กาลวิบัติ แห่ง ศาสนา ก็เริ่ม จากคนเหล่านี้แหละ
การเรียกร้องสิทธิ์ ต่าง ๆ ตามกฏหมาย นั่นก็เป็นทางหนึ่ง ดึงดัน
เคยฟังในรายการ อยู่ครั้งหนึ่ง
พระ ถ้าไม่มีการยกสังฆกรรม ด้วย ญัตติจตุดถกรรม ก็เป็นพระไม่ได้ ( สมมุติว่าพระ ตามพระธรรมวินัย )
ในทางกลับกัน มีการญัติจตุตถกรรม แต่ กระทำโดยกลุ่มที่ไม่ใช่ พระที่มีญัตติจตุตถกรรม มาก่อน หมายถึงคนเอาผ้าเหลืองมานุ่งห่มเยี่ยงพระ โกนหัว ทำตัวอย่างพระ แล้วทำการบวชคนด้วย ญัตติจตุตถกรรม ต่อมา ผู้ที่บวชกับคนเหล่านี้ ถือว่า เป็นโมฆะ ในทางพระพุทธศาสนา ไม่ใช่ สมมุติสงฆ์ ตามพระธรรมวินัย
แน่นอนคนปลอมบวชพระ ทำตัวเยี่ยงพระ ใช้ชีวิตอย่างพระ ในท่ามกลางสงฆ์ ก็เป็นพระไม่ได้ เมื่อบริโภคปัจจัย 4 ที่ ศรัทธาของคนได้มอบถวาย แก่พระสงฆ์ ในสังฆกรรม ผู้ที่ปลอมปนเหล่านั้น ล้วนต้องบาปอกุศล มีนรกเป็นปลายทาง แน่นอน
ต้องลองฟัง พระอาจารย์พูด แต่ รู้สึกจะพูดสด อยู่ ครั้งหนึ่ง.... และก็ไม่ได้ยินอีก
เรื่องของอายุพระพุทธศาสนา ที่จะหายไปกึ่งหนึ่ง ทันที
ฟังแล้วน่าตกใจ ... ส่วนตัว เห็นชัดด้วยเหตุผล ถึงแม้จะเป็นผู้หญิง แต่ก็ยอมรับในวินิจฉัย ของ มส. เช่นกันคะ เพราะความเป็นจริงเขาไม่ได้ห้ามถือศีลเป็นแม่ชี เลย แม่ชีในประเทศไทย ล้วนมีบทบาท สำคัญ แต่ที่นี้คุณผู้หญิง อาจจะต้องการมีบทบาทให้สูงขึ้นอย่างภิกษุ จึงพยายามไปบวชเป็น ภิกษุณี แต่ครั้นบวชที่อื่น ๆ มาแล้ว ก็มาทำสังฆกรรม กับฝ่ายเถรวาทไม่ได้ เพราะทางเถรวาท ถือว่า เป็นโมฆะบุคคละ เป็นบุคคล แต่งตัวเลียนแบบ เท่านั้น ถึงแม้สังคมสมัยใหม่ ยุคประชาธิปไตย จะยอมรับแต่ พระสงฆ์ไม่ได้ยอมรับเพราะผิดพระธรรมและวินัยอันเป็นบัญญัติของพระพุทธเจ้า นั่นเอง
คนที่ทำเรื่องราวตอนนี้ นับว่า มีความเสี่่ยงในกรรม ที่ลิดรอนอายุพระพุทธศาสนา ลงเป็นบาป เป็นโทษมาก แต่ท้ายที่สุดคนเหล่านี้ เมื่อพาลทำไม่ได้สำเร็จก็จะบีบระบบพระสงฆ์ จนต่อไปในยุคข้างหน้าพระสงฆ์ที่เป็นเถรวาท ก็จะหายไปหมด เหลือเพียงสัญญลักษณ์ผูกผ้ากาสาวพัตร์ไว้ที่ตุ้มหูเท่านั้น ( ยังนึกไม่ออกว่าแต่งกายเยี่ยงไร ) แต่เรื่องเหล่านี้มีปรากฏข้อความในจักวรรติสูตร ในส่วนอรรถกถา ว่าด้วยอายุพระพุทธศาสนา จักลดน้อยลงตามคำพยากรณ์ ของพระพุทธเจ้า เนื่องด้วย พุทธบริษัท4 และ การมีอยู่ของพระภิกษุณี