112/1699a5d/4212433/163338124_l.jpg) http://phooza.exteen.com/20110902/entry-1 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=chomporn&month=23-11-2011&group=20&gblog=26 (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=chomporn&month=23-11-2011&group=20&gblog=26) หัวข้อ: Re: สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ เมษายน 29, 2012, 11:19:46 am ถ้าเรามาดูกันใน ส่วนที่ ๑ ในสมัยพุทธกาล ก็มีหลากหลายภาษา แต่พระพุทธองค์ก็เลือกที่จะใช้ภาษามคธในการเผยแผ่ (เหล่าเทวดา และสัตว์ในภพภูมิต่างๆก็ใช้กัน) น่าจะเป็นที่สุดของการตัดสินถ้าเราเคารพในการตัดสินใจของพุทธองค์
ในส่วนที่ ๒ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล จนถึงสมัยล้านนาไทยเรา ก็ยังคงเป็นภาษาบาลี (มคธ) ในส่วนที่ ๓ ส่วนสุดถ้าย แม้ปัจจุบัน ไทยเราก็คงยังสวดกันเป็นภาษาบาลี มีข้อสังเกตุอยู่อีกอย่าง : คือ เวลา ว่า คาถา ก็มักจะเป็นบาลี เช่น นะ โม พุท ธา ยะ หรืออย่างที่มีมาในพระไตรปิฏก : ในเรื่องของอาฏาอาฏิยะสูตร ที่ท้าวสักกะเทวราช ได้ให้มนต์กับพุทธองค์ไว้ ก็เป็นภาษาบาลี (มคธ) เคยอ่านเจออยู่ว่า ในอดีต ได้มีครูบาอาจารย์ ได้ท่อง ได้อ่าน ได้สวด เป็นบาลีมิใช่น้อย (พลังได้ถูกสะสมอยู่มาก)จึงมีความสักสิทธิมาก แต่ถ้าผู้สวดมิได้รู้มิได้เข้าใจในภาษาบาลี ต้องการให้เกิดปัญญา เพื่อจะได้นำไปใช้นำไปปฏิบัติ จึงจะอาศัยการแปลไว้ด้วย เพื่อให้ได้รู้ จะได้นำไปปฏิบัติ ก็เข้าถ้าอยู่ อย่างเช่น บทมังคะละสุตตัง(มงคล๓๘ประการ)พระสูตรที่ว่าด้วยความเป็นมงคล ที่ในอดีตทั้งมนุษย์และเทวดาได้เถียงกัน ว่าอะไรเป็นมงคล ถ้าสวดบทนี้แล้วแต่ทำตรงกันข้าม คือไม่ได้นำไปใช้ นำไปปฏิบัติตาม ความเป็นมงคลคงจะเกิดได้น้อย แต่ถ้านำเอาคำสอนในพระสูตรไปปฏิบัติ คงจะเห็นประโยชน์จากการสวดมนต์ จากการทวนมนต์ จากการทวนคำสอน ทบทวนคำสอน ได้ประโยชน์มากได้บุญมาก แต่ถ้าจะสวดแปลกันอย่างเดียวเลย มิมีบาลีเลย เกรงของเก่าจะหาย แต่ถ้ารู้และเข้าใจในบาลีได้ดีอยู่แล้ว ก็ดี ครบเลย ไม่เกิดปัญหาใดๆ เพราะรู้ที่สวดอยู่แล้ว ไม่ต้องแปล ถ้าผู้รู้ภาษามากกว่าหนึ่งภาษามาคุยกัน ก็คงจะเข้าใจว่า บางครั้ง คำบางคำ ในภาษานึงไม่มีคำแปลที่จะแปลในอีกภาษานึงได้ตรงอย่างถูกต้อไม่ผิดเพี้ย คงต้องใช้หาคำำที่ไกล้เคียงมาแปลแทน อย่างเช่น คำว่า เกรงใจ ในภาษาไทย ตอนที่มีโอกาสได้ไปอยู่ที่ต่างประเทศ ก็ถามฝรั่งว่า จะพูดว่า ผมนะเกรงใจเขาเหลือเกินไม่อยากจะไปที่บ้านเขา ได้รับคำตอบมาว่า "ไม่มี" ฝรั่งไม่มีเกรงใจ ( :85: ) คือวัฒนธรรมฝรั่ง ถ้าเขาไม่ได้อยากให้เราไปเขาก็จะไม่เอ่ยปากชวน แต่ถ้าได้เอ่ยปากชวนเลย ก็เป็นมารยาทที่เขาทำกันถ้าชวนแล้วก็ต้องไป ถ้าไม่ไปนี้สิเรื่องใหญ่เขาถือว่าไม่ให้เกียรติเขา แต่คนไทยเราถ้าจะมีมารยาท คือต้องรู้จักเกรงใจ ฝรั่งเขาก็เลยเข้าไม่ถึง ความคิดความรู้สึกของคนไทย และก็ เช่นกัน ในภาษาบาลี ผู้ที่เข้าใจเข้าถึง ก็จะรู้สึกถึงของอารมณ์ของสัจจะ เกิดปิติธรรมได้ หัวข้อ: Re: สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ เมษายน 29, 2012, 09:12:58 pm (http://www.henghengheng.com/images/column_1260598303/1261200015.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗ จุลวรรค ภาค ๒ [๑๘๐] สมัยนั้น ภิกษุสองรูปเป็นพี่น้องกัน ชื่อเมฏฐะและโกกุฏฐะเป็นชาติพราหมณ์ พูดจาอ่อนหวาน เสียงไพเราะ เธอสองรูปนั้นเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ถวายบังคม นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วกราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า บัดนี้ ภิกษุทั้งหลายต่างชื่อ ต่างโคตร ต่างชาติ ต่างสกุลกันเข้ามาบวช พวกเธอจะทำพระพุทธวจนะให้ผิดเพี้ยนจากภาษาเดิม ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย ไฉน พวกเธอจึงได้กล่าวอย่างนี้ว่า ผิฉะนั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย จะขอยกพระพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต ดังนี้เล่า ดูกรโมฆะบุรุษทั้งหลาย การกระทำของพวกเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส ... ครั้นแล้วทรงทำธรรมีกถา รับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงยกพุทธวจนะขึ้นโดยภาษาสันสกฤต รูปใดยกขึ้น ต้องอาบัติทุกกฏ เราอนุญาตให้เล่าเรียนพุทธวจนะตามภาษาเดิม ฯ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ บรรทัดที่ ๑๓๑๕ - ๑๓๒๗. หน้าที่ ๕๔ - ๕๕. http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=1315&Z=1327&pagebreak=0 (http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=1315&Z=1327&pagebreak=0) ขอบคุณภาพจาก http://www.henghengheng.com/ (http://www.henghengheng.com/) พุทธฝ่ายเถรวาท จะไม่สวดมนต์เป็นภาษาอื่นๆ...ขอรับ เพราะในพระวินัยได้บัญญัติเอาไว้ ใ่ห้ใช้ภาษาเดิมเท่านั้น คือ บาลี ส่วนเรื่องบุญที่ได้จากการสวดมนต์ ขอตอบง่ายๆว่า ขณะสวดจิตเป็นสมาธิก็จะได้บุญมากกว่า การทำทานและถือศีล แต่ถ้าสวดแล้วจิตยกขึ้นสู่วิปัสสนาได้ ก็จะได้บุญมากกว่าจิตที่เป็นสมาธิ :25: หัวข้อ: Re: สวดมนต์ เป็นบาลี กับ สวดมนต์ เป็นจีน ธิเบต หรือ ไทย อย่างไหนได้บุญมากกว่ากันครับ เริ่มหัวข้อโดย: sayamol ที่ เมษายน 30, 2012, 09:40:20 am อ้างถึง พุทธฝ่ายเถรวาท จะไม่สวดมนต์เป็นภาษาอื่นๆ...ขอรับ คำตอบ ยอดเยี่ยมใส กระจ่างแจ้ง เลยคะ :25: :25: :25: |