ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
  Messages   Topics   Attachments  

  Topics - วรรณา
หน้า: 1 [2]
41  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / รวบ! เด็กปั๊มลักน้ำมัน 3 ปี ได้ไป 10 ล้าน!! เมื่อ: ธันวาคม 04, 2010, 11:20:37 am
(ภาพประกอบข่าว)

(2 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ตำ
รวบ! เด็กปั๊มลักน้ำมัน 3 ปี ได้ไป 10 ล้าน!!

รวจสภ.เมืองลำปาง ร่วมกันแถลงการจับกุมแก๊งลักลอบขโมยน้ำมัน ซึ่งเป็นพนักงานเติมน้ำมันของหจก.นานาปิโตรเลียมทั้งหมด 7 คน โดยร่วมกันก่อเหตุมานานกว่า 3 ปี คิดเป็นความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนพฤติกรรมของแก๊งขโมยกลุ่มนี้ หลังจาก นางภรภัทร อุณหเลขจิตร เจ้าของปั๊มน้ำมันนานาปิโตรเลียม จ.ลำปาง ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่พบว่าพนักงานในปั๊ม 7 คน มีพฤติกรรมร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นเงินจากการเติมน้ำมันของลูกค้า โดยจะร่วมกันทำงานเป็นทีม แบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยใช้วิธีการถอดสายไฟที่ต่อเข้ากับมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันที่เติมให้กับ ลูกค้า ส่งผลให้มิเตอร์วัดไม่ทำงาน แต่ยังคงมีการจ่ายน้ำมันให้กับลูกค้าและเก็บเงินค่าเติมน้ำมันตามปกติ เมื่อได้เงินจากลูกค้าครบจำนวน 10,000 บาท ก็จะต่อสายไฟมิเตอร์วัดกลับคืนเป็นปกติ ขณะที่เงินที่ได้มากนั้นจะแบ่งกันประมาณ 1,400 บาทต่อคน ซึ่งที่ผ่านได้ตรวจสอบปริมาณน้ำมัน และพบว่าหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และมักเกิดขึ้นกับช่วงที่พนักงานชุดนี้เข้าทำงาน จึงคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมจนมั่นใจ และเข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวน

โดยผู้ต้องหาที่ตำรวจทำการจับกุม ทั้ง 7 คน ประกอบด้วย นายมานพ แก้วโมลา นายสราวุธ สุมาธิ น.ส.นาย อินเหล็ก นายอำนวย แก้วโมลา น.ส.อนงค์ ป่าพันธ์ นายเรืองเดช ปฏิสนธ์ และ นายติ๊ก วงศ์มี พร้อมของกลางเป็นเงินสดจำนวนกว่า 9 แสนบาท บ้านและที่ดิน โฉนดที่ดิน รถจักรยานยนต์ 4 คัน รถกระบะ 1 คัน โทรศัพทืมือถือ สมุดบัญชีธนาคาร และอื่นๆ อีกมากมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง โดยร่วมกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ร่วมกันโกงเงินค่าน้ำมันจริง โดยทำมาตั้งแต่ปี 2550 มีนายสราวุธ นายมานพ และนายอำนวย เป็นผู้ดัดแปลงมิเตอร์ ในเดือนหนึ่งจะมีรายได้ประมาณ 5-6 แสนบาท รวมระยะเวลากว่า 3 ปี คิดเป็นเงินประมาณ 9-10 ล้านบาท ซึ่งจำนวนเงินที่แบ่งกันแล้ว จะนำไปฝากไว้ในธนาคาร ซื้อบ้าน หรือนำไปใช้จ่ายส่วนตัวจนหมด
42  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไมพระไทยต้องโกนคิ้ว ( เหตุผลพอฟังได้หรือป่าวคะ ) เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 03:45:04 pm
ไมพระไทยต้องโกนคิ้ว

เหตุผลที่พระไทยต้องโกนคิ้ว ไม่มีหลักฐานยืนยัน มีแต่เรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า

ในสมัยอยุธยาที่ไทยรบกับพม่า
พม่าส่งทหารปลอมตัวเป็นพระ ลอบเข้ามาสืบข่าวในพระนคร
พระเจ้าอยู่หัวจึงรับสั่งให้พระไทยโกนคิ้วทิ้ง
พระที่ไม่ได้โกนคิ้วก็แสดงว่าเป็นพวกพม่า จับไปสอบสวนได้ทันที
หลังจากนั้นมาพระไทยก็โกนคิ้วมาตลอด
   
อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีพระวัดหนึ่งเห็นผู้หญิงเดินผ่านก็ยักคิ้วให้
ความทราบถึงสังฆราชเจ้า จึงออกเป็นคำสั่งแต่นั้นมาให้พระสงฆ์ไทยโกนคิ้ว
จะได้ไม่ต้องยักคิ้วหลิ่วตาให้ผู้หญิง
   
อย่างไรก็ตาม เรื่องการโกนคิ้วไม่ปรากฏในพระวินัย จะโกนหรือไม่โกนก็ได้
มีแต่คณะสงฆ์ไทยเท่านั้นที่โกนคิ้ว ถือเป็นวัตรปฏิบัติที่สืบต่อกันมา

พระสงฆ์ในประเทศอื่น ๆ ไม่ได้โกนคิ้ว และยืนยันว่าควรจะไว้คิ้ว
เพราะคิ้วเป็นเครื่องป้องกันมิให้เหงื่อไคลไหลเข้าตา
 
ที่มา 108 ซองคำถาม
43  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เมียทิ้ง!! ประชด จับลูกกรอกยาพิษ ตายด้วยกัน เมื่อ: พฤศจิกายน 27, 2010, 03:40:48 pm
อ่าน เมล แล้วรู้สึก หดหู่ เลยคะ


เมียทิ้ง!! ประชด จับลูกกรอกยาพิษ ตายด้วยกัน
      
   
24 พฤศจิกายน 2553 10:10:56 น. อ่าน 677
   
   

สภ.เมืองเพชรบูรณ์ รับแจ้งเหตุมีคนกินยาฆ่่าตัวตายภายในบ้านเลขที่ 20 ถ.โพธิ์พัฒนา ต.ในเมือง อ.เมือง จึงไปตรวจสอบยังสถานที่เกิดเหตุพบศพสองพ่อลูกนอนกอดกัน สภาพน้ำลายฟูมปาก ทราบต่อมาคือ  นายกุศล รอดเมือง อายุ 40 ปี  และ  ด.ญ.กนกพิชญ์ นาคเมือง อายุ 7 ปี

จากการตรวจสอบไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด มีน้ำลายฟูมปากซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายทั้งสองดื่มสาร มีพิษชนิดใดคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง บริเวณห้องพบจดหมาย 2 ส่วน ผู้ตายเขียนถึงส่วนแรกถึงระบุถึงคนชื่อ "หวาน" ซึ่งเป็นภรรยา โดยมีใจความว่าสา้เหตุที่ต้องทำเช่นนี้เป็นเพราะรักและหวงมากเกินไป ส่วนสาเหตุที่ต้องให้ลูกกินยาตายด้วยเพราะเป็นห่วงลูก อีกส่วนอีกเขียนถึง พ่อ แม่ โดยระบุว่าขอโทษทุก ๆ อย่างที่เกิดขึ้น

ด้าน  นายคูณ นาคเมือง อายุ 67 ปี  พ่อของผู้ตายเล่าให้ฟังว่า นายกุศล มีอาชีพเป็นลูกจ้างของบริษัทไฟแนนท์แห่งหนึ่ง แต่งงานอยู่กินกับนางพรสวรรค์ หรือหวาน นาคเมือง ซึ่งมีอาชีพเป็นลูกจ้างของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบูรณ์ ตำแหน่งผู้ช่วยเหลือคนไข้ มีลูกด้วยกัน 1 คน ระยะหลังทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยครั้งซึ่งเกิดจากการหึงหวงของฝ่ายชาย เนื่องจากภรรยากลับบ้านไม่ตรงเวลา

ก่อนเกิดทั้งสองทะเลาะกันรุนแรงจนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ฝ่ายหญิงได้หนีไปอยู่กับญาติที่ต่างอำเภอ กระทั่งวันเกิดเหตุประมาณ 7 โมงเช้า ตนนอนอยู่ชั้นบนกำลังจะไปปลุกหลานสาวให้เตรียมตัวไปโรงเรียนแต่พบว่าประตู ห้องล็อคร้องเรียกเท่าไหร่ไม่มีใครมาเปิด ตนจึงงัดหน้าต่างเป็นต้องตกใจพบว่านายกุศลนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนที่นอนโดยมี ด.ญ.กนกพิชญ์นอนคว่ำหน้าอยู่ข้างลำตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจน้อยใจภรรยาจึงก่อเหตุสลดใจขึ้น
44  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อ่าว"ทะลุน้อย" เมื่อ: พฤศจิกายน 26, 2010, 03:03:03 pm


...@..ที่เราไปเขาเรียกไว้ อ่าว"ทะลุน้อย" ...ยังมีรอยทะลุให้ดูผิวเผิน
มิได้ตามไปสัมผัสรอยทะลุเยิน .....กลัวดูเพลินเกินเรือล่มจมทะเลตาย

... @..กดชัตเตอร์ ที่มีเธอกลัวเผลอผิด ... เพราะมัวคิดนู่นนี่เดี๋ยวเธอหาย
ด้วยซูมไว้นะไกลมากใช่เรือพาย ...เห็นไหวไหวไต่เหมือนมดจดจ้องดู


   
ตอบตอบ: พฤ. 16 สิงหาคม 2007 7:54 pm    ชื่อกระทู้:    ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)






..บันทึกหน้าที่ หก..

...@..พอรุ่งเช้าเหล่าลูกทัวส์เตรียมตัวลุก...เพื่อไปบุกปะการังหลากสรรค์สี
เพราะจุดหมายปลายมั่นมาขันธ์คีรี ....ด้วยเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวเหนี่ยวรั้งใจ

...@..ส่งงามงอนอ่อนช้อยลอยมะพร้าว ..เย้ย..!!..

..ส่งงามงอนละอ่อนน้อยไปร้อยเชือก ....ชูชีพเลือกอย่างดีสีสดใส
เสียดายที่มิได้มีทู-พีช ไป ...ไม่งั้นคงได้สวมใส่ให้ปลาเพลิน...(เอิ๊ก..)




...@..ที่เราไปเขาเรียกไว้ อ่าว"ทะลุน้อย" ...ยังมีรอยทะลุให้ดูผิวเผิน
มิได้ตามไปสัมผัสรอยทะลุเยิน .....กลัวดูเพลินเกินเรือล่มจมทะเลตาย

... @..กดชัตเตอร์ ที่มีเธอกลัวเผลอผิด ... เพราะมัวคิดนู่นนี่เดี๋ยวเธอหาย
ด้วยซูมไว้นะไกลมากใช่เรือพาย ...เห็นไหวไหวไต่เหมือนมดจดจ้องดู




...@..พอซักสี่สิบนาทีก็รีบรี่ .....จากที่นี้ไป " ทะลุใหญ่ " ดีไซด์หรู
รูทะลุดูกว้างขึ้นอีกหนึ่งรู ....ร้องอู้ฮู้ดูเพลินเพลินจำเริญลูกตา

...@..ป้าของเราบอกไม่ไหวใต้น้ำลึก ....ลงไปตรึกตรองดูชูแข้งขา
พอไม่ถึงก็โวยวายไต่เชือกมา ....ร้องบอกว่าไม่ไหวแล้วแม่แก้วเอย..
45  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทะเลาะอย่างไร ให้มันลงตัวได้ เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2010, 11:51:58 am
หากเกิดปัญหาขึ้น เราจะประนีประนอมถนอมความรู้สึกคน รักได้อย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหยุมหยิมไปจนถึงเรื่องการให้เกียรติกัน และความเสมอภาคเท่าเทียม เราจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีที่จะจัดการ กับความขัดแย้งเหล่านี้ คุณจะตำหนิเขาอย่างไร โดยที่ไม่ใช้คำพูด ถากถางเขา คุณจะขอร้องเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการอย่างไรโดยไม่มีการ ข่มขู่ หรือทะเลาะกันด้วยวิธีไหนด้วยคำพูดและการกระทำแบบใดที่ จะไม่ทำให้คุณเสียใจภายหลัง

ติเตียนโดย ไม่ใช้คำพูดที่รุนแรง วิธีนี้เราควรฝึกฝนไว้ใช้กับทุกๆเรื่องใน ชีวิตประจำวัน ลองนึกดูสิว่าถ้าเจ้านายของคุณ ตำหนิคุณเรื่อง งานโดยใช้คำพูดที่คุณฟังแล้วไม่รู้สึกว่าตัวเองงี่เง่า ถ้าเป็นแบบนั้นคุณก็จะไม่รู้สึกเครียดเลย หรือการที่คุณ สามารถบอกคนรักได้ว่าคุณไม่พอใจที่เขาทิ้งกางเกงในเกะกะบนพื้น โดยไม่ใช้คำพูดถากถางเขา สิ่งที่ควร ทำคือคุณควรรู้จักยั้งคำพูดเอาไว้บ้าง ไม่ใช่ว่าระเบิดออกไปอย่างกราดเกรี้ยว แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเรา แนะให้คุณเก็บกดความโกรธเอาไว้นะ คุณสามารถบอกคนรักเข้าใจความรู้สึกของคุณโดยนำการกระทำ และความรู้สึกมาผูกไว้ในประโยคคำพูด เช่น "เวลาคุณ(การกระทำของเขา) ฉันรู้สึก(ความรู้สึกของคุณ)" โดยคุณเพียงแต่เติมคำลงในวงเล็บ ซึ่งควรเป็นคำพูดที่ตรงและเห็นภาพได้ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกางเกงในเกะ กะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิด" พยายามหลีกเลี่ยงคำพูดใดๆ ที่จะไปพาดพิงถึงแรงจูงใจใดๆ ของ ผู้กระทำ เช่น "เมื่อคุณทิ้งกาเกางชั้นในเกะกะบนพื้น มันทำให้ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นทาสของคุณที่ต้องคอย ตามเก็บ" พูดอะไรให้มันตรงประเด็นและเข้าใจได้ง่าย

หลีก เลี่ยงการพูดจาดูแคลน การพูดจาดูถูกกันไม่ได้เป็นผลดีอะไรขึ้น เลย รวมถึงแววตาที่แสดงความรังเกียจสะอิดสะเอียน หรือ คำพูดที่ออกแนวเยาะเย้ย สิ่งเหล่านี้เป็นสัญญาณร้ายส่อว่าชีวิตคู่มีปัญหาขนาดหนักที่คุณจำเป็นต้อง เปิดอก คุยกันแล้ว อย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณเหล่านี้ หากคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองพูดจาเชิงเยาะเย้ยคนรักเมื่อใด เมื่อนั้น คุณควรสำรวจทบทวนความรู้สึกของตนเองได้แล้ว คุณกำลังคิดว่าไม่ว่าเขาทำอะไรมันก็ผิดไปหมด แล้ว สิ่งที่คุณทำนั้น มันถูกทุกอย่างแล้วเหรอ คุณควรมองพฤติกรรมของคนรักในแง่มุมอื่นๆดูบ้าง

โทษที่การกระทำ ไม่ใช่ที่ตัวผู้กระทำ การกล่าวโทษว่าตัวเขาน่ะผิด ไม่ใช่การกระทำของเขาที่ผิด จะนำไปสู่ปัญหาได้ ซึ่งเราก็โทษกันแบบ นี้อยู่บ่อยๆ "คุณไม่เคยเห็นคุณค่าของฉันเลย" ไม่มีใครพอใจที่ถูกกล่าวหาอย่างนั้นหรอก และคนเราเมื่อ ถูกกล่าวหาก็จะต้องพูดจาปกป้องตัวเอง ดังนั้นเมื่อคุณรู้สึกโกรธและอยากจะระบายออกมา คุณควรจะสงบ สติอารมณ์และคิดมุ่งไปที่ตัวปัญหา ถ้าคุณอยากให้เขารู้ถึงความรู้สึกของคุณ ก็ควรใช้คำพูดที่บ่งถึงการ กระทำของเขาที่กระทบความรู้สึกของคุณ พูดเฉพาะการกระทำที่ทำให้คุณโกรธแทนที่จะพูดว่า "เวลา คุณโมโหนี่เหมือนวัวบ้าเลยนะ" ควรพูดว่า "เวลาคุณโมโหขึ้นมาฉันรู้สึกกลัวค่ะ"

พูด กันให้เข้าใจ ความมั่นคงทางอารมณ์นั้น เกี่ยวข้องกับการเข้าใจในความรู้สึกของตัวคุณเอง และสามารถแสดงมัน ออกมาได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่ไปพาลโทษสิ่งอื่นใด และมีความสามารถที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหานั้นๆได้ คู่รักที่รู้จักสงบสติอารมณ์และหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง โดยรู้จักการประนีประนอมก็จะอยู่กันได้อย่างมีความสุข แต่การประนีประนอมอาจเป็นไปได้โดยไม่ราบรื่น หากอีกฝ่ายหนึ่งนิ่งเฉย ไม่ยอมให้ความร่วมมือด้วย โดยการไม่พูดการที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเงียบเฉยไม่ยอมพูดจาปรับความเข้าใจกัน ก็จะทำให้ความสัมพันธ์จบ ลงได้

ขจัดความ คิดทางลบ ความคิดในเชิงลบอาจทำให้ชีวิตรักพังพินาศได้ หากแฟนของคุณเต้นรำใกล้ชิดติดร่างเพื่อนสนิท ของคุณเกินไปสักหน่อย มันไม่ได้หมายความว่าเขากำลังพยายามลวนลามเธอ และหมดรักคุณแล้ว พึงจำไว้ว่าการกระทำที่ไม่ดีเพียงครั้งเดียยว ไม่ได้ทำให้คนคนนั้นกลายเป็นคนเลวไปเลย ขจัดความคิดในนเชิง ลบออกไปจากหัวสมองของคุณเสียก่อนที่มันจะสายเกินไป

ไว้ใจในญาณสังหรณ์ ญาณสังหรณ์เกี่ยวกับการ เคลื่อนไหวในทางอารมณ์แห่งความสัมพันธ์นั้นอาจเกิดขึ้นได้ แต่ก็อาจจะ แปรปรวนกลายเป็นเรื่องประสาทๆ หวาดระแวงได้ง่ายเช่นกัน อย่างถ้าคุณกำลังถกเถียงกันอยู่ และคู่รัก ของคุณกล่าวหาว่าคุณเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ ก็จงหาแก่นของความจริงในสิ่งที่อาจดูเหมือนว่าเป็นความ หวาดระแวงจนเกินเหตุนั้น บางทีคุณอาจจะเพิ่งโมโหโกรธาในเรื่องขี้ประติ๋ว (ที่อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อที่ถกเถียงอยู่เลย) จนทำให้อารมณ์ของคุณมีความเคลื่อนไหวไปในทางลย คู่ของคุณเขาก็จะรู้สึกได้ถึงความ เฉยเมยในอารมณ์นั้นของคุณ ก็เลยทำให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่

ควบ คุมความโกรธ ความโกรธเป็นสิ่งที่เราต้องระบายมันออกมา แต่การระเบิดความโกรธอย่างเดือดดาลนั้นไม่เป็นผลดี แต่อย่างใด ในทางตรงกันข้าม การสะกดกลั้นมันเอาไว้ก็เป็นโทษได้เช่นกัน จากการวิจัยพบว่ายิ่งเก็บความโกรธไว้มากเท่าไหร่ ก็จะนำไปสู่การระเบิดทางอารมณ์ที่รุนแรงมากเท่านั้น วิธีการจัดการกับความโกรธก็คือการสงบสติอารมณ์โดยเบนความสนใจไปที่สิ่งอื่น เช่น เลี่ยงออกไป เดินข้างนอกเสียและคิดถึงเรื่องอื่นๆแทน พอคุณเริ่มสงบลงก็กลับมาพูดกันใหม่ โดยใช้เหตุผล อย่าให้อารมณ์รุนแรงมาแทรก

ถ้าปรับความเข้าใจกันได้ก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้น ถ้าคุณฝึกทักษะเหล่านี้ได้สำเร็จ บทเรียนที่คุณจะได้รับนอกจากคุณสามารถสร้างการสื่อสารที่เยี่ยม ยอดแล้ว คุณยังได้รับความใกล้ชิดสนิทสนมเป็นรางวัล เพราะเมื่อคุณสามารถบอกคนรักได้ถึงความรู้สึกของคุณ และรับฟังความรู้สึกของเขาได้เช่นกัน ความใกล้ชิดก็จะบังเกิดขึ้น และเมื่อนั้นคุณและคนรักก็จะรู้สึกถึงความมั่นคง ซึ่งทั้งหมดนี้แหละที่เรียกว่า รักแท้

จะต้องถอนใจ อีกสักเท่าไร
โลกแห่งความเป็นจริง ไม่เคยเป็นอย่างใจ
วันและคืนเปลี่ยนหมุน ให้เราวิ่งตามเรื่อยไป
โตแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไป

การเป็นผู้ใหญ่ มันไม่ง่ายเลย
มันไม่คุ้นไม่เคย ยิ่งคิดยิ่งเหนื่อยใจ
ไม่มีเวลาเหลือ ไว้ฟังไว้คิดถึงใคร
โตแล้ว ต้องทำอย่างไร

เมื่อนาฬิกาในชีวิตหมุนเร็วกว่าใจ
จนตัวเราเองอาจหล่นหาย
เมื่อเด็กคนหนึ่งที่อยู่ในใจ เขาไปไหน
ทำไมวันนี้เขาหายไปจากเรา

--
**** รู้จักขอบคุณเมื่อได้รับ ขออภัยเมื่อผิดพลาด คือสิ่งที่สมาชิกกลุ่มพึงกระทำ ****
46  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ข้ออ้างยอดนิยม เมื่อ: พฤศจิกายน 19, 2010, 11:47:46 am

ข้ออ้างยอดนิยม
คนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆนั้น
มักจะมีข้ออ้างเกิดขึ้นในจิตใจอยู่เสมอ
ข้ออ้างยอดนิยมที่หลายๆคนใช้กันมีดังนี้

1.ข้ออ้างเรื่องสุขภาพ เช่น คิดว่าสุขภาพของตนไม่ดีเท่ากับคนอื่นๆ
จึงไม่กล้าลงมือทำอะไรแข่งกับคนอื่น
และปล่อยชีวิตให้ผ่านไปวันๆอย่างไร้ประโยชน์

ทั้งๆที่ความเจ็บป่วยของร่างกายสามารถบรรเทาเบาบางได้ด้วยกำลังใจที่เข้มแข็งของ
เราเอง

2.ข้ออ้างเรื่องความฉลาด เช่น คิดว่าตนเองสมองตื้อ จำอะไรไม่ค่อยได้
หรือประเมินความสามารถของตนเองต่ำเกินไป
จึงไม่กล้าที่จะลงมือทำอะไรที่สลับซับซ้อน
ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนสามารถฝึกฝนสมองและความฉลาดปราดเปรื่องให้กับตนเองได้
ด้วยการศึกษาหาความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆเพิ่มเติมอยู่เสมอ
และจำให้ขึ้นใจว่าความสามารถในการคิดมีค่ามากกว่าการท่องจำ
เหมือนที่ครั้งหนึ่ง ไอน์สไตน์ นักวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งให-่ของโลก
เคยถูกคนลองภูมิด้วยคำถามว่า 1 ไมล์ มีกี่ฟุต ? เขาตอบว่า ผมไม่ทราบ
ทำไม่ต้องมานั่งจดจำข้อมูลเหล่านี้ให้รกสมอง ในเมื่อผมสามารถค้นหาคำตอบได้

ภายใน 2 นาทีจากหนังสืออ้างอิง"

3.ข้ออ้างเรื่องอายุ เช่น คนที่ชอบคิดว่าคงทำได้ไม่ดีเพราะแก่เกินไป หรือเด็กเกินไป

ซึ่งจริงๆแล้วทุกคนสามารถทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้ไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด

4. เรื่องของโชค วาสนา คนส่วนให-่มักโทษว่าตนไม่มีโชค เลยทำอะไรไม่สำเร็จ

ทั้งๆที่ทุกคนสามารถเอาชนะสิ่งต่างๆได้ด้วยสมองและความขยันหมั่นเพียรของตนเอง

ขอให้ทุกท่านโชคดี มีชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน
47  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / สาเหตุของการไม่มีสมาธิ เมื่อ: พฤศจิกายน 17, 2010, 01:26:38 pm
สาเหตุของการไม่มีสมาธิ
๑. ขาดความสนใจในสิ่งที่ทำ
๒. สนใจในสิ่งที่ทำมากจนเกินไป
๓. สนใจหลายเรื่องในเวลาเดียวกัน
๔. ความเป็นคนหัวดี ปัญญาดี ทำให้คิดไปที่อื่นเร็ว
๕. จิตครอบงำด้วยนิวรณ์

การสร้างนิสัยให้มีสมาธิในชีวิตประจำวัน
๑. สร้างนิสัย “ลงมือทำทันที”
๒. สร้างนิสัย “เรียนล่วงหน้า” มิใช่แค่ “เรียนตาม”
๓. สร้างนิสัยมุ่งมั่นว่า “ถ้าทำไม่เสร็จจะไม่ใส่ใจอะไรอื่น”
๔. จัดลำดับของเรื่องที่จะทำก่อนลงมือ
๕. หัดคิดทีละเรื่อง โดยให้เจาะลึกในเรื่องนั้นๆ อย่าผิวเผิน
๖. สร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะแก่การมีสมาธิ
๗. รู้จักพักเป็นช่วงๆ
๘. สร้างความเต็มใจและจริงใจที่จะทำสิ่งนั้นๆ
๙. พยายามหัดคิดในเรื่องสร้างสรรค์
๑๐. เลิกนิสัยมากเรื่องในการจะทำอะไรสักอย่าง

หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน ได้แนะนำวิธีการทำสมาธิในห้องเรียนว่า
๑. หาที่นั่งที่สามารถมองเห็นครูและกระดานได้ชัดเจน
๒. เมื่อครูเดินเข้ามา ส่งจิตไปรวมที่ครูผู้สอน
๓. จับใจความให้ได้ตามที่ครูต้องการ
๔. เวลาว่างแทนที่จะนั่งคิดสิ่งอื่น ก็นำบทเรียนมาคิด
๕. ให้สติรู้ตัวทุกอิริยาบถ ในการทำ พูด คิด


...............................................................
ขอบคุณบทความจากพลังจิตดอทคอม
48  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / น้ำองุ่นดำต้านปวดหลัง เมื่อ: พฤศจิกายน 15, 2010, 03:30:54 pm
น้ำองุ่นดำต้านปวดหลัง


    ทุกวันนี้อาการปวดหลังไม่เข้าใครออกใคร สำหรับคนยุคใหม่ สาเหตุหลัก ๆ คงหนีไม่พ้นการอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน ๆ และการยืน ๆเดิน นั่ง นอนที่ไม่ถูกท่าทาง
    นอกจากการพักและการปรับอิริยาบถที่ ถูกต้องซึ่งควรทำอย่างยิ่งในระหว่างวัน ล่าสุดพบว่า อาหารการกินอย่างน้ำองุ่นดำ สามารถช่วยป้องกันอาการปวดหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    นายแพทย์จอห์น ปีเตอร์สัน แพทย์ด้านอายุเวชจากโรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัยอินเดียนา สหรัฐอเมริกา แนะนำให้คั้นน้ำองุ่นดำดื่มสด ๆ ครั้งละครึ่งแก้ววันละ 1 ครั้ง ก่อนอาหาร โดยคั้นน้ำองุ่นที่ระดับอุณหภูมิปกติ และไม่ผสมอะไรลงไป
    การดื่มน้ำองุ่นคั้นสดนี้จะช่วยป้องกันอาการปวดหลังจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้
    แต่ถ้าจะบอกลาอาการปวดหลังเป็นการถาวร ก็ต้องหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกที่แข็งแรง
    ดูแลรอบด้าน อาการปวดหลังไม่ถามหาแน่นอนค่ะ


    ที่มา :   นิตยสารรายปักษ์ "ชีวจิต "
    ปีที่ 9
    ฉบับที่ 267
    ประจำวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552
    หน้าที่ 18
49  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ต้านนิ่วในถุงน้ำดีด้วยอาหารกากใย เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 10:16:04 am
ต้านนิ่วในถุงน้ำดีด้วยอาหารกากใย

 

นิ่วในถุงน้ำดีเกิดขึ้นได้อย่างไร

นิ่วในถุงน้ำดี (gallstones) เกิดจากการตกผลึกของหินปูน (แคลเซียม) หรือคอเลสเทอรอลที่มีอยู่ในน้ำดี ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดการตกผลึกของสารเหล่านี้ เชื่อว่าเกี่ยวกับการติดเชื้อของทางเดินน้ำดี และความไม่สมดุลของส่วนประกอบในน้ำดี การตกผลึกของสารเหล่านี้ อาจทำให้เกิดเป็นก้อนนิ่วเพียงก้อนเดียว หรือก้อนเล็ก ๆ หลายๆ ก้อนก็ได้ รวมทั้งคนที่มีระดับคอเลสเทอรอลในเลือดสูง หญิงที่มีบุตรแล้ว ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน ทาลัสซีเมีย โลหิตจางจากเม็ดเลือดแดงแตก จะมีโอกาสเป็นนิ่วในถุงน้ำดีมากกว่าคนทั่วไป

อาการ
เราอาจแบ่งอาการของโรคนิ่วในถุงน้ำดีออกได้เป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ไม่มีอาการกับประเภทที่มีอาการ

ประเภทที่ไม่มีอาการ - นิ่วในถุงน้ำดี ส่วนใหญ่ (มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์) ไม่มีอาการ และในกลุ่มนี้ จะมีโอกาสเกิดอาการขึ้นได้ ประมาณ 1-2 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อย จะไม่มีอาการผิดปกติแสดงให้เห็นแต่อย่างใด และมักจะตรวจพบโดยบังเอิญ จากการตรวจเช็คร่างกายด้วยโรคอื่น

ประเภทมีอาการ - สามารถลำดับอาการตั้งแต่น้อยไปหามาได้ดังนี้

1.ท้องอืด แน่นท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังรับประทานอาหารมัน ซึ่งอาการแบบนี้ อาจเกิดจากโรคระบบทางเดินอาหารอื่น เช่น โรคกระเพาะอาหารหรือโรคของลำไส้ใหญ่ ก็ได้

2.ปวดเสียดท้อง อาการปวดท้องบริเวณใต้ชายโครงขวา หรือลิ้นปี่ ซึ่งมักเป็นหลังรับประทานอาหารมัน แต่อาการอาจเป็นอยู่นานหลายชั่วโมง (แต่มักไม่เกิน 8 ชั่วโมง) แล้วค่อยกลับเป็นปกติ อาจร้าวไปสะบักขวา หรือที่หลัง

3.ถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน จะมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงขวามากขึ้น และมีการตรวจพบการกดเจ็บบริเวณนี้ ร่วมกับมีไข้ และอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียนด้วย

4.มีอาการดีซ่าน ตัวเหลือง ตาเหลือง


วิธีการรักษา
ในปัจจุบันไม่มียาที่รับประทานแล้วนิ่วหายไปได้ทันที คนที่รับประทานยารักษาโรคนิ่ว ต้องรับประทานยาไปตลอดชีวิต ที่สำคัญยาที่ใช้รักษามีราคาแพง วิธีนี้จึงไม่เป็นที่นิยมมากนัก นิ่วในถุงน้ำดีที่ไม่มีอาการ ส่วนใหญ่ไม่ต้องผ่าตัด เพราะอาจไม่มีอาการเลยตลอดชีวิต ยกเว้นในคนไข้บางกลุ่ม ที่แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัด เช่น อายุน้อย (เพราะมีโอกาสเกิดอาการขึ้นมาได้ในอนาคต) โรคโลหิตจางบางชนิด เป็นต้น

ส่วนนิ่วในถุงน้ำดีที่มีอาการ หรือมีภาวะแทรกซ้อนแล้วควรได้รับการผ่าตัด การรักษานิ่วในถุงน้ำดีในกลุ่มผู้ป่วยดังกล่าว คือการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก ซึ่งวิธีมาตรฐานดั้งเดิมใช้วิธีการ ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง บริเวณใต้ชายโครงขวา แต่ปัจจุบันมีการผ่าตัดอีกวิธีคือ การผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกโดยใช้กล้องส่องผ่านหน้าท้อง

การป้องกัน โรคนี้อาจป้องกันได้ ด้วยการควบคุมระดับคอเลสเทอรอลในเลือด และรักษาโรคเบาหวานให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ รวมทั้งดูแลในเรื่องอาหารการกิน

อาหาร ยาดีป้องกันโรค
ส่วนอาหารที่ช่วยป้องกันการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี ได้แก่ อาหารจำพวกแป้งที่ไม่ขัดสี , ผักและผลไม้สด , รำข้าวโอ๊ต และถั่ว
อาหารที่ควรงดเว้น ได้แก่ อาหารทอด และอาหารมันๆ
50  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ้เมตตา ธรรม ค้ำจุนโลกา เมื่อ: ตุลาคม 08, 2010, 03:28:18 pm
偉大的慈者

立愿做三曹的服務圓


ผู้เมตตาอันยิ่งใหญ่   ตั้งจิตปณิธาน  ขอเป็นผู้ให้บริการแห่ง 3 ภพ อย่างแท้จริง

ความหมายอันแท้จริงของความเมตตา

เมตตา      เป็นแกนกลางของจักวาล

เมตตา      เป็นแก่นเดิมของฟ้าดิน

เมตตา      เป็นรากเดิมของพุทธะ  อริยะ  โพธิสัตว์

เมตตา      เป็นต้นกำเนิดของคุณงานความดีทั้งปวง

เมตตา      เป็นโฉมหน้าเดิมแท้ก่อนฟ้ากำเนิด

เมตตา      ถึงจะสามารถเป็นตัวแทนพระอนุตตรธรรมเจ้า  เผยแพร่ในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่   เป็นตัวแทนพระศรีอริยเมตตรัย  เผยแผ่ในมหาเมตา

เป็นตัวแทนพระธรรมาจารย์พระธรรมาจาริณีทั้ง 2 พระองค์  เผยแผ่ในพระบารมี

thong_ju_tian_phan@hotmail.com 

http://tianphan.hi5.com


เข้่ากับบรรยากาศ กินเจหรือป่าวไม่ทราบคะ
51  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ลดบางอย่าง และ เพิ่มบางสิ่ง เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 08:12:55 pm
จาก fwd เพื่อนคะ

* หากลดบางอย่างให้น้อยลง คุณจะได้บางสิ่งมากขึ้น

* ลดความโกรธให้น้อยลง คุณจะได้สติกลับมามากขึ้น

* ลดค่าใช้จ่ายให้น้อยลง คุณจะได้เงินเก็บมากขึ้น

* ลดความคิดที่จะหาคนที่ถูกน้อยลง คุณจะได้คำตอบสำหรับทำเรื่องที่ถูกต้องมากขึ้น

* ลดการพูดให้น้อยลง คุณจะได้ทำหลายอย่างได้มากขึ้น

* คิดถึงคนที่คุณรักให้น้อยลง คุณเข้าใจคนที่คุณรักมากขึ้น

* รักตัวเองให้น้อยลง คนอื่นรักคุณมากขึ้น

* พูดให้ร้ายคนอื่นให้น้อยลง มีคนพูดถึงคุณในแง่ดีมากขึ้น

* แสดงความฉลาดให้น้อยลง คุณได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น

* ออกนอกบ้านให้น้อยลง คุณได้ความอบอุ่นในครอบครัวมากขึ้น

* นอนให้น้อยลง คุณทำหลายอย่างได้มากขึ้น

* คิดเรื่องเครียดให้น้อยลง คุณยิ้มได้มากขึ้น

* ลดความอายให้น้อยลง คุณได้ความกล้ามากขึ้น

* ดูละครให้น้อยลง คุณอ่านหนังสือได้มากขึ้น

* คุณวิ่งให้ช้าลง คุณมองเห็นคนข้างหลังมากขึ้น

* เชื่อให้น้อยลง คุณมองเห็นอะไรได้มากขึ้น

* ลดทิฐิให้น้อยลง คุณรู้จักอภัยมากขึ้น

* กระโดดให้น้อยลง คุณเดินได้มั่นคงมากขึ้น

* กินให้น้อยลง คุณอิ่มได้มากขึ้น

* ก้มหน้าให้น้อยลง คุณมองเห็นได้ไกลขึ้น

* พักเหนื่อยให้น้อยลง คุณรู้จักความสบายมากขึ้น

* เห็นแก่ตัวให้น้อยลง มีคนรอดชีวิตมากขึ้น

* แบกของหนักให้น้อยลง ชีวิตคุณเบามากขึ้น

* ทะเลาะกับเด็กให้น้อยลง คุณโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น

* ทะเลาะกับผู้ใหญ่ให้น้อยลง คุณได้รับการเอ็นดูมากขึ้น

* เป่าลมออกให้น้อยลง คุณสูดลมเข้าได้มากขึ้น


52  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ข้อความจากแม่ ใต้ทรากแผ่นดินไหว เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 08:06:53 pm



ข้อความสุดท้ายใต้ซากแผ่นดินไหว! (ถึงเก่าก้อซึ้งจัย) / ( ถึงจะนานมากก็ซึ้งใจ คะ )

"อันนี้เราเคยได้ยินมาแล้วตอนวันแม่ อ . เอามาอ่านให้ฟ้ง

บังเอิญเปิดไปเจอเลยเอามาให้เพื่อนๆอ่านก่อนจะเข้านอน"

 

 

หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
ที่คร่าชีวิตชาวจีนในจังหวังซื่อชวนไปกว่า 3 หมื่นชีวิต

ได้มีเรื่องราวน่าสลดเกิดขึ้นมากมาย แต่ระหว่างช่วงนาทีอันสุดระทมนั้น

ก็ยังมีเรื่องสุดประทับใจเกิดขึ้น

เมื่อทีมกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือผู้ที่คาดว่าจะรอดชีวิตใต้ซากตึกหักพัง

เขาได้เห็นแผ่นหลังของหญิงคนหนึ่ง

จากท่าทางกำลังคุกเข่าอยู่ แต่ก็เชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว

เมื่อเข้าไปดึงตัวเธอออกมา ก็พบสิ่งสะเทือนใจ

เพราะในอ้อมกอดของเธอมีเด็กชายที่กำลังดูดนมจากอกของเธออยู่

ที่สำคัญ เด็กน้อยคนนี้ยังมีลมหายใจอยู่

… ใช่! เขารอดชีวิต แต่แม่ของเขาได้เสียสละชีวิตเพื่อเขาแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ ทีมหน่วยกู้ภัยยังเหลือบ
เห็นมือของเธอ ที่กำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น

และเมื่อหยิบออกมาดู ก็พอข้อความที่เธอพิมพ์ผ่าน SMS เอาไว้

เพื่อบอกลาลูกน้อยสุดที่รัก

ข้อความนี้ เป็นข้อความสั้น ๆ ที่กลั่นออกมาจากหัวใจของแม่ที่ใกล้สิ้นลม

เพื่อส่งผ่านความรักแบบไร้เงื่อนไข แม้แต่ชีวิตก็ยอมให้กับลูกของเธอได้

หน้าจอมือถือ มีข้อความว่า
" ลูกรักของแม่ … ถ้าลูกมีชีวิตรอด แม่อยากบอกให้ลูกรู้ว่า แม่รักลูกมาก "

 

 

                                          ป . ล  อย่าคิดว่าคุณไม่เหลือใคร เพียงแค่คุณหันกลับ

 

ไปมองข้างหลังสักนิดคุณจะเห็นว่ายังมี ผู้หญิงและผู้ชายอีกคน ที่พร้อมจะรักคุณเสมอ"
53  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / ทิฏฐิ 2 ที่จัดเป็น มิจฉาทิฏฐิ เมื่อ: ตุลาคม 02, 2010, 07:50:32 pm
เป็นข้อความปรากฏในหนังสือ ธรรมศึกษาชั้นโท หมวด 2

 พึ่งเรียนวันนี้  แต่ยังไม่เข้าใจ จึงขอมาหาข้อมูลเพิ่มคะ

     ทิฏฐิ  2 เป็นมิจฉาทิฏฐิ

    1.สัสสตทิฏฐิ  มีความเห็นว่าเที่ยง

    2.อุจเฉททิฏฐิ มีความเห็นว่าขาดสูญ

  ความหมายมีเพียงหัวข้อ ไม่มีการยกคำอธิบาย ไว้จึงขอวานผู้รู้ช่วยยกคำอธิบายให้ด้วยคะ
 :c017: :25:
54  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / นกยูงบินได้หรือป่าว เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 11:24:45 am


นกยูงบินได้แน่นอนเพียงแต่มันไม่ชอบบินไกลๆ

เด็กไทยถูกสอนให้เข้าใจว่า คำว่านกยูงในภาษาอังกฤษ คือ "peacock" ซึ่งไม่ถูกต้องนัก คำที่ถูกต้อง คือ "peafowl" อันที่จริง "peacock" ใช้เรียกเฉพาะนกยูงตัวผู้ ส่วนนกยูงตัวเมียก็เรียกว่า "peahen"
นกยูงมี ๓ สายพันธุ์ ได้แก่ นกยูงอินเดียกับนกยูงเขียว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนนกยูงคองโกมีถิ่นกำเนิดในแอฟริกา นกยูงเป็นนกขนาดใหญ่แข็งแรง มีความยาวลำตัว ๒.๕-๔ ฟุต และบวกเพิ่มไปอีก ๔-๕ ฟุตสำหรับหางอันสง่างามของนกยูงตัวผู้ แต่นกยูงมีปีกที่ไม่แข็งแรง ดังนั้นมันจึงชอบอยู่บนพื้นดินเป็นส่วนใหญ่ ในเวลากลางคืนนกยูงจะบินขึ้นไปเกาะอยู่บนต้นไม้เพื่อนอนหลับพักผ่อน และมันบินเมื่อต้องหลีกหนีสัตว์ผู้ล่าด้วย


อยากอ่านเรื่อง นกยูงทอง
55  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / เชื่อโบราณไว้บ้าง ก็ดี คะ เมื่อ: กันยายน 29, 2010, 11:21:56 am
From:  Pimpida Pattanarungsrilerd
Sent: Wednesday, September 15, 2010 1:53 PM

Subject: FW: เชื่อโบราณไว้ดี...ไม่เสียหาย
 
 
 

     

                                " ความเชื่อ" มีอยู่ในตัวคนเราทุกคน บ้างก็เชื่อว่าผีมีจริง วิญญาณมีจริง เชื่อเรื่องดวง เรื่องเคล็ด และก็เชื่อเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
                                แล้วแต่ตัวบุคคลว่าผูกพันหรือคุ้นเคยกับสิ่งไหนมามากกว่า เอาล่ะ เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนี้เรามีเรื่องดีๆ มาฝาก
                                คนที่เชื่อเรื่อง "เคล็ดเสริมดวง" ใครอยากโชคดีพลาดไม่ได้เด็ดขาด...
                                ( เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ)
                                 
                                 

                                 

                                                                วันบริสุทธิ์
                                         วันที่ควรงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์กับคู่รัก คือวันโกน วันพระ วันเกิด และวันเข้าพรรษา ตามธรรมเนียมโบราณนิยมปฏิบัติกันเช่นนี้ เพื่อให้เทวดาคุ้มครองรักษาตลอดไป

                                 

                                                           กระเป๋าสตางค์
                                    เปลี่ยนกระเป๋าสตางค์ใบใหม่เสมอในวันขึ้นปีใหม่ ใส่เงินจำนวน 900 หรือ 9,000 ในกระเป๋าไว้สักวัน หนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เพื่อเอาเคล็ดเอาฤกษ์เพื่อให้กระเป๋าใบนั้นเป็นกระเป๋าที่ดีเรียกเงินเรียก ทอง เข้ากระเป๋าได้มาก มีเก็บมากกว่าจะต้องควักออกไป และทุกครั้งที่รับเงินสดเข้ามา ควรนำเงินมาใส่กระเป๋าเอาไว้ก่อน บางคนอาจจะยังคงปล่อยเงินไว้ในซองแล้วก็นำไปฝากธนาคาร ซึ่งถ้าจะเอาเคล็ดเรียกโชคกันจริงๆ ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่ ก็ควรเอาเงินเก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ก่อน

                             

                                                         พระสิวลี
                                หาโอกาสไปกราบไหว้พระสีวลีที่วัดใดก็ได้ในท้องที่ที่อาศัย พระสีวลีเป็นเอตทัคคาโชคลาภ ท่านเป็น 1 ใน 80 ศิษย์เอกของพระพุทธเจ้า เมื่อไปกราบไหว้ขอพรจากพระสีวลี ชีวิตจะมีโชคดีขึ้นและมีความราบรื่นก้าวหน้า มีเงินมีทองเพิ่มพูนมากขึ้น

 
 

                                ยักษ์และราหู
         ไม่ควรมีรูปภาพ หรือรูปปั้นยักษ์และราหูประดับตกแต่งในบ้าน เพราะจะทำให้คนในบ้าน ทะเลาะเบาะแว้งกัน มีแต่เรื่องร้อนๆ ขาดโชคขาดลาภ พลังของวิญญาณ อย่านำโปสเตอร์ , รูปภาพ หนังผี , คนบาดเจ็บจากนิตยสารที่มีแต่ความน่ากลัวมาติดผนังบ้าน หรือรูปคนตายมาติดประดับไว้ที่ห้อง ยกเว้นภาพถ่ายบุคคลในครอบครัวที่เสียชีวิตไปแล้ว) หลีกเ ลี่ ยงภาพน่ากลัว หรือดูดุร้าย เพราะล้วน เป็นแหล่งเรียกคลื่นพลังงานที่ไม่เป็นมงคล จะทำให้โชคลาภหดหาย คนในบ้านจะมีแต่เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้น เกิดอุบัติเหตุ การนำภาพมาติดผนังประดับบ้านควรเลือกภาพที่ดูสวยงาม

       

                               เตียงนอน
        อย่าตั้งเตียงนอนโดยเอาหัวเตียงหันไปชนกับผนังห้องน้ำ เพราะจะทำให้เสื่อมโชคอับโชค อย่าตั้งเตียงนอนโดยหันปลายเตียงเล็งตรงกับประตูทางเข้าพอดี เพราะจะทำให้ฝันร้ายและอับโชค

 
                               

                        สุนัข แมวจรจัด
        แบ่งอาหารและน้ำให้แก่สุนัข หรือแมวจรจัดที่หิวโหยบ้าง ในวันฝนตกก็อนุญาตให้สัตว์จรจัด เข้ามาหลบฝนในชายคาบ้าน การทำบุญทำทานกับสัตว์นั้นให้อานิสงส์ผลบุญแก่ตัวเราได้อย่างมหาศาล
                               

 

                                ห้องครัว
         ดูแลปัดกวาดเช็ดถูและจัดข้าวของเครื่องใช้ในครัวให้สะอาดอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้ครัวสกปรก เพราะครัวเป็นขุมพลังของบ้าน บ้านที่ปล่อยให้ครัวสกปรกจะอับโชค เงินทองหามาได้ก็ต้องจ่ายออกไป เจริญรุ่งเรืองช้านัก

 
                                ผ้าเช็ดหน้า
        อย่าให้ของขวัญคนรัก หรือเพื่อนสนิทเป็นผ้าเช็ดหน้า เพราะถือว่าเป็นลางไม่ดี ถือเป็นของขวัญอับโชค มอบให้กันแล้วจะมีเรื่องต้องพลัดพรากจากกัน หรือมีเรื่องต้องเมินหมางห่างเหินกันไป

 
                                  กระจก
        ขัดถูกระจกในบ้านให้สะอาดใสอยู่เสมอ ถ้าปล่อยให้กระจกขุ่นมัวเป็นประจำ ดวงชะตาของคนในบ้านจะหม่นหมองทำอะไรไม่ขึ้น

 
                                  เหรียญนำโชค
         เมื่อเจอเงินตกอยู่ตามทางเดิน แม้จะเป็นเพียงเหรียญบาทก็ให้เก็บเอาไว้ ให้ถือเสมือน เป็นเหรียญนำโชค การเดินผ่านเลยไป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเหรียญบาท เหรียญสลึงนั้น ถือเป็นการ ดูถูกเงินทอง ไม่เห็นคุณค่าของเงิน คนเฒ่าคนแก่เชื่อกันว่ามันจะทำให้คุณอับโชคทั้งวัน หรือในช่วง 3 -7 วันนั้น

                               

                                 แหวนเสริมดวง
       เลือกสวมแหวนที่ถูกโฉลกกับเดือนเกิด หรือวันเกิดเพื่อเสริมโชคดีให้ชีวิตถ้าอยากเสริมดวงการเงิน  - ควรสวมแหวนทอง แหวนเงิน แหวนหยกและแหวนหัวพลอยสีที่ถูโฉลก ถ้าอยากเสริมดวงความรัก - ให้สวมแหวนรูปหัวใจ รูปดาว เลือกแหวนเพชรหรือทอร์ควอยส์ก็ได้ ส่วนแหวนลูกปัดและหินสีต่างๆ - จะช่วยเสริมดวงเสน่ห์

                             

                                การสวมแหวน
สวมแหวนนิ้วกลางขวา - เสริมดวงการเงินและบารมี     สวมแหวนนิ้วนาง นิ้วก้อย - เสริมเสน่ห์ และเสริมดวงความรัก
                               

                               

                               ทำบุญโลงศพ
        ไปที่มูลนิธิใกล้บ้าน ทำบุญบริจาคเงิน ร่วมกันซื้อโลงศพให้ศพอนาถาที่ไร้ญาติ การทำบุญโลงศพจะช่วยเสริมดวงชะตาให้กล้าแข็ง เหมาะสำหรับช่วงดวงอ่อน และมีทุกข์มีเคราะห์
                             

                               พระพรหมศักดิ์สิทธิ์
        หาโอกาสไปกราบไหว้พระพรหมสักครั้ง ถ้าอยู่ที่กรุงเทพ ก็ไปไหว้ที่หัวมุมสี่แยกราชประสงค์โรงแรมเอราวัณก็ได้ หรือที่ศาลพระพรหมแห่งใดก็ได้ทั้งน?้น พระพรหมเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวขวัญกันมากว่า บนบานอธิษฐานขออะไรมักได้ดังปรารถนา ด้วยว่าท่านเป็นเทพแห่งความสำเร็จนั่นเอง
                                 

                              หิ้งพระ
        หิ้งพระ หรือหิ้งบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเทพต่างๆ หรือ ร. 5, ในหลวงของเรา เมื่อตั้งหิ้งบูชาแล้วจะต้องหมั่นดูแลรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หมั่นเป ลี่ ยนดอกไม้ พวงมาลัย ถวายน้ำสะอาด ถ้าปล่อยให้หิ้งสกปรก มีแต่ฝุ่นจับเต็มไปหมด บ้านนั้นจะมีแต่ความเสื่อมถอย โชคลาภหดหาย ยากที่จะเจริญรุ่งเรือง

                               

                              ไข่ และ ส้ม
        ในบ้านเรือนควรมีไข่ และมีส้มไว้ในตะกร้าเสมออย่าให้ขาด เพื่อเรียกความสมบูรณ์พูนสุขเข้าบ้าน ทำให้ชีวิตอยู่ดีมีสุขตลอดไป ไข่และส้มเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความโชคดี
56  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / แบบมหายาน เป็นอย่างนี้ คะ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 08:01:18 am











ที่มา
http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%81-%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B8%99---8028
57  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ถ้าเราแคร์คำพูดแย่ๆ...ก็เท่ากับแพ้ใจตัวเอง เมื่อ: กันยายน 11, 2010, 10:54:17 am
“ถ้าคนหนึ่งตีกลอง แล้วอีกคนยิ่งเต้น คนตีเขาก็ยิ่งตี
แต่ถ้าตีแล้วไม่เกิดอะไรขึ้น เขาก็จะหยุดไปเอง เพราะตีไปก็เหนื่อยเปล่า”

 

คำพูดบางคำทำร้ายคนฟังได้น่าดู
ถ้าจะให้ไม่แคร์เนี่ย ทำได้ยากแน่นอน
ถ้าเคยรู้สึกแย่ กับคำพูดแย่ ๆ ของคนหลายคน
คำพูดของเขาทำให้เราหมดความนับถือตัวเอง
บางครั้งมันอาจจะถึงขนาดทำให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป
บั่นทอนสุขภาพกายและใจ
คนพูดทิ้งยาพิษไว้ในใจเรา แล้วก็หนีลอยนวล

คนที่แย่คือคนฟังสิ...
ฉันเลยเปลี่ยนความคิดใหม่
พยายามหาเหตุผลเพื่อเข้าใจพวกเขา
คนที่ชอบติข้อบกพร่อง
ตอกย้ำปมด้อยของคนอื่น เพราะต้องการให้ตัวเองดูดี
คนพวกนี้มีปมด้อยในใจ ชอบสร้างคุณค่าให้ตัวเอง
โดยการติคนอื่น เพื่อลดคุณค่าของคนอื่น
จิตใจเขาขุ่นมัว มองไม่เห็นความดี ความสวยงาม
และสิ่งดี ๆ ในตัวคนอื่น เพื่อนำมาพูดถึง

บ่อยครั้งที่เรามักเจอคำพูดแย่ ๆ จากคนรอบข้าง
ถ้าไม่รู้จักดูแลจิตใจ ความรู้สึกของตัวเอง
เราจะถูกบั่นทอนลงทีละนิด....

ที่สำคัญเราจะต้องหนักแน่น อย่าหวั่นไหว
ที่เขาว่ามา เป็นปมด้อยของเราก็จริง
แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้
ที่เขาติมาเพราะเขามองหาส่วนแย่ ๆ ของเราต่างหาก
ที่ดี ๆ ก็มี แต่เขาไม่พูด
ตัวเราย่อมรู้ตัวเองดีที่สุด
เชื่อในคุณค่าของตัวเอง ไว้ใจตัวเอง

 


"ดูแลหัวใจของเราให้ดี
เรียนรู้ที่จะคิดปฏิเสธคำพูดแย่ ๆ จากคนอื่น
รู้แหล่งที่มาอย่างมีเหตุผล
แล้วจะไม่มีอะไรมาบั่นทอนหัวใจเราได้เลย..."
หน้า: 1 [2]