ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ย่ำ "สะพานสารสิน" ย้อนถิ่นตำนานรัก  (อ่าน 2066 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28456
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ย่ำ "สะพานสารสิน" ย้อนถิ่นตำนานรัก
« เมื่อ: ธันวาคม 17, 2011, 09:36:02 pm »
0

ย่ำ "สะพานสารสิน" ย้อนถิ่นตำนานรัก

แสงอาทิตย์แรกยามเช้าตรู่มองจากหน้าห้องพัก.

เมื่อ “น้องน้ำ” มาเยือนเมืองกรุงซะอ่วมอรทัย หลายคนจึงหนีน้องน้ำไปเป็นผู้ประสบภัยอยู่ตามจังหวัดต่างๆ เหมือนเช่นเราที่หนีน้ำท่วมไปเยือนภูเก็ต เป็นผู้ประสบภัยแบบไฮโซ เพราะได้ที่พักแสนสบาย “โรงแรมเรดิสัน บลู พลาซ่า รีสอร์ท พันวา บีช” โรงแรมสุดหรูบรรยากาศเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัว อยู่ปลายแหลมพันวา ห่างตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 10 กม. ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวอย่างครบครัน มีห้องพักมากมายถึง 215 ห้อง และยังอยู่ใกล้กับความน่าตื่นตาตื่นใจทั้งหลายของภูเก็ต ห้องพักที่โค้งไปตามแนวอ่าวหันหน้าออกทะเล ทำให้ได้เห็นพระอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าทุกเช้า เลยทำให้หายเครียดจากน้องน้ำไปได้หลายวัน

ห่างจากโรงแรมไปประมาณ 1 กม.ที่สุดปลายแหลมพันวา เป็นที่ตั้งของพิพิธ-ภัณฑ์สัตว์น้ำภูเก็ต หรือ Phuket Aquarium หน่วยงานราชการในสังกัดสถาบันวิจัย และ พัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่นี่นอก เหนือจากเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของสิ่งมีชีวิตทางทะเล ทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและน้ำเค็มมากกว่า 150 ชนิดแล้ว ยังเป็นสถานที่ดูแลรักษาสัตว์น้ำที่บาดเจ็บอีกด้วย เช่น เต่าทะเล


หอคอยชมวิวบนสะพานสารสิน แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่.

“คุณติ๊ก” พีอาร์โรงแรมเล่าให้ฟังว่า นอกจากโรงแรมจะได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังรับดูแลเต่าที่บาดเจ็บจากท้องทะเลด้วย เพื่อช่วย ให้มันพ้นจากความทุกข์ทรมาน  โดยเต่าที่บาดเจ็บมีทั้งถูกใบพัดเรือประมงตีกระดองแตก ขาขาด ถูกแหอวนของชาวประมงลาก กลืนกินขยะที่มีคนทิ้งลงไปในทะเล หรือกินเบ็ดของชาวประมง ฯลฯ

แต่ละปีเต่าบาดเจ็บมีจำนวนมาก และเนื่องจากงบประมาณทางราชการค่อนข้างน้อย ทางโรงแรมจึงตั้งกองทุนช่วยเหลือ ส่วนหนึ่งก็ได้ให้นักท่องเที่ยวมีส่วนร่วมด้วยการตั้งตู้รับบริจาคด้วย เต่าที่รักษาหายแล้ว บางตัวที่ขาขาดว่ายน้ำไม่ได้ ทางสถาบันก็รับดูแลไว้ ส่วนตัวที่ดีก็ปล่อยกลับคืนสู่ท้องทะเล อันเป็นบ้านของพวกมันต่อไป

สิ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ทำเป็นอันดับแรกเมื่อมาภูเก็ต คือการไปไหว้พระที่วัดฉลอง ดูพิพิธภัณฑ์เล็กๆของหลวงพ่อแช่ม แล้วชมตึกเก่าที่เป็นสถาปัตย-กรรมแบบชิโน-โปรตุกีสในตัวเมือง ที่บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนกระบี่ ถนนพังงา ถนนเยาวราช ถนนกระ และซอยรมณีย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในซอยรมณีย์ที่กำลังเป็นซอยยอดฮิตและเป็นสถานที่ยอดนิยม ในการถ่ายภาพเวดดิ้งของคู่รักที่กำลังจะแต่งงาน


ทะเลงามยามบ่ายที่แหลมพันวาใกล้ รร.เรดิสันฯ.

พระมหาธาตุเจดีย์ที่วัดฉลอง ภูเก็ต.

อาคารสไตล์ “ชิโน-โปรตุกีส” คือสถาปัตยกรรมจีนกับโปรตุเกส ที่ผสมผสานกันอย่างงดงามและลงตัว โครงสร้างของตึกที่ก่ออิฐ หรือเทคอนกรีตแบบยุโรป-มีหน้าต่างหรือเฉลียงยื่นออกมาจากตัวบ้าน-กรุบานหน้าต่าง หรือประตูกระจกสี ตกแต่งลวดลายตามขอบประตูและหน้าต่าง-หัวเสามีลักษณะเป็นเสาแบบยุโรป คือ เสาแบบ ดอริค (Doric) ไอโอนิค (Ionic)  และโครินเธียน  (Corinthian)  โดยระหว่างเสาจะมีลักษณะเป็นประตูโค้งแบบโรมัน ด้านหน้าจะประดับด้วยลายปูนปั้นแบบจีน กระเบื้องปูพื้นจะเป็นแบบฝรั่ง แต่หลังคามุงด้วยกระเบื้องดินเผาทรงกระบอกผ่าซีก

ในอดีตภูเก็ตเคยเป็นเกาะที่มากไปด้วยความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ การค้า และศิลปวัฒนธรรม มีตึกรามบ้านช่องและอาคารทางราชการที่ถูกเนรมิตขึ้น ในสไตล์  “ชิโน-โปรตุกีส” ร่องรอยอักขระ-รอยนูน ต่ำสูงและพื้นผิวรูปทรงอ่อนช้อยและวิจิตรศิลป์อันเปี่ยม เอกลักษณ์  หล่อหลอมรวมเป็นความงดงามที่วันเวลา ไม่สามารถหยุดยั้งคุณค่าลงได้

ซึ่งเป็นเวลายาวนานกว่าศตวรรษที่อาคารชิโน-โปรตุกีสตั้งตระหง่านอวดมนตร์เสน่ห์ให้ผู้พบเห็นเข้าใจถึงเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในอดีตของเกาะภูเก็ต จนทำให้หน่วยงานราชการ-ภาคเอกชนและประชาชนได้จับมือร่วมกัน พัฒนาส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมชิ้นนี้ ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใช้ดึงดูดความสนใจจากผู้มาเยือน


อาคารธนาคารชาร์เตอร์ ถนนภูเก็ต ที่มีอายุ เก่าแก่กว่า 100 ปี.

เกาะต่างๆในท้องทะเลภูเก็ตที่มองจาก เขาขาด จุดชมวิวแห่งใหม่.

นอกจากนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าและความงาม ในรูปแบบอาคารชิโน-โปรตุกีส กลางเมืองภูเก็ต คือ อาคารธนาคารชาร์เตอร์ ถนนภูเก็ต ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี และเป็นอาคารประวัติศาสตร์ เนื่องจากเป็นธนาคารแห่งแรกที่ตั้งขึ้นในภูมิภาคนี้ สมัยรัชกาลที่ 5 โดยดำริของพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดีฯ เจ้าเมืองภูเก็ต

ขณะนี้เทศบาลนครภูเก็ตกำลังจะทุ่มงบประมาณกว่า 12 ล้านบาท เนรมิตอาคารแห่งนี้ และศูนย์รวมข่าวพรหมเทพ หรือโรงพักตลาดใหญ่ในอดีตให้เป็น “พิพิธภัณฑ์บาบ๋าเมืองภูเก็ตเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ” หวังให้คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวได้ศึกษาความเป็นมาของวัฒนธรรมบาบ๋า-เพอรานากัน เมืองภูเก็ต


ส่วนนักท่องเที่ยวที่ชอบทะเล หากเบื่อชายหาดดังๆ ของภูเก็ต อยากแนะนำ “หาดปลื้มสุข” ชายหาดเล็กๆดิบๆ ทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ที่  ต.รัษฎา ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 20 นาที ใกล้กับหาดเกาะสิเหร่ และยังได้ไหว้พระพุทธไสยาสน์ ที่เนินเขาหลังวัดเกาะสิเหร่ ซึ่งจุดนี้สามารถเห็นวิวเมืองภูเก็ตได้ดีอีกด้วย

แต่ถ้าใครอยากเห็นเมืองภูเก็ตในมุมสูงอย่างเต็มตา ให้ไปที่ “เขาขาด” จุดชมวิวแห่งใหม่ อยู่บริเวณอ่าวมะขาม ห่างจากโรงแรมเรดิสันฯ ไม่มากนัก ที่นี่สามารถมองเห็นเมืองภูเก็ตได้แบบ 360 องศา และยังมองเห็นเกาะต่างๆ ที่อยู่ด้านเหนือของภูเก็ต รวมทั้งพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี บนเทือกเขานาคเกิดอีกด้วย


ตึกสไตล์ชิโน-โปรตุกีสแสนสวย ที่มีอายุนาน กว่าศตวรรษในซอยรมณีย์.

สถานที่สุดท้ายที่อยากให้ไปย้อนรอยตำนานรัก คือ “สะพานสารสิน 2” ที่ถูกสร้างขึ้นขนานกับสะพานเดิมที่ใช้มาหลายสิบปีและมีตำนานรักอันโด่งดัง ส่วนสะพานอันเดิมมีการสร้างหอคอยชมวิวที่กลางสะพานและรื้อพื้นถนนออกปูกระเบื้องใหม่สวยงาม เชื่อว่าไม่ช้าไม่นานสถานที่แห่งนี้จะเป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ส่วนอาหารการกิน ที่ขึ้นชื่อลือชา มาภูเก็ตแล้วต้องไปที่นี่ ร้าน “ทุ่งคากาแฟ” บนเขารัง โดยเฉพาะตอนกลางคืนสวยงามเกินบรรยายด้วยแสงไฟ แลดูเสมือนดวงดาวพร่างพราวอยู่บนดิน

แต่เดิมในสมัยโบราณชื่อจังหวัด “ภูเก็ต” จะถูกเขียนว่า “ภูเก็จ” ปัจจุบันภาษาท้องถิ่นของภูเก็ตแทบจะเลือนหายไปแล้ว เหลือแต่คนรุ่นเก่าที่ยังพูดได้ เด็กรุ่นใหม่ส่วนมากจะพูดไม่เป็น ทำให้โรงเรียนแทบทุกแห่งในจังหวัดต้องสอนภาษาท้องถิ่นภูเก็ตควบคู่ไปด้วย เพื่อให้เป็นการสืบทอดวัฒนธรรมทางภาษาให้คงอยู่คู่เมืองภูเก็ตไปตราบนานเท่านาน.



ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/global/223992
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

นิรตา ป้อมนาวิน

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +20/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 1212
  • อย่างน้อยชาตินี้ขอปิดอบายภูมิ
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: ย่ำ "สะพานสารสิน" ย้อนถิ่นตำนานรัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2011, 12:02:47 pm »
0
อยากไปเที่ยวจัง   :08:
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ