ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ  (อ่าน 4574 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 09:44:18 am »
0
ตั้งคำถาม ดูจะง่ายไปหรือไม่ครับ

 เพราะสงสัยว่า ทำไมพระโสดาบัน อย่าง นางวิสาขา ถึงต้องร้องไห้ เพราะหลานเสียชีวิต

 ทั้ง ๆ ที่ สักกายทิฏฐิ ที่ละแล้ว ก็คือเข้าใจว่า สิ่งนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

 เมื่อเห็นไม่ใช่ของเรา แล้ว ทำไมจึงต้องร้องไห้ เพราะเสียใจอีกเล่า


 อีกย่าง ในเมื่อจิต นี้สว่างอย่างนี้ แล้วทำไมจึงต้องเศร้าโศรก

 การสำรเร็จเป็น พระโสดาบัน นั้น เป็น ที่ โสดาปัตติมรรค หรือ เป็นที่ โสดาปัตติผล

สนทนาธรรม ยามเช้าครับ

  :)
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:22:22 pm »
0

สังโยชน์ ๑๐ (กิเลสอันผูกใจสัตว์, ธรรมที่มัดสัตว์ไว้กับทุกข์ หรือผูกกรรมไว้กับผล)

๑. สักกายทิฏฐิ (ความเห็นว่าเป็นตัวของตน เช่น เห็นรูป เห็นเวทนา เห็นวิญญาณ เป็นตน เป็นต้น)
๒. วิจิกิจฉา (ความสงสัย, ความลังเล ไม่แน่ใจ )
๓. สีลัพพตปรามาส (ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร)


๔. กามราคะ (ความกำหนัดในกาม, ความติดใจในกามคุณ)
๕. ปฏิฆะ (ความกระทบกระทั่งในใจ, ความหงุดหงิดขัดเคือง)


๖. รูปราคะ (ความติดใจในอารมณ์แห่งรูปฌาน หรือในรูปธรรมอันประณีต, ความปรารถนาในรูปภพ)
๗. อรูปราคะ (ความติใจในอารมณ์แห่งอรูปฌาน หรือในอรูปธรรม, ความปรารถนาในอรูปภพ)
๘. มานะ (ความสำคัญตน คือ ถือตนว่าเป็นนั่นเป็นนี่)
๙. อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)
๑๐. อวิชชา (ความไม่รู้จริง, ความหลง)


     ๑. โสดาบัน (ละสังโยชน์ได้ ๓ คือ สักกายทิฏฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส )
     ๒. สกทาคามิ (ละสังโยชน์ได้ ๓ ข้อต้น กับทำราคะ โทสะ โมหะ ให้เบาบางลง)
     ๓. อนาคามิ (ละสังโยชน์ได้ ๕ ข้อต้น)
     ๔. อรหันต์ (ละสังโยชน์ได้หมดทั้ง ๑๐).


อ้างอิง พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลธรรม(ป.อ.ปยุตโต)


ขอบคุณภาพจากwww.rmutphysics.com

     นางวิสาขาเป็นโสดาปัตติผล การสำเร็จโสดาบันที่ละสังโยชน์ได้สามข้อแรก คือ โสดาปัตติผล
การที่นางวิสาขาร้องไห้คร่ำครวญเศร้าโศก เพราะยังละปฏิฆะ(ความกระทบกระทั่งในใจ, ความหงุดหงิดขัดเคือง)ไม่ได้ คนที่ละปฏิฆะได้ต้องเป็นอนาคามีผล


    รู้ไหมว่า อนาถปิณฑิกเศรษฐี ซึ่งเป็นโสดาบันเหมือนนางวิสาขาก็ร้องไห้เช่นกับ เชิญอ่านลิงค์นี้ครับ
        "เป็นน้องโดยมรรคและผล - โสดาบันร้องไห้"
     http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=5122.0


     อย่างไรก็ตาม จากการที่ได้อ่านมา อรหันต์ก็น้ำตาไหลได้ แต่ไม่มีการแสดงอาการคร่ำครวญเศร้าโศก
กิริยาของอรหันตผลอย่างนี้ ภาษาอภิธรรมเรียกว่า "มหากิริยาจิต" แนะนำให้อ่านลิงค์นี้ครับ
       "จิตอรหันต์ – จิตปุถุชน (อรหันต์ร้องไห้)"
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=3013.0

 
     การละสักกายทิฏฐิได้ เป็นการละเพียงในขั้นของ"ความเห็น" เท่านั้น
     ที่สำคัญ โสดาบันยังยึดในกายและใจของตนเองอยู่
     คนที่ละการยึดมั่นในกายได้อย่างเด็ดขาดต้องเป็นอนาคามี
     ส่วนการละการยึดมั่นได้ทั้งกายและใจ แน่นอน..ต้องเป็นอรหันต์

      :welcome: :49: :25: ;)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

nopporn

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 248
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 10, 2011, 07:29:20 pm »
0
มีสาระ บางทีเราก็ร้องไห้ เหมือนกันเวลาได้ฟังธรรมะ รู้สึกจับใจมาก ๆ

 น้ำตาไหลพรั่งพรู เหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับ สักกายทิฏฐิ อย่างไร ?

  :25: :25: :25: :88:
บันทึกการเข้า
อยู่แก๊งค์ ป่วนอ๊บ

เสกสรรค์

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +3/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 419
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 06:06:44 pm »
0
พระโสดาบัน ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ครับ จะไม่เศร้าโศรกเสียใจ เลยก็ไม่น่าจะเป็นไปได้

เอา ง่ายแม้แต่พระอานนท์ ก็ยังแอบไปร้องไห้ คราที่พระพุทธเจ้า ใกล้จะเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน เลยครับ
คิดดูสิครับ ท่านมีพระสูตรมากมาย ขณะนั้นก็ยังไม่สามารถนำมาใช้ชำระใจที่ เศร้าโศรก เพราะการจากไปของ
พระพุทธเจ้ายังมิได้

   แต่พระโสดาบัน นั้นถึงแม้จะร้องไห้ ก็เพียงชั่วขณะหนึ่ง

  ไม่ถึงกับตีอก ชกตัว เกลือกกลิ้ง กระทำอะไรที่เรียกว่า เป็นสิ่งที่โง่

   สักครู่ ก็จะเข้าใจในหลักสัจธรรม รวม ๆ ครับ

   ผมว่าบางครั้ง ร้องไห้ บ้างก็ดีนะครับ โดยเฉพาะตอนนั่งกรรมฐาน ร้องไห้ เพระาปีติ มีขึ้นมากด้วยยิ่งดีใหญ่

  :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า

indy

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 101
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 07:46:47 pm »
0
ตั้งคำถาม ดูจะง่ายไปหรือไม่ครับ

 เพราะสงสัยว่า ทำไมพระโสดาบัน อย่าง นางวิสาขา ถึงต้องร้องไห้ เพราะหลานเสียชีวิต

 ทั้ง ๆ ที่ สักกายทิฏฐิ ที่ละแล้ว ก็คือเข้าใจว่า สิ่งนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา

 เมื่อเห็นไม่ใช่ของเรา แล้ว ทำไมจึงต้องร้องไห้ เพราะเสียใจอีกเล่า


 

 

  :)
ผมว่าถ้านางวิสาขาท่านตายเอง ท่านก็ไม่อาลัย ท่านวางได้แล้ว ไม่เสียใจ
แต่เมื่อเห็นคนอื่นท่านสงสาร จิตท่านมีเมตตามาก
บันทึกการเข้า

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ตุลาคม 11, 2011, 07:52:34 pm »
0
น่าจะใช่ นะครับ เพราะว่า อาลัย ในหลานที่เป็นที่รัก ที่ทำความดีแก่ท่าน
 :25:
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ

GodSider

  • ผู้อุปถัมภ์
  • กำลังแหวกกระแส
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 121
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทำไม พระโสดาบัน ร้องไห้ ครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ตุลาคม 12, 2011, 12:58:12 pm »
0
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา

ไม่ประสบกับตัว แล้วจะรู้สึกได้อย่างไร ?

ธรรมเกิดขึ้นเฉพาะหน้า นั้นจะรับมืออย่างไร ?

เกิดขึ้นแล้ว ตั้งอยู่ และ ดับไป พูดง่าย แต่ให้ใจรับนั้น ไม่ใช่ง่าย ๆ

ธรรมะ ข้าสังสารวัฏฏ์ ก็คือ กำจัด โลภะ โทสะ โมหะ  รู้ ๆ ๆ ๆ แต่ก็ใช่ จะกำจัดได้ ง่าย  ๆ ครับ

 วิธีที่ดีที่สุด ก็คือ เราภาวนาของเรา แล้ว ก็จะเข้าใจเอง ครับ
 ซึ่ง การที่พระโสดาบัน ร้องไห้ ตอนนั้น หมายถึงอย่างไร

 ไม่ได้มีใครบอก ว่า เศร้า โศรก เสียใจ ต่อการสูญเสีย จากไปของคนที่รัก นี่ครับ

 
บันทึกการเข้า
สุดเขต เสลดเป็ด ไกลสุดกู่ ใกล้แค่ ปลายจมูก