ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฟื้นประเพณี..'สวดมาลัย'  (อ่าน 2081 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ฟื้นประเพณี..'สวดมาลัย'
« เมื่อ: มิถุนายน 11, 2012, 08:24:01 pm »
0



ฟื้นประเพณี..'สวดมาลัย'

นายเกษม มีเสน วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า การสวดมาลัยเป็นประเพณีประจำงานศพ แต่เดิมพระสงฆ์เป็นผู้สวดโดยจะสวดหลังจากที่สวดพระอภิธรรมเสร็จแล้ว พระที่สวดมีจำนวน 4 รูป หรือ 1 เตียง ใช้ตาลปัตรบังหน้า ใช้บทสวดจากหนังสือพระมาลัยหรือที่เรียกว่าพระมาลัยคำสวด (คำสอน) เนื้อหาเป็นธรรมะสั่งสอนให้ผู้ฟังเกรงกลัวต่อบาป กลัวอกุศลกรรม

การสวดมาลัยนอกจากเพื่อสั่งสอนสาธุชนแล้วยังเป็นวิธีการแก้ความเงียบเหงาในขณะเฝ้าศพ และเพื่อให้เจ้าภาพหรือญาติผู้ตายทุเลาความเศร้าโศก แต่ปัจจุบันการสวดมาลัยได้สูญหายไปเกือบหมดแล้วตามยุคสมัย ในระยะต่อมาผู้ฟังไม่นิยมกันนัก

การสวดมาลัยจึงเปลี่ยนแปลงทั้งในส่วนของผู้สวดและเนื้อหาคือผู้สวดแทนที่จะเป็นพระภิกษุเช่นเดิม ก็เปลี่ยนมาเป็นชาวบ้านแทน ส่วนเนื้อหาก็เพิ่มเติมเปลี่ยนแปลง ทำให้การสวดมาลัยเป็นที่นิยมอย่างมากในระยะเวลาหนึ่ง ต่อมาเริ่มสูญหายไปเรื่อยๆ จากความเปลี่ยนแปลงของสังคมในยุคโลกาภิวัตน์

สำหรับในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีคณะสวดมาลัยหลงเหลืออยู่เป็นคณะสุดท้าย คือ คณะครูแก้ว ผลความดี อายุ 90 ปี อาศัยอยู่ที่ชุมชนวัดท้ายสำเภา อ.พระพรหม เป็นคณะที่มีลีลาการแสดงที่น่าสนใจและโดดเด่น มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของผู้แสดงมีการสอดแทรกดนตรีและลีลาในการแสดงทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลิดเพลิน

เนื้อหาการแสดงเรื่องพระมาลัยมีอิทธิพลเต่อความเชื่อของคนไทย ในเรื่องบาปบุญคุณโทษ เชื่อว่า เมื่อทำบาปก็จะได้รับผลตอบแทนที่ไม่ดี คือ ตกนรก ส่วนเมื่อทำบุญจะได้รับผลตอบแทนที่ดี คือได้ขึ้นสวรรค์ ทั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ให้ดำเนินการสืบสานศิลปะการสวดมาลัย ที่เหลืออยู่เพียงคณะเดียวให้คงอยู่คู่จังหวัดนครศรีธรรมราชสืบไป



ที่มา  http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROaWRXUXdNakV4TURZMU5RPT0=&sectionid=TURNd053PT0=&day=TWpBeE1pMHdOaTB4TVE9PQ==
ขอบคุณภาพจาก http://www.abhidhamonline.org/



อัปโหลดโดย patumwan59 เมื่อ 3 ต.ค. 2011



อัปโหลดโดย Burin991 เมื่อ 15 ส.ค. 2010



เผยแพร่เมื่อ 27 พ.ค. 2012 โดย tourimsgt
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ