พิมพ์

[raponsan]

วัดชลประทานฯ แจง ภาพแชร์ว่อน ทุบหลายอาคารในวัด

แชร์ว่อนเฟสบุ๊ก ภาพทุบหลายอาคารในวัดชลประทานรังสฤษดิ์ นนทบุรี อ้างไม่เหลืออะไรไว้เป็นอนุสรณ์หลวงพ่อปัญญา ขณะที่พระปัญญานันทมุนี แจงไม่ได้ทำลาย แต่ปรับให้ดีขึ้น พร้อมเตรียมสถานที่พระราชทานเพลิงหลวงพ่อปัญญา ปี2560

วันนี้( 9เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า kittivongsangsuwan ได้มีการแชร์ภาพการทุบทำลายศาสนสถาน ภายในวัดชลประทานรังสฤษดิ์จังหวัดนนทบุรี โดยเฟสบุ๊กดังกล่าว ยังได้มีการเขียนข้อความถึงโครงการปรับภูมิทัศน์ของวัด เพื่อสลายสรีระสังขารหลวงพ่อปัญญา เป็นการอ้างใช้คำที่หรู แต่เป็นการทุบทำลายแทบทุกสิ่ง ที่หลวงพ่อท่านได้สร้างกันมากับญาติโยม ตั้งแต่เริ่มสร้างวัดโดยระบุตอนหนึ่งว่า ลานหินโค้ง สัญญาลักษณ์ประจำวัดคงไม่เหลือเพราะลานหินโค้งอันใหม่ งอกมาใกล้เสร็จแล้ว ศาลาบำเพ็ญกุศลทุบ ศาลาหอฉันทุบ พังพินาศเตรียมสร้างมหาเจดีย์ ที่อยู่อุบาสกทุบกุฏิรับรองทุบ เรือนพักพระทุบ กุฏิทรงไทยทุบ แล้วจะเหลืออะไรให้เป็นอนุสรณ์อีก

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามข้อเท็จจริง ไปยัง พระปัญญานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดชลประทานรังสฤษดิ์ โดยพระปัญญานันทมุนี กล่าวว่าการปรับภูมิทัศน์ของวัดทั้งหมด เนื่องจากในปี 2560 เป็นปีที่วัดชลประทานฯ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อปัญญาดังนั้น ทางวัดจึงต้องเตรียมสถานที่พระราชทานเพลิงศพ คือ บริเวณลานหินโค้งเป็นที่ที่จะรองรับประชาชนได้หลายพันคน วัดจึงต้องปรับปรุงขยายพื้นที่ลานปลูกต้นไม้เพิ่ม ในขณะเดียวกันทางวัด ได้สร้างสถานที่เก็บอัฐิธาตุของหลวงพ่อปัญญา จะเป็นอาคารที่ใช้แสดงหลักธรรมของหลวงพ่อ อย่างเป็นหมวดหมู่มีคุณค่าต่อชาวพุทธใช้ศึกษาเรียนรู้

พระปัญญานันทมุนี กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญประชาชนที่เดินทางมาวัดได้ร้องเรียนเกี่ยวกับ
    1.ที่จอดรถไม่เพียงพอ ทางวัดจึงมีการจัดสร้างอาคารจอดรถบริเวณสระน้ำ โดยไม่ถมสระด้วยการยกเสาสูง พร้อมคืนพื้นที่ด้านข้างบริเวณพระอุโบสถ จากที่จอดรถเป็นสวนต้นไม้ให้ร่มรื่น สมกับเป็ยพระอารามหลวง
    2.การปรับรื้ออาคารศาลาศพจำนวน3 หลัง ที่อายุมากกว่า 40 ปี เพื่อจะย้ายสร้างให้อยู่ในพื้นศาลาศพ โดยเฉพาะในการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการสร้างคืนแล้ว 3 ไม่ใช่ทุบทำลายไปเฉยๆ
    3.ที่พักค้างแรมปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนไม่เพียงพอ ทั้งห้องน้ำ โรงครัว ทางวัดจึงต้องปรับปรุงใหม่สร้างเพิ่มในจุดที่เหมาะสม

"ที่สำคัญการพัฒนาครั้งนี้ เพื่อพระศาสนาเพราะที่พักสำหรับพระนวกะ และพระมหาเถระมีที่พัก แต่พระภิกษุที่เป็นศาสนทายาทจำพรรษาในวัด ที่พักไม่เพียงพอ จึงต้องปรับปรุงสถานที่จำพรรษาให้เพียงพอหากวัดมีแต่พระนวกะ พระศาสนาจะเป็นเช่นไร ซึ่งสิ่งที่ตนดำเนินการทั้งหมดทำเพื่อหลวงพ่อปัญญาพระศาสนา และประชาชน ไม่มีคิดเป็นอื่น พร้อมรับทุกเรื่อง ที่สำคัญแผนการพัฒนานี้ทางผู้ว่าราชจังหวัด คณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรองการดำเนินการดังกล่าวด้วย ในการพัฒนาวัดครั้งนี้"พระปัญญานันทมุนี กล่าว..

ขอบคุณภาพข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/390858