อ้างถึง
คุณตามผมมา ในทุกขณะ ก็ดูที่จิตของคุณขณะนั้นไปด้วย แล้วคุณจะรู้ จิตคุณตอนนี้สกปรกเพราะกิเลสตัณหาทิฏฐิฯลฯ มันมาบดบัง แต่เดิมจิตคุณนั้นหาได้สกปรกไม่
เมื่อบรรยายผิด ให้ความหมายผิด ก็ต้องทักท้วง ส่วนจิตผมจะสะอาด หรือ สกปรก มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของผม
คุณไม่ต้องมาเดือดร้อนอะไรกับผมหรอกครับ คุณมาำทำหน้าที่ตอบในสิ่งที่ผมถาม คุณไม่ตอบก็ได้ ผมยังไม่ได้
กล่าวว่าอะไรคุณสักคำ และผมก็ไม่เตือนคุณด้วย เพราะผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของปุจฉา และ วิสัสชนา
มาสนทนาธรรม เป็นเพื่อนแล้ว ก็อย่า วอแว ให้มาก ถือว่าเป็นการขัดเกลา กิเลสไปด้วยในตัวนะครับ
อ้างถึง
จิตปภัสสร = ภวังคจิตบริสุทธิ์ = ภวังคจิต ไม่มีโลภะ โทสะ และโมหะ = นิพพานธาตุ(จิต) นี่แหละที่ผมบอกว่า
ปภัสสร แปลว่า ประภัสสร ไม่ได้แปลว่า จิตที่บริสุทธิ์ พระพุทธเจ้าตรัสว่าจิต เป็น ประภัสสร ไม่ใช่จิตบริสุทธิ์
ปภัสสร มาจาก สนธิศัพท์ สอง คำ คือว่า ปภา + ภัสสะระ =ปภัสสะระ แปลว่า จิตที่สร้านออก
ปภัสสร ถ้าจะแปลต้องแปล่า ยกศัพท์ จิตตัง อันว่า จิต ปภัสสะระ สร้านออกแล้ว หรือ แปลโดยอรรถว่า
จิต ที่สร้านออก
สร้านออก ด้วยอะไร ด้วย ราคะ ด้วย โทสะ ด้วย โมหะ ดังนั้นจิตของคนเป็น ปภัสสร อย่างนี้
จิต ที่ประภัสสร ไม่ใช่ แปลว่า จิตที่บริสุทธิ์ หรือ จิต ที่เป็นนิพพาน
เพราะอะไร ?
สมมุติ เด็ก เกิดมาในวันแรก ก็ถือว่า จิต ประภัสสร แล้ว แม้ตายในขณะนั้น ถามว่า ต้อง จุติ อีกหรือ ไม่
คำตอบก็คือ ต้องจุติ อีก เพราะยังไม่นิพพาน
ขอให้เข้าใจ ด้วย ว่าการแสดงธรรม รู้ธรรมของคุณ ยังไม่ถูกต้อง
ผู้บรรลุธรรม ไม่ได้มีคุณเพียงผู้เดียว
ดังนั้นอย่าให้ความหมาย ว่า จิตประภัสสร เป็น จิตนิพพาน อีก หรือ เทียบว่า
ปภัสสะระ จิตตัง = นิพพานัง ( แปล และ ให้ความหมาย ไม่ถูก )
ย้ำ จิตปภัสสร ไม่ใช่ จิตนิพพาน