ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: [ชมภาพ] วิหารเทพวิทยาคม วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (จบ)  (อ่าน 5964 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

ชั้นดาดฟ้า “ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ เเละรูปหล่อปิดทองคำหลวงพ่อคูณ”

ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อโลหะสำริดปิดทองปางลีลาพระพุทธลีลาประทานพร และรูปหล่อโลหะสำริดปิดทองหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธในอิริยาบถยืนถือตะบอง เป็นตามความหมายว่า พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนธรรมะเเก่หลวงพ่อคูณ เพื่อให้หลวงพ่อคูณนำธรรมะของพระพุทธเจ้าไปสั่งสอนชาวโลกต่อไปและที่ใต้ฐานที่ตั้งรูปหล่อสำริดปิดทองหลวงพ่อคูณ ท่านสามารถนำโฉนดที่ดินมาสอดใต้เท้าหลวงคูณ เพื่อขอเสี่ยงทายที่ดิน นอกจากนี้ท่านยัง สามารถอธิษฐานบูชาซองพร้อมยันต์ของหลวงพ่อคูณ เพื่อนำไปใส่โฉนด หรือเอกสารสำคัญ เพื่อความเป็นสิริมงคลได้อีกด้วย
________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/


ภาพนี้ผมหามุมกล้องอยู่นาน กว่าจะกดชัตเตอร์ได้




ขึ้นมาบนดาดฟ้า อากาศสดชื่น วิวสวย อยากอยู่นานๆ แต่แสงแดดกล้ามาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2015, 11:03:51 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


จริตของผมเป็นคนชอบน้ำ ชอบมากๆ เลยเก็บภาพมาตามความชอบของตัวเอง

หลังคาสวยๆที่เห็น เป็น "ห้องน้ำสุขมงคล-สิริมงคล" ห้องน้ำเซรามิกที่สวยที่สุดในโลก

"มัคคุเทสก์สาวผิวเข้ม" ขออนุญาตน้องเค้าถ่ายแล้วครับ เธอหยิบยื่นไมตรีด้วยรอยยิ้มละมัย

ภาพนี้เป็นของปีก่อนโน้น ๒๕๕๖ เป็นไกด์อีกคนหนึ่ง
ภาพนี้นำมาจากกระทู้
"อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒.๒) วิหารเทพวิทยาคม"

ภาพชุดนี้ยังอยู่ที่ชั้นดาดฟ้าครับ




 ans1 ans1 ans1 ans1

ในปีปลายปี ๒๕๕๖ ผมถ่ายภาพ"วิหารเทพวิทยาคม"เอาไว้เยอะมาก มีอยู่สามกระทู้ แนะนำครับ

อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒) วิหารเทพวิทยาคม
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13187.0
อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒.๑) วิหารเทพวิทยาคม
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13210.0
อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒.๒) วิหารเทพวิทยาคม
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=13228.0
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2015, 11:52:46 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ชั้นที่ 3 “นำเสนอเรื่องราวของพระธรรมปิฎก พระธรรมขันธ์” ภาพจาก http://watbaanrai.com/
พระธรรมของพระพุทธเจ้า ที่เผยเเพร่ ตามจริตของผู้ฟัง เเบ่งได้เป็น 84,000 พระธรรมขันธ์
จัดเเสดง หมุนเวียน ตลอดเวลา เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เข้าใจหลักพระธรรม ตามธรรมขันธ์ต่างๆ


ภาพ “จิตรกรรมบนเพดาน 84,000 ใบโพธิ์” ภาพจาก http://watbaanrai.com/

“จิตรกรรมบนเพดาน 84,000 ใบโพธิ์”

จิตรกรรมวิจิตร บนเพดานชั้น 3 เป็นใบโพธิ์มากกว่า 84,000 ใบ นี้เพื่อสอดเเทรกคำสอนเรื่องของความเพียร เรียนรู้พระธรรม เเละยังเป็นเครื่องเตือนใจพุทธศาสนิกชนว่า พระองค์ มิได้มุ่งเเต่ ถ่ายทอด เเก่นพระธรรมตามที่พระองค์ทรงตรัสรู้ หากเเต่ สั่งสอนพระธรรมตามจริตของผู้สดับธรรมนั้นๆด้วย ดังนั้นพระธรรมของพระพุทธเจ้า ทั้ง 84,000 พระธรรมขันธ์ นั้นเพื่อสั่งสอนผู้คนตามจริตซึ่งจริต ของเเต่ละปัจจเจกนั้นมิได้เหมือนกันเป็นเเบบเเผนเดียวกัน การเผยเเพร่พระธรรม จึงมิได้มุ่งเเต่เพียง เผยเเพร่เเก่นด้วยวิธีเดียว เเต่วิธีในการเผยเเพร่ต่อ เเต่ละบุคคลก็มีความสำคัญในการที่จะทำให้บุคคลนั้นๆ เข้าใจซึ่งพระธรรมด้วย

_________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/




ชั้นสามเด่นที่ภาพบนเพดาน มีชื่อว่า “จิตรกรรมบนเพดาน 84,000 ใบโพธิ์” เสียดายไม่ได้ถ่ายมาให้ชม

ภาพด้านหลังพระ มีชื่อว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา”

ท่านนิพนธ์ กับ ท่านที


เดินลงมาชั้น 3 (ชั้นที่ 3 นำเสนอเรื่องราวของพระธรรมปิฎก พระธรรมขันธ์) เก็บภาพเพิ่มเติม
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พักกายพักใจที่ห้องสมาธิ

กลางโถงชั้นที่ 2 ของวิหารเทพวิทยาคม ซึ่งมีไว้สำหรับให้ท่านเข้ามาปฏิบัติสมาธิภาวนา และศาสนิกชนทุกศาสนา สามารถเข้ามาปฏิบัติศาสนกิจเพื่อก้าวสู่สัจธรรมและจุดมุ่งหมายสูงสุดของแต่ละศาสนาโดยไม่มีข้อจำกัด
________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/



ขาลง ถึงชั้นสองแวะเข้าห้องนี้ (ตอนขาขึ้นไม่ได้แวะ) นึกในใจขอให้ถ่ายติดวงเทพ เลยเก็บมาหลายภาพ
มีหลายภาพเสีย ภาพมัวใช้ไม่ได้ เนื่องจากกล้องเก่าแล้ว ได้ภาพมาเท่านี้ครับ ยังดีที่ถ่ายติดดวงเทพมาบ้าง


 ask1 ans1 ask1 ans1

ภาพห้องสมาธิ ถ่ายเมื่อปี ๒๕๕๖ นำมาเปรียบเทียบให้ดู
นำมาจาก
อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒.๑) วิหารเทพวิทยาคม

(อีกภาพ) ภาพห้องสมาธิ ถ่ายเมื่อปี ๒๕๕๖ นำมาเปรียบเทียบให้ดู
 
นำมาจาก อีสานสัญจร ส่งท้ายปี ๒๕๕๖ (๒.๑) วิหารเทพวิทยาคม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 27, 2015, 12:41:51 pm โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




แม้คุณภาพของกล้องจะไม่ดี แต่ก็ถ่ายติดดวงเทพสองดวงใหญ่

ขาลง เก็บภาพชั้นหนึ่งอีกครั้ง ด้วยเหตุที่กล้องเก่า ภาพเลยออกมามัวๆ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
แผนผังชั้นใต้ดิน ภาพจาก http://watbaanrai.com/

ชั้นใต้ดิน “ความเชื่อเเละความโชคดี”

ชั้นใต้ดินของวิหารเป็นส่วนจัดเเสดง เเละ ให้ผู้เข้าชมได้เลือกรับของที่ระลึกจากเงินทำบุญของท่านผู้เข้าชมเอง บรรยากาศโดยรอบจัดตกเเต่งให้เสมือนท่านได้ อยู่ในท้องนที อันศักด์สิทธ์ หรือ โลกใต้บาดาล โดยของที่ระลึกอันเป็นมงคล นั้นผู้เข้าชมสามารถเลือก ได้ตามความหมายอันเป็นสิริมงคลตามที่ท่านต้องการ ซุ้มของที่ระลึก เเบ่งออกเป็น ๒ ส่วนหลักๆ

ส่วนเเรก  คือบริเวณโถงกลาง เรียกว่า ซุ้มของที่ระลึก เพชร ๗ สีมณี ๗ เเสง เป็น การบูชาลูกปัดสีต่างๆ โดยเลือกเสี่ยงทายตามสถานะหรืออาชีพการงานของบุคคลนั้นๆ

ส่วนที่ ๒  รายล้อมโซน เพชร ๗ สีมณี ๗ เเสง ประกอบไปด้วย เจ็ดสิ่งนำโชคในโลกใต้บาดาล อันมีความหมายมงคลตามความเชื่อ จากหลากหลาย ประเทศในโลก ได้แก่
   ๑. มังกร+ลูกแก้ว : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง ความมีโชคลาภ วาสนา
   ๒. พญานาค : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง ร่ำรวยเงินทอง
   ๓. ปลาอานนท์ : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง สุขภาพ ความแข็งแรง มีกำลัง
   ๔. จระเข้ : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง การสะสมบุญ ความเมตตา เพื่อจะได้รับเมตตาจาก เจ้านาย เเละเป็นที่รัก
   ๕. พญาเต่า : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง อายุยืน
   ๖. ปลาม้าน้ำ : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง ชีวิตคู่ยาวนาน สันติภาพ มิตรภาพ
   ๗. ปะการังแดง : ขอพร เเละคำทำนาย เรื่อง เดินทางปลอดภัย อาทิเช่น ที่ซุ้มพระพญาเต่า นักท่องเที่ยวสามารถทำบุญ เสี่ยงทาย รับคำทำนาย เกี่ยวกับอายุไขเเละรับของที่ระลึกเกี่ยวข้องกับคำอวยพรให้อายุยืน





1. เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง : บันดาลแสงสว่างและทรัพย์ศฤงคาร

นับย้อนหลังนานแสนนานไปในสมัยพุทธกาลแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป ซึ่งได้ลงมาตรัสรู้พระโพธิญาณเพื่อรื้อขนสัตว์ข้ามห้วงวัฏฏะสงสารในมหาภัทร กัปนี้ (ที่มีพระพุทธเจ้าลงมาตรัสรู้ ๕ พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ ๔) ทำให้เกิดความสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั่วหมื่นโลกธาตุอนันตจักรวาลด้วยพระ บารมีแห่งพระโพธิญาณองค์มหาพระโพธิสัตว์ เกิดเหตุการณ์อัศจรรย์บังเกิด”ฝนโบกพัท”ตกลงมา ใครใคร่ให้เปียกก็เปียกใครใคร่ไม่เปียกก็ไม่เปียกด้วยพระบุญญาธิการแห่งองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้ากัสสโป

เมื่อได้ตกลงมาสู่พื้นพสุธาบางส่วนได้ประมวลตัวรวมธาตุดึงดูดธาตุทั้งสี่คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ จนบังเกิดก่อกำเนิดเป็น”เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง” ธาตุกายสิทธิ์ขึ้นมา มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกายรัศมีถึง ๗ สี ส่องแสงสว่างไปทั้งกลางวันและกลางคืนนับเป็นเวลา ๗ วัน ๗ คืน รัศมีแห่งเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงนี้ส่องสว่างครอบคลุมจนไปถึงนครใต้บาดาลดล บันดาลทำให้เกิดแสงสว่างเป็นรัศมี ๗ ประการ กลบรัศมีแสงสว่างอัญมณีพลอยอันมีค่าต่างๆ ที่อยู่ในนครบาดาลทั้งหมด จนเกิดความแตกตื่นโกลาหลไปทั่วทั้งนครบาดาล จนเหล่านาคีนาคาผู้ที่มีฤทธิ์ต่างหาสาเหตุต่างๆ นานาถึงเหตุการณ์อันอัศจรรย์ใจนี้เหล่านาคีนาคาบริวารทั้งหลายต่างก็อัญเชิญไปเก็บตามถ้ำตามภูเขาหมวดหมู่ที่พวกตน ได้สิ่งสถิตย์พักอาศัยอยู่

ส่วนหนึ่งก็ได้นำดินสีต่างๆมาพอกหุ้มเพชรนาคาหรือเพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสงเอาไว้ เพื่อให้รอดพ้นจากสายตาหรือน้ำมือจากพวกมนุษย์ใจคิดคดไม่อยู่ในศีลในธรรม หรือจากเหล่าเทพพรหมที่เป็นมิจฉาทิฐิ ให้เห็นเป็นเพียงก้อนดินก้อนหินธรรมดา อีกกลุ่มหนึ่งได้นำไปไว้ในถ้ำที่ลึกลับที่ยากจะเข้าไปได้นำไปประดิษฐสถานเอา ไปไว้ในแอ่งน้ำต่างๆภายในแต่ละถ้ำที่เห็นสมควรพร้อมกับทั้งอธิษฐานบดบัง รัศมีแห่งแก้วนี้เสีย จนรอเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนาสืบต่อไป





การบูชาลูกปัดสีต่างๆ โดยเลือกเสี่ยงทายตามสถานะหรืออาชีพการงานของบุคคลนั้นๆ
    ๑. พรบูชา (สีส้ม)  กล้าหาญและยุติธรรม เทพแห่งคุณธรรมจักดูแลปกปักรักษา มีความกล้าหาญและยุติธรรม เป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับและยกย่องจากมวลมิตร
     ๒. พรบูชา (สีฟ้า) มั่งคั่งและมั่นคง ด้วยบุญญาวาสนาที่สั่งสมมาและบุญญาอิทธิฤทธิ์ของเทพยดาผู้ค้ำชูจักเป็นผู้ดำเนินกิจการงานค้าขายมั่งคั่งและมั่นคงเดินทางปลอดภัยทั่วทุกสารทิศ
     ๓. พรบูชา (สีแดง) อำนาจและบารมี พลังมงคลทั่วทั้งจักรวาลสถิตมาเป็นกำลังและอำนาจเปล่งประกายรัศมีแห่งอำนาจเป็นที่เกรงขามแก่หมู่ชนทั้งหลายหนุนนำพาให้การงานและสิ่งปรารถนาสัมฤทธิ์ผลรวดเร็วดังประสงค์
     ๔. พรบูชา (สีเขียว) เมตตาและสงบร่มเย็น สงบเย็นทั้งกายและใจด้วยจิตเมตตาธรรมมั่นคงและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ มีวาจาเป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมรักใคร่ในมวลหมู่ชน
     ๕. พรบูชา (สีม่วง) พลังและอนุภาพ พลังวิเศษสร้างอานุภาพทวีคูณช่วยปกป้องคุ้มครองให้แคล้วคลาดจากภยันตรายทั้งปวงเป็นที่ครั่นคร้ามแก่มวลหมู่ศัตรู
     ๖. พรบูชา (สีขาว) สติและปัญญา พุทธคุณอันบริสุทธิ์ช่วยกำหนดสติและเกิดพลังปัญญา คิดหวังสิ่งใดได้รู้แจ้งเห็นจริง เป็นไปตามปรารถนาตั้งใจมั่นทำดีได้ดีด้วยจิตสะอาดบริสุทธิ์
     ๗. พรบูชา (สีเหลือง) โชคลาภและสง่าราศี โชคลาภมากมีทวีคูณอนาคตรุ่งเรืองสดใส เสริมดวงชะตามงคลเป็นสง่าราศีแก่ตน บุญหนุนนำมีผู้อุปถัมภ์ให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน





2. มงคลศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกใต้บาดาล

๑. พญานาค : ร่ำรวยเงินทอง
พญานาค สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์ ความมีวาสนา และนาคยังเป็นสัญลักษณ์ของบันไดสายรุ้งสู่จักรวาล นาคเป็นเทพเจ้าแห่งท้องน้ำ บางแห่งก็ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งฟ้า เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ จากการจำศีล บำเพ็ญภาวนา ศรัทธาในพุทธศาสนา ไม่เบียดเบียนผู้อื่น

๒. พญาเต่า : อายุยืน
ความเชื่อทั่วไปแล้ว เต่าถือเป็นสัตว์ที่มีอายุยืน คนไทยจึงมีความเชื่อว่าหากได้ปล่อยเต่าจะเป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เชื่อต่อ อายุให้ยืนยาว ดังนั้น จึงมักเห็นเต่าหรือตะพาบตามแหล่งน้ำในวัดบางแห่งเสมอ ๆ

๓. ปลาอานนท์ : ความแข็งแรง มีกำลัง
โบราณกาลเล่าขานกันว่า “ปลาอานน” หรือ “ปลาอานนท์” เป็นปลาที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสร้างโลก เป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้อง “แบกน้ำหนักของโลกไว้” ปลาอานน มีร่างกายใหญ่โตโอฬารมากมายเหลือคณา เล่ากันว่าหากวัดความยาวของปลาอานนท์นี้นับได้เป็นพันๆ โยชน์ ปลาอานนท์ นิ่งสงบ และแบกโลกไว้ แต่อยู่มาก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ ก็เลยพลิกตัวบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบท ที่ได้แบกโลกไว้ ก็เลยทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภัยพิบัติเหนือผิวโลก ลมฟ้าแปรปรวน(มหาสมุทร มีปลาใหญ่ ๗ ตัว ชื่อตามลำดับไหล่ ติรณะ ติมิง คละ ตรปิงคละ อานนท์ นิรยะ อัชฌนาโรหะ และ มหาติมิ ปลาอานนท์ ชื่อลำดับที่ ๔ ตัวใหญ่ หนุนชมพูทวีปหรือโลกมนุษย์)

๔. ปลาม้าน้ำ : ชีวิตคู่ยาวนาน สันติภาพ มิตรภาพ
เป็นสัตว์ชนิดหนึ่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์ของ “ความซื่อสัตย์” ต่อคู่ครอง เพราะเมื่อปลาม้าน้ำตัวผู้และตัวเมียตกลงใจที่จะอยู่ด้วยกันแล้ว ก็จะอยู่คู่กันแบบที่เรียกว่า “ผัวเดียว เมียเดียว” ไปจนกระทั่งฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะตายจากไปถึงจะหาคู่ใหม่ นับเป็นพฤติกรรมที่น่าชื่นชมอย่างมาก แต่พฤติกรรมที่น่าชื่นชมนี้กลับนำพาโศกนาฏกรรมมาสู่ตัวปลาม้าน้ำเอง เพราะมีคนจำนวนไม่น้อยที่มีความเชื่อว่า การมอบลาม้าน้ำคู่ผัวเมียให้แก่คู่บ่าวสาวเป็นของขวัญในวันแต่งงานนั้น เป็นการอวยพรให้คู่รัก คู่บ่าวสาวมีความรักและความซื่อสัตย์ต่อกัน เช่นเดียวกับคู่ของปลาม้าน้ำ





๕. จระเข้ : การสะสมบุญ ความเมตตา
สมัยโบราณการเดินทางต้องอาศัย การดูทิศทางจากดวงดาว เช่น ในการ เคลื่อนขบวนทัพ ในตอนจวนสว่าง ต้องอาศัยดาวจระเข้ ซึ่งขึ้นในช่วงนั้นพอดี การทอดกฐินสมัยโบราณเป็นงานใหญ่ มีภาระต้องจัดทำมาก บางที่ต้องไปทอด ณ วัดซึ่งอยู่ไกลบ้าน ก็ต้องอาศัยดูทิศทางจากดาวจระเข้ ซึ่งพอขึ้นก็เริ่มเคลื่อนขบวนกฐิน จะได้ไปสว่างที่วัดพอดี

ส่วนอีกตำนานหนึ่งนั้น มีนิทานโบราณว่า เศรษฐีผู้หนึ่งเป็นคนขี้เหนียว ไม่เคยคิดทำบุญสร้างกุศล นำสมบัติไปฝังไว้ที่ท่าน้ำหน้าบ้าน ครั้นตายลงจึงไปเกิดเป็นจระเข้เฝ้าสมบัติของตน ได้รับความทุกขเวทนาจึงไปเข้าฝันภรรยาให้มาขุดสมบัติไปทำบุญกุศล ภรรยาจึงจัดให้มีการทอดกฐินขึ้น จระเข้เศรษฐีนั้นก็บังเกิดความยินดี ว่ายน้ำตามขบวนเรือแห่องค์กฐินไป แต่ยังไม่ทันถึงวัดก็หมดแรง ไปต่อไม่ไหว จึงบอกภรรยาให้วาดรูปจระเข้ ใส่ในธงไปแทน “คติความเชื่อเรื่องนี้ ถือว่า ตรงกับเรื่องบาปบุญทางพุทธศาสนา เตือนสติให้คนรู้จักเสียสละ ทำบุญบ้าง เมื่อตายแล้ว หากยังหวงสมบัติอยู่ ก็จะเกิดเป็นสัตว์ มาเฝ้าสมบัติ ตรงกับหลักธรรมที่ว่า ตายด้วยความโลภ จะเกิดเป็นเปรต ตายด้วยความโกรธจะตกนรก ตายด้วยความหวง จะเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน”

๖. มังกร+ลูกแก้ว : ความมีโชคลาภ วาสนา
ตามตำราดึกดำบรรพ์ของจีนกล่าวกันว่า มังกรจีนนั้น ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในสมัยของ พระเจ้าฟูฮี,ฟูซี หรือฟูยี (หรือเมื่อประมาณ 3,935 ปีก่อนพุทธกาล) ประมาณ 6,500 ปีมาแล้ว ก่อนไคโร อียิปต์ มีตำนานกล่าวกันไว้ว่า มีมังกรอยู่ตัวหนึ่งเป็นเจ้าเหนือน่านน้ำทั้งปวงเป็นระยะเวลาหลายพันปี ซึ่งแท้จริงแล้วมังกรตัวนั้นก็คือ พระเจ้าฟูฮี แปลงร่างนั่นเอง พระเจ้าฟูฮีนั้นป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก เป็นพระเจ้าผู้สร้างหลักธรรมแห่งหยิน-หยาง เป็นธรรมะอันแรกในโลก ทรงคิดประดิษฐ์ของหลายสิ่งหลายอย่าง เช่น “โป๊ย-ก่วย” หรือ ยันต์แปดทิศในประเทศจีนคนโบราณมีความเชื่อกันว่ามังกรคือ สัตว์ที่ทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์แห่งฟ้าและดิน ได้รับการกล่าวกันว่ามีความเป็นมิตร มากกว่าความร้ายกาจ เป็นสัญลักษณ์ที่นำมาซึ่งความสุข และความอุดมสมบูรณ์ของบ้านเมือง

มังกรกลายมาเป็นส่วนสำคัญของชีวิตของผู้คนชาวจีน ในรูปของเทพเจ้าจากสรวงสวรรค์ อย่างที่ชาวโลกได้รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ Sheng Chi มังกรจีนคือผู้ที่ยอมสละชีวิตและพลังของตนออกมาในรูปของฤดูกาลของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ มังกรจีนเป็นผู้นำน้ำมาจากฝน ความอบอุ่นจากดวงอาทิตย์ สายลมจากทะเลและ ผืนดินจากโลก มังกรเป็นตัวแทนของพลังที่ยิ่งใหญ่แห่งธรรมชาติ พลังอำนาจสูงสุดของโลก บางครั้งเราอาจพบมังกรจีนในรูปสัญลักษณ์ของเทพเจ้าแห่งการปกป้องและคุ้มครอง พวกมันถูกยกย่องให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเหนือกว่าสิ่งมีชีวิต ทั้งมวล พวกมันมีสามารถอาศัยอยู่ในทะเล บินขึ้นไปถึงสวรรค์ และขดตัวบนพื้นดินในรูปของภูเขา ในหมู่ของสิ่งมีชีวิตในเทพนิยายทั้งหลาย มังกรสามารถปัดเป่าวิญญาณที่ชั่วร้าย ปกป้องผู้บริสุทธิ์และทำให้ผู้ที่ถือเครื่องหมายของพวกมันรอดพ้นจากพยันตราย ต่างๆ นานาได้ มังกรจีนถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แทนความโชคดีสูงสุด

๗. ปะการังแดง : เดินทางปลอดภัย
ปะการังเป็นหินจากธรรมชาติที่แตกต่างจากหินชนิดอื่นเนื่องจากเป็นหินที่ค่อย ๆ ก่อตัวอย่างช้า ๆ ใต้ทะเล จึงมีความเชื่อว่า ปะการังเป็นหินที่มีพลังในการปกป้องคุ้มครองยามเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางข้ามประเทศนอกจาก นั้น ยังมีความเชื่ออีกว่า ปะการัง จะช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น ในด้านความเชื่อทางจิตใจ ปะการัง เหมาะสำหรับคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง มักจะคอยกังวลอยู่เสมอว่า ใครจะคิดกับเรายังไง ปะการังจะช่วยกระตุ้นจิตใจให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย และช่วยขจัดความคิดในด้านลบออกไปจากจิตใจได้

ปะการังแดง คนอินเดียเชื่อว่าปะการังเป็นของขวัญวิเศษจากพระเจ้า ที่มอบให้แก่ท้องทะเล เหมาะที่จะให้เด็กๆสวมใส่เพื่อปกป้องคุ้มครองอันตรายอันเกิดจากการพลัดตก หกล้มหรือซุกซน ส่วนคนโรมันมักใช้ปะการังเป็นเครื่องประดับด้ามอาวุธหรือประดับร่างกาย เพราะเชื่อว่าจะช่วยหลีกเลี่ยงความรุนแรงในการสู้รบ และช่วยให้เกิดความกล้าหาญในการต่อสู้กับศัตรูไม่ยอมแพ้หรือท้อแท้อะไรง่ายๆ



กรอบรูปนี้เป็นการโฆษณาพระเครื่องของหลวงพ่อคูณ ติดอยู่ที่เคาน์เตอร์

ภาพนี้เป็นการขยายภาพด้านบนให้ดูครับ


__________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก http://watbaanrai.com/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2015, 08:08:43 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
ภาพนี้ออกจะประหลาด มุมล่างด้านขวาเป็นรุ้ง มุมบนด้านซ้ายเป็นแสงจ้า(เข้าใจว่าเป็นแสงจากดวงไฟ)
สองอย่างนี้เป็นเรื่องธรรมชาติแน่นอน แต่ "ดวงกลมขาวๆด้านบนซ้ายมือ" นี่ซิ..จะอธิบายอย่างไง แถมมีสองชั้นด้วย





       ภาพชุดนี้ยังอยู่ใต้ดิน....น่าเสียดายครับ ผมเเก็บภาพมาเฉพาะตรงกลางของห้องโถงเท่านั้น ไม่ได้เก็บภาพรอบๆห้อง ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไม อาจจะกังวลเรื่องกล้องไม่ดี แต่ที่แน่ๆ มันรู้สึก ตื้อๆ มึนๆ อย่างไงก็ไม่รู้ เบื่อตัวเองพิกล
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 28, 2015, 08:04:48 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
(ชั้นใต้ดิน) ภาพแผนผังชั้นใต้ดิน และคำอธิบาย "มงคลศักดิ์สิทธิ์แห่งโลกใต้บาดาล"
คำอธิบายด้านซ้ายเป็นภาษาไทย ส่วนด้านขวาเป็นภาษาอังกฤษ


มงคลศักดิ์สิทธิ์ แห่ง โลกใต้บาดาล

(คำอธิบายต่อไปนี้อยู่ในภาพ)...โลกใต้บาดาลคือสิ่งเร้นลับสำหรับมนุษย์มาแต่อดีตกาล ทั่วทุกภูมิภาคในโลกมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สถิตย์อยู่ใต้ท้องน้ำ
   เทพอีอา เทพแห่งน้ำของชนเผ่าโบราณในอารยธรรมเมโสโปเตเมีย
   เทพโปไซดอน เทพผู้เป็นเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทรของชาวกรีก
   เทพไตรตรอน เทพผู้อาศัยอยู่ในปราสาททองคำที่ซ่อนตัวอยู่ใต้ทะเล ทำหน้าที่เป่าแตรสังข์ควบคุมท้องทะเลให้สงบหรือปั่นป่วน
   เทพโอเนล เทพแห่งทะเลของชาวบาบิโลนเจ้าแห่งอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ เมื่อกว่า ๓,๐๐๐ ปี
   เทพนอร์ด เทพแห่งสายลมและท้องทะเลของชาวไวกิ้งชนเผ่านักรบทางทะเลโบราณ
   พระแม่คงคา เทพีผู้รักษาสายน้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวอินเดีย
   นางเงือก เทพธิดาแห่งท้องทะเล ผู้เนรมิตของมีค่าแก่ชาวเรือและคอยเตือนภัยพายุ ในดินแดนแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
   ความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใต้บาดาลที่สำคัญคือ พญานาค ผู้มีพลังอันยิ่งใหญ่ในนครบาดาล ปกป้องรักษาธรรมะและขุมทรัพย์มหาสมบัติ เป็นสะพานเชื่อมต่อทั้ง ๓ โลกได้แก่ โลกบาดาล โลกมนุษย์ โลกสวรรค์





ขยายคำอธิบายในภาพให้ดูกันชัดๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: เมษายน 29, 2015, 07:32:55 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

(ชั้นใต้ดิน) ภาพแผนผังชั้นใต้ดิน และคำอธิบาย "เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง" ขุมทรัพย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งนครบาดาล
คำอธิบายด้านซ้ายเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนด้านขวาเป็นภาษาไทย


เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง ขุมทรัพย์ศักดิ์สิทธิ์ แห่ง นครบาดาล

(คำอธิบายต่อไปนี้อยู่ในภาพ)...ด้วยบุญบารมีแห่งการบำเพ็ญเพียรขององค์พระกัสสปพุทธเจ้า ตรัสรู้พระสัมโพธิญาณเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๓ หนึ่งในพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ดลบันดาลให้เกิดสิ่งอัศจรรย์เป็น "เพชรเจ็ดสีมณีเจ็ดแสง" มีรัศมีสว่างไสวเปล่งประกาย ๗ สี ส่องสว่างทั้งกลางวันแและกลางคืน กลบรัศมีของอัญมณีทั้งหมดที่อยู่ในนครบาดาล เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังลึกลับอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นขุมทรัพย์มหาสมบัติใต้บาดาล มีฤทธานุภาพดลบันดาลให้เกิดโชคลาภและมหามงคลทั้งปวง




ขยายคำอธิบายให้เห็นกันชัดๆ
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28492
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

(ชั้นใต้ดิน) ภาพนี้ขอตั้งชื่อว่า.....ทางสองแพ่ง ทำให้เกิดวิจิกิจฉา(ความลังเลสงสัย)

(ชั้นใต้ดิน) “ต้นลีลาวดี ๘๔,๐๐๐ ดอก”

              ต้นลีลาวดี ๘๔,๐๐๐ ดอก
              ศิลปิน : คุณเอกชัย ลวดสูงเนิน
              ระยะเวลา : ๒ เดือน
              ประเภท : จิตรกรรมสีน้ำมันบนผ้าใบ
              คอนเซป : ภาพดอกลีลาวดีสีเหลืองอร่าม ๘๔,๐๐๐ ดอก สื่อถึง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์ ภาพท้องทะเลและโขดหินแฝงภาพปริศนาธรรมเอาไว้



ans1 ans1 ans1 ans1

เป็นที่น่าสังเกตว่า ชั้นใต้ดินถ่ายติดดวงเทพจำนวนมาก ไม่ทราบสาเหตุครับ
ทริปวิหารเทพวิทยาคม มีภาพให้ชมกันเท่านี้ ขอบพระคุณที่ติดตาม...


 :welcome: :49: thk56 :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
 st12 st11 thk56 gd1 :035: :035: :035: :welcome: :040: :040: :040:
      ขออนุโมทนาสาธุ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา