ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฝึกกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ห้ามทำวิปัสสนา หรือป่าวครับ  (อ่าน 2793 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมหมายถึง ตอนที่เราไม่ได้เดินจิตในกรรมฐาน นั้นเราสามารถศึกษา และเจริญสติวิปัสสนา ได้หรือป่าวครับ

มีข้อห้ามหรือป่าวครับ ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ที่กล่าวไม่ให้ฝึก วิปัสสนา เพราะตอนนี้ เพื่อน ๆ ผม

ส่วนใหญ่ให้ความเห็นกันว่า อย่าพึ่งศึกษา วิปัสสนา กันก่อนครับ
 :25:
บันทึกการเข้า

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7250
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ขอย้อนถามว่า คุณมานับถือพระพุทธศาสนา นั้นเป็นเพราะว่าอะไร ?

คุณมาตั้งใจ ภาวนา ไม่ว่าจะเป็นสมถะ หรือ วิปัสสนา นั้นเพราะอะไร ?

คำถามด้านบนก็เป็นย้ำคำตอบให้ อย่างชัดเจนว่า วันนี้เรามานับถือพระพุทธศาสนา เพราะเชื่อมั่นต่อ

พระรัตนตรัย มีพระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์

ถามว่า โง่ หรือ ฉลาด ?

ถ้าตอบอย่างไม่รู้ เลย ก็จัดว่า เป็นคนที่โง่ มาก

ถ้าตอบว่ารู้ ก็จะรู้คำตอบว่า พระพุทธเจ้า สอนให้เราฉลาด มีปัญญา ดังนั้น วิปัสสนา สอนให้เราฉลาด

จากกองทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และหนทางไปสู่ความก้าวล่วงทุกข์เสียได้

ดังนั้น คำตอบก็คือ วิปัสสนา มีมาก่อนเพราะเรานับถือพระพุทธเจ้า ที่การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ที่นี้เราถึงแม้รู้ว่า ธรรมะที่พระองค์ทรงตรัสแสดงไว้นั้นเป็นหนทางสิ้นสังสารวัฏ แต่ถ้าเรายังไม่เลือกไม่เอา

ยังไม่ไป ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเรา เพราะธรรมะนั้น เป็น ปัจจัตตัง คือ ใครทำ ใครได้ ใครไม่ทำ ก็ไม่ได้


ดังนั้น กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เป็นกรรมฐานเพื่อการตัดกิเลส มีเป้าหมายที่การตัดกิเลส เป็นกรรมฐาน

ที่นับเนื่องในวิปัสสนา เพราะเริ่มต้นด้วยการเจริญอนุสสติ ก่อนอันเป็นฝ่ายวิปัสสนา มีการเจริญกายคตาสติ

ผสมผสานไปในตัว เช่นการเข้าถึงพระลักษณะ พระรัศมี ในธาตุ เป็นต้น


การเจริญวิปัสสนา ทำได้ทุกเวลา และ ทำร่วมได้กับการปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ในปัจจุบัน คนสอนมุ่งแต่สอนสมาธินั้นไม่ถูก เพราะกรรมฐาน เป็นวิปัสสนาแล้วในตัว เพียงแต่อยู่ในระดับ

ที่ควรจะเป็น ในที่นี้ คือ ระดับพระโสดาปัตติมรรค และ พระโสดาปัตติผล และ อุปจาระฌาน จัดเป็นโลกุตตระ

สมาธิ โดยสมบูรณ์

บรรดาพระพุทธเจ้า ทั้งปวงทุกพระองค์ และ พระอริยะสาวกทั้งปวง ไม่ได้ยินดีให้ผู้ฝึก ฝึกแต่ สมถะ แต่หาก

ให้มีวิปัสสนา ควบคู่ไปด้วย ซึ่งในศาสนา มิได้มี มุ่งสอนแต่เรื่องของการพิชิตโรค ความเป็นผู้มีฤทธิ์ ซึ่งไม่ได้

เกี่ยวข้องอะไรกับ พระนิพพาน พระพุทธเจ้าสอนให้หน่ายต่อกิเลส จางคลายจากกิเลส และทำกิจอันควรให้

เสร็จให้สิ้น เพื่อการอยู่ พรหมจรรย์

การเจริญวิปัสสนา ไม่ได้เป็นเป็นอุปสรรค แก่สมาธิ เพราะความฉลาดแห่งวิปัสสนา ย่อมให้ใจวางจากความวุ่น

ได้ชั่วขณะ เพื่อสร้างสมาธิ ที่สมบูรณ์ ควรแก่การรู้แจ้ง เห็น จริง


เจริญพรแต่เพียงเท่านี้

 ;)
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

ธรรมะ ปุจฉา

  • http://www.facebook.com/srikanet?ref=tn_tnmn
  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 713
  • ปัญญสโก ภิกขุ (พระที) ..... คณะ ๓/๓ วัดพลับ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
การแก้เวทนาความปวดเมื่อย ก็ต้องใช้วิปัสสนา ใช่หรือเปล่าครับ?
บันทึกการเข้า
ยาดี มิได้ทำให้คนหายไข้   คนหายไข้ เพราะได้กินยาดี
ธรรมะ มิได้ทำให้คนดี       คนดีได้  เพราะปฏิบัติธรรม