ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ฉลอง..."พรรษา 70 พ่อคูณ" หล่อรูปโลหะ...จารึกเมตตาธรรม  (อ่าน 1906 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28446
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ (เสื้อลาย)ประธานสร้างรูปหล่อ.


ฉลอง..."พรรษา 70 พ่อคูณ" หล่อรูปโลหะ...จารึกเมตตาธรรม

...กูจะทำให้ชาวบ้าน เพื่อตอบแทนข้าวน้ำ ที่เขาให้กูกินทุกวัน...

ปณิธานของ...พระเทพวิทยาคม “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ครั้งแรกที่กลับมาอยู่วัดบ้านไร่ ให้มีการ ผันน้ำจากเขื่อนลำคันฉู อำเภอบำเหน็จณรงค์ ชัยภูมิ เข้ามายังบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด นครราชสีมา เพื่อให้ชาวบ้านได้มีน้ำกินน้ำใช้...เอื้อประโยชน์ต่อชุมชนจากอดีตถึงปัจจุบัน...!!


O O O



แม่แบบรูปหล่อโลหะหลวงพ่อคูณ.

บ้านไร่..วัดบ้านไร่ เป็นสำนักสงฆ์มาตั้งแต่ปี 2436 ในช่วงรัชสมัย “พระพุทธเจ้าหลวง” รัชกาลที่ 5 โดยมีพระ อาจารย์เชื่อม วิรโช เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จากนั้นก็มีการสืบสานกันต่อมาอีกหลายรูปและมา รุ่งเรืองสุดขีด ช่วง “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” เป็นเจ้าอาวาส...

เมื่อปี2554...วัดบ้านไร่ได้สร้าง “วิหารเทพวิทยาคม” เป็น อุทยานธรรมกลางน้ำ พื้นที่ผิวกว้าง กว่า 30 ไร่ ลักษณะ อาคารวิหารทรงกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 60 เมตร สูง 42 เมตร แบ่งระดับเป็น 4 ชั้น

...เป็นสถานที่นำเสนอเรื่องราวแห่งพระไตรปิฎกทั้ง 3 ตะกร้า อาทิ พุทธประวัติ พระวินัย พระธรรม (คำสอนของพระพุทธองค์) ถ่ายทอดผ่านงานศิลปะเสมือนแกลอรี่...ประกอบด้วย“โมเสก” กว่า 20 ล้านชิ้น



O O O


หลวงพ่อคูณ...ถือว่าเป็น เกจิอาจารย์ที่ได้รับความเลื่อมใส และแรงศรัทธาที่ สูงสุดแห่งยุค...!!

วิถีชีวิต อุบัติขึ้น...ในร่มกาสาวพัตร์ในปี 2487 เมื่อ คูณ ฉัตรพลกรัง ย่างก้าวเข้าอุปสมบทในวัย 21 ปีตามประเพณี ณ พัทสีมาวัดถนนหักใหญ่ ได้รับฉายา “ปริสุทโธ”

จากนั้นจึงได้ศึกษา สมาธิ เจริญกรรมฐานรวมทั้งวิทยาคมไสยเวท หลังพ้นจากนวกะออกธุดงค์สู่ “ภูควาย” ฝึกพลังจนศาสตร์เข้มขลัง

...7 พรรษาผ่านพ้น จึงได้เริ่มสร้างวัตถุมงคลตามแนวที่ได้ศึกษามา ปฐมด้วย “ตะกรุดโทน” แล้วจึงเชื่อมต่อความขลังด้วยการ...ฝังตะกรุดทองคำใต้ท้องแขน...!!


O O O



หลวงพ่อคูณจับสายสูตร.

ประสบการณ์ปาฏิหาริย์ของผู้ฝังตะกรุดทองคำเป็นที่ร่ำลือ ในด้านอยู่ยงคงกระพันและแคล้วคลาด ชื่อเสียง “หลวงพ่อคูณ” ยุคนั้นใช่เฉพาะกลุ่มคนไทยในโคราชที่เลื่อมใส นักรบจีไอในสงครามเวียดนามก็ยังศรัทธา...ฟาเธอร์คูณ...!!

การตอกตะกรุดแม้จะมีพลังที่เข้มขลังก็จริงแต่ก็เป็นที่หวาดเสียวสำ- หรับบางคน แม้จะต้องการรับวัตถุมงคลก็ไม่กล้าที่จะร่วมกิจพิธี  ศิษยานุศิษย์จึงขอให้เพิ่มแนวโดยการสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญห้อยคอ อันจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะสร้างความมั่นใจ...โดยไม่ต้องเจ็บท่อนแขน...!!

9 สิงหาคม 2512...จึงมีการสร้างเหรียญหลวงพ่อคูณขึ้นเป็นรุ่นแรก...!!



O O O


จากนั้นจึงมีการสร้างเหรียญและพระหลวงพ่อคูณมาอย่างต่อเนื่อง...

ครั้งหนึ่ง...ตอนที่ พลเอกวันชัย อัมพุนันท์ หรือ “พ่อโป้” ของเหล่าทหารพราน เป็นผู้บัญชาการอยู่ค่ายปักธงชัยได้ สร้างพระกริ่งให้เป็นขวัญกำลังใจแก่เหล่าทหารพราน

อนุศาสนาจารย์ได้นิมนต์หลวงพ่อคูณ ซึ่งตอนนั้นอยู่วัดสระแก้วในเมืองโคราช  เป็นเจ้าพิธีพุทธา-ภิเษก นั่งปรกอธิษฐานจิต ด้วยที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันในวงการ “พ่อโป้” จึงพูดกับอนุศาสนาจารย์คนนั้นว่า...

“...มึงไปเอาพระแก่ที่ไหนมาหลอกกูว่ะ...”

หลังเสร็จพิธีก็จ่ายแจกกันไป บางรายก็รับไปด้วยความเกรงใจ มิได้ศรัทธาว่าจะศักดิ์สิทธิ์อะไร

ต่อเมื่อหลายปีผ่าน...ประสบการณ์ในสงครามร่มเกล้าก็ฉายพลังเข้มขลัง โดยเฉพาะนายมานพ คำหอม ช่างภาพ  ทีวี 7  ได้สัมผัสเต็มกับความ แคล้วคลาดด้วยปาฏิหาริย์ของพระกริ่งหลวงพ่อคูณ รุ่นนี้

วัตถุมงคล...จาก ที่รับมาอย่างไม่ใส่ใจได้อัพเกรดราคา...เป็นเลข 5 หลัก 6 หลัก



O O O


พิธีกรรมวางศิลาฤกษ์ฐานรูปหล่อหลวงพ่อคูณ.

ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน...หลวงพ่อคูณจะไม่เก็บทรัพย์สมบัติใดๆ เข้าพกเข้าห่อของตนเองทั้งสิ้น ได้แผ่บารมีแห่งเมตตาธรรม ช่วยเหลือในสาธารณประโยชน์ มิใช่เฉพาะในวงการศาสนา ด้านอื่นๆก็ให้การสงเคราะห์อย่างขจรกระจายไป... ตามกำลังที่พอจะเอื้อได้

กลาง ปี 2548...แม้ว่าช่วงนั้นสังขารจะเข้าสู่วัยชราแล้วก็ตาม ได้เดินทางไปบ้านบุไผ่ ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา ศรัทธาชาวบ้านได้พากันอุ้มลูกอุ้มหลานมาต้อนรับหลวงพ่อคูณอย่างคับคั่ง...โดยมี พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ (ตำแหน่ง ผบก.นครราชสีมา ขณะนั้น) มาร่วมต้อนรับด้วย

ยามนั้น...บ้านบุไผ่มีศาสนสถานคือสำนักสงฆ์ เท่านั้น ลูกหลานของชาวบ้านหากจะอุปสมบท จะต้องไปบวชที่อำเภอปักธงชัยหรือไม่ก็อำเภอนาดี ซึ่งสร้างความลำบากในการเดินทาง



O O O


ชนชาวบ้านบุไผ่ร่วมกิจกรรมด้วยศรัทธา.

ด้วยเมตตาบารมี...หลวงพ่อคูณจึงบอกกับ ผบก.นครราชสีมาให้ร่วมกันพัฒนาเป็นวัดเพื่อสนองศรัทธาของชาวบ้าน จะดีไหม พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ ก็รับปากและร่วมกันพัฒนาจากสำนักสงฆ์ให้เป็นวัดบุไผ่ (บ้านไร่ 2)...โดย หลวงพ่อคูณเป็นประธานอุปถัมภ์ พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ เป็นประธานดำเนินการ

และได้ดำเนินการสร้างพระอุโบสถ พร้อมพัฒนาศาสนอาคารเพื่อประกอบศาสนกิจจนครบถ้วน

ภายใต้จิตสำนึกในเมตตาคุณของพระเทพวิทยาคม “หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ” ที่มีต่อชาวบุไผ่ ล่วงเข้าปีนี้ (2557) อันเป็นที่ 70 พรรษาซึ่งหลวงพ่อคูณเข้าอยู่ในร่มกาสาวพัตร์



O O O


พล.ต.ต.มหัคฆพันธ์ สุรคุปต์ จึงร่วมศรัทธาชาวบุไผ่ ร่วมใจ สร้างรูปเหมือนหลวงพ่อคูณขนาดหน้ากว้าง 9 เมตร เพื่อนำไปประดิษฐาน ณ วัดบุไผ่ (บ้านไร่ 2) ให้เป็น รูปหล่อหลวงพ่อคูณหล่อด้วยโลหะที่ใหญ่ที่สุดในโลก (เพราะประเทศอื่นไม่มี)...จารึกเป็นอนุสาวรีย์แห่งเมตตาธรรม

โดย...วันที่ 3 เมษายนนี้จะทำพิธีเททองหล่อ ณ มณฑลพิธีวัดบ้านไร่ ซึ่ง หลวงพ่อคูณจะเป็นประธานจับสายสูตรด้วยตนเอง (ส่งสัญญาณพลังในความเข้มขลัง)...!!

ก้อง กังฟู


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/badal/411620
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ