ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บุพนิมิต แห่ง มรณะ  (อ่าน 3128 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
บุพนิมิต แห่ง มรณะ
« เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 10:14:39 pm »
0
บุพนิมิต แห่ง มรณะ


พระสุตตันตปิฎก
เล่ม ๑๗
ขุททกนิกาย ขุททกปาฐ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
๔. จวมานสูตร


   [๒๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด เทวดาเป็นผู้จะต้องจุติจากเทพนิกายเมื่อนั้น  นิมิตร ๕ ประการ ย่อมปรากฏแก่เทวดานั้น คือ

ดอกไม้ย่อมเหี่ยวแห้ง ๑
ผ้าย่อมเศร้าหมอง ๑
เหงื่อย่อมไหลออกจากรักแร้ ๑
ผิวพรรณเศร้าหมองย่อมปรากฏที่กาย ๑
เทวดาย่อมไม่ยินดีในทิพอาสน์ของตน ๑

ดูกรภิกษุทั้งหลายเทวดาทั้งหลายทราบว่า เทพบุตรนี้จะต้องเคลื่อนจาก
เทพนิกาย ย่อมพลอยยินดีกะเทพบุตรนั้นด้วยถ้อยคำ ๓ อย่างว่า
แน่ะท่านผู้เจริญ

ขอท่านจากเทวโลกนี้ไปสู่สุคติ ๑
ครั้นไปสู่สุคติแล้ว ขอจงได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ๑
ครั้นได้ลาภที่ท่านได้ดีแล้ว ขอจงเป็นผู้ตั้งอยู่ด้วยดี ๑ ฯ


   [๒๖๒] เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ภิกษุรูปหนึ่งได้ทูลถามว่าข้าแต่พระองค์
ผู้เจริญ
อะไรหนอแลเป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย
อะไรเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว
อนึ่ง อะไรเป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย พระเจ้าข้า ฯ

   พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ความเป็นมนุษย์แล เป็นส่วนแห่งการไปสู่สุคติของเทวดาทั้งหลาย

เทวดาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว ย่อมได้ศรัทธาในธรรมวินัยที่พระตถาคต
ประกาศแล้วนี้แลเป็นส่วนแห่งลาภที่เทวดาทั้งหลายได้ดีแล้ว

ก็ศรัทธาของเทวดานั้นแล เป็นคุณชาติตั้งลง มีมูลเกิดแล้วประดิษฐานมั่นคง อันสมณะ พราหมณ์ เทวดา มาร พรหม หรือใครๆ ในโลก พึงนำไปไม่ได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แล เป็นส่วนแห่งการตั้งอยู่ด้วยดีของเทวดาทั้งหลาย ฯ


 
ความในอรรถกถา ในจวมานสูตรที่  ๔ (คัดมาบางส่วน)

เทวดามี  ๓  จำพวก  คือ 
สมมติเทพ  ๑ 
อุปบัติเทพ  ๑ 
วิสุทธิเทพ  ๑

 

ในเทวดา  ๓  จำพวกเหล่านั้น 
กษัตริย์ผู้เป็นพระราชาทั้งหลายชื่อว่า สมมติเทพ 
เทวดาผู้สูงกว่านั้นขึ้นไปเริ่มแต่เทวดาชั้นจาตุมมหาราชิกาเป็นต้นชื่อว่า  อุปบัติเทพ 
พระขีณาสพ  ชื่อว่า  วิสุทธิเทพ 

บุพนิมิตแห่งความตาย  ๕  ประการ  ย่อมเกิดขึ้น  หรือปรากฏแก่เทพนั้น  ผู้มีมรณะ
ปรากฏแล้ว. 

๑. ดอกไม้ที่เทพบุตรนั้น-ประดับนั้น  จะเหี่ยว  คือหมดความงดงาม  เหมือนโยนไปที่แดดในเวลาเที่ยง

๒. ผ้าที่เทพบุตรนั้นนุ่งห่มแล้ว  มีสีเหมือนพระอาทิตย์อ่อน ๆ  ที่ทอแสงอยู่ในอากาศที่ปราศจากเมฆหมอกในสรทสมัย  มีสีต่างๆ  จางลง  ไม่แวววาว  เศร้าหมอง  เหมือน
ถูกโยนลงไปในโคลนแล้วขยำในขณะนั้นทีเดียว 


๓. ในขณะนั้นหยาดเหงื่อ  หลั่งไหลออกจากรักแร้ทั้งสองของ
เทพบุตร  ผู้มีร่างปราศจากคราบเหงื่อไคลมาก่อน  เหมือนแก้วมณี  โดยกำเนิด
ที่บริสุทธิ์ดี  และเหมือนรูปหล่อทองคำที่ศิลปินผู้เชี่ยวชาญตกแต่งแล้ว  ก็ไม่ใช่
ไหลออกจากรักแร้  อย่างเดียวเท่านั้น  แม้แต่เหงื่อกาฬ  ก็จะไหลออกจาก
ร่างกายทั้งสิ้นของเทพบุตรนั้น  โดยที่กายของเทพบุตรเป็นเสมือนหนักอึ้งด้วย
ข่ายที่ประดับประดาล้วนไปด้วยข่ายแห่งมุกดาที่ตนประดับแล้ว 


๔. ในชั้นต้นเริ่มแต่ปฏิสนธิ  ร่างกายจะแผ่
รัศมีพวยพุ่งไปตลอดสถานที่โยชน์ ๑  บ้าง  ๒  โยชน์บ้าง  จนถึงที่ประมาณ  ๑๒
โยชน์บ้าง  ตามอานุภาพ  (ของตน)  จะปราศจากชราภาพ  มีฟันหักและหนังย่น
เป็นต้น  ความหนาว  ความร้อน  จะไม่เข้าไปกระทบกระทั่ง  จะเป็นเหมือน
เทพธิดารุ่นสาว  อายุราว  ๑๖  ปี  จะเป็นเหมือนเทพบุตรรุ่นหนุ่มอายุราว ๒๐  ปี
(แต่)  ในขณะนั้นเอง  ความผิดรูปผิดร่าง  (ขี้เหล่)  จะเข้ามาแทนที่  คือ
สถิตอยู่ในกายที่สิ้นรัศมี  หมดเดช


๕. จะไม่ยินดี  คือ  ไม่ได้ความชื่นใจ  ในทิพอาสน์  สำหรับเล่น  และ
บำเรอ  กับด้วยหมู่สาวสวรรค์ของตน.



   ได้ยินว่า  ความตายจักมีแก่เทพบุตรนั้น  โดย  ๗  วันด้วยการนับวัน
ในมนุษย์  เพราะฉะนั้น  บุพนิมิตเหล่านี้จึงปรากฏด้วยการเกิดขึ้นแห่งบุพ-
นิมิตนั้น  เทพบุตรนั้นย่อมถูกความโศกมีกำลังครอบงำ  ด้วยคิดว่า  เราต้อง
พลัดพรากจากสมบัติเห็นปานนี้ 

ด้วยเหตุนี้  ความกระวนกระวายอย่างใหญ่หลวง
ย่อมเกิดขึ้นในกายของเทพบุตรนั้น  ด้วยเหตุนั้น  เหงื่อจึงไหลออกจากลำตัวโดย
ประการทั้งปวง  เทพบุตรบางองค์  ที่มีทุกข์หาประมาณมิได้ตลอดกาลเนิ่นนานมา

เมื่อไม่สามารถจะยับยั้งทุกข์นั้นไว้ได้  คร่ำครวญปริเทวนาการอยู่ว่า  เราร้อน
เรากลุ้ม  ไม่ได้ความแช่มชื่นในที่ไร ๆ  พรำเพ้อ  ละเมอ  เที่ยวไปในที่นั้น ๆ
บางองค์ตั้งสติได้  แม้ไม่ได้แสดงความผิดปกติทางกายและวาจา  เมื่ออดกลั้นทุกข์
คือความพลัดพรากจากของรักไม่ได้  จะเดือดร้อนเที่ยวไป.

   ก็บุพนิมิตเหล่านี้  ย่อมปรากฏเฉพาะเทวดาผู้มเหศักดิ์ทั้งหลายเท่านั้น
เหมือนนิมิตทั้งหลาย  มีอุกกบาต  แผ่นดินไหว  และจันทรคราสเป็นต้น  จะ
ปรากฏแก่ผู้มีบุญใหญ่ในโลก  เช่นพระราชา  และราชมหาอมาตย์เป็นต้น
หาปรากฏแก่คนทั่วไปไม่.  ก็เทวดาบางเหล่า  รู้นิมิตเหล่านั้นที่เกิดแล้วว่า

นิมิตเหล่านี้ชื่อว่า  เป็นบุพนิมิตแห่งมรณะ  ไม่ใช่รู้หมดทุกองค์  ในเทพบุตร
เหล่านั้น  เทพบุตรที่เกิดด้วยกุศลธรรมอย่างอ่อน  ก็จะกลัวไปว่า  บัดนี้ใครเล่า
จะรู้ว่า  เราจักเกิดในที่ไหน ? 

ส่วนพวกที่มีบุญมาก  จะไม่กลัว  ไม่หวาดหวั่นด้วยคิดว่า  เราได้ให้ทานได้รักษาศีล 
ได้สั่งสมบุญไว้มากแล้ว  เราจุติจากโลกนี้แล้ว เป็นอันหวังได้สุคติทีเดียว 
ก็เทวดาทั้งหลาย  ครั้นถือเอาบุพนิมิตที่ปรากฏขึ้นอย่างนี้นั้นแล้ว 
ย่อมเข้าไปสู่สวนนันทนวัน  สวนนันทนวันมีประจำอยู่ในเทวโลกทุกชั้นทีเดียว

 

ที่มา  พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน

บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

noppadol

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +13/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 144
  • Respect: +3
    • ดูรายละเอียด
Re: บุพนิมิต แห่ง มรณะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 10:17:40 pm »
0
บุพพนิมิต น่าจะเป็นเฉพาะ อุปัตติเทพ ใช่หรือป่าวครับ

 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า