ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อัพยากตปัญหา คือ อะไร คะ ไม่เข้าใจคะ  (อ่าน 4762 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

inlove

  • กำลังจะพ้นจากน้ำ
  • *
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 51
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อัพยากตปัญหา คือ อะไร คะ ไม่เข้าใจคะ เห็นกล่าวบ่อย ๆ คะไม่เข้าใจจริง ๆ คะ


  ฟังจากรายการ RDN เรื่องปฐมเหตุของโลก 14.20 น.

 :88: :13:
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อัพยากตปัญหา คือ อะไร คะ ไม่เข้าใจคะ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 24, 2012, 09:13:17 pm »
0
อัพยากตะ, อัพยากฤต “ซึ่งท่านไม่พยากรณ์”,
       บอกไม่ได้ว่าเป็นกุศลหรืออกุศล คือ เป็นกลางๆ ไม่ดีไม่ชั่ว ไม่ใช่กุศลไม่ใช่อกุศล


ที่มา พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์ พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)




ปัญหาที่ พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ

จุดมุ่งหมายของพุทธศาสนาไม่ใช่เพียงแค่การสนทนาโต้ตอบหาเหตุผลทางความคิดทางปรัชญา แต่มุ่งที่การหลุดพ้นจากความทุกข์ต่าง ๆ เมื่อถูกถามปัญหาเกี่ยวกับอภิปรัชญา (Metaphysics) พระองค์จะปฏิเสธไม่ตอบเงียบเฉย นิ่งเสีย และบอกว่าไม่ควรถาม การนิ่งไม่ยอมตอบ ไม่ใช่เป็นเพราะความไม่รู้ แต่ถือว่าเป็นความฉลาดอย่างยิ่งต่างหาก เพราะแม้ตอบแล้วก็จะยังไม่จบอยู่ดี ปัญหาทางอภิปรัชญาที่นักคิดสมัยนั้นชอบโต้แย้งกันโดยถามหาที่สุดโลก เป็นต้น แต่พระพุทธเจ้าไม่ตอบเรียกว่า อัพยากฤตปัญหา 10 อย่าง คือ

   1. โลกเที่ยง
   2. โลกไม่เที่ยง
   3. โลกมีที่สุด
   4. โลกไม่มีที่สุด
   5. สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นอันเดียวกัน
   6. สรีระ (ร่างกาย) และชีพ (วิญญาณ) เป็นคนละอย่างกัน
   7. ตถาคตจะเกิดใหม่อีกเมื่อตายไป
   8. ตถาคตจะไม่เกิดใหม่อีกเมื่อตายไป
   9. ตถาคตทั้งจะเกิดใหม่และไม่เกิดอีกหลังจากตายไป
 10. ตถาคตไม่ใช่ทั้งจะเกิดใหม่และไม่เกิดอีกหลังจากตายไป



ข้อสังเกต
   ข้อ 1 - 4 โต้เถียงในเรื่องเกี่ยวกับโลก หรือ วัตถุ (รูปธรรม)
   ข้อ 5 - 6 โต้เถียงในเรื่องสภาวะของชีวะ (วิญญาณ) ที่เรียกว่า อาตมัน (นามธรรม)
   ข้อ 7 - 10 โต้เถียงในเรื่อง การเวียนว่ายตายเกิด การเกิดใหม่

( อ้างอิง มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์, (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การศาสนา, 2530), เล่ม 12 ข้อ 309 หน้า 308. )


เหตุผลที่ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสนพระทัย ไม่ตอบปัญหา, การโต้เถียงปัญหาทางอภิปรัชญา ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ

    1.ไม่เป็นประโยชน์ คนพูดโต้เถียงกัน กว่าจะได้คำตอบก็ตายก่อน ทั้งนักคิด ชาวตะวันตก และนักคิดชาวตะวันออกได้พยายามมาตั้งหลายพันปีจนถึงทุกวันนี้ก็ยังตอบไม่ถูกสักคน
    2. ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ คิดไปก็เสียเวลาเปล่า (อจินไตย)
    3. ไม่ใช่เรื่องรีบด่วน มีเรื่องอื่นที่เร่งด่วนกว่าที่จำต้องรีบคิดแก้ไข คือทุกคนมีทุกข์ต้องรีบดับทุกข์ก่อน
    4. ไม่ใช่เพราะพระองค์ไม่รู้คำตอบ


ด้วยเหตุนี้ พระพุทธเจ้าครั้นถูกถาม พระองค์จะนิ่งเฉยเสีย หรือปฏิเสธตรง ๆ หรือให้ยกคำถามไว้ก่อนว่ายังไม่สมควรตอบ การไม่ตอบเป็นความฉลาด ถ้าตอบ "ใช่" ก็ต้องตกอยู่ในข่ายของสัสสตวาทะ (ความเห็นว่า วิญญาณเที่ยง) ถ้าตอบ "ไม่ใช่" ก็จะอยู่ในข่าย อุจเฉทวาทะ (ความเห็นว่าวิญญาณขาดสูญ) ผู้ใดมีศักยภาพสามารถรู้อดีต และอนาคตไม่มีขีดจำกัดจะรู้ และตอบปัญหานี้ได้ดี

ท่าทีในการตอบปัญหาของพระพุทธเจ้า 4 วิธี เมื่อมีปัญหาถามมา พระพุทธเจ้ามีวิธีจัดการกับคำถาม สามารถจำแนกวิธีตอบของพระพุทธเจ้าได้ 4 แบบ คือ

   1. ตอบตรงๆ (ใช่ หรือไม่ใช่) เรียกว่า เอกังสพยากรณ์
   2. ตอบแบบวิเคราะห์ (แยกตอบ) เรียกว่า วิภัชชพยากรณ์
   3. ตอบแบบย้อนถามว่าหมายถึงอะไร เรียกว่า ปฏิปุจฉาพยากรณ์
   4. บางคราวปัญหาต้องยกเอาไว้ก่อน เรียกว่า ฐปนียพยากรณ์


( อ้างอิง ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค, เล่ม 11 ข้อ 225 หน้า 241. )

คำตอบต่ออัพยากฤตปัญหาเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์ และจากฐานความคิดทางปรัชญาเอง นักปรัชญาก็ยังหาไม่พบคำตอบอันสุดท้ายเป็นที่ยอมรับกันได้โดยทั่วไป เพราะคิดแล้วไม่รู้จักจบสิ้นดังกล่าว ดังนั้น พระองค์ จึงไม่ตอบปัญหานี้


ที่มา http://wemahidol.mahidol.ac.th/comm/space.php?uid=36&do=thread&id=370
ขอบคุณภาพจาก http://img2.uploadhouse.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อัพยากตปัญหา คือ อะไร คะ ไม่เข้าใจคะ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 25, 2012, 09:24:00 am »
0

ปัญหาที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบ

ปัญหา ได้ทราบว่ามีปัญหาบางประเภทที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงตอบปัญหาดังกล่าวนั้นมีอะไรบ้าง ? และเพราะเหตุไรพระพุทธองค์ไม่ทรงตอบ ?

พุทธดำรัสตอบ “..... ดูก่อนมาลุงกยบุตร.... เธอทั้งหลายจงจำปัญหาที่เราไม่พยากรณ์ และจงจำปัญหาที่เราพยากรณ์.... อะไรเล่าที่เราไม่พยากรณ์


    ดูก่อนมาลุงกยบุตร ทิฐิว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด
    ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง
    สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปไม่มีอยู่
    สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ก็มีไม่มีอยู่ก็มี     
    สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ก็หามิได้ ไม่มีอยู่ก็หามิได้ ดังนี้เราไม่พยากรณ์....

      ก็เพราะเหตุไร ข้อนั้นเราจึงไม่พยากรณ์
      เพราะข้อนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
      ไม่เป็นไปเพื่อความหน่ายเพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ
      เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน
      ดูก่อน มาลุงกยบุตร เหตุนั้น เราจึงไม่พยากรณ์ข้อนั้น


      “..... ดูก่อนมาลุงกยบุตร.... อะไรเล่าที่เราพยากรณ์
      ดูก่อนมาลุงกยบุตร ความเห็นว่านี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์
      นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ดังนี้เราพยากรณ์

      ก็เพราะเหตุไรเราจึงพยากรณ์ข้อนั้น
      เพราะข้อนั้นประกอบด้วยประโยชน์เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์
      เป็นไปเพื่อความหน่ายเพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ
      เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้
      เพื่อนิพพาน เหตุนั้น เราจึงพยากรณ์ข้อนั้น


“..... ดูก่อนมาลุงกยบุตร.... บุคคลใดแลจะพึงกล่าวอย่างนี้ว่า พระผู้มีพระภาคจักไม่ทรงพยากรณ์แก่เรา (ซึ่งทิฐิ ๑๐ ประการนั้น) เพียงใด เราจักไม่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพียงนั้น ตถาคตไม่พึงพยากรณ์ข้อนั้นเลย และบุคคลนั้นพึงทำกาละ (ตาย) ไปโดยแท้

   ดูก่อนมาลุกยบุตร เปรียบเหมือนบุรุษต้องศรอาบยาพิษที่ฉาบทาไว้หนา มิตร อมาตรย์ ญาติสาโลหิตของบุรุษนั้น พึงไปหานายแพทย์ผู้ชำนาญในการผ่าตัดมาผ่า

     บุรุษผู้ต้องศรนั้นพึงกล่าวอย่างนี้ว่า
     "เรายังไม่รู้จักบุรุษผู้ยิงเรานั้นว่า เป็นกษัตริย์ พราหมณ์ แพศย์ หรือศูทร......
     มีชื่อว่าอย่างนี้ มีโคตรอย่างนี้...... สูงต่ำหรือปานกลาง..... ดำขาวหรือผิวสองสี
     อยู่บ้าน นิคมหรือนครโน้นเพียงใด"

     เราจักไม่นำลูกศรนี้ออกเพียงนั้น

     บุรุษผู้ต้องศรนั้นพึงกล่าวอย่างนี้ว่า
     "เรายังไม่รู้จักธนูที่ใช้ยิงเรานั้นเป็นชนิดมีแร่หรือเกาทัณฑ์....
     สายที่ยิงเรานั้นเป็นสายทำด้วยปอ ผิวไม้ ไผ่ เอ็น ป่าน หรือเยื่อไม้
     ลูกธนูที่ยิงเรานั้น ทำด้วยไม้ที่เกิดเองหรือไม้ปลูก
     ทางเกาทัณฑ์ที่ยิงเรานั้นเขาเสียบด้วยขนปีกนกแร้ง นกตะกรุม เหยี่ยว นกยูง หรือนกชื่อว่าสิถิลหนุ (คางหย่อน) เกาทัณฑ์นั้นเขาพันด้วยเอ็นวัว ควาย ค่าง หรือลิง......
     ลูกธนูชนิดที่ยิงเรานั้นเป็นชนิดอะไร"

     ดังนี้เพียงใด เราจักไม่นำลูกศรนี้ออกเพียงนั้น

   ดูก่อนมาลุงกยบุตร บุรุษนั้นพึงรู้ข้อนั้นไม่ได้เลย โดยที่แท้บุรุษนั้นพึงทำกาละไปฉันใด

   ดูก่อนมาลุกยบุตร บุคคลใดพึงกล่าวอย่างนี้ว่า
  "พระผู้มีพระภาคจักไม่ทรงพยากรณ์ทิฐิ ๑๐ นั้น ฯลฯ แก่เราเพียงใด เราจักไม่ประพฤติพรหมจรรย์ในพระผู้มีพระภาคเพียงนั้น"
  ข้อนั้นตถาคตไม่พยากรณ์เลย โดยที่แท้บุคคลนั้นพึงทำกาละไป ฉันนั้น


จูฬมาลุงกโยวาทสูตร ม. ม. (๑๕๐-๑๕๒)
ตบ. ๑๓ : ๑๔๗-๑๕๒ ตท.๑๓ : ๑๓๒-๑๓๕
ตอ. MLS. II : ๙๙-๑๐๑


ที่มา http://www.84000.org/true/040.html
ขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net/
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 25, 2012, 10:16:58 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28448
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: อัพยากตปัญหา คือ อะไร คะ ไม่เข้าใจคะ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 25, 2012, 10:40:17 am »
0


ปัญหาที่พระพุทธเจ้าทรงพยากรณ์และไม่ทรงพยากรณ์

   [๑๕๒] ดูกรมาลุงกยบุตร เพราะเหตุนั้นแล เธอทั้งหลายจงทรงจำปัญหาที่เราไม่
พยากรณ์ โดยความเป็นปัญหาที่เราไม่พยากรณ์ และจงทรงจำปัญหาที่เราพยากรณ์ โดยความ
เป็นปัญหาที่เราพยากรณ์เถิด.

ดูกรมาลุงกยบุตร อะไรเล่าที่เราไม่พยากรณ์
ดูกรมาลุงกยบุตรทิฏฐิว่า โลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด
ชีพอันนั้น สรีระก็อันนั้น ชีพอย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่ง สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปไม่มีอยู่ สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไปมีอยู่ก็มี ไม่มีอยู่ก็มี
สัตว์เบื้องหน้าแต่ตายไป มีอยู่ก็หามิได้ ไม่มีอยู่ก็หามิได้ ดังนี้ เราไม่พยากรณ์.


ดูกรมาลุงกยบุตร ก็เพราะเหตุไร ข้อนั้นเราจึงไม่พยากรณ์
เพราะข้อนั้นไม่ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ ไม่เป็นไปเพื่อความหน่าย
เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้
เพื่อนิพพาน เหตุนั้นเราจึงไม่พยากรณ์ข้อนั้น.


ดูกรมาลุงกยบุตร อะไรเล่า ที่เราพยากรณ์
ดูกรมาลุงกยบุตร ความเห็นว่า นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับทุกข์
นี้ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ ดังนี้ เราพยากรณ์.


ก็เพราะเหตุไร เราจึงพยากรณ์ข้อนั้น
เพราะข้อนั้น ประกอบด้วยประโยชน์ เป็นเบื้องต้นแห่งพรหมจรรย์ เป็นไปเพื่อความหน่าย
เพื่อความคลายกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้
เพื่อนิพพาน เหตุนั้นเราจึงพยากรณ์ข้อนั้น.


เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลาย
จงทรงจำปัญหาที่เราไม่พยากรณ์ โดยความเป็นปัญหาที่เราไม่พยากรณ์
และจงทรงจำปัญหาที่เราพยากรณ์ โดยความเป็นปัญหาที่เราพยากรณ์เถิด.


อ้างอิง            
พระไตรปิฎกเล่ม ๑๓ พระสุตตันตปิฎก เล่ม ๕
มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์   "จูฬมาลุงโกฺยวาทสูตร"               
คัดลอกมาจาก พระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ