พิมพ์

[prayong]

คือยังไม่ค่อยจะเข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจเลย กับ คำว่า จิตสัมผัส คะ

หมายถึง จิต ของเรา ที่กระทบ กับ สิ่งที่ลึกลับ ใช่หรือไม่คะ

 จิตสัมผัส ฝึกได้หรือไม่ คะ จัดเป็นญาน ไหนคะ

 จิตสัมผัส เป็นเรื่องที่มีมาเฉพาะตนหรือไม่คะ

 จิตสัมผัส ที่โฆษณากันอยู่ ปัจจุบันนี้ จริง หรือ หลอกลวง คะ

 

[timeman]

จิตสัมผัส น่าจะเป็น จิตของคนที่พลัง พิิเศษ เหนือมนุษย์ นะครับ

อาจจะเป็นมาแต่กำเนิด ประเภท x-man ก็ได้นะครับ

  ดังนั้น พวกที่มาสัมผัสพิเศษ เรียกว่า พวกจิตสัมผัส ก็น่าจะได้นะครับ
ที่นี้ เรื่องที่สัมผัส ได้ ก็จะเป็นเรื่องที่คนทั่วไไปไม่สามารถ สัมผัสได้

เช่น บางคนอาจจะมีสัมผัส พิเศษ ที่สามารถสื่อกับวิญญาณ ต่าง ๆ ได้ เป็นต้น ( อันนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล )
จึงเป็นเรื่องที่พิสูจน์ ยาก มาก ๆ ที่จะจริง หรือ ไม่จริง เพราะผมเคยทดสอบมา บางทีก็แม่น บางทีก็ไม่แม่น
จึงไม่อยากให้เป็นผลสรุป นะครับ

 

[raponsan]

คือยังไม่ค่อยจะเข้าใจ หรือ ไม่เข้าใจเลย กับ คำว่า จิตสัมผัส คะ

หมายถึง จิต ของเรา ที่กระทบ กับ สิ่งที่ลึกลับ ใช่หรือไม่คะ

 จิตสัมผัส แปลตรงๆ ก็ควรเป็น ใจรู้ ในทางบาลีที่ใกล้เคียงก็คือ

 ญาณทัศนะ, ญาณทัสสนะ การเห็นกล่าวคือการหยั่งรู้, การเห็นที่เป็นญาณ หรือเห็นด้วยญาณ อย่างต่ำสุดหมายถึง วิปัสสนาญาณ

       นอกนั้นในที่หลายแห่งหมายถึง บ้าง มรรคญาณบ้าง และในบางกรณีหมายถึง ผลญาณบ้าง ปัจจเวกขณญาณบ้าง สัพพัญญุตญาณบ้าง ก็มี ทั้งนี้สุดแต่ข้อความแวดล้อมในที่นั้นๆ

อ้างอิง พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์

    ส่วนตัวแล้ว คำว่า"จิตสัมผัส" ที่กล่าวกันในสื่อทั่วไปน่าจะหมายถึง "ทิพพจักขุญาณ"

ซึ่งหมายถึง "คนมีตาทิพย์" นั่นเอง

 จิตสัมผัส ฝึกได้หรือไม่ คะ จัดเป็นญาน ไหนคะ

 การได้มาซึ่ง "ทิพพจักขุญาณ" ต้องฝึกสมาธิเป็นหลัก แนวกรรมฐานมัชฌิมาฯ เป็น "เจโตวิมุตติ"

หมายถึง การใช้กำลังสมาธิเพื่อการหลุดพ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ชอบ"อิทธิฤทธิ์"(อภิญญา)

หากคุณ prayong สนใจก็มาร่วมฝึกได้ ส่วนในรายละเอียดจะไม่ขอกล่าวถึง

การมีตาทิพย์ คือ การเห็นได้ ทั้งปัจจุบัน อดีต และอนาคต


อภิญญา ๖ (ความรู้ยิ่งยวด )

๑. อิทธิวิธา หรือ อิทธิวิธิ (ความรู้ที่ทำให้แสดงฤทธิ์ต่างๆได้ )
๒. ทิพพโสต (ญาณที่ทำให้มีหูทิพย์ )
๓. เจโตปริยญาณ (ญาณที่ให้กำหนดใจคนอื่นได้)
๔. ปุพเพนิวาสานุสสติ (ญาณที่ทำให้ระลึกถึงชาติได้)
๕. ทิพพจักขุ (ญาณที่ทำให้มีตาทิพย์)
๖. อาสวักขยญาณ (ญาณที่ทำให้อาสวะสิ้นไป)
 
ห้าข้อแรกเป็นโลกียะ (โลกียอภิญญา)   ข้อท้ายเป็นโลกุตตระ.

อ้างอิง  ที.ปา.๑๑/๔๓๑/๓๐๗; องฺ.ฉกฺก.๒๒/๒๗๓/๓๑๑

ญาณ ๓ (ความหยั่งรู้, ปรีชาหยั่งรู้)
๑. อตีตังสญาณ (ญาณหยั่งรู้ส่วนอดีต, รู้อดีตและสาวหาเหตุปัจจัยอันต่อเนื่องมาได้)
๒. อนาคตังสญาณ (ญาณหยั่งรู้ส่วนอนาคต, รู้อนาคต หยั่งผลที่จะเกิดสืบต่อไปได้)
๓. ปัจจุปันนังสญาณ (ญาณหยั่งรู้ส่วนปัจจุบัน, รู้ปัจจุบัน กำหนดได้ถึงองค์ประกอบและเหตุปัจจัยของเรื่องที่เป็นไปอยู่)

อ้างอิง ที.ปา๑๑๓๙๖๒๙๒.

ที่มา  พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์

 จิตสัมผัส เป็นเรื่องที่มีมาเฉพาะตนหรือไม่คะ

 ถ้าหมายถึง "รู้ก็รู้ด้วยตนเอง" ก็ใช่ สำนวนบาลี คือ "ปัจจัตตัง"

 ขอแนะนำอีกคำหนึ่ง คือ "อจินไตย" เรื่องญาณทัสสนะนี้ จัดเป็นเรื่องอจินไตยครับ

 หมายถึง คนธรรมดาไม่อาจคิด ไม่อาจเข้าใจ คิดมากอาจฟั่นเฟือน

 หรือ ถ้าคุณ prayong ญาณนี้มีติดตัวมา ตั้งแต่อดีตชาติ ก็ใช่เช่นกัน

 ดังสำนวนที่ว่า "ปุพเพกตปุญญตา" หมายถึง การได้สั่งสมบารมีมาก่อน

 จิตสัมผัส ที่โฆษณากันอยู่ ปัจจุบันนี้ จริง หรือ หลอกลวง คะ

  เรื่องนี้ ตอบไม่ได้ครับ ผมเป็นปุถุชน ดังคำทีี่่่ผมกล่าวมาแล้ว คือ ปัจจัตตัง และ อจินไตย

  คนที่จะรู้ได้ต้องมี ญาณทัสสนะ มีทิพพจักขุ และเจโตปริยญาณ

  ขอคุยเท่านี้ (นะคะ)

[raponsan]

ผมมีหนังสือให้คุณprayong สองเล่ม คือ

              ๑.คู่มือปฏิบัติกรรมฐาน ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ (สอนเน้นทางอภิญญา-อิทธิฤทธิ์)

              ๒.การฝึกเมฆจิต (ทิพยจักขุญาณ)

เชิญดาวน์โหลดตามอัธยาศัย
 

ภาพจาก www.dhamma5minutes.com/

[prayong]

ขอบคุณ คะ ถึงจะยังไม่ค่อยจะเข้าใจ ก็ของลองโหลดไปอ่านก่อนนะคะ

 

[timeman]

จิตสัมผัส ในการภาวนา หน้าจะหมายถึง จิต ที่สัมผัส กิเลส รู้เท่าทัน แล้ว ดับกิเลสไม่ให้เกิดขึ้น
ส่วน จิตสัมผัส ลักษณะของ ญาณ คือ เจโตปริยญาณ หรือ ทิพยจักษุ นั้นเป็นเรื่องเฉพาะตน

เข้าใจยาก มาก ๆ ครับตรงนี้