ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี  (อ่าน 4615 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี
« เมื่อ: ตุลาคม 16, 2011, 08:31:19 pm »
0

คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี

คณะสงฆ์ ดำเนินการนำร่อง โครงการ 1 ตำบล 1 บาลี แก้ปมพระ เณร สนใจเรียนน้อยลง


นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวว่า จากการประชุมคณะ กรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่มีพระพรหมโมลี เป็นประธาน ที่ประชุมมีมติให้เริ่มดำเนินการนำร่อง โครงการ 1 ตำบล 1 บาลี โดยจะเริ่มนำร่องที่วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร ซึ่งทางวัดได้มีการเริ่มดำเนินการใน ลักษณะดังกล่าวมาก่อนหน้าแล้วประมาณ 2 ปี


ดังนั้นที่ประชุมจึงเห็นควรเริ่มนำร่องที่วัดกัลยาณมิตร ก่อน ทั้งนี้ การที่ประชุมมีมติเริ่มโครงการนี้ เนื่องจากปัจจุบันพบว่าพระ เณร สนใจเรียนบาลีน้อยลง จึงต้องการหา ทางที่จะส่งเสริมให้พระ เณร เข้ามาเรียนบาลีมากขึ้น โดยจะมีการตั้งกองทุนขึ้นรองรับเพื่อเป็นทุนในการส่งเรียนจนจบ ซึ่งจากนี้จะมีการแจ้งให้วัดต่างๆที่มีความพร้อมให้คัดเลือกพระเณร ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาร่วมโครงการดังกล่าวต่อไป

พระธรรมปัญญาภรณ์ เลขานุการแม่กองบาลี สนามหลวง เจ้าคณะภาค 5 กล่าวว่า ในส่วนของคณะ สงฆ์ภาค 5 ได้มีการให้จัดโครงการลักษณะดังกล่าวเช่นกัน แต่เป็นโครงการ 1 ตำบล 1 มหา โดยเริ่มนำร่องที่ จ.ตาก ก่อน โดยให้ทุกตำบลส่งพระ เณร อย่างน้อย 1 รูป เพื่อนำเข้ามาร่วมโครงการ จากนั้นจะให้ไปเรียนในสถานที่ตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด และในเร็วๆนี้จะเริ่มดำเนินการในจังหวัดในเขตปกครองของตนทั้งหมด



ส่วนงบประมาณที่จะนำมาดูแลนั้น จะให้เจ้าคณะ จังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค 5 จัดทอดผ้าป่าเพื่อหารายได้มาเป็นงบฯสนับสนุนโครงการนี้ พร้อมทั้งจะให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลงบฯโดยตรง ทั้งนี้ บาลีเป็นเรื่องที่คณะสงฆ์จำเป็นต้องดำเนินการเชิงรุกจะปล่อยให้เป็นไปในลักษณะใครจะทำก็ทำไม่ได้ เพราะภาษาบาลีมีความสำคัญต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนามาก.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/209448
http://www.thailandholidayclub.com
http://www.dhammathai.org
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นักเดินทาง

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +2/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 695
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 06:53:50 pm »
0
สมัยปัจจุบัน นี้ พระภิกษุ สามเณร ไม่เรียนบาลีกันแล้ว ครับ เพราะมุ่งเรียน แต่ทางโลก มาตรฐานการสอบบาลีนั้นโอกาสตก มากกว่า สอบได้ นะครับ บางสำนักเรียน ตกยกสำนักเลยนะครับ ส่งสอบ 50 รูป ตก 50 รูป ถามว่าพระเณร ขี้เกียจเรียน หรือครับ ไม่ขยัน ท่องอ่านหนังสือหรือครับ ผมเคยเข้าไปทำความสำรวจ ที่สำนักเรียนแห่งหนึ่งมาแล้วครับ

   จากผลการทดสอบ สรุปดังนี้ ครับ

   1. พระภิกษุ สามเณร ที่เรียนบาลี ต้องใช้ความพยายาม ทางด้านสมองมากครับ

      คือ ต้องท่องตำรา เรียกว่า วิชาไวยากรณ์ และ ต้องท่องคำศัพท์ ให้ได้
      แถม ต้องจำรูปประโยค การอ้าง ได้ด้วย ยกเมฆไม่ได้ ต้องตามแบบที่สอน เป๊ะ ๆ
      ปัญหา ส่วนนี้ คือ ภิกษุ สามเณร ท่านจะพักผ่อนน้อย ในขณะต้องทำกิจวัตรของสงฆ์ด้วย
      น่าเห็นใจ ดังนั้น ปัญหา เรื่อง สมองไม่แล่น เฉื่อย เป็นเพราะสาเหตุนี้

   2. พระภิกษุ สามเณร มีการอบรมก่อนสอบ อย่างน้อย 15 วัน ซึ่งคล้ายระบบการติว
      แต่ความเป็นจริง อาจจะทำให้สับสน เพราะต้องไปเก็งผิดจุด ถ้าเก็งข้อสอบได้ถูกก็รอดตัว
      ผมว่าในปัจจุบัน น่าจะประยุกต์ ให้กับการเรียนภาษาอังกฤษทางโลก นะครับ

   3. ปัญหาหลักอีกเรื่อง คือ สมัยปัจจุบัน ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า เพาเวอร์ เป้าหมาย ของการเรียนบาลี
       ว่าเรียนแล้วใช้อะไรได้ นอกจากแปลในสิ่งที่เขาแปลมาแล้ว ไม่มีอะไรที่ท้าทาย ในการเรียน
       วิเคราะห์ ดังนี้

        1. เรียนสอบได้แล้ว ก็ไม่มีตำแหน่งอะไร ทั้งนั้น บางวัดผมไปเดิน มหาแทบชนกัน ก็อยู่กันเต็ม
           แต่บางวัดก็ไม่มี ครับ
        2. จะแปล อะไรเขาก็ไม่เชื่อถือ ผมเคยดูในห้องสนทนาธรรม เดี๋ยวนี้เข้าใช้ คอมพิวเตอร์ ค้นคำศัพท์
           แปล และไม่ยอมตามความหมายของผู้แปล พระไตรปิฏก ก็มีคนแปลแล้ว อะไรก็มีแปลแล้ว
        3. เรียนจบ เปรียญ การเทียบทางโลก ต่ำ มาก และ ใช้สมัครงานได้น้อยมาก ผมเคยมีเพื่อนที่เป็น
           เปรียญอยู่รูปหนึ่ง จบ เปรียญ 5 ไปเดินสมัครงานไม่มีที่ไหนรับครับ เขารับแต่ ปวช ปวส ปริญญาตรี
       
         สรุปตรงนี้ คือ แรงจูงใจที่จะเรียนไม่มี เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้วครับ ครับ คนที่มาทำงานด้านการแปล ยังไม่ได้เรียน บาลีกันโดยตรง มีมากครับ ดูง่ายๆ ไม่ไกล เช่น วัดนาป่าพง ปทุมธานี เป็นต้น ไม่มีพระเปรียญ ในการแปลครับ แต่ก็เอกสาร พุทธวัจน์ จนเลื่องลือ เป็นต้น

         ถ้าคณะสงฆ์ เล็งเห็นตรงนี้จริง คงต้องพัฒนา หลักสูตร บาลี เป็นเอกบาลี ขึ้นมา ใช้การสอบวัดผลแบบปรนัยบ้าง  พิจารณาตามความเป็นจริง ว่าควรจะให้หลักสูตร เหมือน หลักสูตรภาษาอังกฤษ คือเน้นเรื่องอะไร
มีสาขา ในวิชา บาลีให้ชัดเจน เช่น บาลีชีวิตประจำวัน บาลีเพื่อการแปล บาลีเพื่อการเดินทาง เป็นต้น

          อันนี้ผมยกตัวอย่าง แต่ถ้าจะให้ทำวิถีเก่า ผมเชื่อว่าไปไม่รอด เพราะระบบของพระสงฆ์ตอนนี้เริ่มรวนแล้วมองจากสถิติพระสงฆ์ มีน้อยลง และจะน้อยลงไปเืรื่อย ๆ ทุกวัน เนื่องด้วยพระสงฆ์ เรียนทางโลก ก็มีจุดประสงค์เดียวครับ คือเพื่อให้โลกยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นด้วย เกรียติ ยศ ตำแหน่ง การยอมรับ

           สมัยก่อนผมไปตามวัด จะพบว่า วัดจะภูมิใจที่มีพระเปรียญกันมากครับ แต่ปัจจุบัน ถ้าหากบอกว่าจบเปรียญ แต่ไม่มี ดีกรีย พธบ หรือ ศศบ หรือ ป.ตรี ป.โท ป.เอก อื่น ๆ มาพ่วงด้วยครับ เปรียญหัวเน่าครับ

            ดังนั้นมุมมอง ของคณะสงฆ์ ตอนนี้ ส่งเสริม ดีกรี ทางโลกมากครับ มีการออกกฏบังคับกลาย ๆ ว่าให้พระสงฆ์ต้องไปเรียน ต่อ ป.ตรี ป.โท กัน

    โครงการนี้ ผมคิดว่าไปไม่รอด ถ้าหากยังไม่เปลี่ยนรูปแบบ การเีรียน การสอบ กันใหม่

 
   
บันทึกการเข้า

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ตุลาคม 17, 2011, 07:59:38 pm »
0

 ขออนุโมทนากับ"คุณนักเดินทาง" ครับ :s_good: :25:
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

สมภพ

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 485
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2011, 09:22:47 am »
0
ตามความเห็น ของคุณ นักเดินทาง ก็แสดงว่า ending ตั้งแต่เริ่มหรือครับ

 อย่างนี้ พวกนักวิชาการ จะไม่ท้วงหรือครับ หรือ มหรเถรสมาคม ไม่ทราบปัญหา
 เพราะที่จริง ท่านก็เป็น พระมหาเถระ มีประสบการณ์ กันทุกรูป ทุกองค์ ครับ

 ยิ่งสมัยนี้พระท่าน มีดีกรี อย่างที่คุณนักเดินทาง พูดมาด้วยแล้วจะไม่คัดค้านหรือ หมิ่นฝีมือกัน
ไปก่อนหรือครับ

  :smiley_confused1:
บันทึกการเข้า

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: คณะสงฆ์ผุดโครงการ 1 ตำบล 1 บาลี
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ตุลาคม 18, 2011, 09:34:06 am »
0
ในฐานะ อดีตเปรียญ ผมก็คิดว่า แนวทางที่ คุณนักเดินทาง กล่าวไว้ได้ดีมากครับ โดนใจครับ

 เพราะผมเองก็ประสบปัญหา เช่นนั้นเหมือนกัน ตอนผมไปสมัครงาน ปธ. 5 เขาเทียบให้ ม.3 เองครับ

ต้องไปเรียน ราชภัฏอีก 4 ปีครับ ถึงมาสอบครู สรุปแล้วไม่มีประโยชน์จริง ๆ ครับ มีก็ตรงที่เขา

เรียกเรา มหา และถ้าเป็น มัคคทายก อะไรปานนี้ เราก็จะออกไปแถวหน้าครับ

 สำหรับเรื่องการศึกษา ของ พระ เณร ที่เรียน บาลี ขาดแรงจูงใจ ในปัจจุบันมากครับ
 
สำนักเรียน เข้มงวดกวดขัน แต่ก็ส่งเสริม เรียนทางโลก ซึ่งการันตีว่า จบแน่ ๆ ในปีหนึ่งแต่ถ้าเป็นเปรียญ

แล้ว ละก็ โอกาสของผู้สอบ ต้องมีคำว่า วาสนา รวมอยู่ด้วย ผมมีรุ่นพี่ที่เก่งกว่าผม แปลเก่ง อ่านเก่ง

แถมเป็นครูผมด้วย ท่านสอบ ปธ. 5 มาจนถึงปัจจุบันยังไม่ได้เลย แต่ผมเองอ่อนกว่าท่านอีก สอบได้

ปี ต่อ ปี เลยครับ เวลาเทสต์ คำถาม ตอบ ไม่ว่าหลักการแปล ไวยากรณ์ ผมก็เห็นท่านตอบผมได้

ผมจึงไม่แน่ใจ ว่าเรื่องนี้มีความสัมพันธ์ กัับการสอบ อย่างไร ? ครับ

  ดังนั้นการสอบเปรียญธรรม นั้น ผมว่า ต้องมีบุญวาสนา ด้วยครับ อย่างปีที่ผมสอบนั้นผมดูหนังสือ

ไปตรงกันโดยบังเอิญ ทั้ง 3 ปี ในใจก็นึกอยู่ว่า ถ้าออกปัญหา ส่วนที่ต่างไม่ได้ดู ก็คงสอบไม่ได้

 :s_hi: :13:
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;