พิมพ์

[raponsan]

รอยประหลาดที่ลับแล! เชื่อ‘พญานาค’ปรากฏกายในวันพระ

พระและชาวบ้านใน อ.ลับแล อุตรดิตถ์ แห่มาดูรอยประหลาดในศาลาใกล้พระอุโบสถโบราณ เลื้อยเป็นวงมีเกล็ดเห็นชัด เชื่อเป็นรอยพญานาค เจ้าอาวาสบอกเห็นทีแรกน้ำตาแทบไหล เพราะเคยฟังคำบอกเล่าเรื่องพญานาคคาบแก้ว และเคยอธิษฐานให้เจอรอยเต็มวัด... 

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 17 ก.พ.ชาวบ้านใน อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ได้พากันเดินทางไปดูรอยประหลาดที่ศาลาการเปรียญ วัดโพธิ์ล้อม เลขที่ 199 หมู่ 9 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล โดยรอยประหลาดดังกล่าว พบว่ามีลักษณะคล้ายกับรอยเลื้อยของงูขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 6 นิ้ว เมื่อเพ่งดูใกล้ๆ จะเห็นร่องรอยคล้ายเกิดจากเกล็ดของสัตว์เลื้อยคลานบางชนิดอย่างเห็นได้ชัด

รอยประหลาดที่เชื่อว่า...เป็นรอยพญานาค

นอกจากนี้ ยังพบรอยลักษณะเดียวกันเลื้อยเป็นทางยาวจากบริเวณพระอุโบสถเก่าอายุร่วม 700 ปี ที่มีการล้อมรั้วไว้ เป็นรอยคดไปวนมาขึ้นไปบนลานคอนกรีตหน้าศาลาการเปรียญ ขึ้นบันได 5 ขั้น จากนั้นเลื้อยไปตามพื้นศาลา และไปขมวดเกือบเป็นวงกลมที่บริเวณผนังซึ่งอยู่ห่างจากพระพุทธรูปพระประธานเพียง 1.5 เมตร ชาวบ้านที่ไปมุงดูต่างเชื่อว่ารอยดังกล่าวคือรอยพญานาค

นายทูล ดีปัญญา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ชัยจุมพล อ.ลับแล กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าอาวาสวัดได้โทรศัพท์เรียกให้ตนมาดูรอยพญานาคที่ศาลาการเปรียญวัด จึงได้รีบมาดู และทุกคนที่เห็นบอกเสียงเดียวกันว่า เป็นรอยพญานาคอย่างแน่นอน จึงได้นำดอกไม้ธูปเทียนและเครื่องเซ่นไหว้มากราบไหว้ ซึ่งสมัยตนยังเด็กได้รับคำบอกเล่าจากผู้สูงอายุว่าวัดโพธิ์ล้อมแห่งนี้ เป็นวัดร้างมานาน ตกกลางดึกมักจะเห็นแสงพุ่งจากพระอุโบสถหลังเก่าโดยเฉพาะในวันพระ ต่อมาตนได้มาบุกเบิกสร้างวัดขึ้น และได้รับวิสุงคามสีมาวันที่ 12 เมษายน 2545

รอยบนฝาผนังในวัด ที่ อ.ลับแล อุตรดิตถ์

ขณะที่พระปลัดพิน อัตถะกาโร เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ล้อม กล่าวว่า ได้เห็นรอยประหลาดนี้ หลังจากตื่นจากจำวัดช่วงเวลา 05.35 น. ออกจากกุฏิเพื่อมาเปิดเครื่องขยายเสียงบนศาลาการเปรียญ เพราะวันนี้เป็นวันพระ เมื่อเห็นครั้งแรกก็ขนลุกซู่น้ำหูน้ำตาแทบไหล เพราะไม่เคยเห็นรอยประหลาดเช่นนี้มาก่อนเลย และตอนนั้นรอยยังเปียกอยู่เลย จึงเรียกสามเณรให้มาดู สอบถามสามเณรซึ่งในช่วง 05.02 น.ได้ออกมากวาดลานวัดและศาลาการเปรียญก็ยืนยันว่า ยังไม่เห็นรอยอะไรเลย ส่วนตัวจึงเชื่อว่า เป็นรอยพญานาคเช่นเดียวกับทุกคนที่มาดู

“ก่อนจะพบรอยประหลาดนี้ มีเรื่องที่ชาวบ้านเล่ากันฟังว่าราว 20 ปีเศษที่ผ่านมา ได้เกิดดวงไฟปรากฏขึ้นที่บริเวณก่อสร้างวัด แล้วทำให้กระแสไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้าน ต่อมามีชาวบ้านพบเห็นดวงไฟอีก และล่าสุดเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ก็เกิดดวงไฟขนาดใหญ่ขึ้นภายในวัด ซึ่งดวงไฟที่เห็นนั้น ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพญานาคคาบแก้วนอนตายอยู่บริเวณพระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งหลังเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้น ได้บอกกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่า หากเป็นพญานาคจริง ก็ขอให้เกิดรอยให้เต็มวัด และให้เกิดแต่เรื่องดีๆขึ้นภายในวัดแห่งนี้" พระปลัดพิน กล่าวในที่สุด

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/481812