ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10
 21 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 08:36:13 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 22 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 04:21:52 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 23 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 01:23:40 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 24 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 10:17:22 am 
เริ่มโดย aventure1 - กระทู้ล่าสุด โดย aventure1
ดันกระทู้

 25 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 08:15:48 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี  : นตฺถิ ตณฺหาสมา นที
โดย สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร

พุทธศาสนสุภาษิตบทหนึ่ง กล่าวไว้แปลความว่า “แม่น้ำเสมอด้วยตัณหาไม่มี” คือ ไม่มีแม่น้ำใดที่จะกว้างใหญ่ไพศาลปราศจากขอบเขตเสมอด้วยตัณหา

    ตัณหา คือ ความดิ้นรนทะยานอยาก แบ่งออกเป็นสาม คือ
    กามตัณหา ความดิ้นรนทะยานอยากไปในสิ่งที่น่าใคร่ น่าปรารถนาพอใจทั้งหลาย
    ภวตัณหา ความดิ้นรนทะยานอยากมี อยากเป็น
    วิภวตัณหา ความดิ้นรนทะยานอยากไม่มี ไม่เป็น

แม้พิจารณาตัณหาทั้งสามประการแล้วย่อมจะเห็นว่าครอบคลุมไปกว้างใหญ่ไพศาลหาขอบเขตไม่ได้จริงๆ ไม่มีเพียงความอยากในสิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนาพอใจเท่านั้น ยังมีความอยากมีอยากเป็น และความอยากไม่มี ไม่เป็นอีกด้วย อันสิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนาพอใจนั้น มีอยู่เต็มไปทั้งโลกก็ว่าได้ ความดิ้นรนทะยานอยากในสิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนาน่าพอใจจึงเต็มไปทั้งโลกเช่นกัน

ดังนั้นจึงพึงเห็นได้ว่า แม้เพียงตัณหาอย่างเดียวคือกามตัณหา ก็มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลยิ่งนักแล้ว เกินกว่าแม่น้ำใดๆ ทั้งหมดแล้ว เมื่อรวมภวตัณหาและวิภวตัณหาเข้าด้วย ก็ย่อมจะยิ่งกว้างใหญ่ไพศาลเกิน กว่าจะประมาณขอบเขตได้

@@@@@@@

พระพุทธภาษิตอีกบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า “ความอยากละได้ยากในโลก” แม้พิจารณาก็ย่อมจะเห็นตามความจริงนี้ ความอยากในกามคือ สิ่งน่าใคร่น่าปรารถนาพอใจเป็นสิ่งละได้ยากแน่นอน แม้พิจารณาความรู้สึกในใจตนของแต่ละคนก็ย่อมจะเห็นจริง ไม่มีปุถุชนใดจะสามารถละความอยากในกามได้ ไม่ในเรื่องนั้นก็ในเรื่องนี้ ย่อมมีความอยากได้ด้วยกันทั้งสิ้น เมื่อเห็นว่าเป็นสิ่งน่าใคร่น่าปรารถนาน่าพอใจ ความอยากมีอยากเป็นก็เช่นกัน ไม่มีปุถุชนคนใดที่สามารถละความอยากมีอยากเป็นได้อย่างง่ายดาย

ทุกคนลองพิจารณาใจตนเองให้เห็นความอยากมีอยากเป็นในใจตน แล้วลองพยายามละความอยากมีอยากเป็นนั้นดู ก็ย่อมจะเห็นว่า เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ยากยิ่ง และสำหรับคนส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถทำได้ ทั้งยังไม่สามารถจะพยายามทำเสียอีกด้วย มีแต่เพลิดเพลินติดอยู่กับกามตัณหานั้น ความอยากไม่มีอยากไม่เป็นก็เช่นกัน ไม่มีปุถุชนใดสามารถละได้อย่างง่ายดาย

ความอยากมีอยากเป็น กับความอยากไม่มีไม่เป็นนั้น จะกล่าวว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก็เกือบได้ เมื่ออยากมีสิ่งหนึ่ง ก็ย่อมอยากไม่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ตรงกันไม่เหมือนกัน หรือเมื่อเป็นอย่างหนึ่งก็ย่อมอยากไม่เป็นอีกอย่างหนึ่ง  เหมือนเช่นอยากเป็นคนรวยก็ย่อมอยากไม่เป็นคนจน หรืออยากมีเงินก็ย่อมอยากไม่ไม่มีเงิน เป็นเช่นนี้นั่นเอง ความอยากทั้งสองนี้คือ ภวตัณหาและวิภวตัณหา จึงเรียกได้ว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน




แม้พิจารณาตัณหาทั้งสามอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว ย่อมจะเห็นว่าเป็นความเกี่ยวเนื่องกันชนิดไม่อาจแยกออกจากกันได้ ทำลายข้อหนึ่งข้อใดได้พร้อมกันทุกข้อ ดังนั้น แม้เห็นโทษของตัณหา ก็ไม่เป็นการบกพร่องที่จะจับข้อหนึ่งข้อใดในใจตนขึ้นพิจารณาหาอุบายทำลายถอนรากถอนโคน ไม่จำเป็นต้องสับสนวุ่นวาย จับข้อนั้นขึ้นพิจารณาพุ่งตรงไปที่ตัณหาข้อหนึ่งข้อใดในสามประการดังกล่าวแล้วก็ได้

กามตัณหาความดิ้นรนทะยานอยากในสิ่งน่าใคร่น่าปรารถนาน่าพอใจ ก็คือ ภวตัณหาอยากมีอยากเป็นนั่นเอง คืออยากได้อยากมีของคนทั้งหลาย ก็ต้องเป็นไปในสิ่งที่น่าใคร่น่าปรารถนาพอใจ ขณะเดียวกันก็ไม่อยากได้ไม่อยากมีในสิ่งที่ไม่น่าใคร่ไม่น่าปรารถนาพอใจ ซึ่งกล่าวอีกอย่างก็กล่าวว่า อยากไม่ได้ไม่มีในสิ่งที่ไม่น่าใคร่ไม่น่าปรารถนาพอใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันดังนี้ เพราะฉะนั้น แม้จะทำลายตัณหาก็เพียงพิจารณาใจของตนให้เห็นชัดว่ามีความปรารถนาต้องการอย่างไร เพราะนั่นคือ กามตัณหาต้นสายของภวตัณหาและวิภวตัณหา พิจารณาให้เห็นแล้วก็ทำลายเสีย ดับเสีย

ทำไมจึงสมควรดับตัณหาแม้ตั้งปัญหานี้ขึ้น ก็อาจตอบได้ง่ายๆ ว่าเพราะตัณหาเป็นเหตุแห่งความดิ้นรนกระเสือกกระสนไปไม่รู้หยุด มีความเหน็ดเหนื่อยนักหนา ดับตัณหาเสียได้ก็จะหยุดความดิ้นรนได้ หายเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยาก ได้คำตอบนี้แล้ว ผู้มาบริหารจิตควรตั้งคำถามต่อไป ว่าตนมีความต้องการอย่างไร กระเสือกกระสนไป ไม่รู้หยุดเพื่อสนองตัณหาเช่นนั้นหรือ หรือต้องการหยุดสงบอยู่อย่างสบายใจ ก็จะได้คำตอบที่ตรงกันทุกคน จะเกิดกำลังใจ เพียรดับตัณหาด้วยกันทุกคน






ขอขอบคุณ :-
ภาพ : https://www.pinterest.ca/
อ้างอิง : สมเด็จพระญาณสังวร. “พุทธศาสนสุภาษิต.” ศุภมิตร. มีนาคม – เมษายน ๒๕๓๒, หน้า ๒๗-๒๙
ที่มา : เฟซบุ้ค เล่าเรื่อง..วัดบวรฯ
https://www.facebook.com/100069144534492/posts/971387536602284/

 26 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 06:44:11 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



เณรน้อย 8 ขวบ สอบผ่าน สวด "ปาติโมกข์" รวดเดียวจบใน 55 นาที

"สามเณรกานต์กวินต์ ธานีวรรณ" วัย 8 ขวบ สอบผ่านโครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ ท่องจบในเวลา 55 นาที

วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) จัดโครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยมีสามเณรเข้าร่วมโครงการ 72 รูป มาจากทั้ง 4 ภาค 17 จังหวัด ระหว่างเดือน เมษายน - กรกฎาคม 2567



ภาพจากเพจ : โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ - วัดตะโก

ต่อมาเพจเฟซบุ๊ก "โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์-วัดตะโก" แสดงความยินดีกับสามเณรกานต์กวินต์ ธานีวรรณ อายุเพียง 8 ขวบ วัดนิคมผัง 16 จ.นครราชสีมา ซึ่งได้สอบผ่านเป็น "สามเณรผู้ทรงพระปาติโมกข์" โดยใช้เวลาในการสอบรวม 55 นาที


ภาพจากเพจ : โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ - วัดตะโก


ภาพจากเพจ : โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ - วัดตะโก

อาจารย์ผู้สอบทาน พระมหาใจ เขมจิตโต (ป.ธ.9) ประธานดำเนินโครงการฯ เริ่มสอบเวลา 06.05 น. สอบจบเวลา 07.01 น. ใช้เวลาในการสอบรวม 55 นาที ท่องจบวันที่ 27 เม.ย.2567

นอกจากนี้ยังมี สามเณรภานุวัฒน์ กองทุ่งมน อายุ 17 ปี วัดโมลีโลกยาราม สามเณรอายุน้อยที่สุดในประวัติศาตร์ที่สอบบาลีได้เปรียญธรรม 9 ประโยค เข้าร่วมโครงการในปีนี้ด้วยเช่นกัน โดยสอบผ่านโครงการนี้แล้ว โดยสอบผ่านเป็นรูปที่ 22 ใช้เวลาสอบ 50 นาที ท่องจบวันที่ 22 เม.ย. 2567 เริ่มสอบเวลา 08.35 น. สอบจบเวลา 9.25 น.



สามเณรภานุวัฒน์ กองทุ่งมน อายุ 17 ปี เปรียญธรรม 9 ประโยค วัดโมลีโลกยาราม กรุงเทพฯ


"ปาติโมกข์" คืออะไร.?

ปาติโมกข์ คือ คัมภีร์เป็นที่รวมพระวินัย ที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เป็นพุทธอาณาสำหรับพระสงฆ์ คือ ศีล 227 ข้อ ของภิกษุ และ ศีล 311 ข้อ ของภิกษุณี โดยมีพระพุทธานุญาต ให้พระสงฆ์สวดในที่ประชุมสงฆทุกกึ่งเดือน เรียกว่า สวดพระปาติโมกข์

สำหรับเนื้อหาปาติโมกข์ เป็นภาษาบาลี ทบทวนศีลภิกษุ 227 ข้อ โดยเมื่อพระรูปทำหน้าที่ กำลังสวดพระปาติโมกข์ จะมีพระอีกรูป ทำหน้าที่ทบทวน คัมภีร์ปาติโมกข์เล่มใหญ่ ตัวหนังสือใหญ่ พิมพ์แบบพับเปิดต่อกันได้ตลอดเล่ม โดยขนาดเล่มใหญ่ทั้งหนา ความยาวไม่นับกันเป็นตัวอักษร แต่นับกันด้วยเวลาที่ใช้สวด สวดอย่างเร็ว ต่อเนื่องไม่ขาดตอน ราวหนึ่งชั่วโมง



ภาพจากเพจ : โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์ - วัดตะโก





Thank to : https://www.thaipbs.or.th/news/content/340081
17 พ.ค. 67 11:02

 27 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 06:30:08 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



ชื่นชม สามเณรกานต์กวินต์ วัย 8 ขวบ สอบผ่าน สามเณรผู้ทรงพระปาติโมกข์ ท่องจบใน 55 นาที

เป็นที่ชื่นชมไม่น้อย กับเรื่องของ สามเณรกานต์กวินต์ ธานีวรรณ อายุ 8 ขวบ จากวัดนิคมผัง 16 จ.นครราชสีมา ที่ สอบผ่านเป็นสามเณรผู้ทรงพระปาติโมกข์ โครงการสามเณรทรงพระปาติโมกข์เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จัดโดยวัดตะโก ร่วมกับ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

ซึ่ง สามเณรวัย 8 ขวบรูปนี้ สามารถสอบผ่าน ใช้เวลาในการสอบ 55 นาที ตั้งแต่เริ่มสอบเวลา 06.05 – 07.01 น. โดยมีคนเข้าไปชื่นชมจำนวนไม่น้อย














ขอบคุณ : https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_4580698
วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 - 12:49 น.   

 28 
 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2024, 06:24:18 am 
เริ่มโดย raponsan - กระทู้ล่าสุด โดย raponsan
.



ศน.จัดวิสาขบูชาอาเซียน กระชับสัมพันธ์ไทย-ลาว ด้วยมิติทางศาสนา

เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม นายชัยพล  สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า กรมการศาสนา (ศน.) ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด และศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์ลาว (อ.พ.ส.)จัดโครงการจัดงานสัปดาห์ “วิสาขบูชาอาเซียน เพื่อส่งเสริมสัมพันธไมตรีกับประเทศอาเซียน ในมิติพระพุทธศาสนา” จ.หนองคาย ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 16-17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ จ.หนองคาย และนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว อย่างยิ่งใหญ่ในฐานะวันสำคัญสากลของโลก

ซึ่งจังหวัดหนองคายเป็นจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้านคือ สปป. ลาว และมีเครือข่ายพระพุทธศาสนาเข้มแข็ง ผู้นำศาสนาสมเด็จพระสังฆราช สปป.ลาว และเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย  ร่วมส่งเสริมสัมพันธไมตรีในมิติพุทธศาสนา ซึ่งการร่วมจัดวิสาขบูชากับพระและชาวลาวที่วัดพระธาตุหลวง เสียงจันทน์ เป็นโอกาสดี เพราะต่างก็เป็นประเทศที่ประชาชนส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนา จะมีการทำบุญตักบาตร ไหว้พระ ทอดผ้าป่าบำรุงพุทธศาสนา เวียนเทียนในฝั่งลาว

รวมทั้งกิจกรรมทัศนศึกษาแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และพระพุทธศาสนาของสปป.ลาว  ณ วัดพระธาตุหลวงเวียงจันทน์ วัดศรีเมือง และวัดองค์ตื้อมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศานิกชนไทยที่ข้ามมากราบไหว้ด้วยความศรัทธา รวมถึงเยี่ยมชมตลาดวัฒนธรรมและผลิตภัณฑ์พื้นถิ่นของลาว ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม




“นอกจากทำบุญตักบาตรข้าวเหนียว รับฟังพระธรรมเทศนา ปฏิบัติธรรม เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชา ประจำปี พ.ศ. 2567 ยังมีการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้จัดทำแผนการขับเคลื่อนงานและกิจกรรมด้านศาสนาของประเทศอาเซียน ร่วมกับศูนย์กลางองค์การพุทธศาสนิกสัมพันธ์ลาว ณ วัดพระธาตุหลวง  ซึ่งอยู่บนแนวคิดใช้ศาสนาเชื่อมความสัมพันธ์ ภายใต้โครงการศาสนิกสัมพันธ์ทางศาสนาของอาเซียน 

ซึ่งจะขับเคลื่อนในมิติหลากหลาย ทั้งกิจกรรมร่วมกันทางศาสนา การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและวัฒธรรม  การส่งเสริมท่องเที่ยววัดโพธิ์ชัย ฝั่งไทย และข้ามไปวัดพระธาตุหลวง ลาว รวมถึงขยายผลกิจกรรมตักบาตรริมโขงให้เป็นที่นิยมมากขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยว  ปัจจุบันมีหลายวัดในจังหวัดริมโขงจัดกิจกรรม อาทิ หนองคาย อุบลราชธานี อุดรธานี เลย“ นายชัยพล กล่าว






อธิบดีศน. กล่าวต่อว่า งานสัปดาห์วิสาขบูชาอาเซียนไทย-ลาว จะกระชับความสัมพันธ์ประชานสองประเทศที่เป็นบ้านพี่เมืองน้อง  เกิดการไปมาหาสู่กันโดยใช้มิติพุทธศาสนานำทาง การทำบุญตักบาตรในวันและเทศกาลสำคัญต่างๆ เกิดความร่วมมือระหว่างองค์กรทางศาสนาแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พระสงฆ์ไทย-ลาว มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน  เกิดงานและกิจกรรมแลกเปลี่ยนด้านศาสนาของอาเซียน ซึ่งมองว่า ภาคอีสานของไทยมีศักยภาพด้านวิปัสนากรรมฐาน ซึ่งเป็นแก่นของพระพุทธศาสนา จะเป็นพื้นที่สำคัญจัดกิจกรรมวิปัสนาครั้งใหญ่ภายในปีนี้






ขอบคุณ : https://www.matichon.co.th/education/religious-cultural/news_4581583
วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 - 17:18 น.   

 29 
 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2024, 09:53:28 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

 30 
 เมื่อ: พฤษภาคม 18, 2024, 07:11:11 pm 
เริ่มโดย todaytimepost11 - กระทู้ล่าสุด โดย todaytimepost11
ขออนุญาต อัพเดทกระทู้

หน้า: 1 2 [3] 4 5 ... 10