หัวข้อ: อิตถีรัตนะ (นางแก้ว) คู่บารมี "มหาจักรพรรดิ" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 10, 2018, 08:39:14 pm (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_10_08_18_8_22_12.jpeg) อิตถีรัตนะ (นางแก้ว) ด้วยพระบุญญาธิการของพระยามหาจักรพรรดิราชจะมีนางแก้วนางหนึ่งมาเป็นคู่พระบารมี หรือบางครั้งจะมีหญิงผู้ได้ทำบุญกุศลแต่ปางก่อนไว้มาก มาเกิดในแผ่นดินชมพูทวีปนี้ ในตระกูลกษัตริย์ในเมืองมัทราช คนทั้งหลายกล่าวขานกันว่าพระนางประสูติมาเพื่อเป็นพระอัครมเหสีคู่พระบารมีของพระยามหาจักรพรรดิโดยแท้ ถ้าไม่มีนางแก้วผู้มีบุญญาธิการมาเกิดในแผ่นดินนี้ไซร้ เดชอำนาจพระบุญญาบารมีของพระมหาจักรพรรดิจะบันดาลให้นางแก้วในแผ่นดินอุตตรกุรุทวีปมาเป็นพระอัครมเหสีคู่บารมี พร้อมด้วยอาภรณ์เครื่องประดับตกแต่งทุกอย่าง ประกอบด้วยรัตนะ ๗ ประการ รุ่งเรืองสดใสงดงามยิ่ง โดยเหาะมาเฝ้าทางอากาศ เหมือนนางฟ้าเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ฉะนั้น แล้วเข้าเฝ้าพระยามหาจักรพรรดิราช พระนางแก้วนั้นมีพระสิริโฉมงดงามยิ่ง พระวรกายไม่สูงไม่ต่ำเกินไป พระฉวีไม่ดำไม่ขาวเกินไป ไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป ทรงเป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้ได้พบเห็น มีพระฉวีวรรณสะอาดหมดจดเกลี้ยงเกลางดงามยิ่ง ปราศจากมลทินสิ่งเศร้าหมองทุกอย่าง ฝุ่นละอองธุลีแม้น้อยนิดก็มิได้แปดเปื้อนเลย เหมือนดอกบัวถูกน้ำแล้วไม่ติดน้ำฉะนั้น @@@@@@ พระสิริรูปโฉมของพระนางแก้วมีลักษณะอันงามครบถ้วนทุกประการ เป็นที่ติดตาตรึงใจของคนทั้งหลายในมนุษย์โลกนี้ แม้กระนั้นก็ดี เมื่อเปรียบเทียบกับความงามของนางฟ้าเทพธิดาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว ความงามของพระนางแก้วจัดว่ายังเป็นรอง เพราะรัศมีในพระวรกายของพระนางแก้วมีน้อยกว่าของนางฟ้ามาก เหล่านางฟ้าในสำนักของพระอินทร์มีรัศมีแผ่ซ่านกระจายออกไปไกลมาก ส่วนรัศมีของพระนางแก้วแผ่ซ่านไปไกลได้เพียง ๑๐ ศอกเท่านั้น รอบๆพระวรกายแม้จะมืดสักเพียงใด ไม่ต้องใช้แสงสว่างจากแสงเทียนหรือตะเกียงนำทางเลย พระนางแก้วมีพระพักตร์ผ่องใสโสภาเกลี้ยงเกลายิ่งนัก พระนางมีพระวรกายอ่อนนุ่มดังสำลีบริสุทธิ์ที่วางทับซ้อนกันเป็นร้อยชั้น แล้วชุบด้วยน้ำมันเปรียงโคจามจุรีสีสดใสงดงามยิ่ง พระนางปรนนิบัติพระยามหาจักรพรรดิราชเจ้าเป็นที่ถูกพระราชหฤทัยยิ่งนัก ในเวลาที่พระวรกายของพระยามหาจักรพรรดิราชหนาวเย็น พระวรกายของพระนางแก้วอุ่น แต่ในเวลาที่พระวรกายของพระยามหาจักรพรรดิราชร้อน พระวรกายของพระนางแก้วกลับเย็น อนึ่ง พระวรกายของพระนางแก้วนั้นมีกลิ่นหอมเหมือนกลิ่นแก่นจันทน์และกฤษณา ซึ่งบดและปรุงด้วยคันธารสอันหอมทั้ง ๔ ประการ[๕] หอมฟุ้งอยู่ตลอดเวลา ____________________________________________________________ [๕] คันธารส ๔ = กลิ่นเกิดจากราก กลิ่นเกิดจากแก่น กลิ่นเกิดจากเปลือก กลิ่นเกิดจากดอก (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_10_08_18_8_22_58.jpeg) ในเวลาที่พระนางแก้วทรงเจรจาหรือทรงแย้มสรวล กลิ่นที่ฟุ้งออกจากพระโอษฐ์หอมเหมือนกลิ่นดอกบัวนิลุบลและจงกลนีที่แย้มบานและหอมฟุ้งอยู่ตลอดเวลา ในยามที่พระยามหาจักรพรรดิราชเสด็จมาหาพระนางแก้ว เมื่อพระนางแก้วได้ทอดพระเนตรเห็น พระนางจะไม่ประทับนั่งอยู่ จะเสด็จลุกไปทรงต้อนรับพระยามหาจักรพรรดิราช แล้วตามเสด็จไปยังพระแท่นบรรทมแก้ว ทรงนำหมอนทองมาประทับนั่งถวายงานพัด ทรงปรนนิบัติบีบนวดเฟ้นพระบาทและพระกรของพระราชสวามี แล้วเสด็จลงประทับนั่งอยู่เบื้องต่ำ ไม่เสด็จขึ้นเหนือพระแท่นบรรทมแก้วก่อนพระยามหาจักรพรรดิราชแม้แต่ครั้งเดียว และเสด็จลงจากพระแท่นแก้วก่อนพระราชสวามีเสมอ @@@@@@ ไม่ว่าพระนางแก้วจะทรงกระทำการสิ่งใดก็จะกราบทูลให้พระราชสวามีทรงทราบก่อนทุกครั้ง และทรงกระทำเฉพาะสิ่งที่พระยามหาจักรพรรดิราชมีรับสั่งให้ทรงกระทำเท่านั้น ทรงไม่ฝ่าฝืนหรือละเมิดพระบรรหารของพระยามหาจักรพรรดิราชแม้แต่ครั้งเดียว เพราะฉะนั้น กิจการที่พระนางแก้วทรงกระทำจึงเป็นที่โปรดปรานของพระยามหาจักรพรรดิราชทุกประการ แม้จะทูลเจรจาปราศรัยก็เป็นที่พอพระราชหฤทัยของพระยามหาจักรพรรดิราชยิ่งนัก และผู้ที่จะได้เป็นพระราชสวามีของพระนางแก้วมีเฉพาะพระยามหาจักรพรรดิราชเท่านั้น ไม่ทั่วไปแก่บุรุษเหล่าอื่น พระนางแก้วนั้นทรงมีความจงรักภักดีต่อพระราชสวามีเป็นที่ยิ่ง ไม่ทรงประพฤติล่วงละเมิดนอกพระทัยพระยามหาจักรพรรดิราชเจ้าแม้แต่น้อยเลย จบเรื่องนางแก้วโดยย่อเพียงเท่านี้ ที่มา : ไตรภูมิกถา ฉบับถอดความ โดยคณะทำงานโครงการวรรณกรรมอาเซียน vajirayana.org/ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ/บทที่-๕-แดนมนุษย์ (http://vajirayana.org/ไตรภูมิกถาฉบับถอดความ/บทที่-๕-แดนมนุษย์) ขอบคุณภาพจากเฟซบุ้ค พุทธธิดา รัตนมหาอุบาสิกา และ Nattunyarach Waiyanate หัวข้อ: Re: อิตถีรัตนะ (นางแก้ว) คู่บารมี "มหาจักรพรรดิ" เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 10, 2018, 08:47:41 pm (http://www.madchima.net/forum/gallery/30_10_08_18_8_22_37.jpeg) นางแก้ว (มหาสุทัสสนสูตร) [๑๖๘] ดูกรอานนท์ อีกประการหนึ่ง นางแก้วได้ปรากฏแก่พระเจ้ามหาสุทัสสนะ เป็นสตรีรูปงาม น่าดู น่าเลื่อมใส กอปรด้วยผิวพรรณผุดผ่องยิ่งนัก ไม่สูงเกิน ไม่ต่ำเกิน ไม่ผอมเกิน ไม่อ้วนเกิน ไม่ดำเกิน ไม่ขาวเกินเย้ยวรรณของหญิงมนุษย์ แต่ไม่ถึงวรรณทิพย์ ดูกรอานนท์ สัมผัสแห่งกายของนางแก้วนั้น เห็นปานนี้ คือ เหมือนปุยนุ่นหรือปุยฝ้าย นางแก้วนั้น ฤดูหนาวตัวอุ่น ฤดูร้อนตัวเย็น กลิ่นจันทร์ฟุ้งออกจากกาย กลิ่นอุบลฟุ้งออกจากปากของนางแก้วนั้น นางแก้วนั้นมีปรกติตื่นก่อน มีปรกตินอนภายหลัง คอยฟังว่าจะโปรดให้ทำอะไร ประพฤติต้องพระทัย เพ็ดทูลด้วยถ้อยคำที่น่ารัก นางแก้วนั้นแม้ใจก็ไม่คิดนอกพระทัยพระเจ้ามหาสุทัสสนะ ไหนเลยกายนางจะเป็นได้เล่า ดูกรอานนท์ นางแก้วเห็นปานนี้ ได้ปรากฏแก่พระเจ้ามหาสุทัสสนะ ฯ ที่มา : มหาสุทัสสนสูตร พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=3916&Z=4464 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/v.php?B=10&A=3916&Z=4464) ขอบคุณภาพจากเฟซบุ้ค นางฟ้า ใจดี |