ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระกรุ วัดดาวเสด้จ ขึ้นชื่อนะครับ คนสระบุรีควรรู้จักครับ  (อ่าน 3934 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

paisalee

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 382
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
สระบุรี" เป็นจังหวัดสำคัญในด้านโบราณสถานทางพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ และประเพณี โดยมีวัดอันเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ คือ วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร อ.พระพุทธบาท ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของรอยพระพุทธบาท ศูนย์รวมแห่งพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่


 ด้วย เหตุที่ จ.สระบุรี เป็นหัวเมืองสำคัญหนึ่งในประวัติศาสตร์ มีการขุดพบพระกรุในจังหวัดอยู่ไม่น้อย และที่สำคัญ พระในแต่ละกรุล้วนมีศิลปะเชิงช่างที่คลาสสิก งดงามตามสมัย รวมทั้งสูงด้วยพุทธคุณ และมากด้วยประสบการณ์ พระกรุสำคัญๆ ของสระบุรี มีดังนี้

 กรุวัดดาวเสด็จ เป็นกรุพระใหญ่ที่สุดของ จ.สระบุรี พบทั้งเนื้อดินและเนื้อชินบรรจุอยู่ในกรุ ทั้งนี้ กรุวัดดาวเสด็จตั้งอยู่บริเวณตัวเมือง จ.สระบุรี (ริมแม่น้ำป่าสัก) ใกล้ๆ กับ ร.ร.อนุบาลสระบุรี มีตำนานเล่าถึงพระกรุนี้ไว้ว่า

 แต่ก่อนนั้น บริเวณวัดมีเจดีย์ใหญ่ ก่อสร้างจากศิลาแลง เมื่อถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนา ผู้คนที่อยู่ย่านนั้นจะเห็นแสงไฟสว่างเป็นดวงๆ  สว่างพุ่งลงมาจากฟ้า ลงสู่เจดีย์ ซึ่งเป็นที่กล่าวขานถึงความอัศจรรย์นี้กันทั่ว จึงเป็นที่มาของชื่อวัดที่ว่า “วัดดาวเสด็จ”

 อย่างไรก็ตาม ภายหลังที่ได้มีการขุดพระเครื่องได้จากเจดีย์องค์ดังกล่าวแล้ว ก็ไม่มีใครพบความมหัศจรรย์แห่งแสงนั้นอีกเลย

 พระ กรุวัดดาวเสด็จนี้ ที่เป็นพระเนื้อดิน และนิยมมาก คือ พระนางพญา วัดดาวเสด็จ เป็นพระเครื่องที่มีรูปทรงสามเหลี่ยม เช่นเดียวกับพระนางพญาจังหวัดอื่นๆ มีขนาดประมาณ ๒.๕ ซม.

 พุทธ ลักษณะ เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งทรงมารวิชัย ลอยเด่นอยู่กึ่งกลางพระทรงสามเหลี่ยม แสดงถึงศิลปะช่างอยุธยายุคต้น อย่างโดดเด่น และงดงาม มีพุทธคุณสูงทั้งด้านค้าขายและคงกระพัน เป็นที่กล่าวขวัญและหวงแหนของคนสระบุรีเป็นอย่างยิ่ง

 ขณะเดียวกัน ยังพบพระเนื้อดินพิมพ์อื่นๆ ปนอยู่ด้วย เช่น พระนารายณ์ทรงปืน พระแผงนาคปรก ส่วนพระเนื้อชินที่พบนั้น มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ไม่แพ้กรุอื่นๆ เลย

 พระ ที่พบส่วนใหญ่ เป็นพระปางปรกโพธิ์ มีหลายขนาด ที่สำคัญคือ  ลักษณะขององค์พระไม่ว่าจะเป็นแบบใด จะมีพุทธลักษณะทรวดทรงเป็นมารวิชัย แบบทรงเครื่องเดียวกันทั้งหมด

 นอกจากนี้ ยังพบว่า มีการฝากไว้ในกรุและวัดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงอีกด้วย เช่น วัดชุ้ง และวัดเพชร ซึ่งมีพุทธลักษณะแตกต่างออกไปเล็กน้อย

 กรุวัดต้นตาล พระที่พบในกรุนี้ เป็นพระเครื่องเนื้อชิน ที่มีพิมพ์ทรงใกล้เคียงกับพระกรุยอดขุนพลของ จ.กาญจนบุรี นั่นคือ “พระท่ากระดาน” แต่มีขนาดย่อมกว่าเล็กน้อย

 พระกรุวัดต้นตาล เป็นพระที่แตกกรุมาประมาณ พ.ศ.๒๕๐๔ แต่ด้วยอายุการสร้างสมัยอยุธยา พระที่พบจะเป็นเนื้อตะกั่วสนิมไขขาว ไม่ปรากฏสนิมแดงจัด เหมือนกับพระท่ากระดาน จ.กาญจนบุรี

 พระกรุของ จ.สระบุรี นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลายกรุ เช่น กรุวัดเพชร กรุวัดมะกรูด กรุวัดสมุหะ กรุวัดบ้านกล้วย กรุวัดม่วงงาม กรุวัดขอนชะโงก และกรุวัดหนองแซงใหญ่ เป็นต้น
บันทึกการเข้า
บุญที่้ข้าพเจ้าได้ทำวันนี้ ขออุทิศให้แก่ บิดาและน้องชายที่ล่วงลับ มารดาที่ยังมีชีวิตอยู่