ขอให้เชื่อ กฏแห่งกรรม
"บางคนเกิดมาแล้วร่ำรวยเพราะตระกูล บางคนเกิดมายากจนก็เพราะตระกูล บางคนเกิดมาอนาถาพิกลพิการ ส่วนหนึ่งก็เป็นผลแห่งกรรมจากอดีต ด้วย ดังนั้นเกิดมาเป็นมนุษย์แล้ว จะยากดี มีจน พิกลพิการ อย่างไรก็ตาม ถ้าได้พบพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ขอให้นำหลักธรรมมาค้ำจุนชีวิต อย่าให้ชีวิตอาภัพสองชั้นสามชั้น ให้มันอาภัพอับโชคก็ให้เป็นเพียงชั้นเดียว คือ ทางกายเท่านั้นอย่าให้จิตใจ มันอาภัพอับโชคอับเฉาตามไปด้วย ถ้ามีเวลาหายใจได้อยู่ ก็เอาลมหายใจเข้า ลมหายใจออกมาเป็นที่พึ่ง ตั้งสติดูลมหายใจเข้าบ้าง ดูลมหายใจออกบ้าง ดูเถอะ เดี๋ยวก็เกิดปัญญาเอง ดังนั้นถ้าจะซวย จะโชคร้าย ก็ขอให้เป็นเรื่องภายนอก คือเรื่องของกาย แต่จิตใจและวิญญาณ ให้พยุงให้สูงขึ้นด้วยหลักธรรม อยาให้มันโชคร้าย หรือซวยไปสองชั้นสามชั้น อย่าได้มานั่งทุกข์นอนทุกข์ เพราะความแก่ ความเจ็บ และตายเลย เพราะเรื่องเหล่านี้มันหนีไม่ได้ ถ้าไม่อยากตกต่ำกว่าเดิม ก็จงอย่าทิ้งธรรม เพราะยิ่งทิ้งธรรม ละ จากพระธรรม ชีวิตก็จะแย่ลงกว่าเดิม ทุก ๆ ชาติ ชีวิตไม่ใช่เกมส์ ทีตายแล้วกลับไปเริ่มต้น แต่ชีวิตนั้นถ้าขาดหลักธรรม มันไม่ได้กลับไปเริ่มต้นแต่ไม่ถอยจากจุดเริ่มต้นไปอีกมาก กว่าจะได้กลับมาเป็นมนุษย์ ในสภาพที่ เต็ม .... พวกที่พิกล พิการ นั้นเป็นตัวอย่างในการถอยยาว เพราะถึงแม้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แต่สภาพกายไม่พร้อม สภาพจิตก็จะแย่ลงไปกว่าเดิม เรามองคนพวกนี้ ถามว่าสงสารไหม ถ้าเป็นเมื่อก่อนใช่ แต่ปัจจุบันฉันมองแล้วเฉย ๆ ( มันเป็นมาสามปีแล้ว ) เพราะเราเห็นตามความเป็นจริงว่า กรรมที่ส่งผลนั้น ย่อมทำให้กำเนิดลำบากมากขึ้น นั่นเอง ดังนั้นยิ่งมองเห็น ก็ยิ่งไม่ยากเกิด เพราะความไม่ยากเกิดจึงมุ่งภาวนา การที่ฉันเลือกวิเวกนั้น สังคมไม่ได้มองว่าฉันเป็นคนดีอะไรทั้งนั้น ส่วนใหญ่ จะว่า บ้า แต่ฉันก็ขอ บ้า ตรงนี้ให้เป็นครั้งสุดท้ายก็แล้วกัน ดังนั้นท่านทั้งหลายถ้ามองเห็นทุกข์ แล้วไม่อยากเกิด ก็ไม่ควรสร้างกรรมไม่ดีไว้นะ ถ้ารู้ตัวว่าสร้างกรรมไม่ดีไม่ถึง อนันตริยกรรม ก็พึงรีบขวนขวายการภาวนา อย่างน้อยก็ให้เป็นพระโสดาบัน จะได้หนีกรรมอบายภูมิ 4 ได้ ....."
ข้อความบางส่วน จากหนังสือเพียงหยดหนึ่งแห่งพระธรรม
บันทึกการเดินทางและการภาวนา ของ ธัมมะวังโส
( สำหรับบุคคลในภาพนี้ นับว่าน่ายกย่องถึงแม้ไม่ได้ใช้หลักธรรม ในศาสนาพุทธ แต่เขาก็สามารถใช้หลักธรรมพื้นฐาน ในการประคองชีวิตเขาได้