สิ่งที่หลวงพ่อคูณ ท่านสร้าง ก็เป็นแบบอย่างของ พระในสายพุทธาคม ซึ่งเมื่อก่อน ผมฟังจากหลวงพ่อปัญญา ท่านชอบเหน็บ ให้ได้ฟังเวลาไปฟังเทศน์ ที่ วัดชล ฯ ท่านมักเหน็บให้ได้หัวเราะกันว่า หน้าที่ของพระ ไม่ใช่ มาเคาะหัว เสกของ ปัจจัยที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ ได้มาจากการหลอกลวง ย่อมไม่ทำให้เกิดสันติสุข ที่แท้จริง
จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังมานั่งคิดว่า ในสายสวนโมกข์ นั้น แท้ที่จริง เขา แอนตี้เรื่องเหล่านี้ เช่นการจัดสร้างพระพุทธรูป แจก เครื่องลางของขลัง เหล่านี้ เขากล่าวว่าเป็นเรื่อง งมงาย ไสยศาตร์ ไม่ใช่ทางแห่งพระนิพพาน
แต่เมื่อนึกให้ดี เหตุปัจจัยให้ ผม นับถือพระพุทธศาสนา ก็มาจากสิ่งเหล่านี้ก่อน คือ การหาที่พึ่งทางใจ ให้กับตนเองได้มีปัญญา มองเห็นความจริง ในการภาวนา ตามอริยสัจจะ หลายปีที่เชื่ออย่างนั้น เกือบ 25 ปี ที่ไม่เคยรู้จักสนใจ เรื่อง สมาธิ และไม่ให้ความสำคัญกับการนั่งสมาธิ ภาวนาสมาธิ คือ ให้ความสำคัญกับการฟัง เสีัยมากกว่า 25 ปีนี้ คิดว่า ตนเอง ฉลาด แต่ ความเป็นจริง ก็รู้ตัว ว่า กิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่ได้ลดลงเลย มันเพียงสงบแค่ชั่วคราว บางครั้ง ก็ โกรธจนหน้าแดง บางครั้งก็หลงจนหน้าดำ บางครั้งก็โลภจนหน้ามืด
คิดแต่เรื่องได้ ไม่คิดเรื่องเสีย อย่างนี้เเรียกว่ามีปัญญา จริง ๆ หรือ
มาตาสว่าาง ตอนเริ่มกลับมานั่งกรรมฐาน ตามแนวทาง กรรมฐาน โบราณ นี่แหละ วันนี้จึงได้รู้จัก ปีติ สุข ฌาน กับเขาบ้าง และรู้วิธีชำระกิเลสให้บาบางลง ตามแนววิปัสสนา ที่เจริญ ตามความเป็นจริง มองเห็นด้วยใจ ดับด้วยใจ แจ้งที่ใจ และชัดเจน
เอาละครับ เกริ่นนำมายาว ก็คือ ผมก็นับถือ หลวงพ่อคูณ แบบของผม นะครับ