การฝึกกรรมฐาน พุทธานุสสติ มุ่งที่การเห็นพระลักษณะ และ พระรัศมี ในเบื้องต้น ซึ่งทั้งสองประการเรียกว่านิมิตภายนอก และ นิมิตภายใน ดังนั้นผู้ฝึกกรรมฐาน ต้องทรงอารมณ์กับ นิมิตภายใน ภายนอกอย่างนี้ จึงไม่ควรไปข้องเกี่ยวกับลมหายใจเข้า หรือ ออก
พระพุทธานุสสติ มี 3 ห้อง มี 12 ขั้นตอนหรือลำดับ
พระธรรมปีติ มีสองส่วน คือ พระลักษณะ และ พระรัศมี
พระยุคลธรรม มีสองส่วน คือ พระลักษณะ และ พระรัศมี
พระสุขสมาธิ มีส่วนเดียว อุคคหนิมิต เป็นอุปจาระสมาธิ
ดังนั้นอารมณ์ สมถะ ไม่ได้ใช้ลมหายใจเข้า หรือ ออก แต่ใช้ นิมิตภายใน และ ภายนอก เป็นเครื่องเข้าถึงการเข้าถึงส่วนนี้จะทำให้เกิดปราโมทย์ เป็นการฝึก ฉันทะอิทธิบาทสมาธิ ขั้นเต็ม
ส่วนพระอานาปานสติ มี 2 ส่วนคือ
ลมหายใจเข้าออกเป็น อุคคหนิมิต
ลมหายใจเข้าออกเป็น ปฏิภาคนิมิต
ดังนั้นเพื่อไม่ให้ศิษย์กรรมฐาน สับสนกับเรื่องข้อกำหนดในการภาวนาไม่ปนเปกันในกรรมฐาน แยกกันไว้เป็นส่วนๆ จึงไม่นำประยุกต์ รวมกันให้สับสนในตอนภาวนา
ส่วนการฝึกได้ช้าได้เร็ว ก็ขึ้นกับบารมีที่สั่งสมกันมาแต่ละบุึคคลด้วย บางคนฝึกได้ในอาทิตย์เดียวก็มี บางคนเป็นเดือน บางคนเป็นปี บางคนก็หลายปี แต่ถึงจะใช้เวลามาก ดวงตาเห็นธรรมก็จะค่อยเกิดขึ้นไปเป็นลำดับมิใช่ ไม่มีผลมีผลต่อสภาวะธรรมส่วนบุคคลเป็นอย่างมาก
บางท่านพอได้ปีติ ระงับปีติไม่เป็น ถึงขั้นจะตัดขาดทางโลก ออกบวช ทิ้งโลกกันทีเดียวเลยก็มี ดังนั้นการเจริญกรรมฐาน จึงต้องรู้วิธีการและตรวจสอบการเข้าถึง ที่เรียกว่าบรรลุด้วย
เจริญธรรม / เจริญพร