พิมพ์

[raponsan]

ภาพจากเฟซบุ๊ก กลุ่มรักอยุธยา

"วัดพนัญเชิงฯ" ขึ้นป้ายประกาศ"ย้ายสุสานพันหลุม"
ทำที่จอดรถ สร้างตึกอาพาธสงฆ์ สถานที่ปฎิบัติธรรม

พระนครศรีอยุธยา - วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา ประกาศย้ายสุสานกว่า 1,000 หลุมออกจากที่ดินของวัด เพื่อปรับภูมิทัศน์ทำที่จอดรถ สร้างตึกอาพาธสงฆ์ และสถานที่ปฎิบัติธรรมรับอาเซี่ยน รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงเผยก่อนหน้านี้ทางวัดได้รับร้องเรียนว่ามีการนำหลุมฝังศพไปจำหน่ายในราคาไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาทเก็บเงินค่าผลประโยชน์กัน ทำให้วัดต้องชี้แจงอยู่ตลอด โดยทางวัดไม่เคยมีนโยบายขายหลุมฝังศพแต่อย่างใด
       
       วันนี้ (10 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาว่า นายวินัย อัศวราชันย์ ประธานมูลนิธิวัดพนัญเชิง หรือ เซี่ยงเต็กตึ๊ง ซึ่งเป็นผู้ดูแลหลุมฝังศพของมูลนิธิ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้ที่มีหลุมศพของบรรพบุรุษนับพันรายออกจากที่ดินของวัดพนัญเชิงวรวิหาร ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลุมฝังศพจำนวนมากมีบรรพบุรุษของคนไทยเชื้อสายจีนที่ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ พ่อค้า คหบดี และญาตินักการเมืองด้วย
       

       โดยทานมูลนิธิวัดพนัญเชิง หรือ เซี่ยงเต็กตึ๊ง แจ้งว่า ได้รับอนุญาตจากทางวัดให้ดำเนินการเกี่ยวกับจัดทำสุสานฝังศพคนไทยเชื้อสายจีน ตั้งแต่ปี 2495 จนถึงปัจจุบันมีหลุมศพทั้งสิ้น 1,677 หลุม ซึ่งขณะนี้ทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายแจ้งให้มูลนิธิฯทราบถึงการใช้ที่ดินของวัดโฉนดเลขที่ 9149 เลขที่ดิน 126 ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 20 ไร่เศษนั้น

        ทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร ประสงค์จะทำที่ดินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ในกิจการของวัด จึงจำเป็นต้องแจ้งให้ทางทายาทและบริวารลูกหลานได้ขนย้าย รื้อถอนทรัพย์สินออกไปจากที่ดินของวัดและส่งมอบที่ดินคืนให้วัดในสภาพเรียบร้อยภายใน 1 ส.ค.2557 ซึ่งหากไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
       
       

       นายวินัย อัศวราชันย์ ประธานมูลนิธิวัดพนัญเชิง หรือ เซี่ยงเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้เจรจากันในชั้นพนักงานอัยการเพื่อขอไกล่เกลี่ยแล้ว แต่เป็นเรื่องที่ทางวัดได้ดำเนินการตามกฎหมาย ขอปฎิเสธที่จะพูดในรายละเอียด

       สำหรับผู้ที่เป็นลูกหลานของบรรพบุรุษที่ฝังอยู่ในสุสานวัดพนัญเชิงวรวิหารหลายราย กล่าวว่า หากทางวัดต้องการให้ย้ายก็คงจำเป็นต้องดำเนินการ เนื่องจากมีข้อกฎหมาย แต่ก็รู้สึกเสียใจที่ต้องย้าย หรือขุดศพของบรรพบุรุษขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนจะย้ายไปสุสานอื่น หรือจะฌาปนกิจหรือไม่หลายคนก็อยู่ระหว่างการตัดสินใจ
       

       
       
       ด้านพระมหาเชิดชัย กตปุญโญ รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร รองเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เรื่องการย้ายสุสานครั้งนี้ได้หารือกันมานานพอสมควร วัตถุประสงค์แรก คือ รองรับการเปิดเป็นประชาคมอาเซี่ยนในอีกสองปีข้างหน้า มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนว่ามาวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไม่มีสถานที่จอดรถ เข้าออกวัดไม่สะดวก
       
       อีกทั้งในฐานะที่เป็นวัดที่พระเทพรัตนากร เจ้าอาวาสวัดและเจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่ที่นี่ ทราบว่ามีพระที่อาพาตไม่มีญาติโยมดูแลจึงคิดสร้างตึกอาพาธสงฆ์ และสถานที่ปฎิบัติธรรม โดยเลือกที่จะใช้ส่วนที่เป็นที่ดินของวัดที่ใช้เป็นสุสาน
       

       พระมหาเชิดชัย กตปุญโญ รองเจ้าอาวาสวัดพนัญเชิงวรวิหาร กล่าวยืนยันว่า ทางวัดไม่ได้นำที่ดินดังกล่าวไปหาผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือสร้างอาคารพาณิชย์อย่างที่มีหลายคนเข้าใจ โดยจะให้เวลาการเคลื่อนย้ายหลุมศพภายใน 1 ปี ซึ่งบางคนก็ย้ายไปสุสานอื่นได้ไม่ได้ผิดอะไร เหมือนซื้อบ้านใหม่ให้บรรพบุรุษ ส่วนใครที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจก็ทำได้ ทางวัดก็จะสร้างกำแพงให้เก็บอัฐฐิเพื่อที่จะเก็บเอาไว้ทำบุญในเทศกาลสำคัญต่างๆเหมือนเดิม โดยผู้ที่มีหลุมศพเมื่อนำมาเก็บก็จะไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
       
       "นอกจากเรื่องของความจำเป็นในการใช้ที่ดินแล้ว ก่อนหน้านี้ทางวัดก็ได้รับร้องเรียนว่า มีการนำหลุมฝังศพไปจำหน่ายในราคาไม่ต่ำกว่า 3 แสนบาท เก็บเงินค่าผลประโยชน์กัน ทำให้วัดต้องชี้แจงอยู่ตลอด โดยทางวัดไม่เคยมีนโยบายขายหลุมฝังศพแต่อย่างใด"

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000127637

[Jojo]

คนตายไม่รู้เรื่อง คนเป็นก็ต้องเดือดร้อนต่อไป
ความตายเป็นทุกข์ ความเป็นอยู่ก็เป็นทุกข์

  ลูกหลานชาวจีน จ่ายเงินกันมากมายเพื่อ ฝังพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ตามความเชื่อ เรามีญาตเป็นชาวจีนเช่นกัน แค่โลงจำปานั้น ก็ 60000 บาท แล้ว ค่าพิธิกงเต็ก อีก ค่าเคลื่อนย้าย ทำสุสาน อีก ไม่ใช่เงิน บาท สอง บาท เป็น แสน ค่าที่ดินสุสาน เป็นธรรมเนียมกันตั้งแต่ 50000 ขึ้นไป