ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ยล"พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา" วัดเทพศิรินทร์  (อ่าน 3511 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ยล"พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา" วัดเทพศิรินทร์
ยลพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาวัดเทพศิรินทร์ : สำราญ สมพงษ์รายงาน

    'เทพศิรินทร์'นามนี้หาใช่มีชื่อเสียงเฉพาะโรงเรียนที่มีการโคลนนิ่งชื่อไปตามสถานที่ต่างๆเท่านั้น แต่สำหรับวัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหารแล้ว ก็นามกระเดื่องไม่แพ้กัน เพราะวัดแห่งเป็นวัดสำคัญที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2419 เมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้ 25 พรรษา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพศิรินทราบรมราชินี พระบรมราชชนนี

      ความสำคัญที่น่าสนใจของวัดเทพศิรินทร์ขอยกไว้ที่จะไม่กล่าวในครั้งนี้ แต่ในโอกาสที่วันที่ 24 พ.ค.นี้เป็นวันวิสาขบูชาโลกเวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่ง จะขอกล่าวถึงพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาตามที่ครอบครัวข่าวทางช่อง 3 ได้นำเสนอเมื่อวันที่ 17 พ.ค.2556 ซึ่งเป็นตอนที่ 3 มีความสนใจและเกิดแนวความคิดว่าหากวัดต่างๆ จะเลียนแบบบ้างก็จะเป็นประโยชน์ยิ่งเพราะจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งให้ชาวพุทธได้หันมาศึกษาหลักธรรมพัฒนาให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์มากขึ้น

      พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาวัดเทพศิรินทร์นั้น ทางวัดได้ใช้อาคารโรงเรียนเจ้าพระยานรรัตนราชมานิตเป็นอาคารแบบตะวันตก 2 ชั้น หน้าบันมุขกลางประดับปูนปั้นเป็นรูปตราประจำแผ่นดินสมัยรัชกาลที่ 5  อดีตเคยเป็นโรงเรียนสำหรับพระภิกษุสามเณรและเป็นที่จำพรรษาของอดีตเจ้าอาวาส 2 ยุคคือสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และสมเด็จพระวันรัต หลังจากนั้นก็ได้ถูกปล่อยร้างอยู่นานจนล่าสุดมีแนวคิดจัดเป็นพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา

      วัดเทพศิรินทราวาสและผู้มีจิตศรัทธา โดยความร่วมมือของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ดำเนินการบูรณปฏิสังขรณ์เพื่อปรับใช้เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย อันเป็นการสืบทอดเจตนารมย์ของบูรพาจารย์อดีตท่านเจ้าอาวาส ซึ่งมีแนวคิดที่จะสร้างวัดให้เป็นศูนย์แห่งความฉลาดโดยมีพิพิธภัณฑ์ประจำวัด เสมือนหนึ่งเป็นการสืบทอดและเผยแพร่พระพุทธศาสนาสู่พุทธศาสนิกชนอย่างสมบูรณ์

      ในโอกาสวันวิสาขบูชาโลกที่จะมาถึงนี้ พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาวัดเทพศิรินทร์คงจะเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ชาวพุทธได้เจริญพุทธานุสสติ

หมายเหตุ : ขอบคุณข้อมูลและภาพจากเว็บไซต์ครอบครัวข่าว3และเฟซบุ๊ก DS Living Museum หรือสามารถเข้าชมสกู๊ปที่ครอบครัวข่าว3 รายงานได้ที่ http://www.krobkruakao.com/ข่าว/73339/สกู๊ป--พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา-ตอน-3.html


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130517/158735/ยลพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาวัดเทพศิรินทร์.html#.UZgqHUrSi85




สกู๊ป..พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ตอน 3

ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เมืองไทยจะที่มีพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา ที่วัดเทพศิรินทราวาส โดยนำหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามาประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีสื่อผสมผสานมัลติมีเดีย จัดแสดงสังเวชนียสถานเสมือนจริง ทั้ง 4 แห่ง ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าถึงหลักธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน

ก้าวแรกที่เข้าไปในพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนาจะพบกับห้องปฐมบท พุทธศาสนนิกชนจะได้รู้ถึงพุทธประวัติของพระบรมศาสดา ตั้งแต่ประสูติ ณ ลุมพินีวัน มีพระนามว่า สิทธัตถะ เจ้าชายแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ในดินแดนชมพูทวีป หลังทรงอภิเษกสมรสและมีพระราชโอรส เมื่อพระชนมายุ 29 พรรษา ทรงตัดสินพระทัยออกผนวช เพื่อค้นหาความจริงแห่งการพ้นทุกข์ พร้อมตั้งสัจจะอธิฐาน ณ.แม่น้ำเนรัญชรา


ถัดจากนั้นจะเข้าสู่ห้องตรัสรู้
ได้จำลองเหตุการณ์ เมื่อครั้งพุทธกาล 2600 ปี ที่พระพุทธองค์ทรงบำเพ็ญเพียร ประทับนั่งบนอปราชิตบัลลังก์ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา และทรงอธิษฐานจิต ขอให้บรรลุ รู้แจ้งความจริง

อีกห้องพุทธศาสนิกชนจะพบกับเหตุการณ์เสมือนจริง ผสมผสานสื่อมัลติมิเดีย โดยเฉพาะช่วงที่พระพุทธเจ้าผจญเหล่าพญามารและเสนามาร และด้วยความตั้งมั่นและเพียรพยายาม ในคืนวันเพ็ญเดือนวิสาขะ พระพุทธเจ้าได้ทรงบรรลุหลักธรรม ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค แต่ด้วยพลังจิต พลังแห่งบุญบารมี และพลังแห่งปัญญาของพระพุทธองค์ จึงทรงชนะกิเลส ตันหา ในจิตได้

ในห้องตรัสรู้ จะเสมือนอยู่เหตุการณ์จริงที่พุทธคยามากที่สุด โดยนำเทคโนโลยีและสื่อมัลติมีเดีย มาประยุกต์ใช้เพื่อให้ผู้ชมมีจิตร่วมย้อนเวลา ไปเมื่อครั้งพุทธกาล




ห้องปฐมเทศนา เป็นห้องที่ 3 ที่พุทธศาสนิกชนจะพบกับความยิ่งใหญ่ของสังเวชนียสถาน พระธัมเมกขสถูปเจดีย์ สูง 6.30 เมตร ที่จำลองตำแหน่งมุมมองการเห็นเช่นนี้เมืองสารนาถ ประเทศอินเดีย สถานที่ที่พระบรมศาสดา ทรงแสดงธรรมโปรดปัญจวคีย์และมีพระสงฆ์องค์แรกของโลก

อีกห้องจะฉายวิดีทัศน์ ขณะพระพุทธเจ้าออกเผยแผ่พระธรรมที่พระองค์ทรงตรัวรู้แก่เหล่าภิกษุสงฆ์เป็นครั้งแรก พร้อมทรงประกาศธรรมจักรที่ป่า อิสิปตนมฤคทายวัน

ห้องสุดท้าย ได้จำลององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับแท่นบรรทม ขณะเสด็จดับขันธ์ปรินิพาน ณ.เมืองกุสินารา ท่ามกลางเหล่าพระอรหันต์ สดับฟังหลักธรรมที่ทรงค้นพบมากว่า 45 ปี

ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จึงได้นับเป็นปีพุทธศักราช ที่ 1 มาจนถึงปัจจุบัน นับเป็นการก่อเกิดพระพุทธศาสนาที่สืบทอดมายาวนาน และเป็นโอกาสดีที่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกได้ร่วมฉลองพุทธชยันตี 2600 ปี


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.krobkruakao.com/ข่าว/73339/สกู๊ป--พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา-ตอน-3.html
https://fbcdn-sphotos-c-a.akamaihd.net/


ชมภาพพิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา วัดเทพศิรินทราวาส ได้ที่
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.529992443696191.135416.225527290809376&type=3
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

lamai54

  • กำลังแหวกกระแส
  • **
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 138
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ยล"พิพิธภัณฑ์พระพุทธศาสนา" วัดเทพศิรินทร์
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2013, 09:57:15 am »
0
 st11 st12

  ไม่เคยไปเลย มีความสนใจไป บ้างแล้วคะ

  :49:
บันทึกการเข้า
แข่งขันในโครงการ yamaha นะฮะ อย่าเข้าใจว่าเป็นพวกเสื้อแดง.... เราไม่ใช่....