ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 91 ปี "หลวงพ่อคูณ" กูสบายดี.!!  (อ่าน 2016 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 28450
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
91 ปี "หลวงพ่อคูณ" กูสบายดี.!!
« เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 10:29:44 am »
0


91 ปี "หลวงพ่อคูณ" กูสบายดี.!!
โดย...อินทรชัย พาณิชกุล

หลังจากที่สังคมออนไลน์ได้เผยแพร่ภาพ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ในวัย 91 ปี กำลังถือสายสิญจน์ปลุกเสกวัตถุมงคลขณะนั่งอยู่บนรถวีลแชร์

 ans1 ans1 ask1 ask1

ก่อให้เกิดคำถามว่าเหตุใดยังให้หลวงพ่อรับกิจนิมนต์อยู่อีก.?

ทั้งที่สารพัดโรครุมเร้า ทั้งที่เรี่ยวแรงอ่อนล้าน่าเป็นห่วง ถึงขั้นลูกศิษย์ต้องคอยประคับประคองในทุกอิริยาบถเลยด้วยซ้ำ !!!

นานาทรรศนะจากชาวเน็ตเต็มไปด้วยความเป็นห่วงใย บ้างก็ว่าเห็นใจท่านหน่อย  อายุท่านจะร้อยปีแล้ว ให้หลวงพ่อได้พักเถอะ บ้างว่าพระชราก็ไม่ต่างจากคนชราที่ต้องการพักผ่อน หลังจากทำงานหนักมาทั้งชีวิต ควรเลิก "ใช้พระ"เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เสียที

"ผมขอยืนยันว่าไม่มีการนิมนต์ให้หลวงพ่อทำพิธีพุทธาภิเษกใดๆทั้งสิ้น" 

เป็นคำตอบเสียงดังฟังชัดของ สมบูรณ์  โสตถิอนันต์ หรือ ไก่โต้ง เลขานุการวัดบ้านไร่


 :s_hi: :s_hi: :s_hi: :s_hi:

ตามคำบอกเล่าของลูกศิษย์คนสนิทคนนี้  หลังจากออกจากโรงพยาบาลมาตั้งแต่เดือนก.ค.2556 หลวงพ่อคูณก็กลับมาพักที่วัดบ้านไร่ภายใต้การดูแลจากคณะแพทย์อย่างใกล้ชิด 

ปัจจุบันมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน รวมทั้งเคยเข้ารับการรักษาเส้นเลือดหัวใจตีบด้วยการทำบายพาสหัวใจถึง 5 เส้น เคยผ่านการผ่าตัดเส้นเลือดในสมองแตก โรคเกี่ยวกับกระดูกไขข้อ กลืนอาหารลำบาก นอกจากนี้ยังพบอาการถุงลมโป่งพองที่เกิดจากการสูบบุหรี่ ส่วนอาการอาพาธด้วยวัณโรค แพทย์ได้ทำการรักษาจนหายแล้ว แต่ยังต้องให้ฉันยารักษาโรคต่างๆอย่างต่อเนื่อง

 ans1 ans1 ans1 ans1

   "กิจวัตรประจำวัน หลวงพ่อจะตื่นมาฉันมื้อแรก (ให้อาหารเหลวผ่านทางสายยาง) ในเวลา 06.00 น. ซึ่งกว่าจะหมดก็ราว 09.00 น. แล้วต้องรอให้ย่อยอีก จนถึงช่วงเวลาประมาณ 13.00-14.00 น.เข้าสู่การทำกายภาพบำบัด ก็จะพาท่านออกจากห้องจำวัดมาที่ห้องกระจก ยืดเส้นยืดสาย ปั่นจักรยานไฟฟ้า เอาเท้าแช่น้ำอุ่น

ช่วง 30 นาทีนี้เองถือเป็นช่วงเวลาสั้นๆที่ญาติโยมจะได้เห็น ได้กราบไหว้ สมัยท่านยังสุขภาพแข็งแรง หลวงพ่อมักจะร้องหาไม้เท้า เรียกคนโน้นคนนี้มาเคาะหัว ตอนนี้หมอให้ออกกำลังแขน ท่านก็เลยอยากจะจับสายสิญจน์ให้พร ลูกศิษย์บางคนจึงถือโอกาสนำพระเครื่องมาวางไว้ใกล้สายสิญจน์เพื่อเสริมความขลัง”

ห้องกระจกดังกล่าวเป็นห้องปลอดเชื้อโรค ผู้ดูแลประกอบด้วยทีมพยาบาล 3 คน และลูกศิษย์คนสนิทอีก 3 คน หมุนเวียนผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล 24 ชั่วโมง ทั้งหมดต้องล้างมือฆ่าเชื้อและสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ผู้ใดที่เข้ามาในห้องนี้ต้องได้รับอนุญาตจากแพทย์ประจำตัวและให้เยี่ยมได้ครั้งละ2 คนเท่านั้น 


 :49: :49: :49: :49:

"ทุกๆวันที่ผมมาเดินทางถึงก็จะไปกระซิบข้างหูท่าน ท่านยังหยอกเล่นเลย "ก่อยไน้ ก่อยไน้ (ไก่น้อย ไก่น้อย) มาแล้วเน้อ" สติสัมปชัญญะหลวงพ่อยังดีเยี่ยม รู้ตัวตลอด ถ้าท่านไม่สมัครใจทำ ไม่มีใครบังคับท่านได้ นี่ท่านมีเมตตา ไม่อยากจะขัดศรัทธาคนมาเยี่ยมก็เลยออกมาให้คนกราบไหว้ จับสายสิญจน์ ไม่ได้สวดคาถาอะไร เพราะท่านพูดได้น้อย เน้นภาวนามากกว่า"

ลูกศิษย์คนสนิทย้ำอีกครั้งว่านอกเหนือไปจากเวลากายภาพบำบัดในห้องกระจก ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ออกโปรดญาติโยม ไม่มีใครรบกวนหลวงพ่อในยามพักผ่อนอย่างแน่นอน

นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ หัวหน้าศูนย์โรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา  ซึ่งเป็นเเพทย์ประจำตัว อธิบายว่าเมื่อเทียบอายุ 91 ปีกับโรคประจำตัวที่มีอยู่ สุขภาพของหลวงพ่อคูณตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ อย่างไรก็ตามก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด

 ask1 ask1 ans1 ans1

ถามว่า เพราะเหตุใด ถึงยังให้หลวงพ่อคูณออกโปรดญาติโยม ทำไมไม่งดเยี่ยมเด็ดขาด เพื่อให้ท่านพักผ่อนอย่างเต็มที่.?

"หลวงพ่อคูณเป็นพระของประชาชน การที่เรามาวางระบบห้องปลอดเชื้อโรคที่วัดบ้านไร่ โดยไม่พาไปพักผ่อนที่โรงพยาบาล เหตุผลหลักก็คือท่านยังพอใจที่ได้พบได้เจอกับญาติโยมที่มากราบไหว้ ในขณะที่ท่านยังรู้ตัวดี ไม่เจ็บป่วย เห็นชัดว่าวันที่ท่านแข็งแรง หลวงพ่อจะมีอาการแจ่มใส ลืมตาแป๋วพยายามจะสื่อสารกับลูกศิษย์ลูกหาอยู่เสมอ แต่บางวันท่านเหนื่อย ท่านก็ไม่ออกมา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตัวหลวงพ่อเป็นสำคัญ

ผมขอเรียนว่าคณะแพทย์และลูกศิษย์ได้เอาใจใส่ในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่บางครั้งซึ่งเป็นส่วนน้อยมากๆก็อาจมีลูกศิษย์วีไอพีบางกลุ่มถือโอกาสเข้าไปใกล้ตัวท่าน ทำให้ท่านพักผ่อนไม่เพียงพอ เราเองก็ไม่สบายใจนัก" นพ.พินิศจัย กล่าว


 :96: :96: :96: :96:

อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ส่งผลให้ท่านได้รับการบันทึกให้เป็นพระที่ออกวัตถุมงคลมากที่สุดในบรรดาเกจิอาจารย์ในเมืองไทย  มีการสร้างออกมาหลายร้อยรุ่น แต่ข้อมูลจากเว็บไซต์ web-pra.com* ระบุว่า มีพระเครื่องหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ทั้งสิ้น 94 รุ่น เท่านั้น ที่ผ่านการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญสายตรงว่าเป็นรุ่นที่ยอดนิยมของนักสะสม

การปลุกเสกพระเครื่องอย่างไม่บันยะบันยังนี้เองที่ถูกมองว่าเป็นปัญหารบกวนความสงบในบั้นปลายชีวิตของหลวงพ่อคูณ

สนาน มาเลิศพรสกุล หรือ "โกใหญ่ พระเครื่อง" ตั้งข้อสังเกตว่าเร็วๆนี้ หลวงพ่อคูณคงจะ "ยุติ" การปลุกเสกพระเครื่องอย่างเป็นทางการ


 ans1 ans1 ans1 ans1

"หลวงพ่อคูณเป็นพระที่มีเมตตาบารมีสูง ท่านบริจาคเงินมากกว่า 6 พันล้านบาท ช่วยเหลือคนมาทั้งชีวิต เวลาใครมาขอให้ท่านปลุกเสกพระเครื่องก็ไม่เคยขัดศรัทธา เอาเงินที่คนถวายนั้นไปพัฒนาวัดสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาลไม่รู้กี่แห่ง

งานสำคัญที่ท่านเคยพูดไว้กับลูกศิษย์ใกล้ชิดคือ การสร้างวิหารเทพวิทยาคมที่วัดบ้านไร่ ซึ่งตอนนี้เสร็จแล้ว แต่พระพุทธรูปหลวงพ่อคูณที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่วัดบุไผ่ จ.นครราชสีมา 150 ล้านบาท รวมถึงความตั้งใจที่จะถวายเงินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวาระที่ท่านอายุครบ 90 พรรษา 90 ล้านบาทยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ ... ด้วยเหตุนี้ล่ะมั้งที่ยังมีคนพยายามไปขอให้ท่านปลุกเสกพระอยู่ทุกวันนี้"

นี่คือข้อเท็จจริงจากปากคำของลูกศิษย์คนสนิท-คนใกล้ชิดที่ออกมาชี้แจง แต่เชื่อว่าสังคมออนไลน์จะยังคงจับตามองและวิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป


ขอบคุณภาพและบทความจาก
www.posttoday.com/วิเคราะห์/รายงานพิเศษ/313694/91ปีหลวงพ่อคูณกูสบายดี-
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

DANAPOL

  • ศิษย์ตรง
  • มีเหตุมีผล
  • *****
  • ผลบุญ: +0/-1
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 332
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: 91 ปี "หลวงพ่อคูณ" กูสบายดี.!!
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 11:08:12 am »
0
สิ่งที่หลวงพ่อคูณ ท่านสร้าง ก็เป็นแบบอย่างของ พระในสายพุทธาคม ซึ่งเมื่อก่อน ผมฟังจากหลวงพ่อปัญญา ท่านชอบเหน็บ ให้ได้ฟังเวลาไปฟังเทศน์ ที่ วัดชล ฯ ท่านมักเหน็บให้ได้หัวเราะกันว่า หน้าที่ของพระ ไม่ใช่ มาเคาะหัว เสกของ ปัจจัยที่ได้มาไม่บริสุทธิ์ ได้มาจากการหลอกลวง ย่อมไม่ทำให้เกิดสันติสุข ที่แท้จริง

   จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังมานั่งคิดว่า ในสายสวนโมกข์ นั้น แท้ที่จริง เขา แอนตี้เรื่องเหล่านี้ เช่นการจัดสร้างพระพุทธรูป แจก เครื่องลางของขลัง เหล่านี้ เขากล่าวว่าเป็นเรื่อง งมงาย ไสยศาตร์ ไม่ใช่ทางแห่งพระนิพพาน

   แต่เมื่อนึกให้ดี เหตุปัจจัยให้ ผม นับถือพระพุทธศาสนา ก็มาจากสิ่งเหล่านี้ก่อน คือ การหาที่พึ่งทางใจ ให้กับตนเองได้มีปัญญา มองเห็นความจริง ในการภาวนา ตามอริยสัจจะ  หลายปีที่เชื่ออย่างนั้น เกือบ 25 ปี ที่ไม่เคยรู้จักสนใจ เรื่อง สมาธิ และไม่ให้ความสำคัญกับการนั่งสมาธิ ภาวนาสมาธิ คือ ให้ความสำคัญกับการฟัง เสีัยมากกว่า 25 ปีนี้ คิดว่า ตนเอง ฉลาด แต่ ความเป็นจริง ก็รู้ตัว ว่า กิเลส คือ ราคะ โทสะ โมหะ ไม่ได้ลดลงเลย มันเพียงสงบแค่ชั่วคราว บางครั้ง ก็ โกรธจนหน้าแดง บางครั้งก็หลงจนหน้าดำ บางครั้งก็โลภจนหน้ามืด

   คิดแต่เรื่องได้ ไม่คิดเรื่องเสีย อย่างนี้เเรียกว่ามีปัญญา จริง ๆ หรือ

    มาตาสว่าาง ตอนเริ่มกลับมานั่งกรรมฐาน ตามแนวทาง กรรมฐาน โบราณ นี่แหละ วันนี้จึงได้รู้จัก ปีติ สุข ฌาน กับเขาบ้าง และรู้วิธีชำระกิเลสให้บาบางลง ตามแนววิปัสสนา ที่เจริญ ตามความเป็นจริง มองเห็นด้วยใจ ดับด้วยใจ แจ้งที่ใจ และชัดเจน

   เอาละครับ เกริ่นนำมายาว ก็คือ ผมก็นับถือ หลวงพ่อคูณ แบบของผม นะครับ

    :49: st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
รหัสธรรม ต้องใช้ปัญญาคือความรู้ ผู้ถือกุญแจคือใครหนอ...