ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ได้ยินว่า ศรัทธา เป็นเครื่องขัดขวางปัญญา แต่ทำไมกรรมฐานจึงเริ่มจากศรัทธา ครับ  (อ่าน 3466 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

sakda

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 98
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ได้ยินว่า ศรัทธา เป็นเครื่องขัดขวางปัญญา แต่ทำไมกรรมฐานจึงเริ่มจากศรัทธา ครับ

 คือไม่ค่อยจะเข้าใจ บางครั้ง เราก็เหมือน จะต้องกลับไปทำอะไรแบบไม่ต้องเข้าใจอะไรเลย หรือครับ

  :c017: :25: :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

kindman

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 272
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ศรัทธา คือ ความเชื่อ เป็น ความเลื่อมใส ว่า คุณของพระพุทธเจ้า มีจริง คุณของพระธรรม มีจริง คุึณของพระสงฆ์ มีจริง ความศรัทธา เช่นนี้ ย่อมประกอบด้วยปัญญา ที่เหตุผลว่า

    ทุกข์ มีเหตุ มีปัจจัย การจะละจากทุกข์ ได้ ก็ต้องละที่เหตุปัจจัย ส่วนนั้น การที่จะละ ก็ต้องปฏิบัติ ตาม วิธีการที่พระพุทธเจ้ากำหนดไว้ และ ผลนั้น จักรู้แจ้งด้วยตนเอง

  ดังนั้น การเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ไม่ใ่ช่เป็นการงมงาย แต่เป็นเป็น ศรัทธา อันประกอบด้วยปัญญาครับ

   :s_hi:
บันทึกการเข้า

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ปัจจุบัน มักกล่าวกัน ถึงผลเลย เพราะการเข้ามรรคผล ปัญญาคือผล ครูอาจารย์ว่าไว้อย่างนั้น
     แต่ ไปปฏิเสธ ศรัทธา ซะอย่างนั้น  หรือ บางทีก็ปฏิเสธเรื่อง สมาธิ ซะอย่างนั้น

     ศรัทธา มิได้เป็นเครื่องขวางปัญญา
      แต่เหตุ แห่ง การบ่มอินทรีย์ 5
    เริ่มจาก ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา   สิ่งเหล่านี้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สอนไว้มันหลีกเลี่ยงไม่ได้

   ปณิธาน ที่มุ่งไป ศิล สมาธิ ปัญญา หลีกเร้น เลี่ยงหนี การมี ศรัทธา ไปไม่ได้
     การจะมุ่งสู่ธรรมของพระพุทธะ ต้องมีศรัทธา
       หากไม่มี ความตั้งใจ มุ่งมั่น ในสิ่ง นั้นๆ
          ชีวิตนี้ จะทําอะไร คงไม่สําเร็จ(ผล)  เพราะไม่มีศรัทธา
         
          มรรคไม่สมบูรณ์ (ผล)ก็ไม่เกิด

         เพราะผลก็คือ......ปัญญา ที่ว่านั่นเอง
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา กับ ท่าน aaaa ด้วยครับ
ที่มาคุยใน บอร์ดนี้ เป็นเพื่อน ทำให้นึกถึง พระอาจารย์ นาน ๆ ท่านมาตอบ หรือว่าเราไม่รู้จะถามอะไรกันนะครับ
ทราบว่า ตอนนี้อาพาธ จาก ประกาศใน Facebook

 จึงไม่ได้อ่านกระทู้ท่าน

  :c017:
บันทึกการเข้า

bomp

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 72
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ศรัทธา มาก ก็มักขาดปัญญา
   คือ เชื่อมากกว่า เหตุผล เช่น ไสยศาสตร์ อะไรอย่างนี้เป็นต้น เลยกลายเป็นความงมงาย ไป ก็ไม่ดีครับ

   :13:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
มีเรื่องที่จะกระจ่างได้ เพราะความเข้าใจ และ เหตุ และ ผล มากมายหลายเรื่อง ล้วนแล้วก็ต้องพิสูจน์

แต่สำหรับพระธรรม นั้นไม่ใช่เรื่องที่ควรพิสูจน์ หรือทดสอบ แต่พระธรรมนั้นมีได้จากการภาวนา จริง ๆ เพื่อกระทำเป้าหมาย คือการสิ้นทุกข์ไม่เวียนว่ายตายเกิดกันต่อไป นั่นแหละ อันนี้เป็นของจริง

 ดังนั้น การภาวนากรรมฐาน เจริญธรรม ไม่ใช่การสวดอ้อนวอนร้องขอ ไม่ใช่ศรัทธา เช่น บุคคล ต่อผู้บันดาล อะไรทั้งสิ้น แต่การภาวนา เจริญธรรม กรรมฐานนั้น กระทำด้วย ความเลื่อมใสและเคารพ อันนี้เรียกว่า ศรัทธา ในพระพุทธศาสนา จริง ๆ เป็นอย่างนี้

   ศรัทธา อย่างนี้ เป็นศรัทธาที่มีปัญญา อยู่ในตัว เพราะปัญญามองเห็นแล้วว่า

   สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์

   สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนิจจัง

   ธรรมทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา

      ท่านทั้งหลายพิจารณากันให้ดี การเห็นอย่างนี้ ต้องมีปัญญา จึงจะภาวนาเพื่อการตัดภพ ตัดชาติ กระทำที่สุดแห่งพรหมจรรย์ให้ถึงพร้อม อันเป็นที่สรรเสริญที่พอใจ ของพระอริยะเจ้า ทั้งหลาย


   เจริญธรรม / เจริญพร

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ