แสดงกระทู้
|
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to. |
Topics - waterman
|
หน้า: [1]
|
4
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / แม่กองธรรมสนามหลวง กำหนดสอบนักธรรมชั้นตรีทั่วประเทศ (น.ธ.ตรี) ประจำปี 2556
|
เมื่อ: ตุลาคม 13, 2013, 12:19:55 pm
|
แม่กองธรรมสนามหลวง กำหนดสอบนักธรรมชั้นตรีทั่วประเทศ (น.ธ.ตรี) ประจำปี 2556 รวม 4 วันๆ ละ 1 วิชา อาทิตย์ 13 ต.ค.สอบวิชากระทู้ธรรม, จันทร์ 14 ต.ค.สอบวิชาพุทธประวัติ, อังคาร 15 ต.ค.สอบวิชาธรรมวิภาค, พุธ 16 ต.ค.สอบวิชาวินัยบัญญัติ เริ่มสอบบ่ายโมง วิชาละ 3 ชั่วโมง มจร.นิวส์ขอให้กำลังใจทุกรูปที่เข้าสอบปีนี้นะครับ, 2549 ปีแรกที่แยกสอบ น.ธ.ตรี (สอบในพรรษา) ไม่สอบพร้อม น.ธ.โท-เอก (สอบนอกพรรษา) เพื่ออนุเคราะห์พระนวกะเข้าสอบ น.ธ.ตรี
|
|
|
5
|
เรื่องทั่วไป / เรื่องเล่ากฎแห่งกรรม / เมื่อสามเณรน้อย จะตาย แล้ว ( การต่อายุ )
|
เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2013, 08:31:27 am
|
ในสมัยพุทธกาลมีสามเณร น้อยองค์หนึ่งชื่อติสสะ อายุ ๗ ปี มาบวชเพื่อศึกษาเล่าเรียน และปฏิบัติธรรมอยู่ในสำนักพระสารีบุตรเถระ อัครสาวกของพระพุทธเจ้า เป็นระยะเวลาหนึ่งปี
สามเณรท่านนี้ได้รับการพยากรณ์จากพระสารีบุตรว่า " ชะตาถึงฆาต" จะต้องมรณภาพ ภายใน ๗ วันขอให้ปลงอายุสังขารเสีย พอสามเณรได้ฟังดังนั้น ในฐานะนักปฎิบัติธรรม ท่านก็มิได้สะทกสะท้าน หรืออาลัยในชีวิตแต่อย่างใด ไหน ๆ ก็จะละสังขารแล้ว ก็ใคร่จะขออำลาพระอาจารย์ไปโปรดโยมบิดา มารดาสัก ๓ วัน เพื่อเป็นการตอบแทนพระคุณเป็นครั้งสุดท้าย
เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็ออกเดินทาง กะว่าจะใช้เวลาไปกลับให้ทันก่อนกำหนด เพื่อฟังธรรมจากพระสารีบุตรเป็นครั้งสุดท้าย ในระหว่างการเดินทาง เนื่องจากในช่วงเวลานั้นเป็นหน้าแล้ง น้ำในลำธาร ห้วยหนอง เหือดแห้ง สามเณรได้เห็นปลาน้อย จำนวนหนึ่ง ดิ้นกระแด่ว ๆ ใกล้จะถึงเวลาตายอยู่ในบ่อน้ำที่กำลังแห้งเหือด ด้วยจิตที่เป็นเมตตา ท่านได้นำจีวรช้อนตักปลาฝูงนั้น ไปปล่อยในแม่น้ำสายใหญ่ แล้วจึงเดินทางต่อไป หลังจากโปรดโยมบิดา มารดา และเดินทางกลับมายังสำนักแล้ว
พอครบกำหนดตามที่พระสารีบุตรพยากรณ์เอาไว้ ก็เข้าไปกราบลาเพื่อขอฟังธรรมก่อนละสังขาร แต่พระสารีบุตรกลับไม่แสดงธรรมโปรด และได้กล่าวกับสามเณรว่า "กรรมดี ที่เณรได้ช่วยชีวิตฝูงปลา ซึ่งบังเอิญเป็นเจ้ากรรมของเณรแต่อดีตชาติ ประกอบกับบุญกุศลที่เณรได้ทำไว้ด้วยการถือเพศบรรพชิตในปัจจุบัน ทำให้เจ้ากรรมนายเวรเกิดความปีติ ทั้งสองฝ่ายได้ยินยอมให้กรรมหนักถึงตายของเณรหลุดพ้น ด้วยการ "อโหสิกรรม" ต่อกัน เณรได้พ้นกรรมบัดนี้แล้ว"
ดวงชะตานั้นเปลี่ยนได้ด้วยกรรมใหม่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ทาน ศีล การสวดมนต์เจริญภาวนา ดังคำสอนหลวงตาม้าว่า "เอ็งเริ่มไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ดวงเอ็งก็เปลี่ยนแล้ว ให้ฝากดวงไว้กับพุทธะ ธัมมะ สังฆะ มันอยู่ที่ตัวแกเอง"
|
|
|
12
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / ทำไมการที่เราถวาย ดอกไม้ ธูป เทียน ต่อ พระพุทธรูป จึงได้บุญ
|
เมื่อ: พฤษภาคม 25, 2013, 09:11:23 am
|
ทำไมการที่เราถวาย ดอกไม้ ธูป เทียน ต่อ พระพุทธรูป จึงได้บุญ คือดูไม่สมเหตุ ไม่สมผลเลยครับ เพราะว่าเห็นในงานวัดวันสำคัญ วันพระจะเห็น ผู้คนนำดอกไม้ ธูปเทียน ไป วางบูชา พระพุทธรูป กัน การทำอย่างนี้จะได้บุญจริงหรือครับ คือผมเชื่อว่า ถวายต่อพระพุทธเจ้า ได้บุญ แต่ถวาย ต่อพระพุทธรูป นั้น แปลก ๆ อยู่นะครับ อีกอย่างการถวายดอกไม้ ก็คือการถายเครื่องหอม ใช่หรือไม่ครับ การถวายเครื่องหอม สำหรับพระสงฆ์แล้วนั้นเป็นอาบัติ ( ผิดศีล ) ใช่หรือไม่ครับ
|
|
|
15
|
เรื่องทั่วไป / ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) / แล้ว วิปัสสนา คือ อะไรกันแน่
|
เมื่อ: เมษายน 20, 2013, 08:07:20 pm
|
เมื่อเพื่อนท่านหนึ่งพูดอย่างนี้ คือเท่าที่เคยเห็นกระทู้ในห้องนี้อธิบาย วิปัสสนา บางท่านบอกให้มองว่าสิ่งที่เราพิจารณา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป บางท่านบอก ให้พิจารณา ตามกฏไตรลักษณ์ คือ มันเป็นอนิจจังมีสภาพไม่เที่ยง เป็นทุกขังมีสภาพเป็นทุกข์ และ อนัตตาสลายตัวไปในที่สุด สรุปต้องพิจารณาแบบไหนครับ หรือ 2 อันนี้เป็นอันเดียวกันเดียวกัน ปล. สำหรับผม ทั้ง 2 แตกต่างกันน่ะครับ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป บางทีมันก็ไม่มีทุกข์ แต่ถ้าพิจารณาว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อันนี้มันมี ทุกข์เข้ามาด้วยครับ รบกวนด้วย ขอบคุณล่วงหน้า ชาวธรรมช่วยตอบอย่างไรดีครับ
|
|
|
17
|
ธรรมะสาระ / สนทนาธรรม ทั่วไป ตามความชอบใจของท่าน / เมื่อเทวดา ปรักปรำ พระ ว่าเป็นผู้ขโมยกลิ่นดอกบัว อ่านแล้วมีเรื่องให้คิดว่า...
|
เมื่อ: มกราคม 31, 2013, 11:26:31 am
|
เชิญอ่านกันก่อน นะครับ ส่วนประเด็น เดี๋ยวจะมาเปิด ครับปทุมปุบผสูตรที่ ๑๔ http://www.84000.org...book=9&bookZ=33
อรรถกถาปทุมปุปผสูตรที่ ๑๔ http://www.84000.org....php?b=15&i=795
ในพระสูตรนี้ ไม่ได้มุ่งให้ความสำคัญว่าการที่พระภิกษุไปดมดอกไม้นั้นถือเป็นการขโมยกลิ่นนะครับ เราลองอ่านอรรถกถานะครับ พระภิกษุรูปนี้ท่านเรียนกัมมัฏฐานในสำนักของพระศาสดาแล้วเข้าป่า เพื่อบำเพ็ญสมณธรรม แต่พอเริ่มดมกลิ่นดอกไม้แล้ว วันนี้ดมกลิ่นแล้ว ในวันพรุ่งนี้ แม้ในวันมะรืนนี้ก็จักดมกลิ่นอีก ซึ่งจะทำให้ตัณหาในกลิ่นนั้นของภิกษุนั้นเพิ่มพูนขึ้น และทำให้ประโยชน์ในชาตินี้ และในชาติหน้าของพระภิกษุนี้ พินาศไป เทวดาเห็นเช่นนี้ จึงเข้าไปตักเตือนว่าพระภิกษุขโมยกลิ่น
พระภิกษุได้ยินเทวดาเตือนแล้ว ก็แย้งว่าตนเองไม่ได้ขโมย เพราะแค่ดมห่าง ๆ แต่ดาบสอีกคนหนึ่งสิที่ไปเก็บดอกบัวขึ้นมาจากสระเลย จึงเรียกว่าขโมย ทำไมเทวดาไม่ไปตำหนิดาบสนั้นล่ะ?
เทวดาตอบว่า ดาบสนั้นเป็นบุรุษผู้มีบาปหนา แปดเปื้อนด้วยกิเลสเกินเหตุ เทวดาจึงไม่ได้ไปตักเตือนดาบสนั้น แต่ว่าพระภิกษุท่านนี้ เป็นผู้มุ่งประพฤติพรหมจรรย์เพื่อถึงที่สุดแห่งทุกข์ ฉะนั้นแล้ว สำหรับพระภิกษุรูปนี้ แม้บาปประมาณเท่า “ปลายขนทราย” ย่อมปรากฏประดุจเท่าก้อนเมฆในนภากาศ ในการที่พระภิกษุเพียงแต่ยินดีในกามคุณด้วยการสูดดมกลิ่นหอม เทวดาก็ถือว่าไม่สมควรทำแล้ว โดยถือว่าเป็นการลักขโมยกลิ่น
ภิกษุฟังเทวดาตอบแล้ว จึงเข้าใจว่าเทวดามาช่วยตักเตือนตนเองด้วยความเอ็นดู จึงบอกเทวดาว่า หากเทวดาเห็นตนเองประพฤติเช่นนี้อีกเมื่อไรแล้ว ขอเทวดาได้ช่วยตักเตือนให้ด้วย
เทวดาบอกว่าตนเองไม่ได้พึ่งพาอาศัยพระภิกษุนี้ และไม่ได้มีความเจริญเพราะพระภิกษุนี้ พระภิกษุพึงรู้เองว่าพระภิกษุจะไปสุคติได้ด้วยกรรมใดที่พระภิกษุนั้นได้ทำ
สรุปคือ ท่านมุ่งเตือนให้พระภิกษุสลดใจ เพื่อไม่ให้พระภิกษุปล่อยใจให้ตกเป็นทาสของตัณหาในกลิ่น เทวดาไม่ได้มุ่งจะมาปรับอาบัติพระภิกษุครับ กล่าวคือเทวดาไม่ได้มุ่งคุยเรื่องพระวินัย แต่มุ่งเตือนในแง่ของการสำรวมอินทรีย์มากกว่า
|
|
|
21
|
เรื่องทั่วไป / ข่าวสารเพื่อนถึงเพื่อน / ฟรี! บ้านพักพิงสำหรับญาติผู้ป่วยที่ต้องเดินทางจากต่างจังหวัด มารักษาตัวที่ กทม.
|
เมื่อ: กันยายน 21, 2011, 12:48:59 pm
|
อ่านแล้วชื่นชมในหน่วยงานที่ บริการ จึงขอนำประกาศให้ทราบในเว็บด้วยครับ ภาพของพ่อแม่ที่นอนเฝ้าไข้ลูกอยู่ข้างเตียง บ้างก็แอบนอนอยู่ใต้เตียง ระเบียงทางเดิน ไม่เว้นแม้แต่ที่ว่างอื่นๆ ภายในโรงพยาบาล เพียงเพื่อให้ได้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับลูก อยู่ใกล้และได้ดูแลลูก เป็นภาพที่ชินตาและสร้างความสงสารแก่ผู้พบเห็น หลายคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด ต้องไปเช่าบ้านพักฉุกเฉินซึ่งมีสภาพแออัด ไม่น่าอยู่ และอยู่ค่อนข้างไกลจากสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เมื่อลูกงอแงร้องไห้หา หรือเกิดเหตุฉุกเฉินกลางดึก กว่าที่พ่อแม่จะเดินทางมาถึงก็อาจจะไม่ทันการณ์เสียแล้ว!!! โครงการ บ้านพักพิงโรนัลด์ แมคโดนัลด์ เฮาส์ เพื่อให้ญาติผู้ป่วยเด็กได้เข้าพักฟรี รวมทั้งมีอาหารและเครื่องดื่มบริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ที่ชั้น 6 อาคารมหิตลาธิเบศร สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ถนนราชวิถี กรุงเทพฯ จากคุณ : indooroopilly http://www.pantip.com/cafe/family/topic/N11047237/N11047237.htmlAeva Debug: 0.0004 seconds.
|
|
|
23
|
เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / อยากแยกร่างได้สักสิบร่าง
|
เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2011, 09:18:13 pm
|
อยากแยกร่างได้สักสิบร่าง
วันหนึ่ง ณ ห้องฉุกเฉิน รพ.รัฐแห่งใหญ่ใจกลางกรุงเทพมหานคร ติดอนุสาวรีย์
พยาบาลคนหนึ่ง : อ้าว หมอ มาเข้าเวรแล้วหรอ ดีเลยๆ นี่คนไข้รอตรวจอีกเต็มเลย หยิบเอาไปตรวจเร็ว หมอฉุกเฉิน : (หยิบมาตรวจๆๆๆๆ) นักเรียนแพทย์คนหนึ่ง : พี่คะหนูมีเคสให้พี่ช่วยดูค่ะ เคสนี้มาด้วย bla bla bla bla จะรักษาไงดีคะ หมอ : อืมๆ เออๆ จ่ะๆ (ยังตรวจเคสตัวเองไม่เสร็จเลย) พยาบาลอีกคนหนึ่ง : เอ้า หมอ มีเคสเข้าห้อง resus (ห้องที่ใช้รักษาผู้ป่วยหนัก) รีบหน่อยเร้ว ไม่หายใจแล้ว หมอฉุกเฉิน : (วิ่งดุ๊กๆๆๆๆเข้าห้องresus ใส่ท่อช่วยหายใจ ปั๊มหัวใจกับน้องนศแพทย์) ญาติคนไข้ : เค้าจะเป็นอะไรมากไหมคะ แล้วจะต้องนอนรพ หรือเปล่า ใช้ค่าใช้จ่ายมากไหม หมอฉุกเฉิน : คือหมอคิดว่าคนไข้น่าจะเป็น....... คนไข้หอบๆๆอีกคนถูกเข็นเข้ามาในห้อง resus หมอฉุกเฉิน : เอ้าปั๊มกันไปก่อนนะ พี่ไปดูเคสนู้นก่อน (ไปฟังปอด สั่งพ่นยา ไม่ดีขึ้น โอะ ใส่ท่อช่วยหายใจเป็นเคสที่สอง) คนไข้เคสแรกเสียชีวิต หมอเข้าไปคุยกับญาติอีกครั้ง ญาติเข้าใจ เคสที่สองหายเหนื่อยแล้ว หมอจึงเดินออกมาจากห้อง resus ญาติคนไข้ข้างนอก : หมอทำอะไรอยู่คะ นี่คนไข้รอมาตั้งนานแล้วเมื่อไหร่จะมาตรวจ หมอฉุกเฉิน : เดินเข้าไปตรวจ (อ้าว ลืมเคสที่ตรวจไว้เมื่อกี๊ก่อนเข้า resus) เด๋วหมอไปดูเคสนู้นก่อนนะคะตรวจค้างไว้ ญาติเมื่อสักครู่ : ( หน้านิ่วคิ้วขมวดมากๆๆๆ) หมอตรวจเสร็จเดินมาตรวจเคสนี้ ญาติคนไข้เตียงริมนู้น : หมอๆรอผลปัสสาวะมาครึ่งชั่วโมงแล้ว เมื่อไหร่จะได้ หมอ ฉุกเฉิน : เอ่อๆเด๋วสักครู่นะคะ รอเด๋ว เด๋วได้แล้ว (จะได้ชาติไหนเนี่ย ทำไมต้องเป็นตูออกรับหน้า เจ้าหน้าที่ห้องแลบไม่ต้องตอบคำถามนี้ฟะ) ญาติ (คนไหนไม่รู้) : หมอคนไข้จะอ้วกแล้วขอกระโถนนนน หมอฉุกเฉิน : (วิ่งไปหยิบกระโถน รองรับอาเจียนได้ทันพอดี .... ไวจริงๆ) หมอฉุกเฉินตรวจๆๆๆ เดินไปสั่งแลบ (ซึ่งไม่รู้จะรออีกนานแค่ไหน ไม่รู้เมื่อไรที่เราจะพบกัน...กับแลบ) คนไข้ : หมอปวดขี้ อยากขี้ ทำไงดี หมอฉุกเฉิน : เอ้าเดินไปหยิบกระโถนเลย อยู่ห้องโน้นอะ เห็นปะตรงหัวมุม คนไข้ : เดินไม่ไหวโว้ย เป็นคนไข้เข้าใจไหม หมอฉุกเฉิน : อ้าวเออ ลืมไปว่าอ่อนแรง (เดินไปหยิบมาให้) ป้าคนไข้ข้างๆ : หมอๆหิวอะ ซื้อนมงัวแดงให้ป้าหน่อยดิ หมอฉุกเฉิน : นมงัวแดงนี่นมอะไรฟะ อ้อ ไทยเดนมาร์ก อ้าวเราก็ยังไม่ได้กินเลย ก็ได้ๆหมอจะได้ถือโอกาสไปซื้อกาแฟมากินด้วยเลย หมอฉุกเฉินอีกคนเห็น จึงพูดขึ้นว่า หมอฉุกเฉินอีกคน : เฮ้ย จะไปไหน จะไปอู้หรอแก เห็นนะๆ จะเดินไปเซเว่น ฉันก็ยังไม่ได้กินอะไรเลย งั้นฝากซื้อบิ๊กไบท์ปิดปากซะดีๆ หมอฉุกเฉินซื้อเสร็จเดินกลับมาเอานมและบิ๊กไบท์แจก รีบกระดกดื่มกาแฟอย่างหิวกระหาย... โอะ..ผลปัสสาวะเตียงนั้นมา โอะ...เป็นกรวยไตอักเสบ หันไปถามหมออายุรกรรมเวรนั้น ว่ามีเตียงให้นอนฉีดยาไหม หมอ อายุรกรรม : เตียงเต็มอะ อาการไม่หนักมาก ให้กลับบ้านนัดฉีดยา เอายาไปกินต่อสองอาทิตย์ละกัน เรื่องแค่นี้ทำไมต้องมาถามฮะ เราต้องดูคนไข้หนักที่ไม่มีเตียงจะนอนอีกตั้งหลายเคสนะ หมอฉุกเฉิน : ได้ๆ เดี๋ยวไปบอกญาติให้ หมอ ฉุกเฉินเดินไปบอกญาติ นึกได้ว่ามีเคสที่ดูกะน้องนักศึกษาแพทย์อีกนี่นา อธิบายญาติพอเป็นกระสัย รู้เรื่องรึป่าวฟะ ไม่แน่ใจ แต่ยังมีเคสรออีกเป็นสิบ จึงตัดใจไปดูเคสใหม่
ไปเจอข้อความนี้ครับ คิดว่า หมอท่านนี้มีโอกาสฝึกละ ปฏิฆะได้ดีกว่าคนอื่นๆครับ พอมีผัสสะเข้ามา ก็ใช้ปัญญามองเห็นปัญหา ค่อยๆละ หาเหตุแห่งทุกข์
จากคุณ : venture
|
|
|
|