ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ตอบคำถามจากเมล "ผู้ปฏิบัติ กรรมฐาน ควรเริ่มต้นที่ไหนถึงจะปฏิบัติได้ผล"  (อ่าน 2616 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

arlogo

  • 1.บรรพชิต
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +101/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 1176
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
0
ตอบคำถามจากเมล

ปุจฉา
         "ผู้ปฏิบัติ กรรมฐาน ควรเริ่มต้นที่ไหนถึงจะปฏิบัติได้ผล เพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดีถึงจะได้ผลที่ดีที่สุด ในการปฏิบัติ เคยไปตามเพื่อนมาแล้ว ก็ยังปฏิบัติไม่ได้ภาวนาไม่ได้ จนกระทั่งรู้สึกท้อถอยต่อการภาวนา ว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ในชาตินี้ คงต้องสั่งสมบารมีกันไปก่อน หรือควรทำอย่างไรดีคะ นมัสการฃ่วยตอบด้วยนะคะ"


วิสัชชนา



       เป็นคำถามที่พื้นฐาน มากแต่ก็เป็น คำถามที่ดี ในยุคนี้ สถานที่ปฏิบัติธรรมมีเป็นจำนวนมาก มีหลายสำนัก หลายครูอาจารย์ ภายใต้องค์กรเดียวกัน คือ พุทธศาสนา จนบางครั้งผู้ภาวนากันเองก็ สับสนและ ทะเลาะกันก็มี ด้วยเรื่อง และเหตุแห่งการเรียน การสอน วิธีการภาวนาที่แตกต่างกันไป นับว่าเป็นเรื่องที่ดี ที่มีคำถามอย่างนี้ เพราะผู้ภาวนาควรจะเข้าใจ

        ผู้ภาวนา ที่ดี ควรปฏิบัติตามขั้นตอนนี้

         1.ถามตนเองกลับไปว่า ตนเอง มาภาวนาทำไม ? การถามอย่างนี้ คือการกำหนดเป้าหมาย ว่าเราจะมาภาวนาเพื่ออะไร จะได้ไม่เคว้งคว้าง ไม่รู้ที่ไปที่มาของการภาวนา กลายเป็นการภาวนา แฟชั่น เห่อกันไปตามสมัย ตามยุค หาแก่นสารของตนเองไม่ได้
             
         2.เมื่อท่านกำหนดเป้าหมายการภาวนาได้ ก็จะได้เรียนและภาวนาตามจุดประสงค์ การปฏิบัติได้วัตถุประสงค์ที่ตั้งใจ จัดเป็นข้อสอบของตัวท่านเอง เป็นคำตอบให้กับท่านว่า ท่านได้ผล หรือ ยัง หรือ ว่าได้ผลแล้ว ยังตอบว่าไม่ได้ อยู่อีก

         3.การปฏิบัติ กรรมฐาน ในพระพุทธศาสนาไม่ว่าในสำนักใด ๆ ก็ตาม ควร มีกัลยาณมิตร ที่ทรงคุณธรรม ความรู้ที่สามารถช่วยหรือตอบปัญหา ในการภาวนาให้ได้

         4.จัดสรรเวลาในการภาวนา หัวข้อนี้ก็สำคัญ บางท่านมีความตั้งใจจะภาวนา แต่จัดสรรเวลาไม่ได้ พาลไปก็เหมาเป็นการปฏิบัติไปในชีวิตประจำวัน คือ ฝึกปฏิบัติแบบทำใจ เหมือนฝึกสติในชีวิตประจำวัน ที่มีหลายท่านเข้าใจผิดว่า การปฏิบัติ ก็คือการทำงาน อันนี้ย้อนรอยพระพุทธเจ้าเลยนะนี่ ดังนั้นการปฏิบัติภาวนาก็คือการทำมรรคให้สมบูรณ์ ส่วนใหญ่ในปัจจุบันผู้ภาวนา จะขาด มรรค 2 ประการ คือ สัมมาสติ มรรค และ สัมมาสมาธิ มรรค ดังนั้น สำนักการสอนกรรมฐานต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่จะเน้นการสอน กรรมฐาน อยู่สองแบบ คือ ภาวนาด้วยสติ ภาวนาด้วยสมาธิ  ดังนั้นท่านที่จะมาภาวนานั้นอย่าเข้าใจเราฝึกภาวนาเพียงแต่ด้านใดด้านหนึ่ง แต่การภาวนานั้น เป็นการฝึกภาวนาให้มรรค มีองค์ สมบูรณ์


          ทำไม ฝึก สมาธิแล้วไม่ก้าวหน้า ?????? คำถามนี้ต้องย้อนกลับไปว่า สติ ท่าน มีหรือ ยัง ความเพียร มีหรือ ยัง ประกอบอาชีพสุจริตหรือยัง ทำกรรมดีหรือยัง มีศีลสมบูรณ์ หรือยัง มีความตั้งใจที่จะออกจาก กาม พยาบาท โทสะ โมหะ หรือไม่ ท่านเข้าใจ สัมมาทิฏฐิ แล้วหรือยัง เมื่อจะตอบคำถามก็จะไล่สาเหตุกลับไปได้ เป็นเพราะที่ปฏิบัติไม่ได้ ก็เพราะ อริยมรรคไม่สมบูรณ์ อริยมรรค มิได้สมบูรณ์ ด้วย สมาธิ หรือ สติ หรือความเพียร แต่จะสมบูรณ์ได้ ด้วย มรรค ทั้ง 8 ครบถ้วน

         ดังนั้น บารมีที่ไม่เต็ม ในที่นี้หมายถึง บารมี ในมรรคยังไม่พอ ดังนั้นท่านที่มาภาวนาบางท่านใช้เวลาวันเดียว ปฏิบัติ บางท่าน 7 วัน บางท่านเป็น เดือน บางท่านก็เป็นปี บางท่านก็หลาย ปี แต่ถ้าท่านทำจริง ภาวนาจริง ทำให้สมบูรณ์ จริง ๆ พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสไว้ ใน มหาสติปัฏฐานสุตรว่า ไม่เกิน 7 ปี ก็สำเร็จแล้ว

        เชื่อหรือไม่ ? ก็พิจารณากันเอาเอง

        แต่ที่จะบอก และ เตือนก็คือ เป้าหมายในการภาวนา เป็นสิ่งที่สำคัญในการภาวนา เพราะปัจจุบันด้วยประสบการณ์ การสอนมา เห็นศิษย์หลายท่านตอนนี้สูญเสียเป้าหมายในการภาวนา กลายเป็นว่า ฉันตั้งใจภาวนาเพื่อ ละตัดกิเลส ตัดสงสาร กลายเป็นว่า ไปภาวนาเพื่อสรรเสริญ เพื่อหน้าตา จนกระทั่งบางท่านก็สูญเสียเป็นทุกข์ เพราะแบกโลกธรรม ลืมเป้าหมายการภาวนาที่แท้จริง

        สุดท้าย ขอให้ท่านรักษา เป้าหมายในการภาวนา แล้ว ท่านก็จะเข้าใจการภาวนา และวิธีการภาวนา และถึงพร้อมด้วยการภาวนา กิจแห่งพรหมจรรย์ เป็นกิิจที่เลิศที่สุด กิจอื่น ยิ่่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

        โปรดใช้ ปัญาพิจารณา และ อย่าตั้งอยู่ในความประมาท
     
       เจริญธรรม / เจริญพร
       
 ;)




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 04, 2012, 10:58:09 am โดย arlogo »
บันทึกการเข้า
แสงสว่างเกิดขึ้นแล้วแต่เรา ปัญญาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา วิชชาเกิดขึ้นแล้วแต่เรา

ประสิทธิ์

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +14/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 639
  • จิตว่าง ก็เป็นสุข
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
อนุโมทนา สาธุ
 :25: :25: :25:
บันทึกการเข้า
ใครชอบ ใครชัง ช่างเถิด
ใครเชิด ใครชู ช่างเขา
ใครด่า ใครบ่น ทนเอา
ใจเรา ร่มเย็น เป็นพอ

:;