สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

พระไตรปิฏก => พระเจ้า ๕๐๐ ชาติ => ข้อความที่เริ่มโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2012, 03:55:23 pm



หัวข้อ: โกสิยชาดก(ถ้อยคำกับการกินไม่สมกัน)
เริ่มหัวข้อโดย: นิรตา ป้อมนาวิน ที่ กุมภาพันธ์ 27, 2012, 03:55:23 pm
โกสิยชาดก(ถ้อยคำกับการกินไม่สมกัน)

ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ใน พระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ บังเกิดในสกุลพราหมณ์มหาศาล เรียนศิลปะทุกประการในเมืองตักกสิลา แล้วได้เป็นอาจารย์ทิศาปาโมกข์ในพระนครพาราณสี ขัตติยกุมารในราชธานีทั้งร้อยเอ็ด และพราหมณกุมาร พากันมาเรียนศิลปะในสำนักของท่านผู้เดียวมากมาย

        ครั้งนั้นมีพราหมณ์ชาวชนบทผู้หนึ่ง เรียนไตรเพทและวิทยฐานะ ๑๘ ประการ ในสำนักของพระ โพธิสัตว์แล้ว ตั้งหลักฐานอยู่ในพระนครพาราณสีนั่นเอง เขาได้มาที่สำนักของพระโพธิสัตว์วันละสองสามครั้งทุกวัน นางพราหมณีของเขา เป็นหญิงประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง หยาบช้า ลามก เรื่องทั้งปวงตั้งแต่นี้ไป ก็เช่นเดียวกับเรื่องปัจจุบันนั่นแล
               
                   ฝ่ายพระโพธิสัตว์เมื่อพราหมณ์นั้นบอกว่า ด้วยเหตุนี้ กระผมจึงไม่มีโอกาส เพื่อจะไปรับโอวาทดังนี้ ก็ทราบว่า นางมาณวิกานั้น นอนหลอกพราหมณ์นี้เสียแล้ว คิดว่า เราต้องบอกยาที่ เหมาะสมให้แก่นาง แล้วกล่าวว่าพ่อคุณ ต่อแต่นี้ไป เจ้าอย่าได้ ให้เนยใส และน้ำนมสดแก่นางเป็นอันขาด แต่จงโขลกใบไม้ ๕ อย่างและผล ๓ อย่างเป็นต้น ใส่ในมูตรโค แล้วแช่ไว้ในภาชนะทองแดงใหม่ ๆ ให้กลิ่นโลหะมันจับ แล้วถือเชือก หวาย หรือไม้เรียว กล่าวว่า ยานี้เหมาะแก่โรคของเจ้า เจ้าจงกินยานี้ หรือไม่เช่นนั้น ก็ลุกขึ้นทำการงานให้สมควรแก่ภัตรที่เจ้าบริโภค แล้วต้องกล่าวคาถานี้ ถ้านางไม่ยอมดื่มยา ก็ต้องเอาเชือกหรือ หวาย หรือไม้เรียว หวดนางลงไปอย่างไม่ต้องนับ แล้วจิกผม กระชากมาถองด้วยศอก นางจักลุกขึ้นทำงานในทันใดนั่นเอง
        เขารับคำว่า ดีจริงขอรับ แล้วทำยาตามข้อที่บอกแล้วนั่นแหละ กล่าวว่า แม่มหาจำเริญ เชิญดื่มยานี้เถิด นางถามว่า ยานี้ใคร บอกท่านเล่าเจ้าคะ ? ตอบว่า อาจารย์บอกให้ แม่มหาจำเริญ นางกล่าวว่า เอามันไปเสียเถิด ฉันไม่ดื่ม มาณพกล่าวว่า เจ้าจักดื่มตามใจชอบของตนไม่ได้ แล้วคว้าเชือกกล่าวว่า เจ้าจงดื่มยาที่เหมาะแก่โรคของตน หรือมิฉะนั้นก็จงทำงานให้สมควรแก่ภัตรที่บริโภค แล้วกล่าวคาถานี้ ความว่า
   "ดูก่อนนางผู้โกสิยะ เจ้าจงกินยาให้สมกับที่อ้างว่าป่วย
   หรือจงทำงานให้สมกับอาหารที่บริโภค
   เพราะถ้อยคำกับการกินของเจ้าทั้งสองอย่างไม่สมกันเลย" ดังนี้.

   เมื่อพราหมณ์กล่าวอย่างนี้แล้ว ธิดาแห่งโกสิยพราหมณ์ คิดว่า ตั้งแต่เวลาที่อาจารย์ช่วยขวนขวายแล้ว เราไม่อาจลวงเขาอย่างนี้ต่อไปได้ ต้องลุกขึ้นทำการงาน ดังนี้แล้ว ก็ลุกขึ้นประกอบกิจตามหน้าที่ ทั้งยังเป็นหญิงมีศีล งดเว้นจากการทำความชั่ว ด้วยความยำเกรงในอาจารย์ว่า ความที่เราเป็นหญิงประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง อาจารย์รู้หมดแล้ว ต่อแต่นี้ไป เราไม่สามารถจะทำเช่นนี้ได้อีก.
   แม้นางพราหมณีนั้น ก็ไม่กล้าทำอนาจารซ้ำอีก ด้วยความเคารพในพระศาสดาว่า ได้ยินว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงรู้เรื่องของเราแล้ว.
   พระศาสดา ทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า คู่สามีภรรยาในครั้งนั้น ได้มาเป็นคู่สามีภรรยาในบัดนี้ ส่วนอาจารย์ ได้มาเป็นเราตถาคต ฉะนี้แล.
   จบ โกสิยชาดก


http://www.youtube.com/watch?v=Ya-p_uE-Sa8#ws (http://www.youtube.com/watch?v=Ya-p_uE-Sa8#ws)


ที่มา http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=34&thispage=1 (http://www.intaram.org/index.php?lay=show&ac=article&Ntype=34&thispage=1)