ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - บุญสม
หน้า: 1 [2] 3
41  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ภพ ในความหมายของพระพุทธศาสนา เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:34:41 am


พระพุทธศาสนา แบ่งภพเป็น ๓ ภพ คือ กามภพ รูปภพ และ อรูปภพ

กามภพ เป็นที่อยู่ของสัตว์ มนุษย์ และ เทวดา

รูปภพ เป็นที่อยู่ของพรหมที่มีรูปร่าง

อรูปภพ เป็นที่อยู่ของพรหมที่มีแต่จิต

และใน ๓ ภพ แบ่งเป็นภพภูมิใหญ่ ๆ ดังนี้

่ขอบคุณภาพ และ เนื้อหาบางส่วนจาก

http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thammakittakon&date=31-07-2009&group=20&gblog=16
42  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ภพ ในความหมายของพระพุทธศาสนา เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:30:33 am
      พระสุตตันตปิฎก  มัชฌิมนิกาย  มูลปัณณาสก์  [๕.  จูฬยมกวรรค]
                    ๓.  มหาเวทัลลสูตร
 
                  ภพ
            [๔๕๓]    “ท่านผู้มีอายุ    ภพมีเท่าไร”
            “ท่านผู้มีอายุ    ภพมี    ๓    คือ    (๑)    กามภพ    (๒)    รูปภพ    (๓)    อรูปภพ”
            “การเกิดในภพใหม่ต่อไป    มีได้อย่างไร”
            “เพราะความยินดียิ่งในอารมณ์นั้น  ๆ    ของเหล่าสัตว์ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกีดกั้น
มีตัณหาเป็นเครื่องผูกพันไว้    การเกิดในภพใหม่ต่อไป    ย่อมมีได้อย่างนี้”
            “การเกิดในภพใหม่ต่อไป    ไม่มีได้อย่างไร”
            “เพราะอวิชชาสิ้นไป    เพราะวิชชาเกิดขึ้น    และเพราะตัณหาดับไป    การเกิด
ขึ้นในภพใหม่ต่อไป    ไม่มีได้อย่างนี้”


จากพระสูตร จะเห็นว่า
ภพ ทั้ง 3 จะสิ้นไปได้

ก็ต้องสิ้นอวิชชา ในปัจจุบัน ถึงจะพ้นจาก ภพ ทั้งสาม

ข้อติดใจก็คือ ถ้าจัดกรรมฐาน  เพื่อสิ้นอวิชชา หรือ ดับทำลาย อวิชชา ควรทำอย่างไร ?

 :25: :25: :25:
43  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / สากัจฉา หมายถึงการปรับกัมมัฏฐานให้เกิดความเหมาะสม เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:27:42 am
สากัจฉา  หมายถึงการปรับกัมมัฏฐานให้เกิดความเหมาะสม 
(ม.มู.อ.  ๒/๔๕๒/๒๕๔)


อยากทราบความหมาย เพราะยังไม่ค่อยจะเข้าใจ ครับกับประโยคนี้ ครับ

 :c017: :25:
44  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่อง สุข ของสมาธิ คะ เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:24:12 am
เพิ่มพูนความรู้ ความเข้าใจ ในการภาวนา ได้มากเลยครับ
อนุโมทนา กุศล กับทุกท่านด้วยครับ

 :25: :25: :25:
45  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / สัมมาทิฏฐิ มีเจโตวิมุตติ และ ปัญญาวิมุตติ เป็นผลานิสงค์ เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:19:42 am
พระสุตตันตปิฎก  มัชฌิมนิกาย  มูลปัณณาสก์  [๕.  จูฬยมกวรรค] ๓.  มหาเวทัลลสูตร
 
        “สัมมาทิฏฐิซึ่งมีเจโตวิมุตติเป็นผล    และมีเจโตวิมุตติเป็นผลานิสงส์    มีปัญญา-วิมุตติเป็นผล    และมีปัญญาวิมุตติเป็นผลานิสงส์    เพราะมีองค์ธรรมเท่าไรสนับสนุน”
        “สัมมาทิฏฐิซึ่งมีเจโตวิมุตติเป็นผล    และมีเจโตวิมุตติเป็นผลานิสงส์    มีปัญญา-วิมุตติเป็นผล    และมีปัญญาวิมุตติเป็นผลานิสงส์    เพราะมีองค์ธรรม    ๕    ประการสนับสนุน    คือ
  ๑.    มีศีล๒สนับสนุน
  ๒.    มีสุตะ๓สนับสนุน
  ๓.    มีสากัจฉา๔สนับสนุน
  ๔.    มีสมถะ๕สนับสนุน
  ๕.    มีวิปัสสนา๖สนับสนุน
        สัมมาทิฏฐิซึ่งมีเจโตวิมุตติเป็นผล    และมีปัญญาวิมุตติเป็นผลานิสงส์    มีปัญญา-วิมุตติเป็นผล    และมีปัญญาวิมุตติเป็นผลานิสงส์    เพราะมีองค์ธรรม    ๕    ประการ
นี้แลสนับสนุน”


46  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ให้ทานเพื่อเป็นเครื่องประดับจิต และปรุงแต่งจิต เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:10:12 am
ลองค้นดูความหมาย ในพระไตรปิฏก มีเท่านี้นะครับ

ให้ทานเพื่อเป็นเครื่องประดับจิตและปรุงแต่งจิต  ในที่นี้หมายถึงให้ทานเครื่องประดับจิตในการเจริญสมถกัมมัฏฐานและวิปัสสนากัมมัฏฐาน  เพราะทานจะทำจิตใจให้อ่อนโยน  เหมาะแก่การเจริญกัมมัฏฐานทั้งสอง 

(องฺ.อฏฺฐก.อ.  ๓/๓๑/๒๕๓)


อยากทราบในการประดับจิต ปรุงแต่งจิต เพื่อการภาวนากรรมฐาน นั้นทำอย่างไร
47  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ให้ทานเพื่อเป็นเครื่องประดับจิต และปรุงแต่งจิต เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:08:21 am
พระสุตตันตปิฎก  ทีฆนิกาย  ปาฎิกวรรค  [๑๐.  สังคีติสูตร] สังคีติหมวด  ๘


[๓๓๖]    ทานวัตถุ(เหตุแห่งการให้ทาน)    ๘
 ๑.    ให้ทานเพราะประสบเข้า
 ๒.    ให้ทานเพราะกลัว๓
 ๓.    ให้ทานเพราะคิดว่า    ‘เขาได้ให้แก่เราแล้ว’
 ๔.    ให้ทานเพราะคิดว่า    ‘เขาจักให้แก่เรา’
 ๕.    ให้ทานเพราะคิดว่า    ‘การให้ทานเป็นการดี’
 ๖.    ให้ทานเพราะคิดว่า    ‘เราหุงหากินเองได้    ชนเหล่านี้หุงหากินเองไม่ได้การที่เราหุงหากินเองได้    จะไม่ให้ทานแก่ชนเหล่านี้ผู้หุงหากินเองไม่ได้ไม่ควร’
 ๗.    ให้ทานเพราะคิดว่า    ‘เมื่อเราให้ทานนี้    กิตติศัพท์อันงาม    ย่อมขจรไป’
 ๘.    ให้ทานเพื่อเป็นเครื่องประดับจิต    และปรุงแต่งจิต


อยากทราบว่า การให้ทาน แบบที่ 8 นั้น มีวิธีการอย่างไรครับ
 ถึงจะให้ทานนั้น เป็นเครื่องประดับจิต หรือปรุงแต่งจิต เท่านั้นครับ

 ขอบคุณทุกท่านที่ร่วม ธรรมวิจารณ์ ด้วยครับ
48  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ธรรมอันเป็นโคจร ในที่นี้หมายถึงธรรมที่เป็นอารมณ์กัมมัฏฐานของภิกษุ เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 09:00:52 am
ธรรมอันเป็นโคจร ในที่นี้หมายถึงธรรมที่เป็นอารมณ์กัมมัฏฐานของภิกษุ 

(ที.ปา.อ.  ๘๐/๓๑,  ที.ปา.ฏีกา๘๐/๓๐)


อยากทราบความหมาย ของ ธรรมอันเป็นโคจร ครับหมายถึงอารมณ์เยี่ยงใดในกัมมัฏฐาน ครับ
 :c017: :25:

49  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ธาตุกรรมฐานที่พระพุทธเจ้า มีขั้นตอนอย่างไรครับ เมื่อ: กันยายน 01, 2011, 08:55:53 am
ท่านโกลิตะหรือพระโมคคัลลานะหลังจากบวชได้  ๗  วัน  ไปพักอาศัยอยู่  ณ  บ้านกัลลวาฬคาม(กัลลวาฬมุตตคาม)  บำเพ็ญสมณธรรม  ฟังธรรมว่าด้วยธาตุกัมมัฏฐานจากพระพุทธเจ้า  บรรลุพระอรหัตตผล
   ถึงที่สุดแห่งสาวกบารมีญาณตามที่ตั้งความปรารถนาไว้


       ส่วนท่านอุปติสสะ  หรือพระสารีบุตร  หลังจากบวชได้  ๑๕  วัน  ไปพักอาศัยอยู่  ณ  ถ้ำสูกรขาตา
   เขตกรุงราชคฤห์  พร้อมกับพระพุทธเจ้า  เมื่อพระพุทธองค์ทรงแสดงเวทนาปริคคหสูตรแก่หลานชายของ
   ท่านชื่อทีฆนขปริพาชก  พระสารีบุตรส่งญาณไปตามแนวพระสูตร  บรรลุพระอรหัตตผล  ถึงที่สุดแห่งสาวก
   บารมีญาณตามที่ตั้งความปรารถนาไว้  (สารตฺถ.ฏีกา.  ๓/๖๒/๒๗๗-๒๗๘)




จากประโยชน์ ที่เป็นสีน้ำเงิน อยากทราบว่า ธาตุกรรมฐาน ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสแสดงแก่ พระโมคคัลลานะ มีรายละเอียดอย่างไร บ้างครับ

 :c017:
50  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ประโยชน์ของการสาธยายธรรม ชื่อว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม) เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:06:39 am
.....อีกอย่างหนึ่ง, ภิกษุ ทำ การสาธยายธรรม ตามที่ฟัง
ได้เรียนมาโดยพิสดาร, แต่เธอไม่รู้ทั่วถึงความหมายอันยิ่งแห่งธรรมนนั้ ๆ
ด้วยปัญญา. ภิกษุนี้ เราเรียกว่า ผู้มากด้วยการสวด (นักสวด) ยังมิใช่
ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)....

....เธอไม่ใช้วันทั้งวันให้เปลืองไปด้วยการเรียนธรรมนั้นๆ
ไม่เริดร้างจากการหลีกเร้น, ประกอบตามซึ่งธรรมเป็นเครื่องสงบใจ
ในภายในเนืองๆ. ภิกษุอย่างนี้แล ชื่อว่า ธรรมวิหารี (ผู้อยู่ด้วยธรรม)....

อํ. ปญฺจก. ๒๒/๙๙-๑๐๐/๗๓-๗๔


51  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ประโยชน์ของการสาธยายธรรม วิธีการสาธยายธรรมให้แจ่มแจ้งได้นาน เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:03:23 am
วิธีการสาธยายธรรมให้แจ่มแจ้งได้นาน

ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ถูกเหนี่ยวรั้ง ย่อมรู้ย่อมเห็นอุบายเป็นเครื่องสลัด
ออกซึ่งนิวรณ์ทั้งห้า (กามราคะ, พยาบาท, ถีนมิทธะ, อุทธัจจกุกกุจจะ,
วิจิกิจฉา) ทำให้รู้เห็นประโยชน์ตามที่เป็นจริง
สํ. มหาวาร. ๑๙/๑๖๖/๖๐๓


52  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ประโยชน์ของการสาธยายธรรม เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 09:01:27 am



ประโยชน์ของการสาธยายธรรม

๑. เพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม
(หนงึ่ ในเหตุห้าประการเพื่อความตั้งมั่นของพระสัทธรรม)
อํ. ปญฺจก. ๒๒/๑๖๑/๑๕๕

๒. เป็นเครื่องให้ถึงวิมุตติ
(หนงึ่ ในธรรมให้ถึงวิมุตติห้าประการ)
อํ ปญฺจก. ๒๒/๒๓/๒๖

๓. เป็นอาหารของความเป็นพหูสูตร
อํ. ทสก. ๒๔/๑๒๐/๗๓

๔. เป็นองค์ประกอบของการเป็นบริษัทที่เลิศ
อํ. ทุก. ๒๐/๖๘/๒๙๒

๕. ทำให้ไม่เป็นมลทิน
อํ. อฎฺฐก. ๒๓/๑๔๙/๑๐๕

๖. เป็นบริขารของจิตเพื่อความไม่มีเวรไม่เบียดเบียน
(หนึ่งในห้าบริขารของจิต)
ม. มู. ๑๓/๕๐๐/๗๒๘

๗. เป็นเหตุให้ละความง่วงได้
(หนึ่งในแปดวิธีละความง่วง)
อํ. สตฺตก. ๒๓/๗๓/๕๘
53  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / รุ่งอรุณแห่งความเป็นจริง บทที่ 7 บทสรุป แห่งความเป็นจริง ตอน 8-9 เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 08:58:20 am
http://www.trueplookpanya.com/data/product/media/CMS1/CMS_4263.mp4



สติปัฏฐาน 4 เป็นหลักธรรมที่เป็นข้อปฏิบัติเพื่อรู้แจ้ง คือเข้าใจความเป็นจริงของสิ่งทั้งปวงโดยไม่ถูกกิเลสครอบงำ สติปัฏฐานมี 4 ระดับ คือ กาย เวทนา จิต และ ธรรม  คำว่าสติปัฏฐาน  แปลว่า สติที่ตั้งมั่น, การหมั่นระลึก, การมีสัมมาสติระลึกรู้นั้นพ้นจากการคิดโดยตั้งใจ แต่เกิดจากจิตจำสภาวะได้ แล้วระลึกรู้โดยอัตโนมัติ โดยคำว่า สติ หมายถึงความระลึกรู้ เป็น​เจตสิกประ​เภทหนึ่ง​ ส่วนปัฏฐาน หมาย​ถึง​ ​ความตั้งมั่น, ความแน่วแน่, ความมุ่งมั่น

โดยรวม คือเข้าไปรู้เห็นในสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง ตามมุ่งมองของไตรลักษณ์หรือสามัญลักษณะ โดยไม่มีความยึดติดด้วยอำนาจกิเลสทั้งปวง ได้แก่

   1. กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้กายเป็นฐาน ซึ่งกายในที่นี่หมายถึงประชุม หรือรวม นั่นคือธาตุ 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟมาประชุมรวมกันเป็นร่างกาย ไม่มองกายด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขา แต่มองแยกเป็น รูปธรรมหนึ่งๆ เห็นความเกิดดับ กายล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
   2. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้เวทนาเป็นฐาน ไม่มองเวทนาด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขาคือไม่มองว่าเรากำลังทุกข์ หรือเรากำลังสุข หรือเราเฉยๆ แต่มองแยกเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง เห็นความเกิดดับ เวทนาล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
   3. จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้จิตเป็นฐาน เป็นการนำจิตมาระลึกรู้เจตสิกหรือรู้จิตก็ได้ ไม่มองจิตด้วยความเป็นคน สัตว์ เรา เขา คือไม่มองว่าเรากำลังคิด เรากำลังโกรธ หรือเรากำลังเหม่อลอย แต่มองแยกเป็นนามธรรมอย่างหนึ่ง เห็นความเกิดดับ จิตล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา
   4. ธรรมมานุปัสสนาสติปัฏฐาน - การมีสติระลึกรู้สภาวะธรรมเป็นฐาน ทั้งรูปธรรมและนามธรรมล้วนมีความเกิดดับ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา

ผลของการมีสติปฏิฐาน 4 คือ เป็นที่ตั้งแห่งรู้ ดับความร้องไห้รำพึงรำพัน เกิดความบริสุทธิ์ของกายและใจ ทำให้เข้าถึงอริยมรรค

http://www.trueplookpanya.com/true/ethic_detail.php?cms_id=7369
54  ธรรมะสาระ / ห้อง_ด า ว น์ โ ห ล ด / พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส นาทีธรรม เมื่อ: สิงหาคม 31, 2011, 08:53:25 am
พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส นาทีธรรมะ5.avi

55  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ธรรมะสั้น ๆ จากหลวงปู่ชา "ที่รวมสมาธิ" เมื่อ: สิงหาคม 19, 2011, 10:44:34 am
ขอแสดงความคิดเห็นค่ะ ลองพิจารณาดู เอาไว้เป็นข้อมูล
- การนั่งสมาธินั้น หรือเจริญสตินั้น เพื่อ "ฝึกจิต" ให้รู้ว่า "จิต" คืออะไร หน้าตาของมันเป็นอย่างไร
- เมื่อทำสมาธิแล้ว ถ้าหมั่นทำบ่อยๆ แล้ว "จิตรวม" โดยที่จิตไม่ดับ มีตื่นรู้ จิตเบิกบาน ในสมาธิกายหายไป ลมหายไป นั้น คือจิตที่่โดดเด่น นั้นคือหน้าตาจิต ตอนที่ไม่มีกายอาศัย

- สติยังอ่อนอยู๋ ไม่ทันตอนที่จิตถอนจากร่างกาย
-หัดเจริญสติ ควบคู่ โดยให้ทราบว่า หรือระลึกรู้ว่า เวลาจิตไม่อาศัยร่างกาย จิตมีหน้าตาอย่างไร ในขณะมีสติ

- ถ้าเป็นสายหลวงปู่จำเนียร วัดถ้ำเสือ ท่านจะสอนให้ จิตไว้ในกระโหลก แล้วมีสติในการใช้ชีวิตประจำวัน รู้ทั้งนอกและใน เมื่อเราจับของ เรามีสติรู้ แล้วมันวิ่งจาก ฐานจิตไปรู้สึกที่มือ และความรู้สึกของจิตที่ฐานจิตเทไปที่มือหมด นั้นคือส่งจิตออกนอกแต่อยู่ในร่างกายค่ จิตมันปรุงแต่งไปเรียบร้อยแล้ว

- หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่เจี๊ยะ ท่านจะแยกการสอนออกเป็น สอนนั่งสมาธิให้เห็นจิตเข้าฐานของมัน หรือจิตรวมสว่าง

- เมื่อไม่ได้นั่งสมาธิ ให้หมั่นมีสติจากการเจริญสติ และหัดให้จิตเรียนรู้เรื่อง "อนิจัง ทุกขัง อนัตตา"

- ถ้าจิตนั่ง นิ่งๆ อยู๋อย่างนั้น จนกว่ามันพอใจจะออก และหัดสังเกตเวลามันรวมและถอยออกจนมีร่างกาย

- เมื่อจิตเริ่มสงบ กระจ่าง ลองน้อมพิจารณา ธรรมะ การปรุงแต่งค่ะ

จากคุณ    : พยัคฆ์น้อย
56  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ถวายเทียน กับ ถวายหลอดไฟ ให้พระภิกษุอยู่จำพรรษา มีอานิสงค์แตกต่างกัน.. เมื่อ: กรกฎาคม 26, 2011, 09:33:47 am
คือได้ไปทำบุญ ตอนต้นพรรษา มีการถวายเทียนพรรษา

ในวันนั้น ก็มีกลุ่มถวายเทียนบ้าง ถวาย หลอดไฟบ้าง

 และก็เลยเกิดการสนทนาธรรม เชิงโต้วาีทีเรื่องการถวายเทียน กับ ถวายหลอดไฟฟ้า
 
  พวกถวายหลอดไฟฟ้า เป็นผู้เริ่มก่อน ด้วยประเด็นว่า

  ถวายเทียนไป พระในปัจจุบันไม่ใช้ เก็บกันไว้ในคลัง เพื่อนำไปขาย
  ต้องถวายหลอดไฟฟ้า วัดจึงใช้ พระจึงใช้

  พวกถวายเทียน กล่าวโต้ว่า

  การถวายเทียน นั้นใช้ได้ทุกสถานการณ์ ที่ไม่มีไฟฟ้า พระก็ได้ใช้ อีกยังรักษาประเพณี ไทยไว้ด้วย

  และยังมีอีกมาก ครับ ที่โต้การสนทนากัน

  แต่สรุป ก็รวมถวายสังฆทานพร้อมกัน

ก็เลยมาตั้งคำถามในวันนี้ ว่า
ระหว่า การถวายเทียน กับ ถวายหลอดไฟ ให้พระภิกษุอยู่จำพรรษา มีอานิสงค์แตกต่างกันอย่างไร
ได้บุญ เท่ากัน น้อยกัน ต่างกันอย่างไร ครับ

  :c017: :c017: :)
57  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ทำไมผมรู้สึกว่า คนมีประเภทมีธรรมะ ไม่ประสพความสำเร็จ เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 09:52:08 am
คนสมัยนี้ หนักมาก เรื่องวัดกันที่ วัตถุ  แต่จิตใจ มันต่ำทรามมาก  อยากจะสุข เสพสุข
แต่ไม่ สนใจเรื่องวิธีการ  โรค ภัยธรรมชาติ จึงรุกราน รุนแรง

ก็ ไม่เห็นคนขับรถ มีแฟนสวยๆ จะสุขจริงแท้ แค่ไหน  สักวัน รถ ก็ต้องพัง  มีค่าใช้จ่ายสูง ยางเส้นนึง ปาเข้าไป  2 พันอัพ เปลี่ยนหมด สี่ล้อ กี่ เงิน  ต้องจ่ายค่าน้ำมัน ที่ก็ไม่ถูก  คนเราก็มองแต่ ด้าน ที่ สนองความต้องการไว้ก่อน พอเวลาได้มา มันจะแถมด้วยทุกข์ เสมอ  บอกรวย มี แฟนสวยๆ ได้ง่าย ขับรถ มาให้เห็น เดี๋ยวก็ จีบติด  ใช่ จีบง่าย แต่ จริงใจ หรือ ปล่าว?  เราเป็นคนที่มีคุณธรรม ระดับไหน มันก็ดึงดูด คนแบบเดียวกันมาหา

ส่วนใหญ่ คนที่ ยินดี ชื่นใจ ในทางโลก ต้องรวยไม่สิ้นสุด ต้องมีกำไร มากขึ้นๆ จนเริ่มหลงในวัตถุ ก็เริ่ม ทำมาหากิน แบบ ผิดศีลธรรม  แล้วก็หลงเข้าใจว่า พอรวย ก็ไม่เสียหาย เราทำบุญเยอะๆ ติดชื่อไว้ ยังงัยก็ได้บุญมาก แน่ๆ  ทำบุญทีเป็น หลักหมื่นขึ้น เขียนชื่อไว้ สร้างวัด สร้างโบสถ์ สร้างกุฏิ  แต่ที่ไหนได้ วัตถุทาน ที่ บริจาค คือ เงิน  ดันหามาด้วยความไม่สุจริต วัตถุทานจึงไม่บริสุทธิ์  อานิสงฆ์จึงได้น้อย  หลายๆคน อาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ

ยิ่งรวยไม่ได้แสดงว่า มีความสุข และ เป็นคนสมถะไม่สร้างวัตถุ ใช้แต่สมควร ก็ไม่ใช่ว่า เขามีความทุกข์

ทรัพย์สินเงิน ทอง มันไม่ถาวร คงทน ตลอดไป  คนที่เห็นสัจจะธรรมะแล้ว เขาจึง
แสวงหา บุญ กุศล  ส่วนคนที่มองไม่เห็นก็ยัง แสวงหาแต่ สิ่งที่ไม่มีประโยชน์ อะไร
ต่อชีวิต  เพราะเมื่อสุดท้ายได้ตายลงไป

มันก็ต้องคืนเขาไปหมด  เคยได้ยินไหมครับ คำว่า สมบัติผลัดกันชม

หวงแสนหวงแค่ไหน พอตายแล้ว เอาอะไรไปได้บ้าง
58  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: สุดทึ่ง!พระชราขาขาด2ข้าง อดีตทหารกรมสรรพาวุธขี่"เอทีวี"จากอ่างทองธุดงค์ เมื่อ: เมษายน 17, 2011, 08:56:48 am
คิดอย่างไร กับภาพพระพิการ ครับ

พระพิการปกติ ห้ามบวช ใช่หรือไม่ครับ

พระพิการ ถ้าปฏิบัติภาวนา สามารถบรรลุธรรมได้หรือไม่ครับ

ระหว่างพระดำรัส ข้อห้ามในการบวช ผู้พิการ กับ การเปิดโอกาสให้ ผู้พิการได้บวชเพื่อศึกษาธรรม

มีความคิดเห็นส่วนนี้กันอย่างไรครับ
 :25:
59  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สุดทึ่ง!พระชราขาขาด2ข้าง อดีตทหารกรมสรรพาวุธขี่"เอทีวี"จากอ่างทองธุดงค์ เมื่อ: เมษายน 17, 2011, 08:55:31 am
สุดทึ่ง!พระชราขาขาด2ข้าง อดีตทหารกรมสรรพาวุธขี่"เอทีวี"จากอ่างทองธุดงค์ปฏิบัติธรรมเทือกเขาดงพญา

จากมติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1302955208&grpid=01&catid=&subcatid=

ผู้ สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา  16.10 น. วันที่  16 เม.ย. ว่า  ได้พบพระภิกษุชราภาพและขาพิการ 2 ข้าง  ทราบว่าชื่อพระระเบียบ  อธิสโก  อายุ 71 ปี  บวชและจำพรรษาอยู่ที่วัดดอนเจดีย์  ต.หนองสาหร่าย  อ.ดอนเจดีย์  จ.สุพรรณบุรี   ซึ่งขับขี่รถขับเคลื่อนระบบเอทีวี ออกจากวัดม่วง  ต.หัวตะพาน  อ.วิเศษชัยชาญ  จ.อ่างทอง  ไปตามถนนสายโพธิ์พระยา-ท่าเรือ  มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองอ่างทอง  โดยประดับธงเสมาธรรมจักร  ธง "ภปร." และธง "สก." และสังเกตพบว่าด้านหน้าและท้ายรถมีเครื่องอัฐบริขารรวมทั้งสิ่งของจำเป็น จำนวนหนึ่งในการเดินทางไกล     ชาวบ้านที่พบเห็นรู้สึกสงสารได้นิมนต์ให้หยุดพักผ่อนเป็นระยะพร้อมถวาย ปัจจัยและน้ำดื่ม  เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและมีรถสัญจรหนาแน่นเกรงว่าจะได้รับอันตราย


จากการสอบถามพระระเบียบ  เผยว่า  ตั้งจิตอธิษฐานมานานแล้วที่จะเดินทางไปนมัสการพระประธานที่วัดดงพญาเย็น    อ.ปากช่อง  จ.นครราชสีมา และจะปลีกวิเวกออกธุดงค์เพื่อปฏิบัติธรรมในบริเวณดังกล่าว   แต่เป็นด้วยขาพิการทั้งสองข้างทำให้เป็นอุปสรรคและต้องนั่งแต่รถเข็น    ทั้งนี้ ก่อนที่จะมาบวชพระเป็นทหารสังกัดกรมสรรพาวุธทหารบก  บางเขน  กรุงเทพ  ขณะที่กำลังฝึกภาคสนามได้ประสบอุบัติเหตุทำให้ขาขาด 2 ข้าง 

"เมื่อ ประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา  มีโยมคนหนึ่งนำรถคันดังกล่าวมาถวาย  และในวันนี้จึงถือโอกาสเดินทางจากวัดเพื่อไปปฏิบัติธรรมตามที่ได้ตั้งจิต อธิษฐาน  โดยผ่าน จ.อ่างทอง  พระนครศรีอยุธยา  สระบุรี  ไปถึง จ.นครราชสีมา  ระยะทางกว่า 200  กม. ค่ำไหนนอนนั่น  ซึ่งก็ระวังเรื่องอุบัติเหตุมาก  แต่ความพิการไม่เป็นอุปสรรคแน่นอน"
60  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: รายการ RDN ช่วงนี้ไม่ได้ยินเสียงครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 05:34:23 pm
ส่วนตัวไม่อยากให้รายการ RDN เสียงหายไปครับ เพราะเหมือนรายการเิริ่มมีคนฟังมากขึ้นแล้วจู่ ๆ หายไปเวลา

เราเิริ่มจะทำใหม่นั้น คนจะเข้ามาฟังยากขึ้นนะครับ โดยเฉพาะรายการธรรมะ ซึ่งมีคนฟังน้อยกันอยู่แล้วด้วย

อยากให้รักษาไว้นะครับ ถ้าเป็นไปได้

 :13:
61  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: การฝึกสมาธิ ให้สำเร็จโดยอาศัยการถ่ายพลังจิต เป็นไปได้หรือไม่ครับ เมื่อ: มีนาคม 25, 2011, 05:32:30 pm
ส่วนตัวมีความเชื่อในเรื่อง สมาธิ สามารถถ่ายทอดทางจิตได้ แต่ผู้ที่ทำต้องมีความสามารถสูง เหมือน

พระพุทธเจ้า ตอนเข้าไปรักษาพุทธบิดา ก็ถ่ายทอดพลังจิตเข้ารักษา อ่านในประวัติพระราหุล นะครับ

ถ้าผมจำไม่ผิดเคยฟังในรายการ RDN ด้วยครับ

 :13:
62  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: เชิญชมภาพ อนุโมทนา นมัสการสังเวชนียสถาน ครับ เมื่อ: มีนาคม 20, 2011, 09:32:43 am
เข้าชมแล้วครับ แต่ละภาพนั้นถ่ายได้ดีมาก ๆ ครับ

แต่ที่น่าสลดใจ ก็คือภาพ ขอทานเมืองอินเดีย นั้น อาจจะเป็นเหตุให้คนพุทธ ถูกทำร้ายได้นะครับ

 
63  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: เมื่อเพื่อนคนหนึ่งมาปรึกษา....เรื่องที่จะทำให้ใจสงบ เมื่อ: มกราคม 27, 2011, 08:54:46 pm
ตอนนี้มันก็แค่ไฟกองเล็กๆ..ถ้าคุณถูกปฏิเสธจากน้องของคุณ
คราวนี้ล่ะ..ไฟนรกเลยเชียว
อาการจะหนักกว่านีอีกหลายเท่า

ผู้ชายก็มีนิสัยไม่ต่างจากพรานป่า
มันสนุกตื่นเต้นตอนไล่ต้อนสัตว์เข้าไปจนมุม..ต้องคิดต้องพลิกแพลงกลยุทธหลายกระบวนท่า
แต่ครั้นเสร็จสมอารมณ์หมาย..เอาหัวสัตว์มาห้อยประดับไว้บนข้างฝา
ความสนุกตื่นเต้นที่เคยมี..ก็มีอันมอดดับหายไปจนสิ้น
แล้วเราก็ออกดั้นด้นค้นหาสัตว์ตัว..หาความตื่นเต้นใหม่ๆ ต่อไป

มันเป็นอาการอยากของกิเลส..อยากครอบครองได้มาไว้เป็นเจ้าของ..ได้มาแล้วก็เบื่อ
ไม่ได้เบื่อเพราะของที่ได้มาหมดคุณค่า..แต่เบื่อเพราะกิเลสในใจมันถมไม่มีวันเต็ม
ไม่ว่าจะหาผู้หญฺิงสวยๆ มาควงสักกี่คน..คุณก็จะยังคงรู้สึกไม่มีความสุขอยู่ดี
การวิ่งไล่สนองตอบกิเลส..มีแต่ความเหน็ดเหนื่อยและไร้ความสุข

ผมเดาเอาว่า..จินตนาการของคุณคงไปไกลสุดกู่..ได้แต่งงานกับน้องเขาเรียบร้อยแล้ว
มันมีความสุขก็เฉพาะในจินตนาการเท่านั้น
เมื่อตื่นลืมตาขึ้นมาพบกับความเป็นจริง..ความสุขก็หายไป
ชีวิตที่เหลือก็อยู่ไปแบบซังกะตายไปวันๆ

กลับมาอยู่กับปัจจุบัน..อยู่กับความเป็นจริงครับ
มันอาจไม่ถูกใจเรา..แต่ความจริงมันก็ซื่อสัตย์กับเรา
ไม่เสแสร้างแกล้งทำร้ายจิตใจของเราเหมือนความฝัน

อย่าคิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป..ยิ่งตั้งความหวังไว้สูงส่งมากเท่าใด
เวลาตก..มันก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น
อย่าออกตัวจนล้อฟรี..ค่อยเป็นค่อยไปครับ
เอาสติมาติดเบรคให้กับอารมณ์ความรู้สึกเสียบ้าง

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
ถ้าเขาเป็นคู่ของคุณจริง..เทวดาองค์ไหนก็มาขัดขวางคุณไม่ได้
แต่ถ้าไม่ใช่แถมคุณยังดันทุรัง
เมื่อคุณผิดหวัง..คุณก็ต้องจำยอมพร้อมรับผิดชอบในการกระทำของคุณเอง

ถ้าคิดจะรัก..ก็ควรจะเหลือเนื้อที่เอาไว้สำหรับความผิดหวังบ้าง..อย่าทุ่มแทงจนหมดหน้าตัก
ต้องรับได้ทั้งผิดหวังและสมหวัง
หากคิดว่าจิตใจอ่อนแอเกินกว่าจะยอมรับความผิดหวังได้
ก็อย่ารัก..เท่านั้นเอง
ไม่ได้มา..ไม่ต้องเสียอะไรไป..สบายดีจะตาย

ตอนนี้แม้คุณจะยังไม่ได้อะไรมาเลย
แต่จิตใจของคุณเริ่มเสียศูนย์แล้ว
ก็คงแล้วแต่คุณว่าจะให้ค่าความสำคัญกับจิตใจภายในของคุณ
หรือกับรูปร่างหน้าตาที่แปรเปลี่ยนไปตามกาลเวลา
ดั่งมายาจากภายนอก..???


 คำตอบคล้าย ๆ เรื่องนี้ของคุณอารยัน ครับ

64  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ช่วยด้วยค่ะ ถูกเจ้ากรรมนายเวรตามล่า ต้องทำยังไงดี เมื่อ: มกราคม 19, 2011, 12:38:34 pm
ต้องแผ่เมตตาบ่อยๆครับ กรวดน้ำ วันละหลายๆครั้ง ขออโหสิกรรม ถ้าเอาไวๆ ต้องนั่งสมาธิ ทุกวัน แค่ 5 นาทีก็ได้ เอาที่ เราพอทำได้ แล้วก็ กรวดน้ำไป  ฝากแม่พระธรณีเป็นพยานบุญ เพราะ ถ้าเราจิตไม่ได้ตั้งมั่น เพราะ เพิ่งเคยฝึก เวลาอธิฐาน มันจะไม่ถึงดี จิต สื่อ ไม่ถึง กับ ผู้ที่เราต้องการ ให้รับบุญ  ก็ ต้องใช้ การกรวดน้ำ

วิธี อื่นๆ ที่ทำกัน ก็ ถวายสังฆทาน บ่อยๆ  คือ ไม่ใช่ทำแค่ ให้เรื่องมันจบ ส่วนใหญ่คนเราจะ นิยมทำบุญแค่ ให้ เรื่องไม่ดีมันหายไป แบบ ในหนัง happy ending กันแค่นั้น พอ เรื่องมันหาย ก็ หยุด หยุด ทำดี หยุด สร้างกรรมดี แล้วก็  ทำกันตามใจ ฉัน เหมือนเดิม

กรรมมันมีหลายภพ ตัวนี้ หมด  ตัวใหม่จะเข้ามาแทน ถ้าตอนนี้กำลังบุญส่งอยู่ กรรมแทรกมาไม่ได้ ก็จะ ยังดีๆ อยู่  พอช่วงไหน บุญ หมดกำลัง  กรรมก็จะแทรกเข้ามา ทำร้ายทันที

ถ้าสิ่งที่ดีที่สุด ที่ เราเริ่มเองได้เลย ไม่ต้องรอไปวัด ก็ คือ  ศีล  กับ ภาวนา
ทาน ก็  ทำตาม ฐานะ ความสะดวก  แต่ควรทำ สังฆทาน เพราะ อานิสงฆ์แรง
เพราะ ทำบุญ กับ พระพุทธเจ้า 100 ครั้ง ยังไม่เท่ากับ ทำกับ คณะสงฆ์ เพียงครั้งเดียว   ใส่บาตรพระ 4 รูป ขึ้นไป ก็เป็น สังฆทาน
65  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: จิตปภัสสร เป็นเช่นไร เมื่อ: มกราคม 17, 2011, 02:27:59 pm
ถ้าไม่นำคำนี้มาแย้ง กันไปกันมา ก็มีความหมาย ตรง ๆ ที่ว่า

  จิตเดิมนั้น ผุดผ่อง แต่ ที่ไม่ผุดผ่อง ก็เพราะมี ราคะ โทสะ โมหะ เป็นแขกอยู่ในจิต

  อันที่จริง ในความหมายนี้ ก็ยังไม่แสดงว่า จิตประภัสสร คือ จิตนิพพาน

  แต่ถ้าจัดเป็น นิพพาน ก็น่าจะเป็น วิกขัมมนนิพพาน และ ตทังคนิพพาน ได้

  เพราะจิต ตอนที่ไม่มีแขก ก็ผุดผ่อง แต่ไม่ได้หมายความว่า จิตผุดผ่อง แล้ว จะผุดผ่อง เช่นนี้ตลอดไป

 ผมว่า จิตผุดผ่อง อันนี้น่าจะหมายถึงจิตที่เป็นสมาธิ ที่สามารถ สกัดกั้น นิวรณ์ ได้ ชั่วคราว

 ซึ่งเมื่อจิตผุดผ่อง ด้วยกระแสธรรม ชั่วคราวก็เป็นเหตุให้เข้าใจ ใน ยถาภูตญาณทัศศนะ ( ไม่รู้ถูกหรือป่าว )

 สรุปตามความเข้าใจผม ก็คือ จิตประภัสสร ก็คือ จิตที่ปราศจาก นิวรณ์ ( อุปกิเลส  )

 :s_good:
66  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ต่อไปนี้คุณผู้ชายที่ชอบ "ไข่แล้วทิ้ง" ผิดกฏหมาย คร้า..... เมื่อ: มกราคม 15, 2011, 02:59:04 pm
ถึงเวลาชำระความพวกเจ้าชู้ ไม่รับผิดชอบแล้ว อยากให้กฏหมายนี้ออกไว ๆ

 :character0029: :character0029: :character0029:
67  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / การล้างบาป เมื่อ: มกราคม 13, 2011, 01:50:51 pm
การล้างบาป
มันบาปนักหรือที่นกกินหนอนเป็นอาหาร
ก็ผู้ที่เอาแต่สำราญสำรวมโดยไม่ช่วยเหลือ
เพื่อมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากล่ะ
จะไม่มีบาปเลยสักนิดหรือไฉน
ถ้าบาปคือสิ่งที่ล้างได้หรือไม่ได้โดยแน่นอนละก็
บางชีวิตคงเหลิงเจิ่ง บางชีวิตคงเศร้าหมองไม่รู้สิ้น
บาปนั้นคือเหตุที่ดลบันดาลความทุกข์แก่ชีวิต
ย่อมล้างได้บ้างไม่ได้บ้างตามเหตุตามปัจจัย
บาปไม่อาจระบุได้ด้วยการกระทำ
จิตใจของผู้กระทำจึงเป็นเหตุแห่งบาป
เด็ดดอกไม้ดอกหนึ่งริมทาง
อาจเป็นบาปที่ทำลายล้างได้ไม่นานนัก
เมื่อกระทำในสิ่งที่ไม่สมควรไปแล้ว
ถึงแม้ล้างบาปในใจได้หมดลง
แต่ธรรมชาติก็ยังคงอำนาจอยู่
จงขออภัยต่อธรรมชาติ
ด้วยการเริ่มต้นใหม่อย่างอ่อนโยนต่อชีวิต และโลก
68  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: ขอเสนอ หมวดกระทู้ เพิ่ม 3 หมวดครับ เมื่อ: ธันวาคม 31, 2010, 11:21:32 am
รู้สึกว่า จะรวมหมวดนะครับ  วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง
  ผมว่าน่าจะแยกย่อยอีกดีหรือป่าวครับจะได้เป็นหมวด ๆ

   :25:
69  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / แจ้งเวลาดูภาพในห้อง วัดแล้ว รู้สึกภาพจะใหญ่มากครับ เมื่อ: ธันวาคม 31, 2010, 11:20:25 am
แจ้งเวลาดูภาพในห้อง วัดแล้ว รู้สึกภาพจะใหญ่มากครับ

  เป็นภาพครูบาศรีวิชัย ครับ

http://www.madchima.org/forum/index.php?board=20.0

 
70  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: อวยพรส่งท้ายปีเก่า 2553 และ ต้อนรับปีใหม่ 2554 กันเถอะคร้า.... เมื่อ: ธันวาคม 29, 2010, 06:24:30 pm


71  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เจ๊หมวย ตอนนี้มีเซเว่น เคลื่อนที่แล้วครับ เมื่อ: ธันวาคม 12, 2010, 09:53:04 am


ตั้งใจมาแซว เจ๊หมวย จริง ๆ นะคร๊าบ....
72  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / เราควรฝึก วิปัสสนา ตอนไหนครับ เมื่อ: ธันวาคม 11, 2010, 09:26:58 pm
ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ นั้นเราควรฝึก วิปัสสนาตอนไหนครับ
 :25:
73  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำไม พระสารีบุตร จึงยอมแ้พ้ พระเทวฑัตร ในการโต้วาทีธรรมะ เมื่อ: ธันวาคม 08, 2010, 10:51:03 am
ทำไม พระสารีบุตร จึงยอมแ้พ้ พระเทวฑัตร ในการโต้วาทีธรรมะ

เคยฟังในรายการ RDN ว่าพระสารีบุตร ยอมแพ้ พระเทวฑัตร ในการโต้วาทะธรรม

แสดงว่า ปัญญา ของพระเทวฑัตร นั้นมากกว่า พระสารีบุตร ใช่หรือไม่ ?

 :smiley_confused1:
74  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ทำไมพระไทยต้องโกนคิ้ว ( เหตุผลพอฟังได้หรือป่าวคะ ) เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 08:13:59 pm
 :s_laugh: มีเหตุผลอย่างนี้ด้วย
75  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ธรรมะกำลังภายใน สำหรับจอมยุทธห้ามพลาด เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 08:12:32 pm
นิทานจีนเรื่องหนึ่งเล่าว่า กระทาชายนายหนึ่งอยากเรียนวิชายิงธนู ไปหาอาจารย์สอนยิงธนูที่มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง มอบตนเป็นศิษย์ขอเรียนวิชาด้วย

อาจารย์บอกว่า "เอ็งยังไม่ต้องเรียนตอนนี้ขอให้เอ็งกลับบ้านก่อน ไปหาเหามาตัวหนึ่งเอาเส้นไหมผูกมันแขวนไว้ แล้วเอ็งจงนั่งเพ่งดูให้มันใหญ่ขึ้นๆ จนกว่าเอ็งจะเห็นเหามันใหญ่เท่ากำปั้นเมื่อใดแล้วค่อยมาหาข้า"

ลูก ศิษย์กลับบ้านไปทำตามอาจารย์บอก ฝึกเพ่งนานเกือบสามเดือน กว่าจะมองเห็นเหาโตเท่ากำปั้น กว่าจะได้บรรลุถึงขั้นนี้เหาก็ตายไปหลายตัวเขากลับไปรายงานอาจารย์

อาจารย์บอกเขาว่า "เอ็งกลับไปใหม่ คราวนี้ไปเพ่งเหาที่โตเท่ากำปั้นนั้นให้เล็กลงเท่าเดิม"

เขาพยายามอยู่เกือบสองเดือนเช่นกัน กว่าจะทำเหาให้เล็กลงเท่าตัวจริงของมัน แล้วเขาก็กลับไปหาอาจารย์รายงานผลให้ทราบ

อาจารย์ กล่าวว่า "เอ็งสามารถขยายสิ่งที่เล็กให้ใหญ่ และย่อสิ่งที่ใหญ่ให้เล็กได้ตามปรารถนานับว่าเอ็งมี "พื้นฐาน" เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องเรียนมาก เวลาเอ็งจะยิงธนูเอ็งก็เพียงแต่ตั้งจิตให้เป็นสมาธิขยายสิ่งที่ต้องการยิง ให้มันใหญ่ขึ้นๆ แล้วก็ปล่อยลูกศรไป แค่นี้เอ็งก็ยิงไม่พลาดแล้ว"

ดู หนังเรื่องกำลังภายในจะมีเรื่องคล้ายอย่างนี้ คือในบางครั้งศิษย์ไปฝากตัวเรียนวิทยายุทธ์จากอาจารย์ รับใช้อาจารย์อยู่เป็นเวลานาน อาจารย์ก็ไม่สอนวิทยายุทธ์ให้สักที ให้ตักน้ำบ้าง กวาดลานวัดบ้าง จนศิษย์นึกน้อยใจ

หารู้ไม่ว่าอาจารย์ กำลัง "วางพื้นฐาน" ให้ศิษย์ วันดีคืนดีขณะลูกศิษย์กำลังผ่าฟืนอยู่ อาจารย์ก็ย่องๆ เข้ามาข้างหลัง เอาแส้หวดหลังดังเฟี้ยว ศิษย์ไม่ทันระวังตัวก็เจ็บตัวไป

วันหลังขณะศิษย์เผลอ ก็โดนอาจารย์หวดด้วยแส้อีก คราวนี้ทำให้ศิษย์ "ตื่นตัว" ทุกเวลาคอยระมัดระวัง ชำเลืองดูว่าอาจารย์จะย่องเข้ามาหวดหลังอีกเมื่อใด เมื่อเห็นอาจารย์กำลังย่องๆ เข้ามาศิษย์ทำทีเป็นไม่เห็น พออาจารย์ฟาดแส้ลงอย่างแรง ศิษย์ก็กระโดดหลบได้ทัน

"เออ เอ็งเก่งมาก นับว่ามีพื้นฐานเพียงพอแล้ว" อาจารย์กล่าวชม แล้วก็สอนวิทยายุทธ์ให้

พื้น ฐานนี้นับว่าจำเป็นมาก คนจะฝึกต่อยมวยต้องมีพื้นฐานสำหรับการเป็นนักมวย คนจะฝึกฟันดาบก็ต้องมีพื้นฐานสำหรับการเป็นนักฟันดาบ จนขั้นจะทำงานเล็กๆ ไม่ว่างานอะไรก็ต้องมีพื้นฐานมาก่อนทั้งนั้น จึงจะทำงานนั้นๆ ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

พระพุทธศาสนาสอนหลักธรรมอย่างหนึ่งเรียกว่า "พละ 4 ผมแปลเพื่อเข้าใจง่ายว่า "กำลังภายใน" คนจะทำอะไรให้มันสำเร็จได้จำเป็นอย่างยิ่งต้องมี "กำลังภายใน" ทั้ง 4 ประการ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่จำเป็น

กำลังภายใน 4 ประการนั้นคือ

1. กำลังคือปัญญา

2. กำลังคือความเพียร

3. กำลังคือความสุจริต

4. กำลังคือน้ำใจ

สรุป แล้ว ผู้ต้องการความสำเร็จในหน้าที่การงาน ต้องการความสุขในชีวิต ควรปลูกสร้าง "กำลังภายในทั้ง 4 ประการ" คือ มีความรู้ดี-ขยัน-มือสะอาด-ไม่ขาดมนุษยสัมพันธ์
76  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เรารักกัน หรือ ฉันรักเธอ...เฮ้อ.... เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2010, 02:34:30 pm
1. การที่รักใครสักคนและไม่ได้รับรักตอบ เป็นทุกข์ แต่สิ่งที่ทุกข์ยิ่งกว่า คือการรักใครสักคนแต่ไม่มีความกล้าพอ ที่จะบอกให้เค้าคนนั้นรู้ และต้องมาเสียใจภายหลัง
2. ความรักคือความรู้สึกที่คุณยังห่วงใยใครสักคนอยู่ แม้จะแยกความรู้สึก ความลุ่มหลงและความสัมพันธ์แบบรักใคร่ออกไปแล้ว
3.สิ่งที่น่าเศร้าในชีวิต คือการพบคนที่มีความหมายอย่างมากสำหรับเรา แต่มาค้นพบภายหลังว่า เราไม่ได้ถูกกำหนดมาเพื่อสิ่งนั้น และจะต้องปล่อยให้ผ่านพ้นไป
4. เมื่อประตูแห่งความสุขปิดลง ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น แต่เราก็มัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน จนกระทั่งเรามองไม่เห็น ประตูแห่งความสุขบานอื่น ที่เปิดไว้รอ
5. เพื่อนที่ดีที่สุดคือ คนที่คุณสามารถนั่งอยู่ริมระเบียงด้วยกันโดยไม่พูดอะไรกันสักคำ แต่สามารถเดินจากไป ด้วยความรู้สึกเหมือนได้คุยกันอย่างประทับใจที่สุด
6. เป็นความจริง ที่เราไม่สามารถรู้เลยว่าเรามีอะไรอยู่ จนกว่าเราจะสูญเสียมันไป... แต่ก็จริงอีกเช่นกันที่เราไม่รู้ว่าเราพลาดอะไรไปบ้าง จนกระทั่งผลของสิ่งนั้นเข้ามาหาเรา
7. การมอบความรักทั้งหมดให้ใครสักคน ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเขาจะรักเราตอบ อย่าหวังที่จะได้รักตอบ แต่จงรอให้มันงอกงามขึ้นในหัวใจเขา แต่ถ้ามันไม่ได้เป็นเช่นนั้นก็ให้พอใจว่าอย่างน้อยมันก็ได้งอกงามขึ้นในใจ ของเราเอง <
8. มีสิ่งที่คุณต้องการจะได้ยิน แต่คุณจะไม่ได้ยินมันจากปากของคนที่คุณอยากได้ยิน แต่อย่าทำตัวเป็นคนหูหนวก โดยไม่รับฟังสิ่งนั้นจากคนที่เขาบอกกับคุณจากหัวใจ
9. อย่าบอกลา ถ้าคุณยังต้องการจะพยายามต่อไป อย่าท้อใจถ้าคุณยังรู้สึกว่าคุณไปไหว อย่าพูดว่าคุณไม่รักเค้าคนนั้นอีกแล้ว ถ้าคุณยังไม่สามารถ "ทำใจ"
10. ความรักมักมาเยือนผู้ที่ยังคงหวัง ถึงแม้ว่าจะผิดและมาเยือนผู้ที่ยังคงเชื่อ ถึงแม้ว่าจะถูกทรยศหักหลัง และจะมาเยือนผู้ที่ยังคงรัก ถึงแม้จะเคยเจ็บปวดมาก่อน
11. อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้ อย่ามองใครจากความร่ำรวยเพราะมันไม่จีรังยั่งยืน ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้ เพราะเพียงยิ้มเดียวสามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส
12. การที่เราจะประทับใจใครนั้น อาจใช้เวลาแค่เพียงนาทีการที่เราจะชอบใครอาจใช้เวลาเพียงแค่ชั่วโมง การที่เราจะรักใครอาจใช้เวลาเพียงชั่ววัน แต่การที่จะลืมใครนั้นต้องใช้เวลา ชั่วชีวิต
13. ขอให้คุณมีความสุขมากพอ ที่จะทำให้คุณเป็นคนอ่อนหวาน ผ่านการทดสอบมามากพอที่จะทำให้คุณเข้มแข็ง มีความเศร้าโศกพอ ที่จะทำให้คุณยังคงความเป็นมนุษย์และมีความหวังมากพอ ที่จะทำให้คุณเป็นสุข
14. เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าคุณรู้สึกว่าสิ่งนั้นจะทำให้คุณเจ็บปวด รู้ไว้เถอะว่าคนอื่นก็เจ็บปวด จากสิ่งเดียวกันเช่นกัน
15. จุดเริ่มของความรักคือ การปล่อยให้คนที่เรารักเป็นตัวของตัวเอง อย่าดึงเขาจากภาพความเป็นเขา มิฉะนั้นจะหมายความว่า เราต้องการเพียงภาพสะท้อนของตัวเราที่ปรากฎในตัวเขา
16. คนที่มีความสุขที่สุด ไม่ได้หมายความว่าเขามีสิ่งที่ดีที่สุด เพียงแต่เขาสามารถทำสิ่งที่เขามีให้ดีที่สุดได้ต่างหาก
< 17. อนาคตที่สดใส มีรากฐานอยู่บนอดีตที่ถูกลืม คุณไม่สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้ดี ถ้าหากไม่รู้จักปล่อยวาง จากความผิดพลาดในอดีต และความปวดใจ
18. คุณร้องไห้ตอนคุณเกิดในขณะที่คนรอบข้างกำลังยิ้ม จงมีชีวิตอยู่เพื่อเมื่อตอนคุณตาย คุณจะเป็นคนที่ยิ้ม ในขณะที่คนรอบข้างร้องไห้ให้คุณ
77  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / จำคุกพันปี อดีตรองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์โกงเงินบริจาค เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2010, 11:46:01 am
จำคุกพันปี อดีตรองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์โกงเงินบริจาค

ศาลสั่งคุกพันปีผู้ต้องหาคดีปลอมแปลงเอกสารขอพระราชทานเครื่องราช

18 พ.ย. รายงานข่าวแจ้งว่า  ศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการกองคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายผาสุก ขาวผ่อง หรือ พระราชปัญญาโกศล หรือ เจ้าคุณอุดม อดีตรองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ กับพวกที่เป็นฆราวาสและข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ รวม 16 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันปลอมแปลงเอกสารใบอนุโมทนาบัตรที่รับเงินบริจาค จากชาวบ้าน โดยเป็นเอกสารราชการเพื่อนำไปยื่นต่อกระทรวงศึกษาธิการในการที่จะขอพระราช ทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เหตุเกิดเมื่อปี 2531

ทั้ง นี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ปี 2548 ลงโทษจำคุก อดีตรองเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์ จำเลยที่ 1 ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว เป็นเวลา 1,130 ปี โดยจำเลยในคดีนี้ได้เสียชีวิตไปแล้วรวม 10 คน

ส่วน ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษากันแล้วเห็นควรพิพากษาแก้โทษจำเลยแล้ว 3 คน สั่งเพิ่มโทษจำคุกจำเลยที่ 4 คือ นายอรุณ เพชรรัตน์ จากเดิม 1,130 ปี เป็น 2,234 ปี จำเลยที่ 5 คือ นายมนตรี จำนง ศาลสั่งเพิ่มโทษจากเดิมจำคุก 1,170 ปี เป็น 2,180 ปี

สำหรับจำเลยที่ 9 คือ นายอารีย์ ศาสระสาระ ศาลสั่งลดโทษจากเดิม 2,660 ปี เหลือโทษจำคุก 1,470 ปี แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยสูงสุด 50 ปี  ขณะที่จำเลยที่ 8 พิพากษาลงโทษจำคุก 1,920 ปี ส่วนจำเลยที่ 10 และ 16 พิพากษายกฟ้องตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น

เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News
78  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประกาศ อนุโมทนา บุญกุศลเรื่อง กิจกรรมการเผยแผ่เว็บ www.madchima.org เมื่อ: พฤศจิกายน 12, 2010, 12:19:38 pm
เป็นบุญของผม ครับ เพราะว่า เว็บบอร์ด แห่งนี้เป็นเว็บบอร์ดแห่งแรก ที่ผมกล้าพิมพ์ ครับ

อนุโมทนา กับทีมงานทุกคน ครับ

 :25:
79  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นามผู้สร้างหนังสือพระกรรมฐานห้อง ๔ เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 11:23:37 am
อยากได้พระ ครับ คะเขียนจดหมายขอ พระอาจารย์ เลยได้หรือป่าวครับ

 :25:
80  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: การเดินทาง กับ หนทางที่เลือก คร้า... เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 12:49:03 pm
ข้าพเจ้า เป็นผู้ไม่ปรารถนา ในทางที่ 1 - 3 เจ้าข้า

ขอบคุณครับ กับบทความ เรื่องทาง กับทางเลือก ครับ

 :25:
หน้า: 1 [2] 3