อย่างนี้ต้อง setup operating system ด้วยหรือไม่คะ

เพราะถ้า format แล้ว ไม่มีดาต้า ทำงานไม่ได้ กลายเป็นขยะอิเลคทรอนิกส์ คะ

 

อย่างนี้ต้องเลือก OS ด้วยนะคะ ว่าจะเอาค่ายไหน

 

นั่งกรรมฐาน ภาวนา ทีไร ปวดเหน็บ ปวดขา ทรมาน  ๆ มาก ๆ พอมาถึงตรงนี้ทีไร ก็จะเลิกทุกที
เพราะทนเวทนาไม่ได้ ทำอย่างไรดีคะ ที่จะสามารถ ก้าวข้ามเวทนา นี้ไปได้

 ถามจริง ๆ นะ ห้ามตอบกวนใจ นะคะ

 ช่วยด้วย

 

สอบถามผู้รู้ค่ะ

การนั่งปฏิบัติ  จนมีอาการปวดขา เป็นเหน็บ แล้ว เราตามดูรู้ว่าขาปวด
แล้วไปรู้ส่วนใจ  เห็นว่าใจสบาย ใจไม่มีอาการปวด เป็นเหน็บตาม
แล้วก็เลยไปตามดูรู้ลมหายใจ  รู้สึกว่าพอไปดูลมหายใจแล้วมีความสุข มาก ๆ

 
อย่างนี้เรียกว่า  แยกกาย แยกใจ ได้แล้วใช่ไหม

 

นี่เลยหลวงพ่อเจ้าอาวาส หัวหน้าทีมฮิพ-ฮ็อพ แห่งวัดเคียวโออุจิ  ญี่ปุ่น ในแต่ละวันหลังจากนั่งสมาธิ สวดมนต์ไหว้พระเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ฝึกสอนท่าเต้น และร้องเพลงสวดไปในทำนอง ฮิพ-ฮ็อพ แร๊ฟกันหนุกหนาน บานหฤทัย จนญาติโยมแห่กันมาฟังเทศน์ทำนองสรภัญญะ (แบบญี่ปุ่น) กันเนืองแน่นไม่เว้นแต่ละวัน

    เอาเถอะน่า พระบ้านเรา ก็เทศน์มหาชาติ หนุกหนาน เฮฮา ไม่แพ้กันแหล่ะน่ะ บางท่านแหล่ซะ แม่ยกนั่งฟังกันหูยาน ลืมกลับบ้านเลยเชียว

สมัยหนึ่งนานมาแล้วแหล่ะ ต้น ๆ รัตนโกสินทร์โน่น มีคนทนไม่ได้ที่เห็นพระสงฆ์องคเจ้า เล่นเตะตะกร้อ กันให้อึกทึกครึกโครม ในยามเย็น ๆ แดดร่มลมตก

      จึงไปเพ็ดทูล พระเจ้าอยู่หัว เพื่อหวังว่าพระองค์จะได้มีกฎอาญา เล่นงานพระเหล่านั้นให้เข็ดหลาบจำซะมั่ง เพระเขาโกรธแค้น ที่เห็นพระไม่สำรวมได้ดั่งที่ใจเขาปรารถนาจะให้สำรวม  (ชาวบ้านชอบคาดหวังว่าจะให้พระสำรวมให้ได้ตามที่ใจตนต้องกรเสมอ)

       แทนที่พระเจ้าอยู่หัวจะกริ้ว กลับตรัสอย่างอารมณ์ดีว่า.....

                ........"เจ้ากู ท่านจะออกกำลังกายบ้าง จะเป็นไรไป"......

 ปล. สำหรับกรณีนี้ อาจเป็นพระเรามองว่า พระเริ่มที่จะตามกระแสโลกจนเกินไป เราจึงรู้สึกไม่ปลื้ม เราอยากจะให้พระท่าน อยู่แบบใช้ชีวิตเหมือนสมัยพุทกาลโน่น...

(ใน ประเทศญี่ปุ่น หลวงพี่รูปหนึ่ง เทศน์ในทำนองแร๊ฟ แถม หลวงพี่มีท่าเต้นที่สุดมันส์  ปรากฎว่า คนเข้าไปฟังธรรมะแบบแร๊ฟ  ๆ กันตรึมเลยอ่ะ  .....เนี่ย..รอให้กัมมันรังสี จาง ๆ หน่อย ผมกะว่าไปญี่ปุ่นคราวนี้ จะลองไปดูซะหน่อย..ติดตามข่าวอยู่ไม่ลดละ ตอนนี้)

นี่เรยยยย...ตามลิงค์ไปดูแระกาน  ..

http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000018328

รู้ไว้ให้ได้บุญฯ ความเข้าใจเรื่องสังฆทานและการทำบุญ






 
 (เอกสารแจกวัดญาณเวศกวัน)

อย่าทอดทิ้ง...พระในบ้าน
โดยสมเด็จโต พรหมรังษี




มีคุณนายคนหนึ่ง…..
ใจบุญสุนทาน…ตักบาตรทุกเช้า
ตักบาตรเสร็จ.. ก็แต่งสำรับกับข้าว…อย่างบรรจงประณีต ..
เพื่อเอาไปถวาย…..ท่านเจ้าประคุณสมเด็จ…ผู้เป็นเจ้าอาวาส
ด้วยความเคารพนับถือ..ในจริยวัตรของท่าน
และชอบฟังท่านคุย….เล่าเรื่องต่าง ๆ…
เรียกว่า….ตักบาตรเสร็จ…
คุณนายต้องมาวัดทุกวัน…
ถวายอาหารเสร็จ…ก็คุยกับพระสมเด็จ…

วันหนึ่ง…
หลังจากคุณนายกลับแล้ว….
พระหนุ่มรูปหนึ่ง….ซึ่งเป็นศิษย์ก้นกุฏิของสมเด็จ
เข้าไปกราบเรียนว่า…
คุณนายคนนี้…ใจบุญสุนทานจริง ๆ….
แต่เคยได้ยินว่า…เป็นคนใจแคบ…
เหลือแม่อยู่คนเดียว..
ปล่อยให้อดๆ..อยากๆ…ไม่เอาใจใส่…..
ปล่อยให้อยู่ห้องแคบ ๆ…หลังบ้าน
ส่วนตัวเองและลูก ๆ ..
อยู่ตึกใหญ่โต…สะดวกสบาย….

เวลาพูดจากับแม่…ก็ฟังไม่ได้..
หยาบคาย….ขู่ตะคอก…กระแทกกระทั้น…
ผิดกับตอนมาคุยกับสมเด็จที่วัด…
ชนิดหน้ามือ..เป็นหลังมือ…
แม่…จะออกมาเดินเล่นหน้าบ้าน..ก็ไม่ได้…
ไม่ยอมให้ออก…
มีแม่แก่…หลงๆ ลืม ๆ..สติไม่สมประกอบ..
อายเขา…
มีคนเขาเล่าให้ฟัง…หลายรายแล้ว…
เท็จจริงอย่างไร….ไม่ทราบได้…

สมเด็จ….นั่งฟังเฉย…ไม่พูดว่าอะไร
วันหนึ่งมีกิจนิมนต์…ไปทำบุญบ้าน
ขากลับ….เดินผ่านหน้าบ้านคุณนาย…
ท่านก็แวะบ้านคุณนายก่อน…
คุณนายดีใจมาก…ที่สมเด็จมาเยี่ยมถึงบ้าน..
ถือเป็นมงคลอย่างสูง…
ที่พระขั้นสมเด็จ…มาเยี่ยมบ้าน…
จึงเรียกลูกหลาน…มากราบเท้าท่าน…เป็นการใหญ่..
แล้วก็คุยกันเรื่องต่างๆ ..มากมาย..

ในตอนหนึ่ง…
สมเด็จท่าน…ถามคุณนายว่า..
พระในบ้าน…มีไหม…?
มีเจ้าค่ะ…
พระในบ้าน..มีหลายองค์…
เป็นพระเก่า ๆ ทั้งนั้น
สมัยสุโขทัยก็มี…เชียงแสนก็มี…
อาราธนาท่านสมเด็จ….ขึ้นไปดูข้างบน…..
สมเด็จท่าน….เฉย….แล้วถามต่อว่า
ได้ทราบข่าวว่า…
คุณนายมีแม่อีกคน….เดี๋ยวนี้อยู่เสียที่ไหน…?
คุณนายสะอึก…เสียวแปลบเข้าไปในหัวใจ…

จะตอบตามตรง…ก็กลัวว่า..
สมเด็จจะเดินไปดู…
เห็นสภาพความเป็นอยู่ของแม่…
แล้วท่านจะติเตียน…
อึกๆ …อักๆ …อยู่ครู่หนึ่ง….แล้วจึงตอบว่า…..
ตอนนี้ท่านไม่อยู่เจ้าค่ะ….
ออกไปเยี่ยมญาติ…อีกนานจึงจะกลับ….
สมเด็จท่านนั่งนิ่งอยู่สักครู่….แล้วจึงลากลับ…
คุณนายก็ยังคงไปวัด…เป็นปกติ……

วันหนึ่ง….
สมเด็จ….ท่านเห็นว่า..วันนี้…
คุณนายยิ้มแย้มแจ่มใส…พูดจาร่าเริง…
อารมณ์ดีหลังการทำบุญทำทาน…
สมเด็จจึงถามว่า…
พระในบ้านของโยม….โยมดูแลเรียบร้อยแล้วหรือยัง…?
เรียบร้อยเจ้าค่ะ….
ดิฉันจุดธูปเทียน…ถวายอาหาร….
บูชาเสร็จแล้ว…จึงมาที่วัด…
ท่านไม่ต้องเป็นห่วง….

อาตมา..ไม่ได้หมายถึง…พระพุทธรูป…
พระในบ้านที่อาตมาถามถึงนี่…
เป็นพระที่ยังมีลมหายใจ….
คือ…แม่พระ….ผู้มีพระคุณสูงสุดแก่โยม…
แม่..ให้ชีวิตเรามา…โดยเอาชีวิตตัวเองเขาแลก…
เลี้ยงดูเรามา..ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย….จนได้ดิบได้ดีทุกวันนี้…

แม่เหน็ดเหนื่อย….ทุกข์ทรมาน…แสนสาหัส…
แม่…ทนหิว…เพื่อให้ลูกอิ่ม….
แม่…ทนหนาว..เพื่อให้ลูกอุ่น…
แม่..ไม่เคยนอน..ถ้าลูกของแม่…ยังไม่หลับ…
ยามลูกเจ็บป่วย…..ร้องไห้
หัวใจแม่ก็เจ็บปวด…และร้องไห้พร้อมกับลูกด้วย…..
แม่อยากเอาความเจ็บปวดทั้งหมด…ของลูก…มาไว้ที่แม่…
ถ้าทำได้……
แม่…ยอมตายเพื่อลูกได้….

พระคุณของแม่นี้…..ใหญ่หลวงเกินกว่าจะคณานับ…..
เราต้องตอบแทนบุญคุณท่านบ้างน่ะโยม….
เอาตาดู…หูใส่….เอาใจใส่ท่านบ้าง….
ไม่ใช่ปล่อยให้ท่าน …อด ๆ…อยากๆ……
เจ็บไข้ได้ป่วย….ก็ดูแลท่านบ้าง….
อาตมาได้ข่าวว่า….
คุณโยมเหลือแม่อยู่คนเดียว……
และ…ไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของท่าน….
ปล่อยให้อยู่ในห้องแคบๆ อดๆ อยาก ๆ
ไม่สงสารท่านบ้างหรือ….โยม….?

โยมจัดอาหารมาถวายพระได้ทุกวัน….
แต่พระในบ้านอีกองค์…..โยมไม่เคยจัดให้….
และตอนที่โยมจัดมาให้อาตมา…..
สังเกตดู….โยมจัดมาให้อย่างดี…..ประณีตบรรจง…
แต่ก่อน…..
อาตมาไม่รู้ว่า…อะไรเป็นอะไร…
ก็ฉันของโยมตามปกติ….
แต่ตอนนี้…บอกตรงๆ…เลยว่า…
กลืนไม่ค่อยลง…มาหลายวันแล้ว…..
อาตมาเป็นพระในวัด…
ไม่ควรเอาเปรียบพระในบ้าน….ของโยมเกินไป….

ถ้าพระในบ้าน…ยังอด…
พระในวัด…ก็…กลืนไม่ลง…
การทำบุญให้ได้บุญมากนะโยม…
เลี้ยงพ่อแม่…ให้อิ่มหนำสำราญเสียก่อน…
แล้วจึงถวายพระ……
คุณนาย….ไม่พูดอะไร…. นั่งน้ำตาไหล….
ลูกๆที่รักทุกคน…
ได้ดูแลพระในบ้านของลูกๆ…แล้วหรือยัง…?
ถึงแม้ว่า…จะเพียงเล็กน้อย….ก็ยังดี….
บางคน…..
กว่าจะรู้…พ่อแม่เป็นพระในบ้านผู้ประเสริฐ…
ก็สายเสียแล้ว…
คือ..รู้เมื่อท่านทั้งสอง…..ไม่มีตัวตนอยู่ในโลกนี้แล้ว…....

credit http://wat-khaorahu.com/webboard/index.php?topic=1436.0

อนุโมทนา ด้วยจ้า
 

ดีนะคะ กับคำแนะนำ แต่ไม่รู้จะได้ผลหรือไม่ พวกที่รู้เรื่องระบบธนาคาร ช่วยยืนยันวิธีการหน่อยได้หรือไม่คะ
เพราะเคยเจอมาเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ทางธนาคารก็โอนกลับเองคะ

คือตอนไปเช็คบัญชี ปรากฏมีการรับโอนยอดมาเป็นจำนวนหลายหมื่น แล้วก็มียอดถูกถอนออกไป
อย่างนี้เราได้ดอกเบี้ยหรือไม่คะ

 

เรื่องที่ถามกว้างเกินไป เหมือนขอบเขต เราจะพอหรือไม่ที่จะทำให้สังคมเดินตามแนวทางนั้น ๆ

แต่หากพิจารณา ที่ความสงบ สันติ และ ความสุข ทางใจของเราแล้ว ก็จะเห็น ศาสนา ที่แท้จริง

ในเมื่อเราก็ไม่ได้ วิเศษ วิโส อันใด เพราะอยู่ภายใต้ กฏ ธรรมชาติ คือ เกิด แก่ เจ็บ และ ตาย

อะไร คือ ความสุข.... ที่เราต้องการ การปล่อยวางที่ไม่ขัดไม่ฝืน ธรรมชาติ นั่นคือคำตอบ ที่จะ

ทำให้ใจของเราสงบเย็นได้ ในสังคม.... ที่ไม่ใช่ มีเราอยู่แต่เพียงผู้เดียว

 

อนุโมทนาคะ จะได้ร่วมบุญด้วยคะ
 

กรณีรูปภาพที่ถ่ายแล้วเป็นอย่างนั้น อธิบายแบบวิทยาศาสตร์ได้หรือไม่คะ

 

ก.เกษตร 6 พ.ค.- กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เชิญเที่ยวงานมหกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน จำหน่ายสินค้าจากฝีมือคนไทยระดับโอท็อป 5 ดาว จากทั่วประเทศ 200 ร้านค้า

นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสินค้าวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิต เพื่อเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชน นำสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีคุณภาพของชุมชนมาจำหน่ายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง รวม 200 ร้านค้า ทั้งประเภท อาหารและผลิตภัณฑ์แปรรูป เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย ศิลปะประดิษฐ์และหัตถกรรม และสมุนไพร ระดับโอท็อป 5ดาว อาทิ วิสาหกิจชุมชนเครื่องประดับแฟชั่นและเครื่องหนังจากนนทบุรี หมู่บ้านทอผ้าไหมที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัดนครราชสีมา และกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรประมง สุราษฎร์ธานี ผลิตน้ำพริกมะขามกุ้ง ผลิตภัณฑ์แปรรูปอาหารทะเล

วิสาหกิจชุมชนเป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือชุมชนให้สามารถจัดการทรัพยากรที่มีอยู่ ด้วยการพึ่งพาตนเอง โดยให้กรมส่งเสริมการเกษตร ทำหน้าที่เป็นสำนักเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมรับจดทะเบียนและประสานงานเครือข่าย ซึ่งปัจจุบันมีวิสาหกิจชุมชนมาขึ้นทะเบียนแล้วกว่า 70,500 แห่ง.-สำนักข่าวไทย

เมืองลับแลบังบด1

http://www.youtube.com/watch?v=DsHY3eOEV4s

เมืองลับแลบังบด2

http://www.youtube.com/watch?v=-Buy7JhqBuc

เมืองลับแลบังบด3

http://www.youtube.com/watch?v=dTbnBFeOmrk

เมืองลับแลบังบด4

http://www.youtube.com/watch?v=ykNjWUsWSpQ

เมืองลับแลบังบด5

http://www.youtube.com/watch?v=ekWhW4T6NJA

ืทำไมตอนที่ดูถึงตอนที่ 4 แล้วรู้สึกน้ำตาไหลมากๆ เลยไม่รู้เพราะอะไร
 

พระธาตุกลางน้ำ นี้กล่าวว่า นำเข้าโดย 5 พระเุถระ ซึ่งเป็น พระมหาเถระของพระกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับคะ

ไม่ทราบว่าประวัติที่เขากล่าวนั้น ว่า 5 พระอรหันต์ใช่หรือไม่คะ

ขอบคุณภาพจาก

http://esanclick.com/tour/nongkhai/phathat.jpg
 





แม่น้ำโขงช่วง จ.หนองคาย ลดต่ำลงจนเห็นพระธาตุกลางน้ำที่จมอยู่กลางน้ำโขงกว่า 163 ปี โผล่ให้เห็นเด่นชัดกว่า 4 เมตร  ขณะเดียวกันพบรอยประหลาดบนกระโปรงรถเก๋งริมฝั่งโขง  เจ้าของเชื่อเป็นปาฏิหาริย์พญานาค...

เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ด.ต.บุญล้วน ริยะบุตร ผบ.หมู่ผู้ควบคุมเรือ พ.12 สถานีเรือหนองคาย 6 กองกำกับการ 11 กองบังคับการตำรวจน้ำ (สรน.6กก.11บก.รน.) ได้นำสื่อมวลชนออกสำรวจระดับน้ำโขง ตั้งแต่จุดจอดเรือตำรวจน้ำไปจนถึงพระธาตุกลางน้ำ ระยะทางประมาณ 3 ก.ม. หลังจากที่น้ำโขงลดระดับลงอย่างต่อเนื่อง วัดได้ 0.32 เมตร ต่ำที่สุดในรอบ 50 ปี ทำให้พระธาตุกลางน้ำ หรือพระธาตุหล้าหนอง ที่ชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.8 เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุฝ่าพระบาทเบื้องขวาของสมเด็จพระ สัมมาสัมพุทธเจ้า จำนวน 9 องค์

เดิมพระธาตุหล้าหนองตั้งอยู่กลางลานวัดธาตุ แต่ถูกกระแสน้ำโขงที่เชี่ยวกรากกัดเซาะตลิ่งพังเสียหาย ทำให้องค์พระธาตุจมลงไปในแม่น้ำโขง เมื่อ ปี พ.ศ. 2390 รวมระยะเวลาที่จมลงในแม่น้ำโขงจนถึงปีนี้นับได้ 163 ปี ในลักษณะล้มตะแคงด้านขวา ยอดพระธาตุจมอยู่ใต้น้ำ เมื่อน้ำโขงลดระดับในทุกปีจะเห็นเพียงริมขอบฐานด้านล่างขององค์พระธาตุเพียง 1-2 เมตรเท่านั้น แต่มาถึงปีนี้ปรากฏว่าสามารถมองเห็นฐานของพระธาตุและส่วนกลางองค์พระธาตุได้ อย่างชัดเจน หรือประมาณ 4-5 เมตรระดับน้ำโขง

ด.ต.บุญล้วน กล่าวว่า ปีนี้ปริมาณน้ำโขงลดลงมากผิดปกติจากทุกปี บริเวณฝั่งตรงข้ามกับท่าจอดเรือตำรวจน้ำหนองคาย เกิดเป็นหาดทรายของฝั่งลาวกว้างกว่าทุกปี ทำให้ร่องน้ำลึกในแม่น้ำโขงเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เวลาที่ตำรวจน้ำออกลาดตระเวนก็ต้องสังเกตแนวร่องน้ำลึกไม่ให้ท้องเรือติดกับพื้นทราย ซึ่งมักจะเกิดปัญหาท้องเรือติดพื้นทรายอยู่บ่อยครั้ง ในขณะน้ำลด ส่งผลให้การลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ลำบากขึ้นและเสี่ยงต่อการชำรุดของเรือ ตรวจการณ์

ทั้งนี้ การที่เห็นส่วนของพระธาตุกลางน้ำชัดเจน สะท้อนให้เห็นว่าปีนี้ระดับน้ำโขงลดลงมาก จนน่าเป็นห่วงว่าจะมีเพียงพอใช้ของประชาชนริมฝั่งโขงหรือไม่

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีการพบรอยประหลาดคล้ายรอยเลื้อยของสัตว์เลื้อยคลาน เกิดขึ้นบนรถเก๋งที่จอดไว้ริมฝั่ง แม่น้ำโขง ชุมชนวัดธาตุ อ.เมือง จ.หนองคาย จึงไปตรวจสอบ พบว่าเป็นรถเก๋งฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กข 3509 หนองคาย มีนางรัชชุดา วงศ์จำนง อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 17 ชุมชนวัดธาตุ อ.เมืองหนองคาย เป็นเจ้าของ ซึ่งรอยดังกล่าวเป็นรอยของสัตว์มีกระดูกสันหลังแข็ง กว้างประมาณ 4 นิ้ว ยาวคดเคี้ยวไปมาตามกระโปรงด้านหลังรถ และกระจกหลัง

นางรัชชุดา เจ้าของรถ กล่าวว่า ได้จอดรถไว้ริมฝั่งโขงเป็นประจำทุกวัน จนกระทั่งช่วงเช้าพี่ชายขับรถมาจอดต่อท้ายรถ แล้วบอกว่ามีรอยพญานาคขึ้นรถ ตนจึงมาดูและเห็นว่าเป็นรอยที่มักจะเกิดขึ้นให้เห็นบ่อยครั้งในพื้นที่ จ.หนองคาย และชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงมาดูต่างลงความเห็นว่าเป็นรอยพญานาค นอกจากนี้สามีของตนซึ่งช่วงนี้บวชเป็นพระและออกธุดงค์ในต่างจังหวัด พอมีรอยพญานาคเกิดขึ้นตนได้โทรศัพท์ไปเล่าให้ฟัง พระก็บอกว่าขณะออกธุดงค์ได้อธิษฐานจิตและถวายคุณงามความดีแก่พญานาคในแม่น้ำโขงเป็นทานกุศล เมื่อทราบว่าเกิดรอยพญานาคเกิดขึ้นบนรถของตนจึงเชื่อว่าเป็นอิทธิฤทธิ์ของ พญานาคอย่างแน่นอน.

 

http://www.youtube.com/watch?v=keo_irc5af0

อยากให้เพื่อน ได้ไปบ้างนะคะ

แสวงบุญเพิ่มบารมี

 

สรุปเนื้อหา ยา 3 ห่อ

  1.การพักผ่อน 

  2.การให้ ความช่วยเหลือ

  3.เวลา

ตามเนื้อหาเจ้าของกระทู้


  แต่ในส่วนตัว กับมองเห็นปรัชญาบางอย่าง อยู่

 1.การหยุดนั่งมอง ทะเล นั้นถ้ามานั่งมองกันตามความเป็นจริง นั้นคือการรับรู้ธรรมชาติ เมื่อเราไปนั่งชายทะเลจริง ๆ อาการที่จิตใจมองเห็นน้ำทะเล พัดเข้ามาเป็นระยะ  ๆ นั้น จะทำให้มองเห็นธรรมชาติ เป็นอย่างมาก ในกระณีนี้น่าจะสื่อว่าเราควรเข้าใจธรรมชาติ หรือ เข้าถึงธรรมชาติกันบ้าง

 2.การให้ ความช่วยเหลือ นั้นเป็นการแสดงถึงความเข้าใจในทุกข์ ของสรรพสัตว์ ที่เป็นเพื่อนแก่ เจ็บ ตาย ร่วมกับเรานั้น ได้รู้ว่า เราก็ทุกข์ เขาก็ทุกข์ ไม่มีสรรพสัตว์ใด ๆ ในโลกนี้ไม่มีความทุกข์

 3.เวลา ที่เราเขียนความทุกข์บนผืนทรายนั้น แท้จริงไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะเขียนกันได้ง่าย ๆ จะนิ้วหรือเศษไม้ที่เขียนบนผืนทราย นั้น สติของคนเขียนย่อมรู้ดีอยู่แล้ว ว่าเขียนไปก็ต้องสูญหาย เขียนไปก็ไมีมีใครรู้ใครทราบ แต่ตรงนี้กฃต้องการสื่อให้รู้ว่า ความทุกข์มากมายนั้นแม้จะมีมาก หรือน้อยทุกย่างก็จะสูยหายไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นไปกฏของธรรมชาติ คือ ไม่เที่ยง คงอยู่ไม่ได้ และปราศจากตัวตนที่แท้จริง

 

[ขอเชิญเข้าร่วมปฏิบัติธรรม วันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 14-15-16-17 พฤษภาคม 2554 ลงทะเบียน วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2554]

ขอเชิญเข้าร่วมปฏิบัติธรรม วันวิสาขบูชา ระหว่างวันที่ 14-15-16-17 พฤษภาคม 2554 โทร.084-651-7023

เขียนโดย weera2548 เมื่อ พ, 13/04/2011 - 18:18

                                  ขอเชิญเข้าร่วมปฏิบัติธรรม วันวิสาขบูชา

                       ระหว่างวันที่ 14-15-16-17 พฤษภาคม 2554

                       ลงทะเบียน วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2554

                                     เวลา 09.00- 10.00  น.

ที่คณะ 5 วัดราชสิทธาราม ซอยอิสระภาพ23  แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ ก.ท.ม. 10600   (ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ)

รถประจำทาง   สาย 19   40  56 57  149  ผ่านซอยอิสระภาพ 23

สมัครปฏิบัติธรรม ลงชื่อ นามสกุล อายุ เพศ ได้ที่ E-mail หรือทางโทรศัพท์

โทร. 084-651-7023 , 02-465-2552

ของที่ต้องเตรียมมาในวันที่เข้าปฏิบัติธรรม

1. ของใชส่วนตัว เช่นแปลงสีฟัน สบู่ ผ้าเช็ดตัว เป็นต้น

2.ชุดขาว กางเกงขาว กระโปรงขาว ผ้าถุงขาว ก็ได้ ถ้าไม่มีไม่เป็นไร

3.เครื่องนอน ที่วัดมีให้บริการ (ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าปฏิบัติธรรม)

4.จะค้างวัดก็ได้ ไม่ค้างก็ได้  อยู่ 2 วัน 3 วันก็ได้

                                    กำหนดการ วันวิสาขบูชา

 วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม 2554 ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 6

 เวลา  09.00-10.00              ลงทะเบียน รับประทานอาหารเช้า

 เวลา 10.000-11.00          รับศีล ขึ้นกรรมฐาน  รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา  13.00-14.00            ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำ  ทำธุระส่วนตัว

เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น   ปฏิบัติธรรม เข้านอน

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม 2554 ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 6

 เวลา  06.30-07.00            ทำวัตรเช้า  รับประทานอาหารเช้า

 เวลา 07.000-11.00          นั่งกรรมฐาน เดินจงกรม รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา  13.00-14.00            ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำ  ทำธุระส่วนตัว

เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น   ปฏิบัติธรรม เข้านอน

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม 2554 ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 6

 เวลา  06.30-07.00             ทำวัตรเช้า    รับประทานอาหารเช้า

 เวลา 07.000-11.00          นั่งกรรมฐาน ตรวจน้ำ รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา  13.00-14.00            ฟังธรรมบรรยายธรรม ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา เดินจงกรม อาบน้ำทำธุระส่วนตัว

เวลา 16.30-17.00            ทำวัตรเย็น   ปฏิบัติธรรม เข้านอน

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม 2554 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6

 เวลา  06.00- 07.00            ทำวัตรเช้า   รับประทานอาหารเช้า

 เวลา  08.30 -10.00            ทำวัตรในพระอุโบสถ ฟังธรรมเทศนา 1 กัณฑ์

 เวลา 10.000-11.00           นั่งกรรมฐาน ตรวจน้ำ รับประทานอาหารกลางวัน

เวลา  13.00-14.00            ฟังธรรมบรรยาย ถามปัญหา พักดื่มน้ำปานะ

เวลา 14.00-16.30            เจริญจิตภาวนา   เดินจงกรม อาบน้ำ   ทำธุระส่วนตัว

เวลา 19.00-20.00            ฟังเทศวันวิสาขบูชา แล้วเวียนเทียนรอบพระอุโบสถ ลาศีล กลับบ้าน


http://www.somdechsuk.org/node/159

อนุโมทนา ด้วยคะ
โดยส่วนตัว เวลาไปต่างจังหวัด ก็ชอบไปวัดอัมพวันคะ สระบุรี ก็แสงธรรมส่องชีวิต หินกอง
ส่วน กทม. นั้นไปทำบุญรักษาศีล ก็กลับคะ ไม่ค่อย หรือ เคยอยู่พักคะ....


 

รูป เป็นทุกข์ ใจ รู้ เป็น นาม มีใครอธิบายให้เข้าใจได้บ้างคะ

ไปที่วัดมหาธาตุ ฟังเทศน์ทีไร จะถามก็ไม่มีโอกาสถามสักที

กับประโยคที่ว่า รูป เป็นทุกข์ ใจ รู้ เป็นนาม นี้มีความหมายลึกซึ้งในทางภาวนาอย่างไรบ้างคะ

 จึงขอรบกวน ท่านผู้รู้ในเว็บนี้ช่วย อธิบายให้เข้าใจหน่อยนะคะ

 :'( ไม่มีคำใดจะกล่าวบนความทุกข์ ของทุกคนที่ประสพภัยนอกจากคำว่า ขอให้ท่านทั้งหลายพ้นจากภัยครั้งนี้โดยไวคะ
 

ระหว่าง กรรมฐาน คือการเจริญสมาธิ และ การเจริญ สติ การรู้ตัว

พื้นฐานความจำเป็นในการดำรงชีวิตแล้ว เห็นว่าการเจริญ สมาธิ มีความจำเป็นน้อย กว่า การเจริญ สติ คะ

เพราะโดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยจะภาวนากรรมฐาน สมาธิ เลยคะ แต่จะใช้ วิธีเจริญ สติ ประจำและบ่อยมากกว่า

เช่น ถูกกระทบเสียดสีทางอารมณ์ โดยการถูกกล่าวร้าย ก็จะอาศัยสติ เป็นตัวรู้และพยายามให้อารมณ์ระงับลง

ด้วยการรู้ว่า เสียงที่เกิดขึ้นเป็นสักว่าเสียง คะ

แต่ถ้าจะให้มานั่งหลับตาปี๋ แล้วสู้กับอารมณ์ ขุ่นเคืองนี้ บอกตามตรงไม่เคยทำมาก่อนคะ

ดังนั้นโดยส่วนตัวคิดว่า การเจริญสติ นั้นมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิต คะ

 

ภาพนี้ดูแล้วอยากให้รางวัลผู้ถ่ายภาพจังเลย เพราะแสดงความหมายของสภาพที่น้ำท่วมได้อย่างดี

สาธุ กับภาพที่นำเสนอคะ

 

คุณหมวยจ้า เข้าใจโพสต์นะ....คร้า...
รื้อของเก่ามาให้อ่าน แต่พอไปตามอ่านแล้ว ก็อ่านได้ความรู้เพิ่มเลยคะ เพราะไม่เคยได้อ่านมาก่อน

 

อ่านตอนแรก นึกว่า ว่า บึ้ม เป็น บูม นะคะ

ตกใจหมดตอนอ่าน ครั้งแรก...

 

การเมือง ยุคปัจจุบัน น้ำเน่าฟอนเฟะ โกงยิ่งกว่าทักษิณอีก...

ไม่อยากจะวิจารณ์ เดี๋ยวไปเข้าประเด็นการเมือง ผิดกฏของเว็บ

 

อยากจะวิจารณ์ มาก ๆ เลย แต่ต้องสะกด คำว่า ข่มใจ สงสารพระท่านที่ทำหน้าที เป็นขวัญกำลังใจใน 3 จังหวัด

ชายแดนภาคใต้ ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะัชาวบ้านมุสลิม ที่นั่นเป็นผู้ส่งเสริม และปกปิดข้อมูลเนื่องด้วยต้องการ

เป็นรัฐอิสระ ( สาุธุ ขอสาปแช่งให้พวกนี้จมน้ำตายให้หมด )

 อาจจะรุนแรงไปบ้าง ...

 

ดิฉันเวลาภาวนา ไม่มีเห็นอะไรสักอย่าง นิ่งๆ ก็มีเท่านี้
อยากได้เห็นแบบเขาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ พอนั่งภาวนาก็ท้อ แล้วก็มีความรู้สึก ทำไปก็ไม่ได้หรือเห็นอะไร คะ
ส่วนมาก ก็ทำพอให้ใจสงบ

แต่บางครั้งตอนที่ใจไม่สงบจริงก็ทำไม่ได้ ต้องไปอาศัยฟังเพลงบ้าง ดูหนังบ้าง เดินเที่ยวบ้างถึงจะสงบ
ก็เลยมีความรู้สึกว่า ธรรมะไม่เห็นช่วยให้ใจสงบได้เลย เราต้องอาศัยสิ่งเร้าแบบโลกทำให้สงบ

โดยเฉพาะเวลาทุกข์มาก ๆ ดิฉันชอบไปเที่ยวทะเล พอมองออกไปในทะเลแล้วรู้สึกว่า ใจมันสงบในทันทีทันใด
จึงชอบไปตากอากาสคะ หรือ ร่วมกิจกรรมกับชมรมท่องเที่ยวต่างๆคะ รู้สึก สนุก และ คลายวิตก กังวลได้คะ

 

เืชื่อว่าเป็นอุปาทาน มากกว่าคะ

 

น่าตระหนกตกใจนะคะ กับเมืองใต้เขื่อนถ้าเขื่อนพังแล้ว น้ำทะลักมาอย่างกระทันหันด้วย
 

ขอให้พี่น้องที่อยู่ทางภาคใต้ พ้นภัยพิบัติครั้งนี้ โดยเร็วด้วยเุถิด
หยุดช่วยญี่ปุ่นมาช่วยคนไทยกันก่อนเุถอะคะ หรือช่วยไปพร้อม ๆ กัน นะคะ
ต้องไปร่วมกับครอบครัวข่าว 3 คะ ความช่วยเหลือไปไวคะ

 

ขุมทรัพย์จากพระโอษฐ์
หมวดที่ ๖
ว่าด้วย การหละหลวมในธรรม
-------------

ภิกษุ ท.! มูลเหตุสี่ประการเหล่านี้ ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป. สี่อย่างอะไรกันเล่า ?
สี่อย่างคือ:-
ภิกษุ ท.! พวกภิกษุเล่าเรียนสูตร อันถือกันมาผิด ด้วยบท พยัญชนะที่ใช้กันผิด ;
เมื่อบทและพยัญชนะใช้กันผิดแล้ว แม้ความหมายก็มีนัยอันคลาดเคลื่อน.
ภิกษุ ท.! นี้ มูลกรณีที่หนึ่ง ซึ่งทำให้พระสัทธรรม เลอะเลือน จนเสื่อมสูญไปผู้ทำศาสนาเสื่อม
ภิกษุ ท.! อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเป็นคนว่ายาก ประกอบด้วยเหตุ ที่ทำให้เป็นคนว่ายาก
ไม่อดทน ไม่ยอมรับคำตักเตือนโดยความเคารพหนักแน่น.
ภิกษุ ท.! นี้มูลกรณีที่สอง ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป.
ภิกษุ ท.! อีกอย่างหนึ่ง, พวกภิกษุเหล่าใด เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท).
ภิกษุเหล่านั้นไม่ได้เอาใจใส่บอกสอนใจความแห่งสูตรทั้งหลายแก่คนอื่น ๆ ;
เมื่อท่าน เหล่านั้นล่วงลับดับไป สูตรทั้งหลาย ก็เลยขาดผู้เป็นมูลราก (อาจารย์) ไม่มีที่อาศัยสืบไป.

ภิกษุ ท.! นี้ มูลกรณีที่สาม ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป.
ภิกษุ ท.! อีกอย่างหนึ่ง พวกภิกษุชั้นเถระ ทำการสะสมบริกขาร ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วยอำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียว
แลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุ สิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง.
ผู้บวชในภายหลัง ได้เห็นพวกเถระเหล่านั้นทำแบบแผนเช่นนั้นไว้ ก็ถือเอาไปเป็นแบบอย่าง จึงทำให้เป็นผู้ทำการสะสมบริกขารบ้าง
ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา มีจิตต่ำด้วย อำนาจแห่งนิวรณ์ ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวกธรรม ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง
เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง, ตามกันสืบไป.

ภิกษุ ท.! นี้ มูลกรณีที่สี่ ซึ่งทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือน จนเสื่อมสูญไป
ภิกษุ ท.! มูลเหตุสี่ประการเหล่านี้แล ที่ทำให้พระสัทธรรมเลอะเลือนจนเสื่อมสูญไป

_________________________________________________________
บาลี พระพุทธภาษิต จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๙๗/๑๖๐.

ค่อยเข้าใจ ขึ้นมาบ้าง คะ

 

ปล่อยใจปล่อยกาย ก็คือปล่อยอารมณ์

ไม่ค่อยจะเข้าใจ กับประโยคนี้

 เหมือนกับคำว่า ปล่อยเนื้อ ปล่อยตัว หรือไม่คะ

   

ในกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับ

 กองกรรมฐาน เป็น กองกรรมฐาน สูงสุด คะ

   

ถ้าเราไม่เชื่อเรื่องโลกหน้า มีจริง แต่เชื่อผลกรรม ในปัจจุบัน อันนี้เป็นความคิดที่ผิด หรือ ถูก คะ

โดยส่วนตัวไม่เชื่อเรื่อง ตายแล้วเกิด คะ... ไม่เชื่อ เรื่อง นรก สวรรค์ ที่เขาพูดกันแบบเป็นเทพเจ้า คะ

แต่เชื่อผลกรรม และ ผลในปัจจุบัน เชื่อว่า สวรรค์ อยู่ในอก นรก อยู่ในใจ คะ ถ้าอย่างนี้เชื่อคะ

ดังนั้นเชื่อเรื่องการทำความดี ทำกุศล ในปัจจุบัน คะ

ส่วนเรื่อง ของ สวรรค์ นรก ที่ไปแต่เมื่อตายนั้น ไม่เชื่อคะ คิดว่าเป็นเรื่องที่งมงาย พิสูจน์ไม่ได้ คะ

ความเชื่อแบบนี้ เพียงพอในการภาวนา หรือ ไม่คะ...

 

น่าสนใจ คะ เพราะชอบใช้สื่อ อินเตอร์เน็ต ประจำอยู่แล้ว

แต่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้ หรือไม่คะ

 

เช้านี้วันธรรมสวนะ ได้รับฟัง ทำวัตรเช้า รู้สึกดีคะ

นาน ๆ จะได้ฟัง คะ

 

[เธอ จงเป็น ผู้มีสติ มาเถิด]

ไม่ต้อง สั่น นะคะต่อไป ก่อนเจอกันก็หายใจเข้าลึก ๆ สักสองสามที

 คุยกันตามปกติ ที่ต้องระวัง คือระวังใจ ของเรานึำกถึงความเป็นจริง อย่าปล่อยให้อารมณ์กระเจิงไปตามอำนาจ
ของสิเน่หา นะคะคิดให้ถูกตามความจริงแล้ว ยิ้มรับกับความจริง อย่าไปคิดมากเลยคะ เราเกิดมาก็มาแต่ตน
ความทุกข์ ก็ทุกข์อยู่ที่ใจเรา ไม่ใช่อยู่ใจคนอื่น จงมองตนเองให้มากขึ้น คะ....ว่าเรานั้นเกิดมาทำไม ....

แสวงหาอยู่เพื่ออะไร....
ความตาย สำหรับมนุษย์นั้น ไม่สามารถหนีไปกันได้เลย สักวันเราก็ต้องตาย.....

ระลึกอย่างนี้ ก็จะมีสติ ได้คำตอบคะ....

ความคิด ที่จินตนาการ นั้นยังไม่ผิดคะ....ยังพอแก้ได้ นะคะ


เธอ จงเป็น ผู้มีสติ มาเถิด

สุรปแล้ว ก็คือ สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม
 
       เราไม่สามารถ เข้าไปช่วยชี้นำทางกับเขาได้ใช่หรือไม่คะ

       ในโลกนี้ ไม่มีใครบริสุทธิ์ หมดจด มาก่อนถ้าเราไม่ให้คำแนะนำ ที่ดีกับเขาเท่ากับเรา มองเขากำลังจะจมน้ำตาม เยี่ยงนั้นหรือคะ

    อยากได้คำแนะนำ เบื้องต้น ให้กับคนทั้ง 4 ในฐานะ กัลยาณมิตร ว่าเราควรแนะนำอย่างไรดีคะ

   

เคยฟังมาว่า บุญ เป็นเครื่องประโลมจิตใจ

             บุญ เป็นเครื่องฟอกจิตใจ

             บุญ เป็นเหตุให้ สวรรคสมบัติ และ นิพพานสมบัติ

             บุญ เป็นคุณธรรมของความเป็นมนุษย์ ที่สมบูรณ์

             บุญ เป็นเครื่องเติมแต็มการภาวนา เพื่อความสิ้นสุดแห่งทุกข์