ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - lastman
หน้า: 1 [2] 3 4
41  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ตะลึง ถึงจะขาขาดเหนือเข่าต้องใส่ขาเทียม ก็ยังอาละวาดก่อเหตุวิ่งราวกระเป๋า เมื่อ: มกราคม 06, 2011, 08:14:55 pm
กรรมหนอกรรม ทำไปได้ นะนี่ เสียคนพิการดี ๆ หมด
 :smiley_confused1:
42  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / มนุษย์ 5 จำพวก เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 11:39:15 pm
มนุษย์ 5 จำพวก

1. มนุสสเนรยิโก มนุษย์สัตว์นรก ได้แก่ มนุษย์ผู้ดุร้าย หยาบคาย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจี้ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยฆ่าเจ้า ทรัพย์ตายบ้าง ทุบตีจนบาดเจ็บสาหัสบ้าง ข่มขืนแล้วฆ่าบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นสัตว์อื่นทรมานผู้อื่นสัตว์อื่น เป็นคนไร้ศีลธรรม ไม่มีมนุษยธรรมคือศีล 5 ประจำตัวเลย นามว่า มนุสสเนรยิโก แปลว่า มนุษย์สตว์นรกคือเป็นมนุษย์แต่ชื่อ ส่วนความประพฤติทางกาย วาจา ใจนั้นเลวทราม ดุร้ายหยาบคายเหมือนสัตว์นรกฉะนั้น

2. มนุสสเปโต มนุษย์เปรต ได้แก่ มนุษย์ผู้มากไปด้วยความโลภ มากไปด้วยตัณหา ชอบลักเล็กขโมยน้อยโลภเอาของผู้อื่นมาเป็นของตน แย่งชิงวิ่งราวเป็นต้น แม้พวกที่เที่ยวขอทาน ก็สงเคราะห์เข้าในประเภทนี้ด้วย

3. มนุสสติรัจฉาโน มนุษย์สัตว์เดรัจฉาน ได้แก่มนุษย์ทีขวางศีลขวางธรรม มีโมหะคือความหลงมาก ไม่รู้จักบาป ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักคุณ ไม่รู้จักโทษ ไม่รู้จักประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณ เช่น บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เป็นต้น เป็นมนุษย์ผู้ไรศีลธรรม ดืมสุรา เสพยาบ้า กินกัญชา ทำอะไรทางกาย วาจา ใจ ก็ขวางๆผิดทำนองคลองธรรม นามว่า มนุสสติรัจฉาโน แปลว่ามนุษย์สัตว์เดรัจฉาน เดรัจฉาน แปลว่า ผู้ไปขวาง
คือเดินทอดตัว ไม่ได้เดินตั้งตัวเหมือนคน คนเดรัจฉานก็ฉันนั้น ทำอะไรก็ขวางธรรม ขวางวินัย คือขาดศีลธรรมเสมอๆ

3. มนุสสภูโต มนุษย์แท้ๆ คือเป็นคนเต็มตัว ได้แก่คนรักษาศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ไม่ขาด ไม่ประมาทต่อศีลเพราะศีลเป็นมนุษยธรรม คือเป็นธรรมประจำมนุษย์ ธรรมที่ทำให้คนเป็นคน มนุสสภูโต แปลว่ามนุษย์แท้ๆ เพราะมีคุณธรรมของคนคือศีล ศีล ท่านแปลว่า เศียร คือ หัว ถ้าคนขาดศีล ก็คือคนหัวขาดนันเอง เพราะขาดจากคุณธรรมของความเป็นคน

5. มนุสสเทโว มนุษย์เทวดา ได้แก่มนุษย์ผู้มีศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ แล้วยังได้พยายามบำเพ็ญกุศลเพิ่มพูนบารมีอยู่เรื่อยๆ เช่น ให้ทาน ฟังธรรม เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ไหว้พระสวดมนต์ มีหิริคือความละอายต่อบาป มีโอตตัปปะ คือความสดุ้งกลัวต่อผลแห่งบาปอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นผู้มีใจสูงดุจเทวดา เพราะประกอบด้วยเทวธรรม 7 ประการคือ

-บำรงเลี้ยงมารดาบิดา
-ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อบุคคลผู้เจริญ
-พูดจาไพเราะเสนาะหู อ่อนหวาน นุ่มนวล
- ไม่พูดส่อเสียดผู้อื่น
- ละความตระหนี่เหนียวแน่น
- รักษาคำสัตย์
- ไม่โกรธ
มนุษย์ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ท่านขนานนามว่า มนุสสเทโว แปลว่า มนุษย์เทวดา

 ขอขอบคุณ
http://www.tangboon.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=256391
43  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / แสดงเรื่องเปตร ในพระไตรปิฏก เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 11:38:36 pm
ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนามีบันทึกไว้ว่า เปรตแบ่งเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ
 เปรต 4 จำพวก ในเปตวัตถุ อรรถกถา แสดงเปรต 4 จำพวก คือ
 1. ปรทัตตูปชีวิกเปรต เป็นเปรตที่เลี้ยงชีวิตอยู่โดยอาศัยอาหารที่ผู้อื่นให้ โดยการเซ่นไหว้ เป็นต้น
 2. ขุปปีปาสิกเปรต เป็นเปรตที่อดอยาก หิวข้าวหิวน้ำอยู่เป็นนิตย์
 3. นิชฌามตัณหิกเปรต เป็นเปรตที่ถูกไฟเผาให้เร่าร้อนอยู่เสมอ
 4. กาลกัญชิกเปรต  เป็นเปรตในจำพวกอสุรกาย หรือเป็นชื่อของอสุรกายที่เป็นเปรต
                       
 บางแห่งแบ่งเป็น 12 ตระกูล หรือแยกย่อยเป็น 21 ชนิดบ้าง
ชนิดของเปรต
     ในอปทาน อรรถกถา สุตตนิบาตอรรถกถา และพุทธวังสะอรรถกถา แสดงว่าบรรดาพระโพธิสัตว์ ทั้งหลาย นับตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์เป็นต้นไป จะไม่เกิดเป็น ขุปปีปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต หรือกาลกัญจิกเปรต ถ้าจะต้องไปเกิดเป็นเปรต ก็จะเกิดเป็น ปรทัตตูปชีวิกเปรต ประเภทเดียว
          เปรต 12 ตระกูล ได้แก่
1.   วันตาสเปรต          เปรตที่กินน้ำลาย เสมหะ อาเจียน เป็นอาหาร
2.   กุณปาสเปรต         เปรตที่กินซากศพคน หรือสัตว์ เป็นอาหาร
3.   คูถขาทกเปรต        เปรตที่กินอุจจาระต่างๆ เป็นอาหาร
4.   อัคคิชาลมุขเปรต    เปรตที่มีเปลวไฟลุกอยู่ในปากเสมอ
5.   สุจิมุขเปรต            เปรตที่ปากเท่ารูเข็ม
6.   ตัณหัฏฏิตเปรต       เปรตที่ถูกตัณหาเบียดเบียนให้หิวข้าวหิวน้ำเสมอ
7.   นิชฌามกเปรต        เปรตที่มีตัวดำเหมือนตอไม้ที่เผา
8.   สัพพังคเปรต          เปรตที่มีเล็บมือ เล็บเท้ายาวคมเหมือนมีด
9.   ปัพพตังคเปรต        เปรตที่มีร่างกายสูงใหญ่เท่าภูเขา
10. อชครเปรต             เปรตที่มีร่างกายคล้ายสัตว์เดียรัจฉาน
11.  มหิทธิกเปรต         เปรตที่มีฤทธิ์มาก
12. เวมานิกเปรต          เปรตที่ต้องเสวยทุกข์ในเวลากลางวัน แต่กลางคืนได้ไปเสวยสุขในวิมาน

เปรต 12 ตระกูล     
         
         ตระกูลที่ 1 วันตาสาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างน่าเกลียด น่ากลัว และอดอยากหิวโหย เมื่อเปรตเหล่านี้เห็นมนุษย์ถ่มเสลด น้ำลายออกมา ต่างตื่นเต้นดีใจรีบตรงไปดูดเอาโอชะเสลดเป็นอาหาร กินแล้วยังหิวโหยเช่นเดิม จนกว่าจะสิ้นกรรมที่ทำไว้ จึงจะไปเกิดในภูมิอื่น
         กรรมที่ทำให้เป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะชาติก่อนเป็นคนตระหนี่จับขั้วหัวใจ เห็นผู้ใดอดอยากมาขออาหาร ก็พาลโกรธถ่มน้ำลายใส่ด้วยความรังเกียจ หรือเข้าไปในสถานที่ที่ควรเคารพบูชา เช่น โบสถ์ วิหาร ลานพระเจดีย์ แล้วไม่มีความเคารพต่อสถานที่ ได้ถ่มเสลดน้ำลายลงในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์นั้น เมื่อตายแล้วก็มาเกิดเป็นเปรตในตระกูลนี้
          ตระกูลที่ 2 กุณปขาทาเปรต       
          เปรตตระกูลนี้มีรูปร่างน่าเกลียดมาก จะซอกซอนหาซากอสุภะกินเป็นอาหารด้วยความหิวโหย ครั้นเห็นซากอสุภะของสัตว์ที่ล้มตาย กลายเป็นศพอืดเน่าเหม็น เปรตเหล่านี้จะดีอกดีใจวิ่งเข้าไปดูดโอชะที่เน่าเหม็นจากซากอสุภะนั้น
         กรรมที่ทำให้มาเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะชาติที่เป็นมนุษย์มีความตระหนี่ เมื่อมีผู้มาขอบริจาคทาน ก็แกล้งให้ของที่ไม่ควรให้ ด้วยความปรารถนาจะแกล้งประชด ไม่เคารพในทาน จึงมาเกิดเป็นเปรตประเภทนี้
         ตระกูลที่ 3 คูถขาทาเปรต       
        เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างน่าสะอิดสะเอียน น่าเกลียด เปรตชนิดนี้จะเที่ยวแสวงหาคูถ คือ อุจจาระ ที่คนถ่ายเอาไว้ ยิ่งมีกลิ่นเหม็นมากเท่าไรก็ยิ่งชอบ เมื่อเปรตเหล่านี้เห็นอุจจาระจะดีใจจนเนื้อเต้น รีบวิ่งรี่เข้าไปที่กองอุจจาระเหมือนสุนัขอย่างนั้น ครั้นไปถึงก็ก้มหน้าดูดเอาโอชะของคูถนั้นเป็นอาหาร แต่ก็ไม่เคยอิ่มเลย
         กรรมที่ทำให้มาเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งที่เป็นมนุษย์ มีความตระหนี่จัด เมื่อหมู่ญาติที่ตกทุกข์ได้ยาก หรือผู้คนมาหาเพื่อขอความช่วยเหลือ ขอข้าว ขอน้ำดื่ม  จะเกิดอาการขุ่นเคืองขึ้นมาทันที ชี้ไปที่มูลสัตว์พร้อมกับบอกว่า "ถ้าอยากได้ ก็จงเอาไปกินเถิด แต่จะมาเอาข้าวปลาอาหาร ข้าไม่ให้หรอก" แล้วก็ขับไล่ไสส่ง ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ตายแล้วจึงไปเกิดเป็นเปรตชนิดนี้
         ตระกูลที่ 4 อัคคิชาลมุขาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างผอมโซ มีเปลวไฟแลบออกมาจากปากตลอดเวลา ทั้งกลางวันกลางคืน  ไฟไหม้ปากไหม้ลิ้นเจ็บแสบเจ็บร้อน ครั้นทนไม่ได้ก็วิ่งร้องไห้ครวญครางไปไกลถึงร้อยโยชน์ พันโยชน์  ถึงกระนั้นไฟก็ไม่ดับ กลับเป็นเปลวเผาลนปากและลิ้นหนักเข้าไปอีก
         กรรมที่ทำให้มาเกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งเป็นมนุษย์ มีความตระหนี่เหนียวแน่น เมื่อมีใคร มาขอ ครั้นจะไม่ให้ก็กลัวคนอื่นดูแคลน จึงแกล้งให้สิ่งของร้อนๆ เพื่อหวังจะแกล้งให้ผู้รับเข็ดหลาบ จะได้เลิกมาขอ  เพราะไม่เห็นอานิสงส์ของการทำทาน
         ตระกูลที่ 5 สุจิมุขาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ รูปร่างแปลกพิกล คือ เท้าทั้งสองใหญ่โต คอยาวมาก แต่ปากเท่ารูเข็ม จะได้อาหารมาบริโภคแต่ละครั้งก็ไม่พออิ่ม เพราะมีปากเท่ารูเข็ม อาหารไม่อาจจะผ่านช่องปากเข้าไปได้ง่ายๆ อยากกินแต่กินไม่ได้ ต้องทุกข์ทรมานแสนลำบาก ร่างกายผอมโซดำเกรียม
         กรรมที่ทำให้เป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะเป็นคนตระหนี่ในชาติที่เป็นมนุษย์ เมื่อมีใครมาขออาหาร ก็ไม่อยากให้ และไม่มีศรัทธาที่จะถวายทานแก่สมณพราหมณ์ผู้มีศีล มีจิตหวงแหนทรัพย์สมบัติ ผลกรรมตามสนอง ต้องมาเกิดเป็นเปรตปากเท่ารูเข็ม
        ตระกูลที่ 6 ตัณหาชิตาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างผอมและอดอยากเช่นเดียวกับเปรตพวกอื่น คือ มีความอยากข้าว น้ำเป็นกำลัง ที่แปลกออกไป คือ เปรตเหล่านี้จะเดินตระเวนท่องเที่ยวไปเรื่อยๆ เพื่อหาอาหาร เมื่อมองไปเห็นสระ บ่อ ห้วย หนอง ก็ตื่นเต้นดีใจ รีบวิ่งไปโดยเร็ว แต่ครั้นไปถึงแหล่งน้ำนั้น กลับกลายเป็นสิ่งอื่นด้วย อำนาจกรรมบันดาล
         กรรมที่ทำให้เป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะเป็นคนหวงข้าวหวงน้ำ เที่ยวปิดสระ ปิดบ่อ ปิดหม้อ ไม่ให้คนอื่นได้ดื่มกิน ครั้นละโลกแล้วก็มาเกิดเป็นเปรตอดอยากข้าวน้ำดังกล่าว

ตระกูลที่ 7 นิชฌามักกาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างเหมือนต้นเสาหรือต้นไม้ที่ถูกไฟไหม้ สูงชะลูดดำทะมึน แลดูน่ากลัวมาก มีกลิ่นเหม็นเน่า มือและเท้าเป็นง่อย ริมฝีปากด้านบนห้อยทับริมฝีปากด้านล่าง มีฟันยาว มีเขี้ยวออกจากปาก ผมยาวพะรุงพะรัง มีความอดอยากเหลือประมาณ ยืนทื่ออยู่ที่เดิมไม่ท่องเที่ยวไปไหนเหมือนเปรตชนิดอื่น
         กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะเป็นคนใจหยาบ เห็นสมณพราหมณ์ผู้มีศีลก็โกรธเคือง มีอกุศลจิตคิดว่า ท่านเหล่านั้นจะมาขอของตน จึงแสดงกิริยาอาการเยาะเย้ยถากถาง ขับไล่สมณพราหมณ์ เหล่านั้นให้ได้รับความอับอาย หรือเห็นพ่อแม่เป็นคนแก่คนเฒ่า เกิดโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียนเพราะความชรา แกล้งให้ท่านตกใจจะได้ตายไวๆ ตัวเองจะได้ครอบครองสมบัติ
         ตระกูลที่ 8 สัพพังคาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีร่างกายใหญ่โต มีเล็บมือเล็บเท้ายาวคมเหมือนมีดเหมือนดาบและงอเหมือนตะขอ ได้แต่ก้มหน้าก้มตาตะกายข่วนร่างกายตนเองให้ขาดเป็นแผลด้วยเล็บ แล้วกินเลือดเนื้อของตนเองเป็นอาหาร
         กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะชอบขูดรีดชาวบ้าน เอาเปรียบผู้อื่น หรือบางครั้งชอบรังแกหยิกข่วนบิดามารดา ถ้าเป็นหญิงก็หยิกข่วนสามีของตน     
         ตระกูลที่ 9 ปัพพตังคาเปรต
         เปรตตระกูลนี้ มีร่างกายใหญ่เหมือนภูเขา เวลากลางคืนสว่างไสวรุ่งเรืองด้วยเปลวไฟ กลางวันเป็นควันล้อมรอบกาย เปรตเหล่านี้ต้องถูกไฟเผาคลอก นอนกลิ้งไปมาเหมือนขอนไม้ที่กลิ้งอยู่กลางไร่กลางป่า ได้รับทุกขเวทนาแสนสาหัส ร้องไห้ปานจะขาดใจ
         กรรมที่เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งเป็นมนุษย์ได้เอาไฟเผาบ้าน เผาโรงเรียน เผากุฏิ วิหาร เป็นต้น
         ตระกูลที่ 10 อชครเปรต       
         เปรตตระกูลนี้ มีรูปร่างคล้ายกับสัตว์เดียรัจฉาน เช่น มีรูปร่างเป็นงูเหลือม เป็นเสือ เป็นม้า เป็นวัว เป็นควาย เป็นต้น แต่จะถูกไฟเผาไหม้ทั่วร่างกายทั้งกลางวันและกลางคืนไม่ว่างเว้น แม้แต่วันเดียว
         กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะเมื่อครั้งเป็นมนุษย์เป็นคนตระหนี่ เมื่อเห็นสมณพราหมณ์ ผู้มีศีลมาเยือน ก็ด่าเปรียบเปรยท่านว่า เสมอด้วยสัตว์เดียรัจฉานต่างๆ เพราะไม่อยากให้ทาน หรือแกล้งล้อเลียนเป็นรูปสัตว์ต่างๆ
         ตระกูลที่ 11 มหิทธิกาเปรต       
         เปรตตระกูลนี้ เป็นเปรตที่มีฤทธิ์และรูปงามดุจเทวดา แต่ว่าอดอยากหิวโหยอาหารอยู่ตลอดเวลา เหมือนเปรตชนิดอื่นๆ จะเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ เมื่อพบคูถมูตร และของสกปรกก็จะดูดกินเป็นอาหาร
         กรรมที่ทำให้เกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งเป็นมนุษย์ บวชเป็นพระภิกษุสามเณร พยายามรักษาศีลของตนให้บริสุทธิ์ จึงมีรูปงามผุดผ่องราวเทวดา แต่ไม่ได้บำเพ็ญธรรม มีใจเกียจคร้านต่อการบำเพ็ญสมณธรรมตามวิสัยของบรรพชิต จิตใจจึงมากไปด้วย โลภะ โทสะ โมหะ มีความเข้าใจผิดว่า "เราบวชแล้ว รักษาแต่ศีลอย่างเดียวก็พอ ไม่เห็นต้องทำบุญให้ทานเหมือนฆราวาสเลย" ครั้นเมื่อละโลกจึงมาเกิดเป็นเปรตตระกูลนี้ เปรตตระกูลสุดท้าย   

ตระกูล ที่ 12 เวมานิก  เปรตตระกูลนี้จะมีสมบัติ คือ วิมานทองอันเป็นทิพย์ บางตนจะเสวยสุขราวเทวดาในเวลากลางวัน ส่วนเวลากลางคืนจะเสวยทุกข์ที่เกิดจากความตระหนี่ในทรัพย์ บางตนเสวยสุขเฉพาะในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันจะเสวยทุกข์ ตามสมควรแก่กรรม
         กรรมที่ทำให้เกิดมาเป็นเปรตตระกูลนี้ เพราะครั้งเป็นมนุษย์มีศรัทธาทำบุญกุศลไว้มาก แต่ไม่รักษาศีล ไม่รักษากาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ ครั้นตายลงจึงตรงมาเกิดเป็นเวมานิกเปรต หรือเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาได้รักษาศีลเพียงอย่างเดียว แล้วไม่มีศรัทธาในการสร้างบุญกุศลอื่น และมีความสงสัยในเรื่องบุญเรื่องบาป แม้รักษาศีลก็รักษาแบบเสียไม่ได้ หรือไม่ตั้งใจรักษา

เรา จะเห็นได้ว่า การเสวยวิบากกรรมในภูมิเปรตนั้น เป็นทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงไร ทุกข์ในเมืองมนุษย์เทียบเท่าไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นอย่ากระทำการใดๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกทรมานในภูมิเปรตนี้เลย
ขอขอบคุณเวบ
http://khonrayong.myfri3nd.com/web_blog/print.php?id=169422
44  กรรมฐาน มัชฌิมา / เกี่ยวกับ วัด พระสงฆ์ พระธาตุ พระเครื่อง / พระพุทธบาท 5 รอย วัดเขาสนามแจง ( เขาวงกต ) อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 11:28:48 pm

-อยู่ที่วัดเขาสนามแจง(เขาวงกต) อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ใกล้ๆนี่เอง มีบันไดทางขึ้นไป 700 ขั้น ผมไปนมัสการมาหลายครั้งแล้วครับ

-รอย พระพุทธบาทสมเด็จองค์ปฐม และพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ในภัทรกัปป์นี้ ในอนาคตจะมีพระศรีอาริยเมตไตรยมาประทับไว้อีก 1 รอยเป็นรอยสุดท้าย

-หลวง พ่อเกษม สันตจิตโต อดีตเจ้าอาวาส ที่มรณภาพไปแล้วเป็นผู้ค้นพบ ท่านเขียนหนังสือไว้เล่มหนึ่งเป็นบทกวีบอกกล่าวไว้ว่า ถ้าใครคิดว่าเป็นผู้รู้จริงแล้ว ให้มาพิสูจน์ที่นี่ว่า อะไร คือ อะไร? ที่นี่ มีหลักโลก หินพ่อหินแม่ ให้เป็นปริศนาธรรมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น รอยบาทพระอรหันต์ต่างๆ ขอให้ท่านที่สนใจไปกราบนมัสการชมกันเองครับ.......
ผู้แสดงความคิดเห็น
 ชัย กรุงศรี คนดีศรีอยุธยา
(ChaiKrungsriKondeeSriayudhya-at-yahoo-dot-com)
45  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: ปีใหม่ วันนี้ 1 ม.ค.2554 ทำอะไรดีคร้า.... เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 11:04:34 pm
ดีใจ กับ น้องหมวย ที่อุตส่าห์มาคนแรก และ ชวนเพื่อนร่วมสร้างกุศล ก็ขอให้สำเร็จธรรมโดยไวนะครับ

วันนี้ผมเองก็เดินสายดูแล เรื่องการใส่บาตรพระสงฆ์ หลายที่ เห็นคนไทยที่จว. สระบุรี และที่ใกล้เคียง

ยังมีเรี่ยวแรงทำบุญกัน แสดงว่า แม้เศรษฐกิจจะตกสะเก็ด แต่คนไทย เดี๋ยวนี้ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องจิตใจเป็น

อันมาก ด้วยการสร้างกุศล แบบต่าง ๆ เช่นการสวดมนต์ข้ามปี การทำบุญใส่บาตร การเข้าร่วมปฏิบัติธรรมตามที

ต่าง ๆ เห็นแล้วอดชื่นชมไม่ได้ ขอให้คนไทย มีความสุขเช่นนี้ เพื่อให้พ่อหลวงพระองค์ท่านได้สบายพระทัยบ้าง

คุณ chatchay อยู่ลพบุรี อุตส่าห์มาสวดมนต์ ที่จังหวัดสระบุรี อนุโมทนาด้วยครับ

อย่างที่พระอาจารย์ท่านกล่าวไ้ว้

    กรรมฐานอยู่ที่ ใจผู้ภาวนา ถ้าไม่ถึงใจ ใกล้ หรือ ไกล ก็ไม่เกี่ยงครับ

อ้างถึง
    และผม ปุ้ม ณฐพลสรรค์ nathaponson 089-823-6122

ยินดีตอบทุกคำถาม อย่าได้เกรงใจ
อย่าท้อครับ ขอให้ถือคติที่ว่า "ปัญหามา ปัญญามี"


ชื่นชมกับคุณปุ้มมากครับ ว่าเป็นผู้ที่มีการอนุเคราะห์กับเพื่อนมาก ๆ


:25: :25: :25:
46  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ เมื่อ: มกราคม 01, 2011, 11:00:41 pm
มาดึกหน่อยครับ พึ่งกลับจากศาลากลางจังหวัด ครับงานปีใหม่ก็มีคนเที่ยวชมงานเยอะนะครับ



คืนสุดท้ายแล้วครับคืนนี้


ขอน้อมรับคำอวยพร ทั้งหมด ให้เป็นกำลังใจในการประกอบอาชีพ
และการดำรงอยู่ด้วย เช่นคุณ chatchay

พรอันใด ที่มีพระรัตนตรัย สนับสนุน ขอพรนั้นจงสำเร็จ แก่เพื่อน ๆ สมาชิกทุก ๆ ท่านเช่นกันครับ

 :25:
47  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ชีวิตของเรา ต่างอะไรกัน ผ้าขี้ริ้ว (อีกมุมที่น่าคิด) เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:53:08 pm
ผมอ่านเรื่องนี้ แล้วชอบข้อที่ 7 ครับ

เพราะตรงกับความเป็นผ้าขี้ริ้ว และ หน้าที่ จริง ๆ

 :25:
48  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: คลิปซึ้ง ๆ เกี่ยวกับพ่อ คุณควรดูนะครับ เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:50:16 pm
คลิป นี้ดูแล้ว สะอึกมากครับ กับการสอนของพ่อ กับ ลูก

ถึงแม้จะเป็นคลิป ฝรั่ง จัดสร้าง แต่ก็มีคำแปลไทย ให้เรารู้เรื่องไปด้วย ดีครับ

 :25:
49  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: ขอพระองค์ จงทรงพระเจริญ เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:49:04 pm
ภาพยนต์ ชุดนี้ สามารถดาวน์โหลดได้แล้วครับ

ผมเองก็นั่งดูเรื่อง เหรียญของพ่อ ก็ได้ความรู้สึกประทับใจดีครับ...

เพราะภาพยนต์ ชุดนี้ ผู้กำกับ ภาพยนต์ ที่มีชืี่่อเสียงทั้งนั้นนะครับ เป็นตอนสั้น ๆ ครับ


อนุโมทนากับผู้โพสต์ ด้วยนะครับ

 :25:
50  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สมัยพุทธกาล "อรหันต์ประเภทไหนมีมากที่สุด" เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:46:05 pm
ที่จริง การฝึกสมาธิ ก็หวังที่ให้ใจมีความสงบ ก่อน วิปัสสนา เพราะถ้าใจไม่สงบ ก็อยากที่จะมองเห็นธรรมใด ๆ

ดังนั้น การฝึกสมาธิ ก็ควรมุ่งเรื่อง ความที่จิตสงบเป็นหลักก่อน ครับ


 :25:
51  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: การฝึกมโนมยิทธิ เมื่อ: ธันวาคม 07, 2010, 11:43:25 pm
พึ่งทราบ ว่าคุณ ฟ้าใส ฝึก มโนมยิทธิ ด้วย

แล้ว ทำไมจึงเิลิกฝึก ครับ พอเล่าให้ฟังได้หรือป่าวครับ

 :25:
52  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / การปฏิบัติธรรมที่ศาลากรรมฐาน วัดแก่งขนุน ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 เมื่อ: พฤศจิกายน 20, 2010, 12:43:08 pm
เข้าใจตามที่พระอาจารย์แนะนำ มาแล้วครับ

ขออนุโมทนา กุศลกับการนัดรวมพบผู้ปฏิบัติธรรม กันนะครับ

( ในทั้งนี้ก็ได้แก้ไขข้อความบางส่วนออกแล้ว เพราะอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดด้วย จึงขอโทษเพืือนสมาชิกไว้ด้วย)

ส่วนผมเองตอนนี้ได้ลงภาคใต้ เพื่อเยี่ยมผู้ประสพภัยครับ ก็ขออภัยไม่สามารถร่วมงานด้วยได้ครับ

เนื่องด้วย เพราะเห็นว่าเชิญร่วมปฏิบัติกันเป็นพิเศษ นึกว่ามีการจัดงานปฏิบัติธรรมกันเป็นพิเศษ จึงได้สอบถาม

ไปเพื่อความแน่ใจ

 :25: :25: :25: :25: :25:
53  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักวิปัสสนา ที่ควรอ่านและทราบ ของนักปฏิบัติกรรมฐาน เรียกว่า อนุปัสสนา 3 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:34:31 pm
เรื่องนี้ผมอ่านแล้ว เหมือนเปิดโลกทัศน์ เลยครับ ปกติเวลาพิจารณาวิปัสสนา ก็จะออกแบบวิปัสสนึก คือคิดเอา

เองไปเรื่อย ๆ พึงจะรู้ว่ามีหลักการเจริญวิปัสสนา ที่ปรากฏในพระไตรปิฏก อย่างเป็นขั้นเป็นตอนครับ

ศัพท์ที่ผมพึงเคยได้ยิน ก็คือ อนุโลมขันติ และ สัมมัตนิยาม


   อ่านหลายไปหลายรอบแล้ว และ ก็ทดสอบเจริญตาม รู้สึกดีไม่ต้องปรุงแต่งความคิด เพียงแต่พิจารณาไปตาม

ลำดับ เริ่มพอจะเข้าใจมากขึ้น แล้วครับ

    :25:
54  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: เกี่ยวกับ เรื่อง ของ ภวังค์ คร้า... เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:30:44 pm
เท่าที่ผมเคยปฏิบัติกับพระอาจารย์ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับ สำหรับเรื่องภวังคจิตนี้ ไม่ปรากฏเลยครับ

เคยนั่งกรรมฐาน แล้ว ผงก งืด งืด แต่พอได้นั่งกรรมฐาน กับพระอาจารย์ มีแต่พุทโธ ครับที่ระลึกได้

ดังนั้นเรื่อง ภวังคจิต ผมก็เลิกสงสัยมานานแล้วครับ


 :25:
55  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / การปฏิบัติธรรมที่ศาลากรรมฐาน วัดแก่งขนุน ในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน 2553 เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:23:01 pm
มีความน่าสนใจ อยู่ แต่พระอาจารย์มาหรือ ไม่ครับ ?

11.00 น. - 15.00 น. จะทำอะไรบ้างครับ

อีกอย่างใครเป็นผู้จัดกิจกรรมนี้ ครับ

 :25: :25: :25:

56  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / Re: อัญเชิญคัมภีร์พุทธ เก่าแก่กว่า2,500 ปี เมื่อ: พฤศจิกายน 16, 2010, 11:19:27 pm
ที่ไม่ได้การตอบรับ น่าสนใจ เพราะทำเหมือนเล่น พูดเล่น

กิจกรรมนี้ การไปดูคัมภีร์ถึงที่ จะได้อะไร ?

จุดประสงค์คือ อะไร?

ใครเป็นผู้จัดกิจกรรมนี้ ?

ผู้รับผิดชอบกิจกรรมนี้คือใคร ?

มีการตกลงอย่างไร ?

ผมว่า ถ้าทำเป็นเล่น จะติดเป็นนิสัย นะครับ

:smiley_confused1:



57  กรรมฐาน มัชฌิมา / กิจกรรมของ สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน / Re: ประกาศ อนุโมทนา บุญกุศลเรื่อง กิจกรรมการเผยแผ่เว็บ www.madchima.org เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2010, 07:16:15 am
ดีใจ ที่เพื่อน ๆ ร่วมกันสนับสนุน เว็บ กรรมฐาน แห่งนี้ครับ

นี่แหละครับ ผลแห่งการคิดดีนั้น แม้จะเริ่มทำ มีคนได้รับผล ไม่มาก ก็น้อย

กงล้อแห่งธรรม ก็ยังวิ่งอยู่ต่อไปได้ครับ


แต่อยากให้เพื่อน ๆ ช่วยสอดส่องกับผู้ที่แสดง ในทางที่ผิดด้วยนะครับ

ขอให้พระอาจารย์ แข็งแรง และทำงานลุล่วง ตามเจตนารมย์ ครับ
ขอให้ทีมงาน ประสพความสำเร็จในการภาวนา โดยถ้วนหน้า ครับ

 :25: :25: :25:
58  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ภาษิตไทย นำเสนอวันนี้ครับ "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า" เมื่อ: พฤศจิกายน 14, 2010, 07:12:43 am
ภาษิตไทย นำเสนอวันนี้ครับ "คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า"

 ผมทำงานคร่ำหวอด ในวงราชการก็ อายุงาน30 ปีแล้ว ครับ

 วันหนึ่งๆ สัปดาห์หนึ่งๆ ปีหนึ่ง ๆ ก็ได้ฟังพวกเพื่อน รวมทั้งตัวผมด้วยครับ ที่มักจะบ่นกันเสมอ เรื่องของปัญหา

ในงาน ที่เกิดอุปสรรค ใหญ่ ๆ อันเนื่องจากบุคคลากรที่เป็นระดับเจ้านาย ที่ใหญ่กว่าเรา


   "ความคิดเห็นดี ๆ ผลงานดีๆ ความรู้ดีๆ การพัฒนาดี ๆ  ต้องไปติดแหงกอยู่ที่เจ้านายของเรา"

  ในแวดวงราชการ ก็เป็นอย่างนี้เสมอครับ โอกาสที่คนดี ๆถูกใจเรา มาอยู่ในหน่วยงานนั้น ก็มีน้อยครับ

 ประสพการณ์ที่ผ่านมาเร็ว ๆ นี้ก็เรื่องการเข้าไปช่วยเหลือ คนประสพกับความเดือดร้อนอุทกภัย

  และเห็นความเห็นแก่ตัว ที่ไม่ได้ลงทุนของพวกเจ้านายที่เอาแต่ ปิดทองเบื้องหน้า ด้วยการปิดนามบัตร

  แม็กช์ลงไปในของบริจาค หรือ เปลี่ยนถุงแจก เอาถุงที่มีสกรีินของตนลงไปในถุงที่แจก ( ประสาเราเรียกว่า

 หน้าด้านครับ ) ก็มีการทำกันจริง ๆ แต่ครั้นจะพูดออกไปก็ดูเหมือนว่า จะเป็นอันตรายกับตัวเราก่อนแน่ ๆ

 อันนี้ยังพอทนครับ แต่ที่น่าเกลียดคือ ได้รับของบริจาคมาแล้วไม่เอาไปบริจาค นี่สิครับ คือเอาไปขาย โดย

บอกว่า เห็นใจผมลดราคาให้เป็นพิเศษ ช่วยต่อบุญที่ทำด้วยการบริจาคทรัพย์คนละ 20 บาทซื้อถุงนี้ครับ เพื่อช่วย

คนต่อไป แน่นอนครับก็มีคนซื้อถุง 20 บาท แน่นอนครับ ( อันนี้ทำยังกับ สังฆทานเวียนของพระเลย )

แต่บุญอะไรครับ พี่น้อง ไมได้ลงทุน เขาเอามาบริจาค กับเอาเงินเข้ากระเป๋า ผมเชื่อว่าเรื่องนี้มีคนร้องเรียนไป

แล้วแน่ ๆ ถึงได้เป็นข่าวตาม ทีวี มีการแซวจากนักประกาศข่าว แบบเกรงใจ ว่าไม่น่าทำ กันอย่างนี้

   อ้าวแล้วมันเกี่ยวอะไร กับหัวข้อ ข้างต้นครับ แหม มันเกี่ยวมาก ๆ สิครับ เพราะว่า บรรดาผม เืพื่อนๆ ผม

ไม่ออกอาการวัยรุ่นครับ คือ เซ็ง จริง ๆ กับไอ้พวกเฮงซวย พวกนี้ ( ไม่ได้เจตนาให้หยาบ ครับ ) เพราะแผ่

เมตตาให้แล้ว แต่เขียนให้มัน ออกรสหน่อย จะได้อ่านไม่เบื่อกันก่อน เมื่อวัยรุ่นเซ็ง ( แก่กันแล้วทั้งนั้นครับ )

ก็คิดกันในใจว่า เกษียณอายุราชการกันดีไหม ครับ นี่แหละครับเป็น สาเหตุที่มาของคำว่า คนในอยากออก ครับ

ทีั่นี้พอพวกเราคิดว่า อยากออก ในขณะเดียวกันก็มีการนำตัวแทนมาแทนแล้ว โดยลูกพี่เรานี่แหละครับ ปั้นขึ้นมา

เรียกตัวมาจาก ที่เป็นพวกพ้องกันฝากกันเ้ข้ามา นี่แหละครับ เป็นที่มาของคำว่า คนนอกอยากเข้า

   ที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ไม่ใช่อยากจะมาบ่นให้เพื่อนฟัง สิ่งที่ผมต้องการนำเสนอตรงนี้ เป็นเรื่องของ ธรรมะ ครับ

 ธรรมะ เรื่องอะไรครับ เรื่องของความอยากไงละครับ ความอยากเป็นสิ่งที่มนุษย์ ทุกคนต้องมีครับถ้าใครไม่มี

ไม่อยาก ก็เรียกว่า ไม่ใช่มนุษย์ ครับ วิธีการแก้ความอยากพวกนี้เบื้อวต้นสำหรับคนที่กำลังมีความคิดอย่างนี้

นะครับ ผมจะขอนำเสนอแบบ ชาวปุถุชนนะครับ

   ก็คือ 1.ใช้ สติ ปัญญา มองความเป็นจริง อย่าให้ความสำคัญแก่ บุคคล ครับ จงให้ความสำคัญแก่งาน ครับ

         2. การใช้ชีวิตในสังคมนั้น พิจารณาความจริง ต้องให้คนดี มีมากที่สุด และ ให้คนดีมีอำนาจมาก ครับ

  อย่าปล่อยให้คนไม่ดีมีมาก และอย่าให้คนไม่ดีมีอำนาจ ตามพระราชโอวาทของพ่อหลวงแห่งแผ่นดินครับ

         3.ศึกษา หลักธรรม เรื่องอนุสสติ ให้มากขึ้นหน่อยเพื่อจะได้ ฉลาดในการใช้ชีวิต

         4.ฝึก กรรมฐาน เป็นพิเศษ สักหมวด เพื่อระงับใจ ให้เป็นปกติ

         5.อย่าเกษียณ กันก่อนงาน ครับ ถ้าไม่จำเป็น จงทำงานรับใช้ประชาชน ตามปฏิญาณให้ครบวาระครับ

         6.สร้าง ทายาท ทางความคิดในธรรม ไว้ นั่นก็คือการเผยแผ่ธรรมะ ลงไปให้กับคนที่สืบทอดต่อจากเรา

  เหนื่อยหน่อยแต่ต้องทำ ครับเพราะเพื่อโลกที่สงบ

         7.ทำใจไว้ครับ ว่า ในโลกนี้ ไม่มีอะไรยั่งยืนตลอด วัฏฏจักร สลับขึ้น สลับลง ครับ

   อย่าหลง เมื่อมี ยศ มีลาภ มีสุข และ สรรเสริญ เพราะยิ่งมี ก็มีเสื่อม มีทุกข์ มีนินทา ไปพร้อม ๆ กันครับ

         7 ข้อปฏิบัติ นี้ไม่ใช่ว่าจะเกี่ยวกับแวดวง ราชการเท่านั้นครับ แม้ชีวิตประจำวันเราก็อาจ จะเบื่อ ๆ อยากๆ

 เช่นครั้งพุทธกาล เป็นพระ ก็บวช ๆ สึก ๆ เป็นต้น เพราะอะไร เพราะแก้ต้นตอแห่งปัญหาให้ไม่ถูกจุดครับ มัน

ก็จะออก อาการ เบื่อ ๆ  อยาก ๆ ( ทำเป็นคนแพ้ท้องไปได้ )


          หรือเพื่อน สมาชิก มีคำแนะนำที่ดี ๆ ก็ช่วยกันแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะครับ

 :25:

 
59  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ความสุขที่ถูกมองข้าม เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2010, 11:23:02 pm
มีบทความของพระอาจารย์ บางหรือป่าวครับ

อยากอ่านบทความเรื่อง พระกรรมฐาน มากกว่า ครับ

 :25:
60  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / เชิญร่วมทอดกฐินสามัคคี ณ วัดแก่งขนุน สระบุีรี ครับ เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2010, 11:21:34 pm
เนื่องด้วย ในวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๓

ทางวัดแ่ก่งขนุน ( วัดที่พระอาจาย์ สังกัดอยู่ ครับ ) มีการทอดกฐิน



ก็ขอเชิญ ศิษย์ และ บุคคลที่ต้องการทำบุญ ร่วมงานบุญ ที่วัดได้ในเวลา 08.00 น. เป็นต้นไป นะครับ

ประกาศนี้ ไว้เนื่องด้วยพระอาจารย์ ไม่ได้อยู่วัดมาร่วม จะปี แล้วครับ คราวข่าวทางวัดอาจจะไม่ได้อัพเดท นะครับ


 :25: :25: :25:

61  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: น้ำท่วม ถึงคิวภาคใต้แล้ว ครับ ปีนี้ท่วมหนักมาก ทุกที่ทุกเขต เมื่อ: พฤศจิกายน 03, 2010, 11:09:42 pm
หาดใหญ่ ก็เหมือน โคราช นะครับไม่ได้ตั้งรับ และรับไม่ทัน

แตกต่างตรงที่ หาดใหญ่ นั้นเคยท่วมอยู่ทุกปี แต่ไม่ท่วมหนักเหมือนอย่างนี้

แต่ผม พิจารณา ดูก็ไม่แปลก

ด้วยระดับความสูงแล้ว ภาคเหนือ อิสาณ กลาง นั้นสูงกว่า ยังท่วม ซึ่งเป็นไม่ได้ที่ไม่ท่วมครับ

เพราะน้ำทั้งหมด ต้องไหลลงสู่ทะเล เมื่อทะเลมีน้ำไหลลง ปริมาณน้ำในทะเลก็ต้องสูงขึ้นด้วยครับ

พิจารณาแล้ว ปีหน้า มีโอกาสที่จะท่วมกันหนักอีก ถ้าฝนตกติดต่อเกิน 15 วัน


แต่อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิดครับ แก้ไขกันไปตามสภาพครับ

นี่แหละหนา การเกิดเป็นทุกข์ ร่ำไป ก็อย่างนี้

พระอาจารย์เคยบอกผมว่า

  " เราเกิดมาทุกชาติ ก็เห็นว่านี่ก็สำคัญ นั่นก็สำคัญ บางครั้งประเทศชาติก็สำคัญ บางครั้งชื่อเสียงก็สำคัญ

   บางครั้งคนรักก็สำคัญ บางครั้งการเรียนก็สำคัญ บางครั้งการภาวนาก็สำคัญ ทุกภพทุกชาติ เราก็ทุ่มเทความ

   สำคัญลงไปอย่างนี้ อย่างไม่รู้จักเบื่อ ทั้งๆ ที่มีความเหน็ดเหนื่อย รอเราอยู่ตลอดมา และ เรื่อย ๆ มา

   จงรู้จักเบื่อ และหาทางไม่ต้องเกิดมาเสียดีกว่า"



 ชีิวิต ไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นรนก้นต่อไปครับ .....

62  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคตะวันออก (ทุกภาค ) เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:36:08 am
สถานการณ์ ตอนนี้มีแต่ทรง  ๆๆๆ อยู่ครับ ผมอยู่ในเขตพระพุทธบาท ติดกับบ้านหมอ

ชาวบ้านหมอเอง ก็ประัสพชะตากรรม ไม่ต่างจาก ลพบุรี เท่าไหร่ครับ

ก็ขอให้ทุกคนผ่าน ความโศรกดีไปได้ด้วยดีครับ

ที่สำคัญที่สุด ตอนนี้ พวกมิจฉาชีพ อาศัยความทุกข์ของคนที่ประสพความเดือดร้อนอยู่แล้ว

อาศัยทำเป็นช่วยขนของ แล้วก็นำไปด้วย แถมมีงัดแงะ รื้อค้นบ้านที่คนไม่ได้อยู่กวาดทรัพย์สินเขาไปอีก

ตอนนี้ที่เกิดก็เห็น จะมีเขตลพบุรี เป็นมากหน่อย

คน หนอ คน ซ้ำเติมกันไปเรื่อย ๆ นะครับ ไม่กลัวเวร กันบ้างเลย

 :25: :25:
63  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: จะปลอบใจ เพื่อนอย่างไร ถ้าเพื่อนเดือดร้อน เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:32:17 am
คงต้องดูอารมณ์ก่อน ครับว่าเพื่อนเราอยู่ในอารมณ์ไหน

ถ้ายังโศรกเศร้าอยู่ ก็ควรให้เขาอยู่กับความเงียบบ้าง และค่อยหาโอกาสพูดคุยแบบเพื่อนครับ

ถ้าเป็นเรื่องความเดือดร้อน ทางทรัพย์ ถ้าเรามีกำลังพอก็ควรช่วยบ้างครับ ถึงไม่มากอะไรแต่ก็เป็นการแสดงน้ำใจ

ให้คำปรึกษาที่ดี ถึงแม้จะไม่มีทางออกที่ดี อะไรเลย อย่าพูดซ้ำเติม อย่าไปโทษเคราะห์ โทษกรรม

มีคนที่ยังเหนื่อย ประสพความเดือดร้อนอยู่มาก ในพื้นพิภพนี้

สิ่งที่ควรทำให้เพื่อนเข้าใจ คือ หลักศาสนา คือ ความแก่ ความเจ็บ และ ความตาย

 :25: :25: :25:
64  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: จะศึกษาวิปัสสนา ต้องทำอย่างไร คะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:18:22 am
เป็นวิธีการที่เข้าใจ ง่ายที่สุดแล้วครับ วิธีนี้

อนุโมทนาครับ

 :25:
65  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ในพรรษา พระอาจารย์ภาวนาอะไร คะ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:17:36 am
อยากฝึกได้อย่างพระอาจารย์ จังเลยครับ

อนุโมทนาด้วยครับ

 :25:
66  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: นามผู้สร้างหนังสือพระกรรมฐานห้อง ๔ เมื่อ: ตุลาคม 24, 2010, 08:16:57 am
อนุโมทนา กับคุณธรรมธวัช ด้วยครับ

 :25: :25:
67  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:57:09 am

สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดสระบุรี สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสระบุรี ปี 2553

วันที่ 20 ตุลาคม 2553 เนื่องจากเกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่ อำเภอวังม่วง อำเภอแก่งคอย อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้อำเภอหนองแซง และอำเภออื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ดังนี้
1. อำเภอวังม่วง พื้นที่ตำบลคำพราน ตำบลวังม่วงและตำบลแสลงพัน รวม 31 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและทำให้เกิดสถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่บ้านเรือนราษฎร จำนวน 17 หมู่บ้าน 270 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน อำเภอกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหา โดยขุดเจาะถนนเพื่อเปิดทางระบายน้ำ ซ่อมคอสะพานที่ชำรุด แจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบ 300 ชุด (ต้องการถุงยังชีพเพิ่มอีกจำนวน 600 ชุด) อพยพประชาชนออกจากบ้านพักอาศัย จำนวน 73 ครัวเรือน พร้อมได้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดแม่น้ำป่าสักให้เฝ้า ระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่งเนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำเป็น 800 ลบ.ม./วินาที่(วันที่ 17 ต.ค.53)
2. อำเภอบ้านหมอ ในพื้นที่ตำบลบางโขมด หมู่ 2 น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวน 10 หลัง ระดับประมาณ 30 – 50 ซม. ตำบลบ้านครัว (ทต.ท่าลาน) หมู่ที่ 1 – 6 จำนวน 868 ครัวเรือน 3,169 คน อพยพออกจากบ้าน 55 ครัวเรือน 150 คน โรงเรียน 2 แห่ง วัด 3 แห่ง เนื่องจากน้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัย การให้ความช่วยเหลือเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง เรือพลาสติค 50 ลำ
3. อำเภอพระพุทธบาท ในพื้นที่ตำบลหนองแก หมู่ 1, 4, 5 และหมู่ 9 น้ำท่วมเส้นทางที่จะไปอำเภอหนองโดน และบ้านเรือนราษฏร รวม 191 ครัวเรือน 630 คน วัด 3 แห่ง ระดับน้ำประมาณ 80 – 100 ซม. สำหรับถนนสายพระพุทธบาท-หนองโดน รถเล็กผ่านไม่ได้ การให้ความช่วยเหลือ นายชนัตถ์ นันทปัญญา ที่ปรึกษา มท. 1 นำถุงยังชีพแจกจ่าย จำนวน 922 ชุด อบต. จัดประกอบเลี้ยง อพยพมายังจุดปลอดภัย
4. อำเภอมวกเหล็ก ตำบลมวกเหล็ก หมู่ที่ 4,9,11 ห้วยมวกเหล็ก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านพักอาศัย จำนวน 78 หลัง ตำบลมิตรภาพ หมู่ที่ 8 น้ำห้วยมวกเหล็กกัดเซาะคอสะพาน ข้ามไปบ้านหนองยาง ตำบลดงพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ชำรุดไม่สามารถข้ามไปมาได้
5. อำเภอแก่งคอย เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ตำบลสองคอน หมู่ที่ 1-11 หินซ้อน หมู่ที่ 1-10 ชำผักแพว หมู่ที่ 1-10 ชะอม หมู่ที่ 1-11 ห้วยแห้ง หมู่ที่ 1-12 ตาลเดี่ยว หมู่ 1-11 บ้านป่า หมู่ 1-11 ท่าคล้อ หมู่ 1-11 บ้านธาตุ หมู่ 1-5 ท่าตูม หมู่ 1-4 ท่ามะปราง หมู่ 1-5 และเทศบาลทับกวาง หมู่ที่ 1-10 ผลกระทบ รวม 1,000 ครัวเรือน 3,000 คน บ้าน 150 หลัง พื้นที่การเกษตร ประมาณ 1,100 ไร่ ถนน 10 สาย สะพาน 1 แห่ง คอสะพานชำรุด 5 แห่ง
6. อำเภอเมืองสระบุรี ตำบลตลิ่งชัน ตำบลตะกุด เทศบาลเมืองสระบุรี ตำบลนาโฉง ตำบลดาวเรือง หมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักได้รับผลกระทบต้องอพยพประชาชนออกจากบ้าน เรือนไปยังที่ปลอดภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ และได้ประสานขอรับการสนับสนุนเรือท้องแบนจาก หน่วยทหารในพื้นที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทา- สาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี ในพื้นที่ตำบลหนองปลาไหล เกิดฝายกั้นน้ำวัดพระพุทธฉายพังทลาย น้ำท่วมบ้านเรือนในหมู่ที่ 3,4 ประชาชนอพยพออกจากบ้านโดยปลอดภัยแล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจาก กรมทหารม้าที่ 5 รักษาพระองค์ นำกำลังทหารเข้าให้การช่วยเหลือ ตำบลกุดนกเปล้า หมู่ที่ 1,2,5,6,7,8 จำนวน 50 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง แจ้งประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว
7. อำเภอเสาไห้ รวม 12 ตำบล ได้แก่ ตำบลงิ้วงาม ตำบลช้างไทยงาม ตำบลศาลาริไทย ตำบลท่าช้าง (อบต.ช้างไทยงาม) ตำบลบ้านยาง ตำบลเริงราง เทศบาลตำบลเมืองเก่า ตำบลต้นตาล ตำบลพระยาทด (ทต.ต้นตาล-พระยาทด) ตำบลม่วงงาม ตำบลหัวปลวก ผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรและบ้านพักอาศัย ของหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือนไปยัง ที่ปลอดภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ และได้ประสานขอรับการสนับสนุนเรือท้องแบนจาก หน่วยทหารในพื้นที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทา- สาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี
8. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตำบลห้วยบง หมู่ที่ 1 – 10 ตำบลเขาดินพัฒนา หมู่ที่ 1 – 7 และตำบลผึ้งรวง หมู่ที่ 2 เกิดน้ำท่วมขังจากสภาวะฝนตกหนัก คูคลอง ถนน ระบายน้ำไม่ทัน ประสานเครื่องสูบน้ำจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี และ อบต.ทุกแห่งได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น
9. ถนนสายหลัก ที่ได้รับผลกระทบ แขวงการทางสระบุรีได้ทำการติดตั้งป้ายเตือนผู้ใช้เส้นทางให้ระมัดระวัง และใช้หลักนำทางขาว-ดำ ทุกจุด ดังนี้
1) ถนนพหลโยธิน กม.ที่ 94 ทางคู่ขนาน 2 ช่องจราจร ขาเข้า กทม.พื้นที่ตำบลห้วยทราย อ.หนองแค ระดับน้ำ 25 ซม. /กม.ที่ 98 - 99 (บายพาสพุทธฉาย) ระดับน้ำ 30 ซม. และกม.ที่ 103 หน้าโรงเรียน.นานาชาติเซนต์จอนห์ ต.หนองยาว อ.เมืองสระบุรี ขาเข้า กทม. ระดับน้ำ 20 ซม./ กม.ที่ 113 (แยกห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ) ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรผ่านได้
2) ถนนมิตรภาพ กม.ที่ 1 ขาเข้ากทม. (หน้า รพ.เกษมราษฏร์) ระดับน้ำ 20 ซม. และกม.ที่ 9 ตำบลตาลเดี่ยว ขาออก กทม. (หน้าบ.กรุงเทพโปรดิ้วซ์จำกัด) 1 ช่องจราจร ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรผ่านได้
3) ถนนสายหินกอง-นครนายก(สาย 33 สุวรรณศร) กม.ที่ 102 ขาออก กทม. (ตำบลบ้านลำ อ.วิหารแดง) ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรผ่านได้
4) ถนนบายพาสเมืองสระบุรี ทิศตะวันออก ช่วงตำบลกุดนกเปล้า ขาเข้า กทม. จำนวน 1.5 เลน ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรผ่านได้
5) ถนนบายพาสเมืองสระบุรี ทิศตะวันตก(จุดแยกไปลพบุรี) กม.ที่ 103 น้ำท่วมเลนคู่ขนานขาเข้า กทม. รถผ่านไม่ได้จึงปิดสะพานข้ามไม่ให้รถผ่าน โดยรถที่มาจากลพบุรีให้ออกซ้ายไปกลับรถใต้สะพานต่างระดับมิตรภาพ กม.ที่ 106 เพื่อเข้ากทม.ต่อไป
6) ถนนสาย 3020 สาย พระพุทธบาท-หนองโดน พื้นที่ตำบลหนองแก กม.ที่ 6 + 960 น้ำท่วมระดับประมาณ 20 ซม. การจราจรผ่านได้

ขอบคุณที่มา

http://www.rd1677.com/rd_sarabury/top_sarabury.php?id=74150
68  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:53:48 am


เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องในช่วงค่ำของทุกวัน ทำให้พื้นผิวจราจรบริเวณช่วง กม. 98-99 ด้านคู่ขนานในทิศทางขาเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ในเขตตำบลหนองนาก อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี มีน้ำท่วมขังความสูงประมาณ 20-25 ซม. การจราจรสามารถเคลื่อนตัวไปได้อย่างช้าๆ ไม่ติดขัด
69  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:51:37 am
น้ำป่าไหลท่วมวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี ต้องอพยพประชาชนไปอยู่ที่สูง

16 ต.ค. - สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด น้ำป่าได้ไหลท่วมวัดพระพุทธฉาย จังหวัดสระบุรี ประชาชนและนักท่องเที่ยวต้องหลบขึ้นไปอยู่ที่สูง เนื่องจากระดับน้ำมีความสูงกว่า 30 เซนติเมตร

จากปริมาณฝนที่ตกลงมาต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่ตำบลหนองปลาไหล อำเภอเมือง สระบุรี วัดพระพุทธฉาย ซึ่งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว ถูกน้ำท่วม รถยนต์ยังไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนประชาชนกว่า 30 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมเช่นกัน

ส่วนที่จังหวัดฉะเชิงเทรา สถานีชลประทาน ประตูน้ำท่าไข่ ได้ปิดประตูกั้นน้ำเขตเชื่อมต่อแม่น้ำบางปะกง หลังเกิดภาวะน้ำทะเลหนุน และมีน้ำไหลหลากจากแม่น้ำปราจีนบุรี ทำให้น้ำในแม่น้ำบางปะกงสูงในระดับที่น่าเป็นห่วง เจ้าหน้าที่เร่งแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อระบายน้ำออกนอกพื้นที่โดยด่วน. -สำนักข่าว

ที่มา
http://news.impaqmsn.com/articles.aspx?id=370057&ch=lc1
70  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:50:01 am
http://video.nationchannel.com/data/11/2010/10/18/c85j9969Ad6bcbi5kBg7k.flv

กมลรัฐ(เสรี)/สระบุรี

     

      นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าฯ สระบุรี ตรวจดูให้ความช่วยเหลือภัยน้ำท่วม บริเวณ วัดม่วงน้อย ตรงข้าม วัดเวียง ต.บ้านครัว อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และได้ไปเยี่ยมดูและ พูดคุย กับ ยาย ปราณี นิลขำ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29 หมู่ 5 ต.เริงราง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ที่บ้านถูกน้ำท่วม ถูกน้ำล้อมรอบบ้าน

     

      ด้าน เขต ต.เริงราง ที่แปลงนา ของ แปลงเปรียบเทียบผลผลิตของข้าวในนาราษฎร์ เขตชลประทาน ภาคกลาง ฤดูนา ปี 2553 เป็นแปลง ทดลองสายพันธุ์มาตรฐาน หว่านเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2553 โดย ศูนย์วิจัยคลองหลวง จำนวนกว่า 10 แปลง กว่า 1 ไร่ ถูกน้ำท่วมคาดว่าพันธุ์ข้าวที่ทดลองเสียหายหมด

     

     

      ด้าน สรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดสระบุรี ปี 2553 ( 17 ต.ค.53 : 17.24 น.)

      - - - - - - - - - - - - - - - - - -

       นางสมพร มโนรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี รายงานว่า ในช่วงวันที่ 13 - 17 ตุลาคม 2553 ได้เกิดร่องความกดอากาศต่ำพาดผ่านภาคกลางทำให้เกิดฝนตกหนักเป็นบริเวณกว้าง ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตจังหวัดลพบุรี และจังหวัดสระบุรี ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์และ แม่น้ำป่าสักในปริมาณที่สูงมาก ณ วันที่ 17 ตุลาคม 2553 ปริมาณเก็บกักน้ำ 1,094.55 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 114 ของปริมาณเก็บกักทั้งหมด(960 ล้าน ลบ.ม.) ดังนั้นเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์จึงจำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำด้านท้ายเขื่อนใน ปริมาณที่สูงตามลำดับ ระบาย 802.63 ลบ.ม./วินาที (69.35 ล้าน ลบ.ม./วัน) ประกอบกับมีปริมาณฝนตกด้านท้ายเขื่อนที่มีปริมาณมากในช่วงนี้ ทำให้เกิดสภาวะน้ำล้นตลิ่งได้ในพื้นที่ลุ่มน้ำป่าสัก ได้แก่ อำเภอวังม่วง อำเภอ แก่งคอย อำเภอเมืองสระบุรี อำเภอเสาไห้และอำเภอหนองแซง และอำเภออื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำสะสมจากฝนตกหนัก ดังนี้

       1. อำเภอวังม่วง พื้นที่ตำบลคำพราน ตำบลวังม่วงและตำบลแสลงพัน รวม 31 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักและการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ทำให้เกิด สถานการณ์น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ บ้านเรือนราษฎร จำนวน 17 หมู่บ้าน 270 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน อำเภอกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหา โดยขุดเจาะถนนเพื่อเปิดทางระบายน้ำ ซ่อมคอสะพานที่ชำรุด แจกจ่ายถุงยังชีพให้กับผู้ประสบ 300 ชุด (ต้องการถุงยังชีพเพิ่มอีกจำนวน 600 ชุด) อพยพประชาชนออกจากบ้านพักอาศัย จำนวน 73 ครัวเรือน พร้อมได้ทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ติดแม่น้ำป่าสักให้เฝ้า ระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่งเนื่องจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ระบายน้ำเป็น 800 ลบ.ม./วินาที่(วันที่ 17 ต.ค.53)

       2. อำเภอบ้านหมอ ในพื้นที่ตำบลบางโขมด หมู่ 2 น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรจำนวน 10 หลัง ระดับประมาณ 30 – 50 ซม. ตำบลบ้านครัว (ทต.ท่าลาน) หมู่ที่ 1 – 5 จำนวน 589 ครัวเรือน 2,189 คน น้ำคลองชัยนาท-ป่าสัก เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านพักอาศัย ช่วยเหลือเครื่องสูบน้ำ 2 เครื่อง เรือพลาสติค 50 ลำ

       3. อำเภอพระพุทธบาท ในพื้นที่ตำบลหนองแก หมู่ 1, 4, 5,6 และหมู่ 9 น้ำท่วมเส้นทางที่จะไปอำเภอหนองโดน และบ้านเรือนราษฏร รวม 171 ครัวเรือน 500 คน วัด 3 แห่ง ระดับน้ำประมาณ 100 – 120 ซม. สำหรับถนนสายพระพุทธบาท-หนองโดน รถเล็กผ่านไม่ได้

       4. อำเภอมวกเหล็ก ตำบลมวกเหล็ก หมู่ที่ 4,9,11 ห้วยมวกเหล็ก น้ำเอ่อล้นตลิ่ง น้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านพักอาศัย จำนวน 78 หลัง ตำบลมิตรภาพ หมู่ที่ 8 น้ำห้วยมวกเหล็กกัดเซาะคอสะพาน ข้ามไปบ้านหนองยาง ตำบลดงพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ชำรุดไม่สามารถข้ามไปมาได้

       5. อำเภอแก่งคอย เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและพื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ตำบลสองคอน หมู่ที่ 3,10,11 ตำบลหินซ้อน หมู่ที่ 1,3,4,8,9 ตำบลชำผักแพว หมู่ที่ 3,6,7,8,9 ตำบลชะอม หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยแห้ง หมู่ที่ 8,10 และตำบลทับกวาง หมู่ที่ 5,9

       6. อำเภอเมืองสระบุรี ตำบลตลิ่งชัน ตำบลตะกุด เทศบาลเมืองสระบุรี ตำบลนาโฉง ตำบลดาวเรือง หมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักได้รับผลกระทบต้องอพยพประชาชนออกจากบ้าน เรือนไปยังที่ปลอดภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ (ประสานขอรับการสนับสนุนเรือท้องแบนจาก หน่วยทหารในพื้นที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี) ตำบลหนองปลาไหล เกิดฝายกั้นน้ำวัดพระพุทธฉายพังทลาย น้ำท่วมบ้านเรือนในหมู่ที่ 3,4 ประชาชนอพยพออกจากบ้านโดยปลอดภัยแล้ว โดยได้รับความช่วยเหลือจาก กรมทหารม้าที่ 5

      /รักษาพระองค์......

     

      - 2 -

      รักษาพระองค์ นำกำลังทหารเข้าให้การช่วยเหลือ ตำบลกุดนกเปล้า หมู่ที่ 1,2,5,6,7,8 จำนวน 50 ครัวเรือนได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่ง แจ้งประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงแล้ว

       7. อำเภอเสาไห้ รวม 12 ตำบล ได้แก่ ตำบลงิ้วงาม ตำบลช้างไทยงาม ตำบลศาลาริไทย ตำบลท่าช้าง(อบต.ช้างไทยงาม) ตำบลบ้านยาง ตำบลเริงราง เทศบาลตำบลเมืองเก่า ตำบลต้นตาล ตำบลพระยาทด(ทต.ต้นตาล-พระยาทด) ตำบลม่วงงาม ตำบลหัวปลวก ผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรและบ้านพักอาศัย ของหมู่บ้านที่อยู่ติดกับแม่น้ำป่าสักต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือนไปยัง ที่ปลอดภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้ (ประสานขอรับการสนับสนุนเรือท้องแบนจาก หน่วยทหารในพื้นที่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 1 ปทุมธานี)

       8. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ตำบลห้วยบง หมู่ที่ 1 – 10 ตำบลเขาดินพัฒนา หมู่ที่ 1 – 7 และตำบลผึ้งรวง หมู่ที่ 2 เกิดน้ำท่วมขังจากสภาวะฝนตกหนัก คูคลอง ถนน ระบายน้ำไม่ทัน ประสานเครื่องสูบน้ำจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี และอบต.ทุกแห่งได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น

       9. ถนนสายหลัก ที่ได้รับผลกระทบ แขวงการทางสระบุรีได้ทำการติดตั้งป้ายเตือนผู้ใช้เส้นทางให้ระมัดระวัง และใช้หลักนำทางขาว-ดำ ทุกจุด ดังนี้

       1) ถนนพหลโยธิน กม.ที่ 94 ทางคู่ขนาน 2 ช่องจราจร ขาเข้า กทม.พื้นที่ตำบลห้วยทราย อ.หนองแค ระดับน้ำ 25 ซม. /กม.ที่ 98 - 99 (บายพาสพุทธฉาย) ระดับน้ำ 30 ซม. และกม.ที่ 103 หน้ารร.นานาชาติเซนต์จอนห์ ต.หนองยาว อ.เมืองสระบุรี ขาเข้า กทม. ระดับน้ำ 20 ซม./ กม.ที่ 113 (แยกห้วยบง อ.เฉลิมพระเกียรติ) ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรผ่านได้

       2) ถนนมิตรภาพ กม.ที่ 1 ขาเข้ากทม. (หน้า รพ.เกษมราษฏร์) ระดับน้ำ 20 ซม. และกม.ที่ 9 ตำบลตาลเดี่ยว ขาออก กทม. (หน้าบ.กรุงเทพโปรดิ้วซ์จำกัด) 1 ช่องจราจร ระดับน้ำ 15 ซม. การจราจรผ่านได้

       3) ถนนสายหินกอง-นครนายก(สาย 33 สุวรรณศร) กม.ที่ 102 ขาออก กทม. (ตำบลบ้านลำ อ.วิหารแดง) ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรผ่านได้

       4) ถนนบายพาสเมืองสระบุรี ทิศตะวันออก ช่วงตำบลกุดนกเปล้า ขาเข้า กทม. จำนวน 1.5 เลน ระดับน้ำ 20 ซม. การจราจรผ่านได้

       5) ถนนบายพาสเมืองสระบุรี ทิศตะวันตก(จุดแยกไปลพบุรี) กม.ที่ 103 น้ำท่วมเลนคู่ขนานขาเข้า กทม. รถผ่านไม่ได้จึงปิดสะพานข้ามไม่ให้รถผ่าน โดยรถที่มาจากลพบุรีให้ออกซ้ายไปกลับรถใต้สะพานต่างระดับมิตรภาพ กม.ที่ 106 เพื่อเข้ากทม.ต่อไป

       6) ถนนสาย 3020 สาย พระพุทธบาท-หนองโดน พื้นที่ตำบลหนองแก กม.ที่ 6 + 960 น้ำท่วมระดับประมาณ 20 ซม. การจราจรผ่านได้

       นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จังหวัดสระบุรี ปี 2553 แจ้งถึงชาวสระบุรีที่อยู่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมรับสถานการณ์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือผู้มีจิตศรัทธาประสงค์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ติดต่อร่วมให้การช่วยเหลือ บริจาคสิ่งของ ได้ที่ ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินถล่ม จังหวัดสระบุรี สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี โทรศัพท์/โทรสาร 0 3621 2238 หรือ ที่ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี โทรศัพท์ 08 1994 0827.

ขอบคุณที่มา
http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=117449
71  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:48:15 am


ขอบคุณภาพประกอบจาก http://www.krobkruakao.com

สระบุรี 17 ต.ค.-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เปิดประตูระบายน้ำลงแม่น้ำป่าสัก ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี และอำเภอท่าเรือ จ.อยุธยา อย่างหนัก

จากกรณีที่มีฝน ตกลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สูง จนต้องระบายน้ำออกทางท้ายเขื่อน ทำให้บ้านเรือนของประชาชนนับร้อยหลังคาเรือน ในหมู่ 1 ตำบลบ้านครัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ได้รับผลกระทบ

โดยน้ำในแม่น้ำป่าสักไหล ทะลักเข้าบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว จนขนสิ่งของหนีน้ำไม่ทัน เนื่องจากกระแสน้ำมีความแรง ขณะเดียวกันหน่วยงานราชการได้เร่งให้ความช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย

อย่าง ไรก็ตามคาดว่าเบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายเกือบ 200 หลังคาเรือนและหากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะต้องปล่อยน้ำลงท้ายเขื่อนอีก ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณพันกว่าหลังคาเรือน.

ทั้ง นี้จากการเปิดประตูเร่งระบายน้ำดังกล่าวก็ทำให้พื้นที่ใน อ. ท่าเรือของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องกลายเป็นเมืองบาดาลทันที น้ำ ส่งผลให้ นายอำเภอท่าเรือ  ต้องเร่งได้นำเรือท้องแบนและเรือพาสติก เข้ามารับส่งชาวบ้านออกจากบ้านไปทำงานและขนย้ายสิ่งของหนีน้ำเป็นการด่วน เช่นกัน

ซึ่งชาวบ้านต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยพบมาก่อนใน รอบ 15 ปี ที่ผ่านมา และได้มีการประเมินว่าระดับน้ำปีนี้จะสูงกว่าปี 38 ที่เคยประสบมาด้วย

ที่มา
http://news.mthai.com/general-news/90888.html
72  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:46:26 am
จังหวัดสระบุรีประกาศแจ้งเตือน...... “ให้ระมัดระวังน้ำท่วม” ฉบับที่ ๔ วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓
      นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี แจ้งกับประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรีมาว่า จังหวัดสระบุรี ได้มี ประกาศแจ้งเตือน เรื่อง “ให้ระมัดระวังน้ำท่วม” ในวันนี้ (๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๓) เนื่องจากมีปริมาณน้ำสะสมจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ ๑๓ – ๑๙ ตุลาคม ๒๕๕๓ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังและเอ่อล้นตลิ่งแม่น้ำป่าสักและลำห้วยสาขาในหลายพื้นที่ของจังหวัดสระบุรี จึงขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ระมัดระวังน้ำท่วม ดังนี้
๑.   ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสัก - เขื่อนป่าสักฯ จะเพิ่มปริมาณการระบายน้ำอัตรา 1,020 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักมีระดับเพิ่มสูงขึ้นอีก ๒๐ ซม. และจะยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งต่อไปอีก ๒ – ๓ วัน จึงขอให้ประชาชนผู้อยู่อาศัยบริเวณพื้นที่ตลอดริมแม่น้ำป่าสักขนย้ายสิ่งของมีค่าสำคัญขึ้นที่สูง โดยใช้กระสอบทรายวางปิดกั้นทางน้ำ ระวังเด็กเล็ก คนชราห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด  ให้ระมัดระวังไฟฟ้าซ๊อต เนื่องจากมีผู้ได้รับอันตรายจากไฟฟ้าซ๊อตและจมน้ำเสียชีวิต  ถ้าระดับน้ำขึ้นสูงให้แจ้งการไฟฟ้าตัดกระแสไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัย  และอพยพออกจากบ้านพักไปยังที่ปลอดภัยตามที่หน่วยงานทางราชการจัดไว้
                    ๒. หน่วยงานแจ้งเตือนให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ - อำเภอ ทุกอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง หอกระจายข่าวทุกหมู่บ้าน/ชุมชน สื่อมวลชนทุกแขนง ให้แจ้งประชาสัมพันธ์เตือนให้ประชาชนในทุกพื้นที่ทราบเรื่องระดับน้ำแม่น้ำ   ป่าสักจะเอ่อล้นตลิ่งเพิ่มระดับสูงขึ้น โดยให้แจ้งเป็นกรณีเร่งด่วนที่สุด
   ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี แจ้งอีกว่า ในส่วนของการประสานการดำเนินงานดูแลช่วยเหลือในระดับพื้นที่ ได้มอบหมายให้ผู้บริหารเทศบาลตำบล,เทศบาลเมืองฯ,องค์การบริหารส่วนตำบลในพื้นที่หากเกินขีดความสามารถให้ขอรับการสนับสนุนจากอำเภอ จังหวัด ตามลำดับ ซึ่งจังหวัดสระบุรีได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยจังหวัดสระบุรี อยู่ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระบุรี แจ้งความเดือดร้อน หรือประสานข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ ๐ ๓๖๒๑ ๒๒๓๘ , ๐ ๓๖๒๑ ๒๑๐๗  หรือที่ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี ๐๘ ๑๙๙๔ ๐๘๒๗ . 

สมพร มโนรัตน์ /ข่าว
ที่มา
www.prd.go.th/ewt_dl_link.php?nid=3159&filename=index
73  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:45:14 am
ที่บ้านหมอ ครับ


74  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:42:54 am
75  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:38:46 am
http://video.nationchannel.com/data/11/2010/10/16/86ag9gfaiBkhcdhBhiiBc.flv

กมลรัฐ(เสรี)สระบุรี

     

      น้ำท่วมทางเข้า ต.กุดนกเปล้า หน้า รพ.เกษมราษฎร์

     

      วันที่ 16 ตุลาคม จากที่ฝนตกหนักตลอดเวลา 2-3 วัน มานี้ ทำให้ มีน้ำท่วมเอ่อบนถนนหลายแห่งใน จ.สระบุรี ที่เห็นเป็นถนนสาย ปากทางเข้า รพ.เกษมราษฎร์ สระบุรี ทางไป ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี เป็น ถนนเทศบาล 6 เขตเทศบาลเมืองสระบุรี ติดกับถนนมิตรภาพ ถนนสายหลัก มีน้ำท่วมขังทางเข้า ต.กุดนกเปล้าเป็นระยะทาง กว่า 200 เมตร รถเล็กวิ่งเข้าออกลำบาก และน้ำยังท่วมบนถนนมิตรภาพ หน้า รพ.เกษมราษฎร์ เส้นคู่ขนาน เป็นระยะทางยาวกว่า 400 เมตร

     

      ตลอดเวลาก็ยังมีฝนตกลงมา หนักบ้าง เบาบ้าง ท้องฟ้ายังมืดด้วยเมฆฝน คงต้องปล่อยให้น้ำไหลผ่านลดระดับลงเอง เพราะยังไม่มีหนทางที่จะระบายน้ำออกทางใด และหากฝนยังตกอยู่อย่างนีค้ก็น่าเป็นห่วง การสัญจรในเส้นทางนี้

ที่มา

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=117226
76  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:37:16 am
เส้นทางน้ำท่วม ในเขต สระบุรี และ ลพบุรี


ที่มา
http://hilight.kapook.com/view/52934
77  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / Re: สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:23:07 am
ความช่วยเหลือของ อบจ.สระบุรี







อบจ.สระบุรีให้ความช่วยเหลือแล้วครับ โดยภายใต้การนำของนายถาวร พรหมมีิชัย
78  เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / สถานการณ์น้ำท่วม ของสระบุรี เมื่อ: ตุลาคม 22, 2010, 08:19:17 am
จากระดับน้ำที่มาจาก 3 สาย คือ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ คลองระพีพัฒน์ และ ลพบุรี นั้น

ขณะนี้ทางราชการได้ประกาศว่าระดับน้ำจากเขื่อนต้องปล่อยไปเรื่อย ๆ จนถึง 24 ต.ค. 2553

ระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นวันละ 20 - 30 ซม.ต่อวัน เพราะน้ำทะเลจะหนุน 24 - 27 ต.ค.2553

ถ้าฝนไม่ตกหนักเพิ่มขึ้นอีก สถานการณ์น่าจะดีขึ้น ตั้งแต่ 28 ต.ค.2553 เป็นต้นไป

ตอนนี้ได้มีการช่วยเหลือ ของหน่วยงานราชการต่างๆ แต่บางจุดอาจจะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือ

ก็ขอให้พี่น้อง ที่ประสพภัยเข้าแจ้งขอความช่วยเหลือ

ในส่วนของเทศบาลเมือง ที่อยู่ในเมืองประสพกับความเดือดร้อนโดยตรงก็มีชุมชนวัดเขาครูบา วัดดาวเสด็จ

วัดป่าสัก ตามจุดต่าง ๆนั้นก็มีเต็นท์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสพภัยแล้ว แต่ยังขาดสิ่งอุปโภค บริโภค

จึงขอแจ้งให้เพื่อนสมาชิกที่อยู่จังหวัดสระบุรี ร่วมบริจาคกันได้ที่ศูนย์อำนวยการกันได้เลย นะครับ

 :25: :25: :25:
79  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / อ่านพระสูตร หลาย ๆ รอบ ถ้าเราไม่ใช่พระอริยะจริง ๆ ตีความผิดได้ เมื่อ: ตุลาคม 13, 2010, 07:13:30 pm
       ดูกรภิกษุทั้งหลาย

        รูปเป็นอนัตตา ถ้ารูปนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว รูปนี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะรูปเป็นอนัตตา ฉะนั้น รูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

        เวทนาเป็นอนัตตา ถ้าเวทนานี้จักไปนอัตตาแล้ว เวทนานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในเวทนาว่า เวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะเวทนาเป็นอนัตตา ฉะนั้น เวทนาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในเวทนาว่ เวทนาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด เวทนาของเราจงอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

        สัญญาเป็นอนัตตา ถ้า สัญญานี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว สัญญานี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสัญญาว่า สัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะสัญญาเป็นอนัตตา ฉะนั้น สัญญาจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในสัญญาว่า สัญญาของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

        สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา ถ้าสังขารนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว สังขารเหล่านี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในสังขารทั้งหลายว่า สังขารทั้หลายของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะสังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา ฉะนั้น สังขารทั้งหลายจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด สังขารของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

        วิญญาณเป็นอนัตตา ถ้าวิญญาณนี้จักได้เป็นอัตตาแล้ว วิญญาณเหล่านี้ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลพึงได้ในวิญญาณว่า วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย ภิกษุทั้งหลาย ก็เพราะวิญญาณเป็นอนัตตา ฉะนั้น วิญญาณจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อม ไม่ได้ในวิญญาณว่า วิญญาณของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด วิญญาณของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย

        พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

รูปเที่ยงหรือไม่เที่ยง

        พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
        ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
        ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

เวทนาเที่ยงหรือไม่เที่ยง

        พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
        ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
        ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

สัญญาเที่ยงหรือไม่เที่ยง

        พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
        ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
        ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

สังขารทั้งหลายเที่ยงหรือไม่เที่ยง

        พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
        ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความ
        แปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นของเรา นั่นเป็นตนของเรา
        ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาดาตรัสถามว่า ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอสำคัญความข้อนี้เป็นไฉน

วิญญาณเที่ยงหรือไม่เที่ยง

        พระปัญจวัคคีย์ทูลว่า ไม่เที่ยงพระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์หรือเป็นสุขเล่า
        ปัญจวัคคีย์ เป็นทุกข์พระพุทธเจ้าข้า
        พระบรมศาสดา ก็สิ่งใดไม่เที่ยง เป็นทุกข์ มีความแปรปรวนไปเป็นธรรมดา ควรหรือที่จะตามเห็นสิ่งนั้นว่า นั่นของเรา นั่นเป็นเรา นั่นเป็นตนของเรา
        ปัญจวัคคีย์ ข้อนั้นไม่ควรเลยพระพุทธเจ้าข้า


ช่วงนี้เป็นช่วงทบทวน ความรู้ อารมณ์ การเห็นตามเป็นจริง ของพระโสดาบัน



        พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแล
รูปอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่ารูปเธอทั้งหลายพึงพิจารณารูปนั้นด้วยปัญญาอันชอบตาม เป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

        เวทนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็ตแต่สักว่าเวทนา เธอทั้งหลายพึงพิจารณาเวทนานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

        สัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าสัญญา เธอทั้งหลายพึงพิจารณาสัญญานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

        สังขารทั้งหลายอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าสังขาร เธอทั้งหลายพึงพิจารณาสังขารนั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

        วิญญาณอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เป็นอดีต อนาคต และปัจจุบัน ภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีต ไกลหรือใกล้ ทั้งหมดก็เป็นแต่สักว่าวิญญาณ เธอทั้งหลายพึงพิจารณาวิญญานั้นด้วยปัญญาอันชอบตามเป็นจริงอย่างนี้ว่า นั่นไม่ใช่ของเรา นั่นไม่เป็นเรา นั่นไม่ใช่ตนของเรา

        ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้ฟัง ได้พิจารณาอยู่อย่างนี้แล้ว ย่อมเบื่อหน่ายแม้ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมสิ้นกำหนัด เพราะสิ้นกำหนัดจิตก็พ้น เมื่อจิตพ้นแล้ว อริยสาวกนั้นก็ทราบชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี

        พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระสูตรนี้แล้ว พระปัญจวัคคีย์มีใจยินดี ในภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าจบไวยากรณภาษิตนี้ จิตของปัญจวัคคีย์พ้นแล้วจากอาสวะทั้งหลาย เพราะไม่ถือมั่น ภิกษุ ปัญจวัคคีย์ทั้งหมดดำรงอยู่ในพระอรหัต


ในส่วนสำคัญของอนัตตลักขณสูตร อยู่ช่วงนี้เพราะว่าเป็นช่วงที่ทำให้เกิดพระอรหันต์


ท่านผู้อ่าน ๆ พระไตรปิฏ ดีกว่านะครับ เพราะไม่ต้องปฏิรูปอะไรทั้งนั้นอยู่แล้ว แต่อ่านหลาย ๆ รอบหน่อย
80  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / แปลมั่วอีกแล้ว กับความหมาย อนัตตา เมื่อ: ตุลาคม 13, 2010, 07:07:56 pm
อ้างถึง
ไปบอกว่า นิพพานเป็นอนัตตา แล้วเราจะไปนิพพานหาพระแสงอะไรล่ะ เพราะมันก็ยังทุกข์ และเกิดแก่เจ็บตายอยู่  แล้วคำนิยาม อัตตา  ของพระพุทธเจ้าในอนัตตลักขณะสูตร ก็ชัดเจ้นอยู่แล้วว่า อัตตา = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา = ไม่เกิด ไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตาย = อสังขตธาตุ(นิพพาน) 

ยกเอามากล่าวไปเรื่อย เฉพาะตัวผมเอง ยังไม่เคยได้ยินว่า พระรูปไหนที่อยู่ผมรู้จัก พูดว่า นิพพาน เป็นอนัตตา

อ้างถึง
แล้วเราจะไปนิพพานหาพระแสงอะไรล่ะ
ใช้วาจาเถื่อนจัง ( สงสัยจะสะใจที่ได้พูดอย่างนี้ )

นิพพาน ในคัมภีร์พระอภิธรรมให้ความหมายไว้ 28 ประการ
ไปอ่านเสียหน่อยนะ
นั่นคือเป้าหมายของนิพพานทั้งหมด

อ้างถึง
อัตตา = สิ่งที่เที่ยง ไม่ทุกข์ ไม่แปรปรวนเป็นธรรมดา
อันนี้ก็แปลผิดอีก จึงให้ความหมายผิด

อัตตา แปลโดยอรรถ ว่า ตัวตน ตัวเรา ของเรา  ตัวตนของเรา

เป็นตนของเรา ( หลวงพ่อพุทธทาสใช้คำว่า ตัวกู ของกู )

อนัตตา แปลโดยอรรถว่า  ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนของเรา



ินิจจัง อันนี้ถึงจะแปลเที่ยง หรือมีอยู่เป็นนิตย์  ไม่เปลี่ยนสภาพ

อนิจจัง อันนี้ถึงจะแปลว่า ไม่เที่ยง ไม่คงอยู่ ไม่ทนสภาพ แปรปรวน

คุณแปลวผิดให้ความหมายผิด พระไตรปิฏก อย่าเพียงอ่านข้อความภาษาไทยเท่านั้น


อ้างถึง
ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าพูดถึงสิ่งที่เป็นอนัตตา คือ ขันธ์ 5

นี่ก็ด่วนสรุปอีกแล้ว ว่าพระพุทธเจ้าสอนสิ่งที่เป็นอนัตตาที่ขันธ์ 5 เท่านั้น

ในอาพาธสูตร หรือ คิลิมานันทสูตร

พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ว่า อนิจจสัญญา ยกอารมณ์ ขันธ์ ว่าเป็นอนิจจัง องค์กรรมฐานที่ ขันธ์ 5 มีเท่านี้

   ส่วน อนัตตสัญญา พระองค์ระบุลงไปที่ อายตนะ ภายใน กับ ภายนอก กระทบกัน ให้มองเห็นอนัตตา

อ้างถึง
ปฎิรูปพุทธศาสนาไม่ต้องแก้พระไตรปิฎก  แต่ต้องแก้คนตีความพระไตรปิฎก

อันนี้ผมเห็นด้วยว่า ควรจะเป็นอย่างนั้น

 แต่ถ้าเป็นคุณ ความสามารถยังไม่พอ ยังมีอคติกับเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่แน่นอนที่สุด คือคุณไม่มี

ญาณจริง ๆ อย่างที่คุณโพทะนาไว้่



 จากส่วนนี้





หน้า: 1 [2] 3 4