ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - ธัมมะวังโส
หน้า: 1 ... 122 123 [124] 125 126 ... 132
4921  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: พระสัทธรรมปฏิรูป คืออะไร เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 07:26:37 am
พระสัทธรรมปฏิรูป คืออะไร ?


 อันนี้ หมายถึงการบิดเบือนแนวคิดใหม่ลงไปในคำสอนของพระพุทธเจ้า เช่นการรวมศาสนา หรือ ตั้งตนเป็น

ศาสดา หรือ นิกายลัทธิ ใหม่ภายใต้ พระพุทธศาสนา โดยใช้หลักคำสอนผสมผสานกับแนวคิดของตนเอง

ก่อเกิดปฏิรูป เป็นแบบแผนใหม่ หรืออาจจะปฏิวัติ หลักคำสอนใหม่ โดยคำสอนนั้น เป็นไปเพื่อ ลาภ สักการะ

ยศ สรรเสริญ ซึ่งการทำอย่างนี้ย่อมทำให้พระพุทธศาสนา เสื่อมได้ไว

  ฝ่ายหินยาน เถรวาท จึงรักษาแบบแผน ยึด พระธรรม และ วินัย สองอย่างเป็น พระศาสดา

  ซึ่งปัจจุบัน ก็มีการบิดเบือน คำสอนกันมาก บางท่านกล่าวตู่คำสอนพระพุทธองค์ เป็นของตน กล่าวของตนเป็น

ของพระพุทธองค์ เห็นพุทธบริษัทเพียงฝั่งเดียว  ไม่มีครบทั้ง 3 บริษัท ( เนื่องด้วยพระพุทธทรงยกเลิกพระ

ภิกษุณีก่อนปรินิพพาน ) พุทธบริษัทตามพระดำรัสให้คงไว้แค่ 3 บริษัท คือ ภิกษุ อุบาสก และ อุบาสิกา


   ยกตัวอย่าง สันติภาพโลก คือ พระพุทธศาสนา เราอาจจะคล้อยตามว่าความสงบสุขของโลก เป็นธรรม

แท้ที่จริง

   พระพุทธเจ้า สอนให้เราละจากโลก ไม่กลับมาที่โลกอีก คือการไม่กลับมาเกิดไม่ใช่ สันติภาพโลก เป็น

พระพุทธศาสนา นิพพานัง ปะระมัง สุขัง นิพพานเป็นบรมสุข นั่นก็คือ นิพพานไม่ใช่สภาวะด้านนอก


นิพพานเป็นสภาวะด้านใน

    ชนทั้งหลายมองความสุข อันเกิดจากปัจจัยภายนอก มองความสงบภายนอกที่สงบเป็นสุข

ความไม่สงบเช่นนี้ไม่ใช่ของจริง เพราะกลับมาไม่สงบได้

    แต่นิพพาน เป็นปัจจัยภายใน ไม่ใช่เกิดจากปัจจัยภายนอก เหนือกว่า นิรามิสสุข เพราะว่างเว้นจากเรา

จา่กของ ๆ เรา จากตัว จากตนของเรา เป็นเบื้องต้น


  วิสัชชนาไว้แต่เพียงเท่านี้

   เจริญพร

  ;)




Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4922  เรื่องทั่วไป / สอบถามปัญหาชีวิต เปิดใจคุยกัน / Re: ถ้าเรามีชีวิตอยู่ได้ไ่ม่เกิน เดือน คุณอยากทำอะไร ? เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 07:12:51 am
ควรแก่การอนุโมทนา ด้วยถึงความไม่ประมาท เป็นปัจจุบัน
 
   พระโสดาบัน ระลึกได้วันละครั้ง
 
   พระอริยะบุคคลขั้นสูง ระลึกได้ตลอดเวลา
 
   ยิ่งระลึกได้มาก ก็ยิ่งเป็นบุญกุศล เพราะตั้งอยู่บนความไม่ประมาท
 
     พระอาจารย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมคนใกล้ตาย หรือ จะตาย หลายท่าน ส่วนใหญ่จะระลึกถึงความตายไม่ได้
 
    เพราะเกรงกลัว ต่อความตาย จึงพยายามที่จะมีีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวกัน
 
    สำหรับผู้ภาวนาที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ระลึกถึงความตายได้แล้ว ไม่เกรงกลัวต่อความตาย แต่จักใช้เวลา
 
    ที่เหลืออยู่เพื่อการภาวนา สังสารวัฏฏ์นี้เป็นทุกข์ การเกิดทุกคราวเป็นทุกข์ร่ำไป ความสิ้นสุดแห่งทุกข์คือการ
 
    ไม่กลับมาเกิด พึงหายใจเข้า ออก เพื่อพระนิพพาน
 
    ไม่ต้องเข้าใจว่า  นิพพาน คืออะไร พึงอะไรอธิษฐาน ชีวิตนี้ จิตนี้ เพื่อพระนิพพาน และหน่วงพระนิพพาน
 
  ไว้ เป็นลมหายใจเข้า และ ออก พึงใช้เวลากับกาลนี้เถิด
 
    ในโลกนี้ไม่มีใคร ไม่ตาย ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล และบัณฑิต ทุกคนล้วนสู่ความตาย
 
    จะตายเร็ว หรือ ตายช้า ก็จักต้องตาย
 
    เมื่อกำหนดจิต หน่วงพระนิพพานแล้ว
 
     พึงกำหนดไปในกายว่า กายนี้ สักว่ากายนี้ เบื้องบนตั้งแต่ศรีษะลงไป เบื้องต่ำตั้งปลายเท้าขึ้นมา
 
   มีหนังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ มีผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ กระดูก เป็นต้น เราพึงกำหนดความเสื่อมอันเกิด
 
   ขึ้นจากกาย
 
       กายทั้งหมด นี้เป็นของไม่เที่ยง ตั้งอยู่ไม่ได้ มีความแ่ก่ ความเจ็บ ความชรา และ ความตายเป็นที่สุด
 
       กายทั้งหมด นี้เป็นทุกข์ เพราะทนอยู่ไม่ได้
 
       ให้กำหนดจิตไปอย่างนี้ จนกระทั่ง จิตเห็น ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์จริง ก็จักมองเห็น ขั้นตอนนี้ต่อไป
 
    ขั้นตอนนี้ จิตจักเห็นโทษในกาย
 
     บุญเข้ามา จิตผ่องใส มีความสว่างเกิดขึ้นในจิต แสดงว่าสร้างผลกรรมฝั่งบวกมาก จิตนี้ดีเป็นกุศล
 
    มีผลเบื่องต้น คือ มนุษย์ ขึ้นไป
 
     บาปเข้ามา จิตหดหู่ ดำมืด แสดงว่าสร้างผลกรรมฝั่งลบมาก จิตนี้ไม่ดีไม่เป็นกุศล มีผลไปในอบายภูมิ 4
 
     เมื่อบุญเข้ามากใจผ่องใส คุณธรรมเกิดจากกุศล พึงภาวนาต่อไปว่า บุญย่อมทำให้เราติดอยู่โลกและ
 
 สังสารวัฏฏ์ เมื่อตายแล้วก็กลับมาทุกข์อย่างนี้อีก ให้อธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าชี้นำทาง การไม่กลับมาเกิด
 
 ( ถึงตรงนี้แล้วค่อย ติดต่อกลับมา )
 
    เมื่อบาปเข้ามา รู้ตัวแล้วมีอบายภูมิ รออยู่ หากบาปนั้นไม่เป็นอนันตริยกรรม ไม่ต้องทุกข์หรือร้อนใจไป
 
 ให้ภาวนาต่อไป ข้าพเจ้าจักไปนิพพาน ข้าพเจ้าจักไปนิพพาน จนออกจากการภาวนา เร่งทำกุศลให้ถึงพร้อม
 
 เพิ่มเติม รีบขวนขวายบุญเสบียงโดยไว อย่ารอช้า เริ่มที่การภาวนา พุทโธ ให้มากขึ้น สร้างบุญทางใจ และ
 
 สร้างบุญทางกายด้วย และหมั่นภาวนาจนใจเห้นสว่างแล้ว ( ก็ค่อยมาคุยกันใหม่นะ )
 
 
    อย่ารอช้า อย่ารอท่า อย่ารออะไร รู้ตัวแล้วรีบขวนขวายเถิด
 
   เจริญพร
 
  ;)
4923  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 06:52:52 am
เคล็ดเพิ่มเติม บางท่านยังไม่เข้าใจ

  พระลักษณะ เกิดขึ้นที่ กาย กระทบ จิต

  พระรัศมี เกิดขึ้นที่ จิต กระทบ กาย ชัดแจ่มแจ้งที่ อายตะทั้ง 6 รุ่งเรืองที่ อายตนะทั้ง 6

        เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับไป ที่อายตนะ ทั้ง 6 ชัดแจ่มแจ้ง ที่ อายตนะเดียว

เจริญพรไว้แต่เพียงเท่านี้

 ;)
4924  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถ้าเราปฏิบัติ พระกรรมฐาน โดยไม่อธิษฐาน กรรมฐาน ได้หรือป่าวคะ เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 06:49:34 am
สำหรับศิษย์ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ทุกท่าน

การปฏิบัติ กรรมฐาน โดยการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนพระกรรมฐานนั้น เป็นปรามาสพระอาจารย์ผู้บอกกรรมฐาน

( คำตอบชัดเจนแล้ว ทั้งหมดอยู่ที่ท่านใช้ปัญญามากเกินไป พึงสังวรไว้ว่า ขั้นตอนไม่ใช่ประเพณี แต่เป็นสิ่งจำเป็น )

เหมือนคนทานข้าว วิธีทานข้าว มีวิธีมากมาย เช่นเปิปด้วยมือ เปิบด้วยช้อน เป็นต้น

หวังว่าท่านทั้งหลาย พึงเข้าใจ

  คนที่คิดว่า ไม่จำเป็น ส่วนใหญ่ก็จะภาวนาไม่ได้ เพราะขาดศรัทธาในพระกรรมฐาน ใช้ปัญญามาก

 ปัญญาในทางพระพุทธศาสนานั้น วัดที่ตรงไหน

    1.ท่านเข้าใจอะไรในสังสารวัฏฏ์
     
        ( โทษของสังสารวัฏฏ์ คือ ความทุกข์ ความสุข ความไม่สุขไม่ทุกข์ )

    2.ท่านจะทำอย่างไรในการออกจากสังสารวัฏฏ์
   
        ( นิพพิทา คือความหน่าย ต่อ สังสารวัฏฏ์ การเกิดขึ้นอีกเป็นทุกข์ ร่ำไป )
             
    3.ท่านจะเริ่มต้นที่ไหนในการออกจากสังสารวัฏฏ์
 
        ( ทั้งหมดเริ่ม ที่ขันธ์ 5 ของเรา ไม่ใช่ของใคร )

    4.ท่านศรัทธาอย่างไรในการดำเนินอริยมรรค

        ( ควรเชื่อมั่น ต่อ พระรัตนตรัย มี พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ )
     
  เจริญพร แต่เพียงเท่านี้

 ;)
4925  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไมเวลา ปฎิบัติกรรมฐาน กับพระอาจารย์ ทำไมทำได้ง่าย เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 06:39:21 am
กราบขอขมาพระรัตนตรัย ทุกครัี้งที่ภาวนา

ขอบารมีพระพุทธเจ้า ทุกครั้งที่ภาวนา

ถวายเป็นพุทธบูชา  ทุกครั้งที่ภาวนา

ภาวนาสัมปยุต ทุกครัี้งที่ภาวนา

อย่าลืมขั้นตอน ทุกครั้งที่ภาวนา

ปฏิบัติตามขั้นตอน ทุกครั้งที่ภาวนา

แผ่เมตตา  ทุกครั้งที่ภาวนา

กราบลาพระกรรมฐาน ทุกครั้งที่ภาวนา

( พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆเจ้า พระกรรมฐาน พระอาจาย์ผู้บอกกรรมฐาน )

เจริญพร

 ;)
4926  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไม คำขึ้นพระกรรมฐาน แต่ละที่ จึงไม่เหมือนกัน เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 06:35:14 am
"ชนทั้งหลาย ส่วนใหญ่ มักจะเห็นว่า

 พิธีการ และ วัฒนธรรม ของพระอริยะ นั้นเหมือน วัฒนธรรม ของปุถุชน


วงศ์แห่ง พุทธะ ย่อมไม่ทิ้ง วัฒนธรรม ของพระอริยะ"

ธัมมคารวาทิคาถา

(หันทะ มะยัง ธัมมะคาระวาทิคาถาโย ภะณามะ เส)

เชิญเถิด เราทั้งหลาย จงกล่าวคาถาแสดงความเคารพพระธรรมเถิด

เย จะ อะตีตา สัมพุทธา เย จะ พุทธา อะนาคะตา,
โย เจตะระหิ สัมพุทโธ พะหุนนัง โสกะนาสะโน

พระพุทธเจ้าบรรดาที่ล่วงไปแล้วด้วย, ที่ยังไม่มาตรัสรู้ด้วย,
และพระพุทธเจ้าผู้ขจัดโศกของมหาชนในกาลบัดนี้ด้วย


สัพเพ สัทธัมมะคะรุโน วิหะริงสุ วิหาติ จะ
อะถาปิ วิหะริสสันติ เอสา พุทธานะ ธัมมะตา


พระพุทธเจ้าทั้งปวงนั้นทุกพระองค์เคารพพระธรรม,
ได้เป็นมาแล้วด้วย
กำลังเป็นอยู่ด้วย,
 และจักเป็นด้วย,
เพราะธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นเช่นนั้นเอง


ตัส๎มา หิ อัตตะกาเมนะ มะหัตตะมะภิกังขะตา
สัทธัมโม คะรุกาตัพโพ สะรัง พุทธานะ สาสะนัง


เพราะฉะนั้น, บุคคลผู้รักตน, หวังอยู่เฉพาะคุณเบื้องสูง,
เมื่อระลึกได้ถึงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่, จงทำความเคารพพระธรรม


นะ หิ ธัมโม อะธัมโม จะ อุโภ สะมะวิปากิโน


ธรรมและอธรรมจะมีผลเหมือนกันทั้งสองอย่างหามิได้


อะธัมโม นิระยัง เนติ ธัมโม ปาเปติ สุคะติง


อธรรมย่อมนำไปนรก, ธรรมย่อมนำให้ถึงสุคติ


ธัมโม หะเว รักขะติ ธัมมะจาริง


ธรรมแหละย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรมเป็นนิตย์


ธัมโม สุจิณโณ สุขะมาวะหาติ


ธรรมที่ประพฤติดีแล้วย่อมนำสุขมาให้ตน


เอสานิสังโส ธัมเม สุจิณเณ


นี่เป็นอานิสงส์ในธรรมที่ตนประพฤติดีแล้ว


เจริญพร

 ;)


4927  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ถามเรื่องการเดินจงกรม คะ เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 06:33:08 am
การเดินจงกรม ไม่ใช่เรื่องลึกลับ สำหรับศิษย์กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับตัวจริง

ดังนั้น การฝึกเดินย่อมทำให้เกิดอานิสงค์ ในการภาวนา ธรรมะของพระพุทธเจ้า

ไม่ใช่เรื่องลึกลับ ก็อนุญาติ โพสต์เีพียงขั้นที่ 1 เท่านั้น นะจ๊ะ

 หลักการเดินจงกรมธาตุ 4


    เข้าถึงธาตุในธรรมปีติ บ่อเกิดแห่งพระพุทธคุณ ทั้งหมด


    ดิน ได้แก่ ความมั่นคง

    ไฟ ได้แก่ การยกขึ้น

    ลม ได้แก่ การเคลื่อนไป

    น้ำ  ได้แก่ การลง

   การเดินจงกรมธาตุ มี  6 ขั้น ตามภูมิดังนี้

          จตุธาตุววัตถานธาตุ  ( ธาตุจตุรภูติ ) ขรัวตา  และพระอาจารย์ของพระอาจารย์ เรียกว่า รูปธาตุ เป็นโลกียะสมาธิ

          ปัญจมะธาุตุ  ( ธาตุอรูป ) ขรัวตา และพระอาจารย์ของพระอาจารย์  เรียกว่า อรูปธาตุ เป็นโลกียะสมาธิ

          อายตนะธาตุ  ( ธาตุสมาบัติ ) เป็นโลกียะสมาธิ และ โลกุตตระสมาธิ

          โพชฌงคธาตุ  ( ธาตุพระอริยะ ) เป็นโลกุตตระสมาธิ

          อริยะธาตุ  ( ธาตุพระอรหันต์ ) เป็นโลกุตตระสมาธิ

          นวโลกุตรธาตุ ( ธาตุโลกอุดร )  ขรัวตา  และพระอาจารย์ของพระอาจารย์

เรียกว่า ปรมัตถสมาบัติ เป็นโลกุตตระสมาธิ
     
    ในที่นี้จักเปิดเผยเพียง ธาตุจตุรภูติ เท่านั้น

      ขั้นตอนการฝึก

      1. กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย

      2. กล่าวคำอธิษฐาน การเดินจงกรม

      3. กำหนดระยะเดินไปกลับ 25 ก้าว ( ไปกลับ 1 รอบ = 50 ก้าว )

         โปรดอย่าหมิ่นพระอาจารย์ เดินไปกลับใช้เวลาถึง 1 ชม. กว่า ๆ
         
         สำหรับผู้ฝึกใหม่ กำหนดให้ทันธาตุก่อน ไม่ต้องหวังผลอย่างพระอาจารย์

      4. กำหนดท่ายืน อยู่กับที่ ภาวนาว่า ปฐวี

      5. เมื่อเริ่มยกปลายเท้าขึ้น ภาวนาว่า เตโช

      6.เมื่อเคลื่อนฝ่าเท้าไปข้างหน้า ภาวนาว่า วาโย

      7. เมื่อปลายฝ่าเท้าเริ่มลงเพื่อสัมผัสพื้น ภาวนาว่า อาโป

       การบิดหมุนตัวกลับ ก็ภาวนาเช่นเดียวกัน

     ในการกำหนดนั้น หัวใจไม่ได้กำหนดเรื่อง อิริยาบถ กำหนดเพียง คุณ แห่งธาตุเท่านั้น

   ชีวิตดำเนินได้ด้วยคุณแห่ง ธาตุ


    หลังจากเดินไปกลับ ตามความพอใจแล้ว ให้กำหนดปฐวี ยืนนิ่ง ด้วยการหลับตา

       ใช้ความรู้สึกเมื่อหลับตานั้น สังเกตุ ดังนี้

       1.เมื่อยืนอยู่ กายยังโคลง อยู่หรือป่าว

       2.ลักษณะแห่งปีติเกิดขี้นอย่างไร

       3.จิตรวมอยู่ที่ไหน

      เบื้องต้นเพียง 3 ประการ 

      การทดสอบสมาธิ หลังเดินจงกรม ( ส่วนใหญ่จะไม่ทดสอบ เพราะจะกลับไปนั่งภาวนาพุทธานุสสติต่อ )

     สำหรับผู้ที่ต้องการพิสูจน์ พลังจิต หลังจากเดินจงกรม ควรจะเห็นความเปลี่ยนแปลงภายใน 7 วัน

     กำหนดยืนในลักษณะเดิม แต่ เดินโดยใช้ ตา ภายใน ( หลับตาเดิน ) กำหนดไปรอบเดียว

        ผลถ้าผู้ฝึก จิตตั้งมั่นแล้ว จักเดินได้ดังนี้


        1.มีความอาจหาญในการเดิน

        2.การเดินไม่โยกโคลง

        3.เดินได้ตรง ไม่เป๋ไป เป๋มา ( เหมือนปู )

     หัวใจขั้นนี้อยู่ที่ คุณของ จตุรภูติ

        คือ   มั่นคงเป็น ดิน  ยกขึ้นเป็น ไฟ  เคลื่อนไป คือ ลม  หยั่งลง เป็น น้ำ

     วิสัชชนาไว้เพียงเท่านี้


     เจริญพร

      ;)             
Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4928  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๒๕-๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: กันยายน 24, 2010, 10:37:03 am


พรุ่งนี้แล้วนะ
4929  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไม คำขึ้นพระกรรมฐาน แต่ละที่ จึงไม่เหมือนกัน เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 09:31:23 am
คำตอบเรื่องนี้ ยาว มาก ๆ เอาสั้นก่อนนะ

   คือ เรา ฟัง เรียน และ ภาวนา ก็จะได้คำตอบ

     หลักธรรม ของพระพุทธองค์ นั้นใช้เวลาปฏิบัติจริง ที่ความเพียรจริง ไม่เิกิน 7 ปี นะจ๊ะ ตามหลักมหาสติปัฏฐาน ก็เป็นอย่างนั้น

   ถ้าเราปฏิบัติ เกิน 7 ปี ยังไม่ได้เป็นพระโสดาบันเลย ก็โปรดทบทวน การภาวนาได้ใหม่

ว่า เกิดการบกพร่อง ตรงส่วนไหน เราเองจักเข้าใจ ไม่มีใครเข้าใจ นอกจากตัวเรา เพราะเราเองเป็นผู้ภาวนา

เจริญพร สั้น ๆ เท่านี้ก่อนนะ

 ;)
4930  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไม คำขึ้นพระกรรมฐาน แต่ละที่ จึงไม่เหมือนกัน เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 09:23:48 am
อ้างถึง
มีวิธีการใด ที่เราจะทราบ ว่าผู้ที่บอก เรานั้น รู้ จริง หรือ หลอก เรา

       โดยเฉพาะเรื่อง กรรมฐาน นี้แต่ละ สำนัก แต่ ละที่ ก็อ้างว่าเป็นของพระพุทธเจ้า สอน คะ

ทั้งยังอ้างตำรา พระไตรปิฏก อีก เราะจะรู้ได้อย่างไร ว่าจริง หรือว่า ไม่จริง


เรื่องนี้ มีคำตอบ ชัดเจนมาก โดยเฉพาะพระอาจารย์เอง

 เริ่มปฏิบัติครั้งแรก เมื่ออายุ 11 ปี ตอนเป็นสามเณร ปฏิบัติ แบบ งู  ๆ  ปลา ๆ ฟังหลวงพ่อ ฟังหลวงตานี้

แล้วชอบ ที่จะนั่งสมาธิ ( ไม่ขอเรียกว่ากรรมฐาน ) แต่กี่ครั้ง ๆ ก็จะไปสิ้นสุดที่เวทนา ไปนั่งร้องไห้ อ้อนวอน

กับพระประธานในอุโบสถ เป็นชั่วโมง ทุกวัน ๆ แต่ก็ไม่สามรถปฏิบัติ ก้าวหน้า

 พออายุ 17 ปี สอบนักธรรมเอกจบ พร้อมติดเปรียญด้วย ก็เริ่มหาหนังสืออ่าน ตอนนั้นก็ชอบหนังสือ

ของหลวงพ่อพุทธทาส ซื้อหนังสือปกดำ ชุดอานาปานสติ มาอ่านแล้วก็ฝึก แต่ ผลก็เหมือนเดิม มีเรื่องของปัญญา

คือความเข้าใจหลักธรรมมากขึ้น ด้วยความศรัทธา จึงย้ายสำนักเรียนไปเรียนที่สงขลา ไปเรียบบาลี และก็สอบได้

ที่นั่น อีก 3 ชั้น ( ไม่บอกว่าเปรียญอะไร ) ติดตามพระอาจารย์ลูกศิษย์เองสายสวนโมกข์ ในระดับแนวหน้า

เช่น พระอาจารย์มหาประทีบ พระอาจารย์วรศักดิ์ พระอาจารย์วิรัตน์ พระอาจารย์โพธิ์ เป็นต้น และก็อยู่สวนโมก

แต่ ก็ยังปฏิบัติ อะไรไม่ได้ แต่ได้รับการยกย่อง จากพระอาจารย์ต่าง ๆ ว่าเทศน์เก่ง

   เลยพระอาจารย์ต่าง ๆ ก็สนับสนุนให้ไปทำงานเผบแผ่ ครั้งนั้น คุณชวน หลีกภัย ได้จัดงานเผยแผ่ พระธรรมโฆษณ์
 
 อาตมาเอง ก็เลยเดินทางร่วมกับโครงการ โดยเริ่มที่ ม.จุฬา โดยไปจัดนิทรรศการที่ศาลาพระเกี้ยว และเดิน

ทางร่วมกับคณะเผยแผ่ มีพระอาจารย์วิรัตน์ วิรตนโน พระอาจารย์เฉลียว วรธมฺโม พระอาจารย์สงวน จนฺทวํโส

เดินทางเข้าเผยแผ่ธรรมะ ที่  วิทยาครู สายเหนือ จบที่จังหวัด เชียงราย

 พอกลับมาอาตมาก็เบื่องานเผยแผ่ เพราะปณิธาน เพื่อการปฏิบัติยังฝังอยู่ในใจ จึงอำลา พระอาจาร์สงวน

เจ้าคณะอำเภอเ้มืองสงขลา และอาจารย์ฝ่ายบาีลีที่นั่น ชักชวนสหายธรรม อีก 2 รูป รวมเป็น 3 รูปเดิน จาริก

ที่เรียกว่า ธุึดงค์ จาก หาดทรายแก้ว เลียบชายฝั่ง ข้ามทะเลสาปสงขลา ไปออกเขาชัยสน เดินขึ้นมาเรื่อย ๆ

จนถึงสระบุรี ใช้เวลา 9 เืดือน

   ที่จะบอกก็คือ ภายใน 9 เดือนนี้ทำทุกอย่างที่เรียกการภาวนา เดิน 2 เดือนแรก เท้าบวมเพราะไม่ใส่รองเท้า เดินภาคใต้ อากาศร้อน เดินบนยางมะตอย ร้อนมาก ๆ กระหย่องกระแหย่ง อยู่ 2 เดือน เดินวันละ

6 ชั่วโมง ได้เท่าไหร่ ก็เท่านั้น

  เพียรขนาดนี้ ก็ยังปฏิบัติอะไร ไม่ได้ ได้แต่ความเข้าใจ ความอดทน มองเห็นชีวิตจริง ๆ ของพระ

ดังนั้น กลับไปที่คำถาม ว่าเราจะรู้ได้อย่างไร ว่า จริง หรือ หลอก

  ตอบว่ารู้ได้ ดังนี้

   1. คุณต้องมีปณิธาน ในการภาวนา ( ศรัทธา )

   2. คุณต้องมีปัญญา ในการภาวนา  ( ความเข้าใจ )
 
   3. คุณต้องภาวนา อย่างจริงจัง  ( ความเพียร )

 ถ้าคุณทำครบทั้ง 3 อย่างนั้นแล้ว ปฏิบัติยังไม่ก้าวหน้า ก็ให้ถอยเสีย เพราะว่า ชีวิตเรามีน้อย ลองผิด

ลองถูก มากไม่ได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ หลัก ศีล สมาธิ และ ปัญญา



 
[/]

   
4931  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ความเป็นพระอริยะบุคคล ไม่กลับไปกลับมา เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 09:03:13 am
อ้างถึง
แต่ผู้บรรลุจะรู้ตัวหรือป่าว คะว่าบรรลุธรรมได้

ต้องรู้ตัว สิจ๊ะ

การบรรลุธรรม ก็คือการสอบ สังโยชน์ 10 ประการ

ผู้ปฏิบัติภาวนา ต้องมี ญาณ เรียกว่า ปัจจเวกขณญาณ

ซึ่งมีตั้งแต่ ระดับ พระโสดาบัน ขึ้นไป

ปัจจะเวกขะณะญาณ ของพระโสดาบัน มี 2
1.มรรค 2.ผล ( 3.กิเลสที่ละได้แล้ว 4.กิเลสที่เหลืออยู่ 5.นิพพาน  3 ข้อท้ายไม่ชัดเจน )

พระโสดาบันมี 3 ประเภท
1.เอกพีชี เกิดชาติเดียวเป็นพระอรหันต์
2.โกลังโกละ เกิดอีก 2-3 ชาติ เป็นพระอรหันต์
3.สัตตักขัตตุงปรมะ เกิดอีก 7 ชาติเป็นพระอรหันต์

ผู้ที่เป็นพระโสดาบันแล้ว กำลังเริ่มละ สังโยชน์ข้อที่ 4 – 5 แบบเบาบาง
ชื่อว่าได้บรรลุเป็น พระสกิทาคามิมรรค ( ผู้ทรงอารมณ์แห่งพระสกิทาคามีอย่างต่อเนื่อง )
ผู้ที่เป็นพระโสดาบันแล้ว ละสังโยชน์ ข้อที่ 4 – 5 ได้อย่างเบาบางแล้ว
ชื่อว่าได้บรรลุเป็น พระสกิทาคามิผล หรือ พระสกิทาคามี ( ผู้เสวยอารมณ์แห่งพระสกิทาคามีอย่างถาวร )
พระสกิทาคามี นั้นจะมีอารมณ์ เพียรเผากิเลสอย่างแรงกล้า พยายามที่จะละออกจากกามคุณ และ พยายามละอารมณ์พยาปาทะ อันขุ่นเคือง ในใจ ไม่ให้กำเริบ

ปัจจะเวกขะณะญาณ ของพระสกิทาคามี มี 5
1.มรรค 2.ผล 3.กิเลสที่ละได้แล้ว 4.กิเลสที่เหลืออยู่ 5.นิพพาน จิตเหนี่ยวนิพพานเป็นอารมณ์

สมดังคำสรรเสริญสังฆคุณ ว่า “อุชุปะฎิปันโน สาวะกะสังโฆ  เป็นพระสงฆ์ผู้ประพฤติตรงต่อ พระนิพพาน”

พระสกิทาคามี มี 5 ประเภท
1.บรรลุเป็นพระสกิทาคามีแล้วในโลกนี้ และนิพพานในโลกนี้ ชาติปัจจุบัน
2.บรรลุเป็นพระสกิทาคามีแล้วในโลกนี้ นิพพานในเทวะโลก
3.บรรลุเป็นพระสกิทาคามีแล้วในเทวะโลก และนิพพานในเทวะโลก
4.บรรลุเป็นพระสกิทาคามีแล้วในเทวะโลก หมดอายุในเทวะโลก มาเกิดอีกครั้งในโลก จึงนิพพาน
5.บรรลุเป็นพระสกิทาคามีแล้วในโลกนี้ จุติในเทวะโลก แล้วหมดอายุในเทวะโลก มาเกิดอีกครั้งในโลก จึงนิพพาน
ผู้ที่เป็นพระสกิทาคามี แล้ว กำลังละ สังโยชน์ข้อที่ 4 – 5 อย่างสิ้นเชิง
ชื่อว่าได้บรรลุเป็น พระอนาคามิมรรค ( ผู้ทรงอารมณ์แห่งพระอนาคามีอย่างต่อเนื่อง )

ผู้ที่เป็นพระสกิทาคามี แล้วละสังโยชน์ ข้อที่ 4- 5 ได้สิ้นเชิง
ชื่อว่าได้บรรลุเป็น พระอนาคามิผล หรือ พระอนาคามี ( ผู้เสวยอารมณ์แห่งพระอนาคามีอย่างถาวร )
พระอนาคามี เป็นผู้มีอารมณ์ ละ กามราคะ และ ปฏิฆะ ได้อย่างสิ้นเชิง แต่ยังมีอารมณ์  ติดอยู่ในสุทธาวาส 5
 คือ ชอบทำบุญ เลยติดบุญ รูปราคะและอรูปราคะ ชอบแจกธรรมสอนธรรม เลยติดมานะ ชอบค้นคว้าศึกษาเรื่องธรรม เลยติดอุทธัจจะ บ้างเพียงเล็กน้อย แต่ก็มีนิพพานแน่นอน อย่างน้อยอีก 1 ชาติ

ปัจจะเวกขะณะญาณ ของพระอนาคามี มี 5
1.มรรค 2.ผล 3.กิเลสที่ละได้แล้ว 4.กิเลสที่เหลืออยู่ 5.นิพพาน ทบทวนกลับไป กลับมาอย่างยิ่งยวด เริ่มเหือด
สมดังคำสรรเสริญสังฆคุณ ว่า “ญายะปะฎิปันโน สาวะกะสังโฆ  เป็นพระสงฆ์ ผู้รู้ดีแล้ว”

พระอนาคามี มี 5 ประเภท
1.อันตราปรินิพพายี เมื่อเกิดในภพใดภพหนึ่ง อายุไม่ถึงกึ่งแห่งภพนั้นก็เข้า นิพพาน
2.อุปหัจจปรินิพพายี เมื่อเกิดในภพใดภพหนึ่ง อายุพ้นกึ่งแห่งภพนั้นก็เข้า นิพพาน
3.อสังขารปรินิพพายี  เมื่อเกิดในภพใดภพหนึ่ง อายุใกล้จะหมด ก็เข้านิพพาน
4.สสังขารปรินิพพายี เข้าถึงนิพพานด้วยความเพียรมาก ๆในชาติปัจจุบัน
5.อุทธังโสโต อกนิฏฐคามี เมื่อเกิดในภพใดภพหนึ่ง สิ้นอายุแห่งภพนั้นเลื่อนขึ้นไป สู่ อกนิฏฐภพ  จึงเข้า นิพพาน

ผู้ที่เป็นพระอนาคามี แล้วกำลังละสังโยชน์ ข้อที่ 6 -10
ชื่อว่าได้บรรลุเป็น พระอรหัตมรรค ( ผู้ทรงอารมณ์แห่งพระอรหันต์อย่างต่อเนื่อง )
ผู้ที่เป็นพระอนาคามี แล้วละสังโยชน์ข้อที่ 6 – 10
ได้ชื่อว่า พระอรหัตผล หรือ พระอรหันต์ ( ผู้เสวยอารมณ์แห่งพระอรหันต์ อย่างถาวร )
สำหรับพระอรหันต์ไม่มีการเกิดอีกต่อไป ซึ่งที่ผมได้แจกแจงลงไว้เพราะ  หลวงพ่อพระเถระหลายท่านให้ช่วยแจกแจงให้เพื่อให้ทราบว่า การเวียนว่ายตายเกิดหลังจากสิ้นชีพแล้วมีจริง ไม่ได้เป็นด้วยอรรถแห่งนิพพานที่อยู่บนโลกด้วยอารมณ์ใจเท่านั้น

ปัจจะเวกขะณะญาณ ของพระอรหันต์ มี 1
1.นิพพาน เท่านั้น

ส่วนพระอรหันต์ นั้นมี  นิพพาน เป็นอารมณ์ แต่ท่านก็ยังไม่ได้นิพพาน

คำตอบอยู่ที่ธรรม เรียกว่า นวโลกุตรธรรม 9 ประการ ก็เป็นการบอกได้ว่า พระอรหันต์ ยังไม่ได้ นิพพาน

  จึงแบ่งออก มรรค 4 ผล 4  และ นิพพาน 1

     อันนี้หมายความว่า นิพพาน จักมีได้ต้องกำหนด นิพพาน เป็นอารมณ์

ใน พระอภิธรรม ก็แยกเป็นหมวด ต่างหาก

    รูป จิต  เจตสิก  และ นิพพาน

 คำตอบ ใน มหาสติปัฏฐาน สันโดด ของ หลวงปู่ นั้นค่อนข้างจะชัดเจนมาก ให้อ่านกันหลาย ๆ รอบ

วิสัชชนาไว้เพียงเท่านี้ ก่อน

เจริญพร

 ;)
4932  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 08:50:01 am
อ้างถึง
ก็เห็นด้วยนะคะ ว่าควร ระบุชื่อ ผู้พูดไว้บ้าง ถึงไม่กัน ก็ให้เป็น เครดิต บ้าง

ถ้าเป็นไปได้ ก็ขอให้ผู้โพสต์ พึ่งระวัง เรื่องพวกนี้ด้วย

เจริญพร
 ;)
4933  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ห้องอุปจาระ สมาธิ ก็เป็นพื้นฐานสำคัญ ( ถอดจิตได้ แยกกายทิพย์ได้ ) เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 08:48:40 am
อ้างถึง
จากข้อความ นั้นเป็นการสอน วิชชาธรรมกาย แบบวัดปากน้ำ หรือ วัดธรรมกาย หรือป่าวคะ

ไม่ใช่ วิชาธรรมกาย ของวัดปากน้ำ หรือ วัดธรรมกาย

แต่เป็นวิชา ที่ถูกบันทึก ไว้ในวิชา กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ที่แสดงโดย พระครูสิทธิสังวร

เจ้าคณะ 5 วัดราชสิทธาราม ชื่อวิชานี้ชื่อว่า วิชา ปีติ ยุคล สุข รายละเอียดการศึกษาหรือ ปฏิบัติวิชานี้

ก็เชิญที่ คณะ 5 วัดราชสิทธาราม นะจ๊ะ

อ้างถึง
อีกอย่าง จะทำให้ถอด กาย และ จิต ได้อย่างไร คะ อ่านแล้ว ก็ยังไม่เข้าใจ

ถ้าจะให้ถึงถอดกาย และ จิต ได้นั้น ถ้ายังไม่ขึ้นกรรมฐาน ก็ไม่มีคำตอบจ้า

ถึงขั้นกรรมฐานแล้ว ก็ต้องอยู่ที่ความพากเพียร

แต่พระอาจารย์สอนเอง จะไม่เน้นเรื่องพวกนี้ เน้นเรื่องเดียว คือการสละกิเลส นะจ๊ะ

แต่ผู้ฝึก ก็มีปณิธาน มาแตกต่างกัน บ้างก็ฝึก เพื่อสุขภาพ บ้างก็ฝึก เพื่อมีพลังจิต บ้างก็ฝึกเพื่อพระนิพพาน

แต่จะฝึกเพื่อปณิธาน ใด ๆ ก็ตาม ก็สอนการฝึกแบบเดียวกัน

สิ่งสำคัญ คือการวางอารมณ์ ในกรรมฐาน ว่า

    อยากได้ ก็คือ ไม่ได้ ไม่อยากได้ ก็คือ ไม่ได้ ต้องวางอารมณ์เป็นกลาง

  เป้าหมาย เพื่อการสละ จางคลาย จากกิเลส ไม่ใช่ เพื่อเป็นอย่างนั้น หรือ อย่างนี้ นะจ๊ะ
   

4934  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: แก่นธรรม ที่ควรสนใจ มาก ๆ เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 08:52:18 am
เรื่องของแก่นธรรมะ นั้น เป็นเรื่องที่ควรเข้าใจ

แต่อย่างไรเสีย

  การเกิดอุบัติ ของสรรพสัตว์ ไม่เท่ากัน

    บ้างก็ติดอยู่ที่กระพี้ และดำเนินชีวิตในวิืถี กระพี้นั้น

    บ้างก็ติดอยู่เปลือก และดำเนินชีวิตในวิุถี เปลือกนั้น

    บ้างก็ติดที่แก่น และดำเนินชีวิตในวิถี แก่นนั้น

 ดังนั้น ระดับ การสั่งสมบารมี ของสรรพสัตว์ ไม่เท่ากันด้วยเหตุนี้

   บ้างก็บรรลุธรรมได้ ง่าย ด้วยปฏิบัติ แบบ ง่าย ๆ

   บ้างก็บรรลุธรรมได้ ยาก ด้วยการปฏิบัติ แบบ ง่าย ๆ

   บ้างก็บรรลุธรรมได้ ง่าย ด้วยการปฏิบัติ แบบ ยาก ๆ

   บ้างก็บรรลุธรรมได้ ยาก ด้วยการปฏิบัติ แบบ ยาก ๆ

อนุโมทนา กุศลห้วข้อหลักธรรมนี้

เจริญพร

 ;)
4935  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / คำแนะนำที่ดี สูตรว่าด้วย การออกจาก กาม เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 08:47:43 am
เป็นคำแนะนำที่ดี ขออนุโมทนา ในกุศลนี้ด้วย

เจริญพร

 ;)
4936  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / อนุปัสสติ เิกิดอย่างไร และให้ผล อย่างไร เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 08:43:48 am
        [๓๙๑] คำว่า อนุปสฺสติ ความว่า ภิกษุพิจารณากายนั้นอย่างไร ฯ       
พิจารณาโดยความไม่เที่ยง ไม่พิจารณาโดยความเที่ยง       
พิจารณาโดยความเป็นทุกข์ ไม่พิจารณาโดยความเป็นสุข         
พิจารณาโดยความเป็นอนัตตาไม่พิจารณาโดยความเป็นอัตตา ย่อมเบื่อหน่าย ไม่ยินดี ย่อมคลายกำหนัดไม่กำหนัด ย่อมให้ราคะดับไป ไม่ให้เกิด ย่อมสละคืน ไม่ยึดถือ         

เมื่อพิจารณาโดยความไม่เที่ยง ย่อมละนิจจสัญญาได้         

เมื่อพิจารณาโดยความเป็นทุกข์ ย่อมละสุขสัญญาได้         

เมื่อพิจารณาโดยความเป็นอนัตตา ย่อมละอัตตสัญญาได้ เมื่อเบื่อหน่าย ย่อมละความยินดีได้        เมื่อคลายกำหนัด ย่อมละราคะได้ เมื่อให้ราคะดับ ย่อมละสมุทัยได้       เมื่อสละคืนย่อมละความยึดถือได้ ภิกษุพิจารณากายนั้นอย่างนี้ �

4937  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: สายการเผยแผ่ พระพุทธศาสนา ที่ไปทั่วโลก มีกี่สาย เมื่อ: กันยายน 21, 2010, 08:37:02 am
อนุโมทนา กับเรื่องนี้ เพราะมีประวัติตำนานการสืบทอด

พระกรรมฐาน ที่พระอาจารย์ต่อพระอาจารย์ บันทึกส่งกันมาไว้เป็นทอด ๆ

จนถึงปัจจุบัน

เจริญพร

 ;)
4938  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ห้องอุปจาระ สมาธิ ก็เป็นพื้นฐานสำคัญ ( ถอดจิตได้ แยกกายทิพย์ได้ ) เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 10:36:20 am
ข้อความที่ปรากฏ นั้นเป็นข้อความ จากวิชากรรมฐาน หลวงปู่

เรียบเรียงโดย พระครูสิทธิสังวร

รายละเอียดศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม นะจ๊ะ

เจริญพร

4939  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / เชิญร่วมงานบวช ชี พราหมณ์ วัดสวนวาง 17 -21 ธ.ค.2553 เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:44:56 am
ดือนธันวาผมมีจัดอบรมบวชชีพราหมณ์ครับ วันที่ 17-21 ธ.ค. ถ้าว่างขอนิมนต์นะครับ การ
เดินทางก็มาทางถนนเพชรเกษมสายเก่า  จากถนนสายเอเชีย เลี้ยวที่ทางสามแยกก่อนถึง
อ.หลังสวน เข้าพะโต๊ะ  ไปที่ถึงแยกราชกรูด เลี้ยวซ้ายไป อ.คุระบุรี   พอถึงที่หน้าตัวอำเภอ
คุระบุรี   มีทางแยกเลี้ยวขวาตรงไป 7 ก.ม.ครับ


http://board.watsuanvang.com/read.php?tid-771-page-2.html
4940  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ห้องอุปจาระ สมาธิ ก็เป็นพื้นฐานสำคัญ ( ถอดจิตได้ แยกกายทิพย์ได้ ) เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:32:10 am
  ทุกอย่างที่ทำอธิษฐานขอบารมีพระพุทธเจ้าก่อนวิชาธาตุปีติ ยุคล สุข       

    ๑.ธาตุปีติ ยุคล สุข รวมกัน เรียกว่า ธาตุธรรมกาย ใช้ทำเป็นพื้นฐานแห่งอภิญญา จิตแก่กล้าใช้ตติยฌาน(สุข)ได้เลย ถ้ายังไม่แก่กล้าใช้ถึงจตุถะอรูปฌาน ถอยมา ตติยฌาน(สุข)
   
   
    ๒.ธาตุปีติอย่างเดียว เรียกว่า ธาตุปีติวิมุติธรรม  ทำให้กิเลสทั้งปวงหลุด  พิจารณาโดยวิธี บริกัมว่า นิพพาน 
 
    ๓.ธาตุธาตุยุคลหก เรียกว่าธาตุกายอมตะ ประโยชน์ใช้ทำจิตให้สงบจากกิเลส  พิจารณาว่า สงบ
   
    ๔. ธาตุสุขสมาธิเรียกว่า ธาตุสุขนิโรธธัม  ประโยชน์ ทางสุขอยู่ในความว่าง เอาพระนิพพานเป็นอารมณ์
   
    ธาตุปีติทั้งห้า (ธาตุเทวดา) ใช้ได้ทุกอย่างแล้วแต่จิต   

    ธาตุยุคล(ธาตุพรหม) ใช้ทางเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
   
    ธาตุสุข(ธาตุพระพุทธเจ้า)


    ธาตุกายสุข จิตสุข  มีธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ ทำจิตเป็นสุข สยบกิเลส ธาตุ อุปจารพุทธานุสติ ใช้สยบมารทั้งภายนอก ภายใน ใช้สยบภายในภายนอก






ส่วนนี้เป็นส่วนสำคัญ สำหรับผู้ที่เจริญ ยุคคลธรรมหกประการ

ในกรรมฐาน จบในตัวทุกขั้น สมาธิ มีอานุภาพ ทุกขั้นสมาธิ


4941  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ความไม่ประมาท เป็นรากฐาน ของกรรมฐาน เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:23:53 am
สายน้ำ ไม่คอยท่า 

เวลา ไม่คอยใคร

ชีวิต ก็ใกล้สิ้นใจ

จะมัว รออะไรกันอยู่


ดังนั้น ความไม่ประมาท เป็นรากฐาน แห่งกรรมฐาน ทั้งปวง

พระพุทธเจ้า ก่อนปรินิพพาน จึงย้ำแล้ว ย้ำเล่าว่า

ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาท ให้ถึงพร้อมเถิด




Aeva Debug: 0.0004 seconds.Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4942  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ความเป็นพระอริยะบุคคล ไม่กลับไปกลับมา เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:21:24 am
การเรียน สังโยชน์ 10 ประการ มีความสำคัญ

เพราะสังโยชน์ 10 ประการเปรียน เหมือนข้อสอบที่เราต้องตอบตัวเองว่า

เรามีคุณธรรมอยู่ในระดับไหน


เมื่อพระอริยะบุคคล สิ้นสังโยชน์ ตามฐานะแล้ว ก็ย่อมไม่กลับไปเป็นเช่นเดิมอีก

ดังนั้น ผู้ที่ละสังโยชน์ แล้ว ละแล้ว ก็ละ ได้เลย ไม่ใช่ เดี๋ยวละ ได้ เดี๋ยวละ ไม่ได้

ดังนั้น ท่านก็ตอบตัวเองได้ว่า ท่านละได้สิ้นหรือยัง


กรุณาไปอ่านเรื่อง สังโยชน์ ในหมวดกระทู้ ได้

 ;)




4943  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ทำไม คำขึ้นพระกรรมฐาน แต่ละที่ จึงไม่เหมือนกัน เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:18:14 am
ทำไมวัด อุโบสถ จึงไม่เหมือนกัน

ทำไม ฤดู จึงไม่เหมือนกัน

ทำไม ฝึก กรรมฐานไม่เหมือนกัน

ทำไม สวดมนต์ ไม่เหมือนกัน

ทำไม พระห่มผ้า สีไม่เหมือนกัน

ทำไม เกิดมา รวยจนไม่เท่ากัน


    ;) พระอาจารย์ ลองพิมพ์คำว่า ทำไม ? ก็คือ ความสงสัย โดยที่ผู้ถาม ใชัี้บรรทัดฐานเดียวกัน

เพื่อเห็นความแตกต่างขึ้นมา แต่หากพิจารณา ด้วยสติปัญญาแล้ว สิ่งที่แตกต่างนั้น ก็มีเนื้อหาเดียวกัน

อ้างถึง
สมมุติว่า ถ้าผม กล่าวคำสมาทานกรรมฐาน แบบด้านบนแล้วปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ได้หรือไม่ หรือ ผมต้องกล่าว คำสมาทานกรรมฐาน ตามแบบของ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

ดัวยครับ

ก็ตอบว่า ได้ เพราะคำขึ้นกรรมฐาน ก็คือ การอธิษฐานจิต หรือ คำสั่งจิตให้ทำงานตามที่ความปรารถนาแห่งจิต

โดยรวมในสถานการณ์นั้น พิธีรีตรอง ต่าง ๆ ทั้งมวลนั้น มีไว้เพื่อกระชับ และเป็นแบบแผนให้เราไม่หลงทิศทาง

เหมือนคนเข้ากรุงเทพ แล้วมีแผนที่ กับคนเข้ามาแล้วไม่มีแผนที่ ความมั่นใจย่อมต่างกัน

  ถ้าหากอาศัย การถามแล้ว ก็จะได้คำตอบว่า

   1. ไม่รู้ ตอบว่า ไม่รู้
 
   2. ไม่รู้ แต่ตอบ มั่ว

   3. รู้ แต่ ไม่ตอบ หรือ ตอบว่า ไม่รู้

   4. รู้ และ ตอบว่า รู้

   การอธิษฐานจิต จึงเป็นแบบแผนให้กับศิษย์กรรมฐาน ได้ปฏิบัติ ตามแบบฉบับ ของคนรู้ ตอบ

ดังนั้นถ้าอธิษฐานกรรมฐาน แบบสำนักอื่น ที่สอน ก็ควรปฏิบัติตามที่สำนักนั้นสอน เพื่อจะได้ส่งอารมณ์

หรือ ถามกรรมฐาน ที่ฝึกนั้นกับคนที่ฝึกสอนนั้นได้สอยู่ ได้

   ดังนั้น ถ้าเราปฏิบัติ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ ก็กล่าวคำอธิษฐาน กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

แล้วก็ส่งอารมณ์ สอบอารมณ์ กับพระอาจารย์ที่ขึ้นกรรมฐาน นั้น จึงเป็นการถูกต้อง

   แต่หากเรามองข้ามส่วนนี้ เพราะเห็นว่าเป็นพิธี รีตรอง ของแต่ละสำนัก นั้นก็คือการที่เราไม่เข้าใจ สุดท้าย

ปัญญาส่วนนั้นก็จะเห็นว่า พิธีเหล่านี้ไม่มีความสำคัญ การกราบ การไหว้ การแสดงสักการะ ก็จะเป็นกุศลต่อไป

ถ้าหากปล่อยไปเช่นนี้ วัฒนธรรมของพระอริยะ ก็จะหมดสิ้น เพราะมีแต่ความว่าง กลายเ้ป็น ฌาน 8 ไป

มีหลายคนที่ เอาสภาวะ เนวสัญญายตนะ มาอธิบายเป็น สุญญตา จนเข้าใจสภาวะ ว่าง นั้นคือ นิพพาน

  ดังนั้นสรุป ว่า ไม่ควรจะนำปนเปกัน ถ้าไปฝึกในส่วนรวมของสำนัก ใด ก็ปฏิบัติตามสำนักนั้นสอน เพื่อได้

ปรับกรรมฐานด้วย

เจริญพร
 ;)

4944  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: กรรมฐาน สันโดด หมายถึงอะไรครับ เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:05:38 am
อนุโมทนา กรรมฐาน สันโดด ก็คือ การเรียน และ ฝึก กรรมฐาน กองเดียวเท่านั้น

กรรมฐาน สันโดดนั้น พิจารณาการฝึกจาก จริต ของผู้ฝึกเป็นหลัก

แต่ จริต นั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แม้จะเป็นพระอรหันต์ ก็ยังจำแนกจริต คนไม่ออกเลย

ต้องเจ้าตัวเอง ตอบตัวเองเรื่องจริต


ซึ่งมีอยู่ครั้ง ลูกนายช่างทอง นั้นเข้าอุปสมบถ กับพระอาจารย์พระสารีบุตร ๆ  นั้นก็มอบ อสุภะกรรมฐาน ให้

พระนั้นก็ไปฝึกอยู่ ถึง 3 เดือนก็ไม่สำเร็จ จึงมากกราบลาเพื่อลาสิกขา

พระสารีบุตร จึงให้ไปกราบลาพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า จึงให้นำดอกบัว ไปปักในกองทราบแล้วเพ่งดอกบัว

จนสำเร็จพระอรหันต์

 เขียนย่อหน่อยนะ เรื่องเต็มเดี๋ยวให้คนอื่นโพสต์ให้อ่านนะ

 ;)
4945  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / กล่าวคำไว้อาลัย เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 09:00:01 am





จากภาพเหตุการณ์ และ ข่าว

ก็ขอกล่าวคำชื่นชม กับหลวงพ่อขวัญเมือง

ที่ท่านอำลาจากไปสมศักด์ศรีพระสงฆ์

พระที่ มรณะภาพใน่านั่งสมาธิ และคอตั้งนั้น หายากมาก

 :25: :25: :25: Aeva Debug: 0.0004 seconds.
4946  เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / Re: จะช่วย!! หรือ!! ไม่ช่วยดี ? เมื่อ: กันยายน 20, 2010, 08:56:37 am
อนุโมทนา กับคำตอบ และได้รับแจ้ง mail กับมาเกี่ยวกับ

User ผู้ตั้งคำถาม ดำเนินการเปลี่ยนให้แล้ว

 ;)
4947  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / Re: แนะำนำเว็บธรรมะ วัดเขาสวนวาง พังงา เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 08:20:25 am
4948  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / หนังสือของพระอาจารย์ บุญนพ นามปากกา นิราลัย เมื่อ: กันยายน 17, 2010, 08:19:20 am
4949  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ฐานทั้ง 9 และ ที่ตั้งจุด ที่เกี่ยวข้อง เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 08:41:34 pm
   
เมือต้องการใช้กรรมฐานแก้อาพาธ ต่าง ๆ นั้น พึงจดจำ ฐานทั้ง 9 ไว้ให้ขึ้นใจ
เพราะเป็นที่ตั้งในการเดินจิตต่าง ๆ



พระนวหรคุณที่ตั้ง มี ๙ ที่
๑.อัชชดากาษเบื้องต่ำ (สะดือ)
๒.บนนาภี นิ้วหนึ่ง
๓.ห้องหทัยวัตถุ
๔.ห้องสุดคอกลวง
๕.โคตรภูท้ายทอย
๖.อัชชดากาษ เบื้องบน (กระหม่อม)
๗.ทิพยสูญหว่างคิ้ว
๘.มหาสูญหว่างจักษุ
๙.จุลสูญน้อยปลายนาสิก

ส่วนนี้เป็นที่ตั้งและ อานุภาพ ของฐานที่ใช้ ซึ่งควรจดจำไว้



ที่ ๑. เป็นที่ระงับเวทนาทั้งปวงแล
ที่ ๒. เป็นที่เกิดแห่งบาปธรรมทั้งปวง ตั้งที่ ๒ ที่ ๓ เกิดกำลังนัก อันห้องพระพุทธคุณนั้น คือระหว่างที่ ๓ มาถึงที่ ๒ นั้นเป็นชุมนุมธาตุ
ที่ ๓. เป็นที่ปฏิสนธิ กุศล และ อกุศลสัมปยุตธาตุ
ที่ ๔. เป็นที่หลับ ที่ขาดรส ที่ภังคะ ที่นิโรธสัจ ร่วมกัน
ที่ ๕. เป็นที่ซ่อนเวทนาทั้งปวง ทั้งขาดบาปธรรม เมื่อจะอาสันนกรรม ดับพิษงู ฝีทั้งปวง
ที่ ๖. เป็นที่อดใจ เป็นขันติ ความอดทน โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม
ที่ ๗. เป็นที่ประหารแห่งโทษทั้งปวง เป็นตบะเดชะด้วย
ที่ ๘. เป็นที่เกิดปัญญาเห็นโทษ
ที่ ๙. เป็นที่นำแห่งความยินดีทั้งปวง และนำปฏิสนธิแห่งสัตว์



เป็นข้อความที่ปรากฏในหนังสือ เล่มเขียวด้านบนนั้นนะจ๊ะ

เจริญพร
 ;)



  Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4950  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / หนังสือ นวหรคุณ แก้ธาตุกำเริบ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 08:34:53 pm
Aeva Debug: 0.0004 seconds.
4951  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / นวหรคุณ แก้ธาตุกำเริบ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 08:32:22 pm
จากเมล์เข้ามาถามพระอาจารย์ เรื่อง นวหรคุณ ในการแก้รักษาโรคนั้น

ปรากฏข้อความในหนังสือ ของ หลวงพ่อพระครูสิทธิสังวร เรื่อง

กรรมฐานแก้กรรม รักษาโรค

จักนำข้อความมาแสดงบางส่วน



  รูป  รูป 

รูปแสดงแก้ธาตุกำเริบวิบัติ


จะเห็นได้ว่า การสัมปยุตจิต ลงศูนย์นาภี นั้นมีความสำคัญมาก เพราะประชุมรักษาธาตุ แก้ธาตุกำเริบได้

ผู้ฝึกในห้องพระพุทธคุณ ก็สามารถฝึกได้ ถ้าพลังจิตเพียงพอแล้ว มีความชำนาญในการฝึก อนุโลม ปฏิโลม

ก็สามารถ รวมธาตุ ที่นาภีได้ เช่นกัน

แต่ในส่วน นวหรคุณ นั้นพระอาจารย์ไม่ค่อยเน้นการใช้ เน้นแต่เรื่องภาวนาตัดเสียซึ่งกิเลสเป็นหลัก

ส่วนนี้ ศิษย์ที่มีความสนใจ สามารถศึกษาเพิ่มได้ทั้งจากหนังสือ และ ที่วัดราชสิทธาราม ศูนย์กลาง


เจริญพร พอเป็นตัวอย่าง

 ;)

Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4952  กรรมฐาน มัชฌิมา / ธรรมะสัญจร / Re: เชิญร่วมปฏิบัติธรรม ๒๕-๒๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๓ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 08:16:52 pm
ใกล้ถึงกำหนดแล้ว ใครที่เตรียมตัวไปแล้ว ก็อนุโมทนาสาูธุ ด้วยจ้า

หลวงพ่อพระครูท่านใจดี ไม่ต้องห่วงเรื่องที่พัก นะ อยู่ต่างจังหวัดก็ไปได้

แต่รอบนี้พระอาจารย์ไม่ได้ไป นะ

 ;)
4953  เรื่องทั่วไป / แนะนำเว็บไซท์ สายธรรมะ กันหน่อยจ้า / กฐิน วัดสวนวาง พังงา นะจ๊ะ ใครอยู่ใกล้ก็ไปร่วมบุญกุศลกันด้วย เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 07:54:58 pm
4954  ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / Re: ืทำไม พระต้องทำพิธีพวกนี้ เป็นหลักของชาวพุทธ หรือ ป่าว เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 01:57:23 pm
พึ่งใช้ ปัญญา ในการพิจารณาชม และ มอง

 สิ่งสำคัญไล่เทียบเคียง กับ หลัก ศีล สมาธิ และ ปัญญา

  พุทธศาสน์ เป็นไปเพื่อ ขจัดกิเลส ไม่ใช่ งมงาย จ๊ะ

  ไสยศาสตร์ เป็นเรื่อง คนที่หลง งมงาย ในสังสารวัฏฏ์

ว่าแต่ภาพ เป็นภาพพิธี อะไรจ๊ะ

เจริญพร
 ;)
4955  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: หลักปฏิบัติง่าย ๆ ที่สุด ในการเดินจิตไว เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 01:53:31 pm
ถ้าฝึกในห้องพระธรรมปีติ ก็ไม่เกี่ยวกับลมหาย ใจ เข้า ออก นะ

เดี๋ยวจะติดอุปนิสัย ตรงนี้ กันทำให้เสียเวลา กำหนดจิต

ถ้าฝึกในห้องพระพุทธคุณ ก็อย่าพึ่งไปกำหนดรเืรื่อง ลมหายใจ เข้า ออก กันมาก

ต้องกำหนด จิต พุทโธ ที่ ฐาน จิต ต่าง ๆ นะจ๊ะ

เจริญพร
 ;)
4956  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: ไำฟทั้งสี่ ผู้ปฏิบัติ พึงสังวร ครั้นเมื่อจะตายจักเป็นที่พึ่ง เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 01:50:14 pm
ด้านใน คือ ใจ ที่หลุด ที่พ้น ไฟแห่งพระอริยมรรค ย่อมเกิด ก่อนเป็น อริยผล

ด้านนอก ก็ เป็นปกติ หาพ้นจากบัญญัติไม่


หมั่นภาวนา ให้รู้เห็นตามความเป็นจริง ก็จักแจ้งชัด

เจริญพร
 ;)
4957  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: พึ่งจะสังเกตุว่า ในหน้าเว็บบอร์ด มีการใช้ข้อความส่วนตัวด้วย เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 01:22:40 pm
สำหรับ ทีมงาน มัชฌิมา ต่อไปจะแจก

email ให้ใช้   user @ madchima.org

ซึ่งสามารถอ่านจดหมายด้วย outlook express และ เว็บเมล์ได้

ตอนนี้ขอดู สมาชิก ที่ปฏิบัติ หน้าที่ช่วยเหลือเว็บกันก่อน

ส่วนข้อความ ฝากในเว็บบอร์ดนั้น ก็เป็นส่วนตัวตามระบบโปรแกรม

ใครต้องการ Email ก็แจ้ง ลง User มาในนี้เลย นะจ๊ะ

สำหรับ ทีมงาน มัชฌิมา นั้นได้ทุกคน .... ไม่ต้องขอมา

ตอนนี้ที่มี email แล้วก็มี


พระอาจารย์  pra_sonthaya@madchima.org
พระอนุชิต    pra_anuchit@madchima.org
พระศรีคเณส pra_srikanes@madchima.org
คุณทินกร    tinnakorn@madchima.org
              sompein@madchima.org
จอ.วัดแก่งขนุน   mahapeerayan@madchima.org
มัชฌิมา support (webmaster) madchima@madchima.org

Aeva Debug: 0.0005 seconds.
4958  เรื่องทั่วไป / แจ้งปัญหาการใช้งานบอร์ด / Re: file wma. และ ppt. upload ไม่ได้ครับ เมื่อ: กันยายน 16, 2010, 01:11:15 pm
file wma ไม่สนับสนุนให้อัพโหลด เพราะเสียงไม่ดี

ส่วนไฟล์ ppt นั้นปัญหาอยู่ที่ขนาดไฟล์ อธิบายให้เข้าใจคือ

ความจุตั้งแต่ 2 mb ขึ้นไปนั้น ถ้าเป็น Spee internet ที่ 5 mb จะอัพโหลดที่ 20 kb/s

ถ้าุเป็นมือถือระบบ Eadge อัพโหลดนั้นจะอยู่ที่ 7-10 kb/s

ถ้าเป็น Gprs นั้นจะอยู่ที่ 3 - 4 kb/s

ดังนั้นระหว่างที่ upload Browser ทั้งหมดจะทำการส่ง สภาพหน้าจอ จะเหมือนค้าง

สำหรับบุคคลที่มีความเร็วต่ำ ควรจะใช้ ftp เพื่อupload เพราะจะไม่กวนโปรแกรม อินเตอร์เน็ต

ดังนั้นระหว่างที่เราโหลดอยู่ หน้าจอจะค้าง จนกว่าจะเสร็จ

ที่นี้มาคำนวณที่พระอาจารย์ทดสอบเอง

โดยมือถือนั้น 2 mb จะใช้เวลาประมาณ 10 - 15 นาที

สำหรับหน้า อัพโหลด เดี๋ยวให้ต่ออายุโดเมน กับเช่า โฮสติ้งแล้ว จะทำหน้าให้ ดาวน์โหลด อัพโหลด

สำหรับทีมงาน มัชฌิมา คงพ้นเดือน พย.53 ไปแล้ว

เจริญพรเพื่อทราบ
4959  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: มหาสติปัฏฐาน 4 กับ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ เกี่ยวข้องกันอย่างไร เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 10:31:17 am
4960  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / ไำฟทั้งสี่ ผู้ปฏิบัติ พึงสังวร ครั้นเมื่อจะตายจักเป็นที่พึ่ง เมื่อ: กันยายน 13, 2010, 10:28:15 am
ไฟดวงแรก แลเห็น เท่าหิ่งห้อย
 
     ครั้นได้ไฟนี้แล้ว เมื่อจะตายถือเอาไว้ ไม่ลงนรกและ ปิดอบาย ไฟนี้เป็นของพระโสดา
 
 ไฟดวงสอง เห็นเท่ากับดาวรุ่ง ประเสริฐนัก
 
     ครั้นได้ไฟนี้แล้ว เมื่อจะตายถือเอาไว้ ก็จะไปเกิดในชั้นอินทร์ ชั้นพรหม เกิดอีก 1 ชาติก็สิ้นสุด
 
     ไฟนี้เป็นของ พระสกิทาคามี
 
 ไฟดวงสาม เห็นเท่ากับเดือนเพ็ญ ส่องสว่างให้เห็นทั่ว แต่ก็ขมุกขมัวอยู่
 
     ครั้นได้ไฟนี้แล้ว เมื่อจะตายถือเอาไว้ ก็ไปเกิดในชั้นพรหม ทั้ง 5 ไม่กลับมาเิกิดเป็นมนุษย์อีก
 
     ไฟนี้เป็นของ พระอนาคามี
 
 ไฟดวงที่สี่ สว่างดั่งดวงพระอาิทิตย์ ส่องให้เห็นทั่ว ถึงพระนิพพาน รุ่งเรืองชวาลา
 
     ครั้นได้ไฟนี้แล้ว เมื่อจะตายให้พรแก่มาร ปัญจะมาเร ชิเน นาโถ  ปัตโตสัมโพธิมุตตะมัง  จะตุสัจจัง มะหาวีรัง วันทามิหัง ปัญจะมาเรปะลายิงสุ  ภาวนาให้พรแก่มารทั้ง 5 ยังมาบังเกิดเล่า เหตุว่ามิได้ประจุร่างเสียก่อน
 
 ให้ประจุรูปร่าง ด้วยบาท ฉะนี้ 
 
     สัพเพา สังขารา อุปปัตชิตตะวา นิรุชฌันติ นัตถิ ชะนัง วินาสสันติ
 
     ครั้นประจุร่างแล้ว เอาจิตผูกไว้ เอานิพพานเป็นอารมณ์ แล้วว่าดังนี้
 
     ภัยอันใดอย่าได้มาเบียดเบียนข้าเลย เบียดเบียนข้าวันใดข้าจะนิพพานวันนั้นแล
 
     ว่าดังนั้นแล้ว ก็เอาจิตหน่วงพระนิพพาน ไม่ต้องภาวนาอีก
 
     อันว่าจตุรภูต ทั้ง 4 ย่อมไม่รักษา เพราะได้ประจุร่างเสียแล้ว
 
     จึงให้ไปเกิดใน อกนิษฐพรหม ก็ยังไม่พ้น
 
     อันว่านิพพานย่อมไปเกิดในดวงแก้ว ให้ว่าคาถานี้ก่อน
 
     ยังกิญจิรูปัง อะตีตานาคเต ปัจจุปปันนัง อชฌัตตัง วา พะหิทธา วา โอฬาริกัง วา สุขุมัง วา หีนัง วา
 
     ปะณีตัง วา ยังทูเร วา สันติเก วา สัพเพ นามะรูปัง อนิจจัง ขะยัตเถนะ ทุกขัง ภะยัตเถนะ อะนัตตา
   
     อะสาระกัตเถนะ
 
     ครั้นว่าคาถานี้แล้ว ก็เกิดในดวงแก้ว กล่าวคือพระนิพพาน
 
 
     พรหม เกิดในดอกบัวแก้ว
 
     สวรรค์ เกิดในดอบัวทอง
 
     นรก เกิดแต่ถ่านไฟแดง
หน้า: 1 ... 122 123 [124] 125 126 ... 132