ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อะไรคือมาร ?  (อ่าน 2143 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

อาราม นิวส์ FACEBOOK

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 133
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
อะไรคือมาร ?
« เมื่อ: เมษายน 25, 2014, 12:28:50 pm »
0
สำหรับท่านทั้งหลายแล้ว มารคืออะไร ?
บันทึกการเข้า
.              ร่วมรณรงค์ รักษาศาสนา ไม่ส่งต่อ ข่าวเสีย พระสงฆ์ไทย   
                                     คงไว้ แต่ข่าวดี ๆ
ติดตาม ข่าวสารดี ๆ ของพระสงฆ์ไทย ได้ที่ "อาราม นิวส์" ข่าวพระ ได้ทางเฟสบุ๊ค

saieaw

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +1/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 271
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือมาร ?
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: เมษายน 25, 2014, 02:40:52 pm »
0
คำถาม ที่ถามเหมือน เราไม่รู้ และ เป็นคำถามลักษณะลองภูมิ ไม่ได้มีประโยชน์ อะไรที่จะตอบ คำถามสั้นเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะอ่านคำตอบ จริง ๆ

  :29: :29: :29:
บันทึกการเข้า

saichol

  • พอพึ่งพาได้
  • ***
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 247
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือมาร ?
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 25, 2014, 03:36:27 pm »
0
บันทึกการเข้า

Admax

  • ผู้อุปถัมภ์
  • โยคาวจรผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 1063
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: อะไรคือมาร ?
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: เมษายน 25, 2014, 09:53:41 pm »
0

ผมไม่รู้ธรรม ไม่ได้ปฏิบัติ ขอตอบอย่างคนโง่ที่ไม่รู้ธรรมตามจริงดังนี้ครับ

๑. ในทางกรรมฐาน มาร คือ "อวิชา" (ความไม่รู้เห็นตามจริง ได้แก่ไม่รู้จักสัจจะธรรม ไม่รู้ความเป็นไปตามจริงในธรรม ไม่รู้จักอริยะสัจ ๔) อันก่อเกิดขึ้นใน "อกุศลมูล ๓"

๒. ในตำนาน มารอยู่ในชั้นสวรรค์ปรนิมมิตวสวัตดีภูมิ เป็นสวรรค์ชั้นที่ ๖ ที่มีความสุขความสำราญ มีความเพลิดเพลินในกามคุณ ทั้ง ๖ เป็นอย่างยิ่ง ..เป็นผู้ที่คอยกีดขวางไม่ให่พระพุทธเจ้าตรัส และ ขัดขวางการทำความดีเป็นกุศลของคน ดังนั้นในทางกรรมฐานจึงได้เรียกว่า อวิชชา อุปกิเลส คือ มาร

ความรู้ผมไม่มีจึงกล่าวเดาตามที่เคยได้ยินได้ฟังมา ที่พอจะสัมผัสตรึกตรองได้เพียงแค่นี้ คงไม่เป็นที่ถูกต้องตามจริง แต่คิดว่าการถามตอบสนทนาธรรมนี้เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อปฏิบัติซึ่งกันและกันคงทำให้ผู้ทาแวะชมกระทู้ทั้งหลายสนใจถามตอบกันอันเรัยกว่า สนทนาธรรม ดังนี้ครับ
บันทึกการเข้า
ความติดข้องใจเสพย์อารมณ์ความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น สมุทัย
ผลของการดำเนินไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี เป็น ทุกข์
รู้สัจธรรมและปรมัตถ์ ดำรงอยู่ในกุศล สติ ศีล สมาธิ พรหมวิหาร๔ คิดดี พูดดี ทำดี เป็น มรรค
การดับไปแห่งความพอใจยินดี และ ความไม่พอใจยินดี ถึง อัพยกตธรรม เป็น นิโรธ