หัวข้อ: บูชา "พรหม" ด้วยอาหาร มีอานิสงส์หรือไม่.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 19, 2015, 11:12:59 am (http://www.thairath.co.th/media/EyWwB5WU57MYnKOuFZlJkaa2HLXTaoAuGmmwt4Yb3I7hZjj56FPAGL.jpg) บูชา "พรหม" ด้วยอาหาร มีอานิสงส์หรือไม่.? [๕๖๓] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามแห่งท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ฯ ก็สมัยนั้นแล บุตรแห่งนางพราหมณีคนหนึ่ง ชื่อพรหมเทวะ ออกบวชในสำนักของพระผู้มีพระภาค ครั้งนั้นแล ท่านพระพรหมเทวะเป็นผู้เดียวหลีกออกแล้ว ไม่ประมาท มีความเพียร มีตนอันส่งไปแล้ว อยู่ไม่นานเท่าไรก็ได้กระทำให้แจ้งประโยชน์ที่กุลบุตรทั้งหลายผู้ออกจากเรือน บวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องประสงค์อันนั้นอย่างยอดเยี่ยม เป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ เพราะรู้แจ้งชัดเองในปรัตยุบันนี้แหละเข้าถึงอยู่ ท่านได้ทราบว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่จะต้องทำ ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้อีกมิได้มี ก็แหละท่านพรหมเทวะได้เป็นพระอรหันต์องค์หนึ่งในบรรดาพระอรหันต์แล้ว ฯ [๕๖๔] ครั้งนั้นแล ท่านพระพรหมเทวะ ในเวลารุ่งเช้านุ่งห่มแล้ว ถือบาตรจีวรเข้าไปบิณฑบาตในพระนครสาวัตถี ท่านเที่ยวบิณฑบาตในพระนครสาวัตถีตามลำดับตรอก เข้าไปยังนิเวศน์แห่งมารดาของตนแล้ว ฯ ก็สมัยนั้นแล นางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะถือการบูชาบิณฑะแก่พรหมมั่นคงเป็นนิตย์ ฯ ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมคิดว่า นางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะนี้แล ถือการบูชาบิณฑะแก่พรหมมั่นคงเป็นนิตย์ ไฉนหนอ เราพึงเข้าไปหานางแล้วทำให้สลดใจ ฯ (https://ajarnwichien.files.wordpress.com/2013/05/129.jpg) [๕๖๕] ลำดับนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมหายไปในพรหมโลก ปรากฏแล้วในนิเวศน์ของมารดาแห่งท่านพระพรหมเทวะ เปรียบเหมือนบุรุษผู้มีกำลังพึงเหยียดออกซึ่งแขนที่คู้เข้าแล้ว หรือพึงคู้เข้าซึ่งแขนที่เหยียดออกแล้ว ฉะนั้น ฯ ครั้งนั้นแล ท้าวสหัมบดีพรหมลอยอยู่ในอากาศ ได้กล่าวกะนางพราหมณีผู้มารดาของท่านพระพรหมเทวะด้วยคาถาทั้งหลายว่า ดูกรนางพราหมณี ท่านถือการบูชาด้วยก้อนข้าวแก่พรหมใดมั่นคงเป็นนิตย์ พรหมโลกของพรหมนั้นอยู่ไกลจากที่นี้ ดูกรนางพราหมณี ภักษาของพรหมไม่ใช่เช่นนี้ ท่านไม่รู้จักทางของพรหม ทำไมจึงบ่นถึงพรหม ฯ :25: :25: :25: :25: :25: ดูกรนางพราหมณี ก็ท่านพระพรหมเทวะของท่านนั้น เป็นผู้หมดอุปธิกิเลส ถึงความเป็นอติเทพ ไม่มีกิเลสเป็นเครื่องกังวล มีปรกติขอ ไม่เลี้ยงดูผู้อื่น ท่านพระพรหมเทวะที่เข้าสู่เรือนของท่านเพื่อบิณฑบาต เป็นผู้สมควรแก่บิณฑะที่บุคคลพึงนำมาบูชา ถึงเวท มีตนอันอบรมแล้ว สมควรแก่ทักษิณาทานของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย ลอยบาปเสียแล้ว อันตัณหาและทิฐิไม่ฉาบทาแล้ว เป็นผู้เยือกเย็นกำลังเที่ยวแสวงหาอาหารอยู่ ฯ อดีตอนาคตไม่มีแก่ท่านพระพรหมเทวะนั้น ท่านพระพรหมเทวะเป็นผู้สงบระงับ ปราศจากควัน ไม่มีทุกข์ ไม่มีความหวัง วางอาชญาในปุถุชนผู้ยังมีความหวาดหวั่น และพระขีณาสพผู้มั่นคงแล้ว ขอท่านพระพรหมเทวะนั้นจงบริโภคบิณฑบาตอันเลิศที่สำหรับบูชาพรหมของท่าน ฯ (http://f.ptcdn.info/039/024/000/1412211834-IMG0044-o.jpg) ท่านพระพรหมเทวะซึ่งเป็นผู้มีเสนามารไปปราศแล้ว มีจิตสงบระงับ ฝึกตนแล้ว เที่ยวไปเหมือนช้างตัวประเสริฐ ไม่หวั่นไหว เป็นภิกษุมีศีลดี มีจิตพ้นวิเศษแล้ว ขอท่านพระพรหมเทวะนั้น จงบริโภคบิณฑบาตอันเลิศที่สำหรับบูชาพรหมของท่าน ฯ ท่านจงเป็นผู้เลื่อมใสในท่านพระพรหมเทวะนั้น เป็นผู้ไม่หวั่นไหว ตั้งทักษิณาไว้ในท่านผู้เป็นทักษิเณยยบุคคล ดูกรนางพราหมณี ท่านเห็นมุนีผู้มีโอฆะอันข้ามแล้วจงทำบุญ อันจะนำความสุขต่อไปมาให้ ฯ ท่านจงเป็นผู้เลื่อมใสในท่าน พระพรหมเทวะนั้นเป็นผู้ไม่หวั่นไหว ตั้งทักษิณาไว้ในท่านผู้เป็นทักษิเณยยบุคคล ดูกรนางพราหมณี ท่านเห็นมุนีผู้มีโอฆะอันข้ามแล้ว ได้ทำบุญอันจะนำความสุขต่อไปมาให้แล้ว ฯ อ้างอิง :- พรหมเทวสูตรที่ ๓ พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เนื้อความพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๔๕๓๕-๔๕๘๙. หน้าที่ ๑๙๖-๑๙๘. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4535&Z=4589&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=4535&Z=4589&pagebreak=0) ขอบคุณภาพจาก http://www.thairath.co.th/ (http://www.thairath.co.th/) https://ajarnwichien.files.wordpress.com/ (https://ajarnwichien.files.wordpress.com/) http://f.ptcdn.info/ (http://f.ptcdn.info/0) หัวข้อ: Re: บูชา "พรหม" ด้วยอาหาร มีอานิสงส์หรือไม่.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 19, 2015, 11:41:42 am (https://images.trvl-media.com/media/content/shared/images/travelguides/destination/178236/Erawan-Shrine-28105.jpg) นางพราหมณีถวายอาหารให้พรหม แต่ไม่ถวายให้อรหันต์ผู้เป็นบุตร ก็มารดาของเขาพอเห็นบุตรก็ออกจากเรือนพาเข้าไปภายในที่อยู่ ให้นั่งบนอาสนะที่ปูลาดไว้. บทว่า อาหุตึ นิจฺจํ ปคฺคณฺหาติ ความว่า รับของบูชาคือบิณฑะก้อนข้าวในกาลเป็นนิจ. ก็ในวันนั้นมีพลีกรรมเพื่อภูตในเรือนนั้น. ทุกเรือนทาสีเขียวมีข้าวตอกเกลื่อนกลาด แวดล้อมด้วยทรัพย์และดอกไม้ ยกธงชัยธงปฏาก ขึ้นตั้งหม้อน้ำมีน้ำเต็มไว้ในที่นั้นๆ จุดประทีปสว่าง ประดับด้วยผงของหอมและดอกไม้เป็นต้น. ได้มีแว่นเวียนเทียนถือส่งต่อกันไปโดยรอบ. นางพราหมณี แม้นั้นลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ อาบน้ำหอม ๑๖ หม้อ ตกแต่งร่างกายด้วยเครื่องประดับพร้อมสรรพ. สมัยนั้น นางให้พระมหาขีณาสพนั่งแล้ว มิได้ถวายแม้เพียงข้าวยาคูกระบวยหนึ่ง คิดว่า เราจักให้มหาพรหมบริโภค บรรจุข้าวปายาสเต็มถาดทอง ปรุงด้วยเนยใสน้ำผึ้งและน้ำตาลกรวดเป็นต้น ที่หลังบ้านมีพื้นที่ที่ประดับด้วยของทาสีเขียวเป็นต้น นางถือถาดนั้นไปที่นั้น วางก้อนข้าวปายาสตรงที่ ๔ มุมและตรงกลางแห่งละก้อน ถือไปก้อนหนึ่ง มีเนยใสไหลลงถึงข้อศอก คุกเข่าบนแผ่นดิน กล่าวเชิญพรหมให้บริโภคว่า ขอท่านมหาพรหมจงบริโภค ขอท่านมหาพรหมจงนำไป ขอมหาพรหมจงอิ่มหนำ ดังนี้. กลิ่นศีลของอรหันต์ฟุ้งไปถึงพรหมโลก บทว่า เอตทโหสิ ความว่า ความคิดนี้ได้มีแก่ ท้าวสหัมบดีพรหมผู้สูดกลิ่นศีลของพระมหาขีณาสพ ซึ่งท่วมเทวโลกฟุ้งไปถึงพรหมโลก. บทว่า สํเวเชยฺยํ ได้แก่ พึงตักเตือน คือพึงให้ประกอบในสัมมาปฏิบัติ. อธิบายว่า จริงอยู่ นางพราหมณีนั้นให้พระมหาขีณาสพผู้เป็นอัครทักขิไณยบุคคลเห็นปานนี้ นั่งแล้ว มิได้ถวายอาหารแม้เพียงข้าวยาคูกระบวยหนึ่ง คิดว่า เราจักให้มหาพรหมบริโภค ดุจทิ้งตาชั่งเสียแล้วใช้มือชั่ง ดุจทิ้งกลองเสียแล้วประโคมท้อง ดุจทิ้งไฟเสียแล้วเป่าหิ่งห้อย เที่ยวทำพลีแก่ภูต เราจักไปทำลายมิจฉาทิฏฐิของนาง ยกนางขึ้นจากทางแห่งอบาย จะกระทำโดยวิธีให้นางหว่านทรัพย์ ๘๐ โกฏิลงในพระพุทธศาสนาแล้วขึ้นสู่ทางสวรรค์. (http://images.trvl-media.com/media/content/shared/images/travelguides/destination/178236/Erawan-Shrine-28111.jpg) จากพรหมโลกถึงโลกมนุษย์มีระยะทาง ๔๘,๐๐๐ โยชน์ บทว่า ทูเร อิโต ความว่า ไกลจากที่นี้. จริงอยู่ ก้อนศิลาขนาดเท่าเรือนยอดตกจากพรหมโลก วันหนึ่งคืนหนึ่งสิ้นระยะทาง ๔๘,๐๐๐ โยชน์ ใช้เวลาถึง ๔ เดือน โดยทำนองนี้ จึงตกถึงแผ่นดิน พรหมโลกชั้นที่ต่ำกว่าเขาหมดอยู่ไกลอย่างนี้. บทว่า ยสฺสาหุตึ ความว่า โลกของพรหมที่นางพราหมณีบูชาด้วยก้อนข้าว อยู่ไกล. อาหารของพรหม คือ 'ปิติ' จากฌาน ๔ ในบทว่า พฺรหฺมปถํ นี้ มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้ ท้าวมหาพรหมกล่าวว่า ชื่อว่าทางของพรหม ได้แก่กุศลฌาน ๔ ส่วนวิบากฌาน ๔ ชื่อว่าเป็นทางชีวิตของพรหมเหล่านั้น เธอไม่รู้ทางของพรหมนั้น กระซิบอยู่ทำไม เพ้ออยู่ทำไม. จริงอยู่ พรหมทั้งหลายย่อมยังอัตภาพให้เป็นไปด้วยฌานที่มีปีติ หาได้ใส่ข้าวสารแห่งข้าวสาลีและเคี้ยวกินน้ำนมที่เคี่ยวแล้วไม่ ท่านอย่าลำบาก เพราะสิ่งที่ไม่ใช่เหตุเลย ครั้นกล่าวอย่างนี้แล้ว จึงประคองอัญชลี แล้วย่อตัวเข้าไปชี้พระเถระอีกกล่าวว่า ดูก่อนนางพราหมณี ก็ท่านพระพรหมเทวะของท่านนี้ ดังนี้เป็นต้น. อ้างอิง :- อรรถกถา สังยุตตนิกาย สคาถวรรค พรหมสังยุต ปฐมวรรคที่ ๑ พรหมเทวสูตรที่ ๓ http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=563 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=563) ขอบคุณภาพจาก http://images.trvl-media.com/ (http://images.trvl-media.com/) หัวข้อ: Re: บูชา "พรหม" ด้วยอาหาร มีอานิสงส์หรือไม่.? เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ กันยายน 19, 2015, 01:57:55 pm ปัญหาในปัจจุบัน พรหม ไม่ได้ลง มาพูด แบบ ในครั้ง พุทธกาล ว่า ถวายสักการะ แก่พระอริยะ ดีกว่า ถวายกับพรหม เพราะพรหม ไม่สนใจใจสักการะเหล่านั้น ด้วย พรหม ไม่บริโภคอาหารอันหยาบ
:49: |