อธิบาย ได้ถูกต้องตามความ หมายสมกับที่ได้ติดตามรับฟังรายการ มาตลอด
ลองวิจารณ์ โดยยก ทุกข์เป็นองค์ตั้ง ดูนะครับ
จริง โดยสมมุติ ว่า นี่เป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง เพื่อน ญาติ สหาย หัวหน้า ลูกน้อง เป็นต้น ตรงนี้สมมุติให้เป็น แต่ถ้าใครตั้งมั่นในสมมุติ ไว้อย่างเหนียวแน่น ก็ต้อง ทุกข์ แท้ที่จริง ความจริง ก็คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ว่างเปล่าจากความหมายแห่งความเป็นตัวตน ครับ
จริง โดยความเป็น จริง อันนี้ ผมว่าน่าจะหมายถึง กฏแห่งพระไตรลักษณ์ มีความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ถึงไม่สมมุติ แต่ความเป็นจริง ก็ต้องเป็นจริงอย่างนั้น คือ เกิด แล้ว ต้องแก่ ต้องเจ็บ และต้องตาย
จริง โดย ปรมัตถ์ ฟังมาจากพระอาจารย์ อีกทีนานมากแล้ว นั้นคือความเป็นจริง ที่เป็นสภาวะ อันเกิดจากการภาวนา เริ่มตั้งแต่ ศรัทธา ไป ปีติ ปราโมทย์ สุข สมาธิ เป็นต้นไป สิ่งเหล่านี้เรียกว่า จริง โดยปรมัตถ์ เพราะถึงความจริงนี้ได้ ด้วยอาการภาวนา เท่านั้น ถ้าไม่ภาวนา ก็ไม่ถึง ทั้งที่ต้นสายปลายเหตุ มีเพียงเพื่อความหลุดพ้นจาก วัฏฏะวังวน ของทุกข์ จึงได้จัดเรียกส่วนนี้ ว่า จริง โดยปรมัตถ์ กล่าวคือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 นั้นคือความเป็นจริง โดยปรมัตถ์
อธิบาย บูชาครูครับ
จริง โดยสมมุติ ก็คือ ความเป็นจริงที่สมมุติขึ้นมา ว่าเป็นเรา เป็นของเรา เป็นตัวเป็นตนของเรา แต่ความจริงโดยสมมุตินี้มีการสมมุติไม่สิ้นสุด เช่น เป็น ลูก เป็น พ่อ เป็น แม่ เป็นพลเมือง เป็นผู้ภาวนา อย่างนี้เป็นต้น
จริง โดยความเป็นจริง ก็คือ จริงที่เป็นเช่นนั้น เป็นกฏของทุกสรรพสิ่ง ในก็คือ พระไตรลักษณ์ หรือที่รวมเรียกว่า สามัญลักษณะ ซึ่งเป็นความจริง โดยความเป็นจริง จะสมมุติ หรือ ไม่สมมุติ ก็เป็นจริง อย่างนั้น นะจ๊ะเพราะทุกสรรพสิ่ง เป็น อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา
จริง โดยปรมัตถ์ ก็คือ มรรค 4 ผล 4 นิพพาน 1 หรือที่เรียกว่า โลุกตตระธรรม 9 อันนี้เรียกว่าจริงโดยปรมัตถ์เพราะเป็นสภาวะจริง ๆ ของผู้ภาวนา จนได้ ผล หรือที่เรียกว่า บรรลุธรรม เมื่อถึงผลนี้ก็เรียกว่า จริงแท้ แต่ ก็รู้ภายในตน ที่เรียกว่า ปัจจัตตัง คือ รู้เฉพาะตน จริงโดยปรมัตถ์ เริ่มต้นที่ ศรัทธา ปิีติ ปราโมทย์ ไปจนถึง นิพพาน เมื่อถึงตรงนี้เรียกว่า นิโรธสัญญา จำความเป็นจริงแห่งปรมัตถ์ได้ ดังนั้น ปรมัตถ์ เป็นเรื่องเหนือโลก เหนือกาคาดเดา
สาธุ สาธุ สาธุ